วันนี้ Singh Estate แถลงกลยุทธ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอีก 5 ปีข้างหน้า มุ่งตลาดโครงการแนวราบตามเทรนด์การอยู่อาศัยในปัจจุบัน เพราะบ้านใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ และตอบโจทย์กับคนทุกวัย ทุกไลฟ์สไตล์ โดยจะอาศัยแนวคิด “Rise Above” ที่จะพัฒนาโครงการให้เหนือกว่ามาตรฐานที่เคยเป็นมาเพื่อสร้างการเติบโต ครับ ไม่ว่าจะเป็น
1. Above The Number : ตั้งเป้าตัวเลขที่ท้าทายให้กับตัวเอง โดยมีแผนจะสร้างโครงการรวม 52,000 ล้านบาท ในช่วง5ปีต่อจากนี้ และวางสัดส่วนบ้านแนวราบต่อคอนโดไว้ 75% ต่อ 25% เลยครับ โครงการจะทยอยเปิดตัวต่อเนื่อง และคาดว่าธุรกิจอสังหาจะสร้างรายได้รวมต่อปีสูงกว่า 10,000 ล้านบาทในปี 2569 ครับ
2. Above The Design & Service : การออกแบบบ้านให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตในยุคนี้ และให้พื้นที่ใช้สอยสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นต่างๆได้ตามต้องการ ตัวอย่างเช่น
- Smart Living การออกแบบ Space และ Function ต่างๆภายในบ้านให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกเจน โดยคำนึงถึงเรื่องแสงแดด ความร้อน ลมธรรมชาติ และการระบายอากาศ
- Security for Families เพิ่มความอุ่นใจให้ผู้อยู่อาศัย ด้วยความปลอดภัยรอบด้านที่รัดกุม รวมไปถึงการเอาสายไฟลงใต้ดินที่ได้ทั้งความปลอดภัยและสวยงาม เป็นมาตรฐานของโครงการบ้านจากสิงห์ เอสเตท
- Healthy Living ให้ผู้อยู่อาศัยมีอากาศและน้ำที่สะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ควบคู่กับนวัตกรรมบ้านเย็นเพื่อการอยู่อาศัยที่สบายทั้งกลางวันและกลางคือน
- Sustainable Living การคำนึงถึงการอยู่ร่วมกับกับสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ อย่างการรักษาต้นไม้ใหญ่ในพื้นที่ไว้ ไปจนถึงการออกแบบบ้านให้สวยงามอยู่คู่กาลเวลา
- Exclusive Services การขยายเวลาประกันให้นานขึ้น และการมีบริการดูแลบ้าน แจ้งเหตุฉุกเฉินได้ตลอด 24 ชม. พร้อมการบริการเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวให้ลูกบ้านครับ
3. Above the Living Experience : รวบรวมสิทธิพิเศษ ต่างๆ จากบริษัทในเครือและพาร์ทเนอร์ ภายใต้ ‘S Life’ ที่ตอบโจทย์กับวิถีชีวิตของลูกบ้านทุกคนอย่างเหนือระดับ
ส่วนในเรื่องของ Product เอง สิงห์ เอสเตทกำลังจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวใหม่ทั้งหมด 3 Segment นำร่องด้วย “Siraninn Residences” ที่กำลังจะเปิดตัวเป็นโครงการแรกในเดือนกันยายนนี้ เป็นบ้านระดับ Super Luxury ในราคา 50-100 ล้านบาท ถัดมาคือบ้านแบรนด์ใหม่ระดับ Luxury สไตล์คนเมือง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคา 20-50 ล้านบาท และสุดท้ายระดับ Affordable Luxury เน้นการออกแบบที่มีความเป็นคนรุ่นใหม่ ในราคา 10-20 ล้านบาทครับ ซึ่งทางเราจะอัพเดทโครงการมาให้อ่านกันอีกเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติมครับ
ทั้งหมดนี้ก็นับว่าเป็นความน่าสนใจของก้าวใหม่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของทางสิงห์ เอสเตทที่จะมุ่งหน้าพัฒนาโครงการและบริการสำหรับลูกค้า ที่อยู่บนพื้นฐานของการอยู่อาศัยที่ดีและมีความสุข ควบคู่กับการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืนครับ
