LAVIER RAMA 3
LAVIER RAMA 3 เป็นคฤหาสน์หรู 4 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินตั้งแต่ 93 – 126 ตร.ว. รวมพื้นที่ใช้สอย 859 ตร.ม. แถมมีเพียงแค่ 7 หลังเท่านั้น หลังจากได้เข้าไปชมในบ้านทำให้ผมรู้สึกว่า คนสร้างเค้าใส่ใจ พิถีพิถันในรายละเอียด และให้สเปกที่ไม่น่าจะได้เห็นในโครงการบ้านจัดสรรทั่วไปนอกจากจะทำบ้านไว้อยู่เอง แถมอยู่ในทำเลพระราม 3 ที่เข้าเมืองสะดวกมากๆ และใกล้โรงเรียน King’s College นิดเดียว ในราคาเริ่ม 89.5 ล้านบาท* ผมสรุปความน่าสนใจไว้แบบนี้ครับ
- ก่อสร้างด้วยอิฐมอญแดงทั้งหลัง และเลือกใช้วัสดุพรีเมียมทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น ประตูไม้สักขนาดใหญ่ พื้นหินอ่อนในส่วนชั้น 1 บันไดทั้งหมด รวมไปถึงเคาน์เตอร์ครัวและไอร์แลนด์ ส่วนพื้นชั้นอื่นๆ เป็น Compound Wood ที่ประกอบด้วยไม้จริงแบบ Multi-Layer
- บ้านทุกหลังมาพร้อมกับลิฟต์ส่วนตัวจากสวีเดนและสระว่ายน้ำระบบ Fresh Water ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้น้ำคุณภาพดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ น้ำในสระจะมีคุณภาพและใสเหมือนน้ำประปา อ่อนโยนต่อผิวพรรณ ลดการระคายเคือง แบบที่ไม่ต้องอาบน้ำหรือซักชุดว่ายน้ำหลังว่ายเสร็จ แถมโครงการเค้าดูแลให้ฟรี 5 ปีไปเลย
- ฟังก์ชันแบบ 4 ห้องนอน (ที่มีโซนแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ให้ทุกห้อง) 7 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 4 คัน (ซึ่งโครงการลงเสาเข็มให้ครบทั่วพื้นที่) มี 2 ห้องครัว รองรับทั้งครัวไทยและครัวฝรั่ง ตกแต่งให้ทั้งหมด (ได้อุปกรณ์ครัวพร้อมตู้เย็นบิวท์อินจาก Smeg ด้วย) มีส่วน Outdoor Terrace ริมสระน้ำที่เย็นสบายตลอดทั้งวัน และมีห้องเอนกประสงค์ให้ใช้พื้นที่ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการตั้งแต่ชั้น 2 ไปจนถึงชั้น 4
- เห็นเป็นบ้าน 4 ชั้นแบบนี้ แต่ข้างในสูงโปร่งมีส่วน Double Volume ให้ถึง 2 จุด อย่างโซน Living Room ชั้น 1 สูงถึง 7.15 ม. และที่ชั้น 2 ยังมีโซน Family Living Room ที่สูงถึง 6.5 ม. ให้ใช้งานแบบส่วนตัวอีกด้วย
- ติดตั้งระบบน้ำร้อนมาให้แล้วด้วยทั้งหลัง จึงมีก๊อกผสมให้ใช้ในห้องน้ำทุกจุด โดยติดตั้งถังเก็บน้ำไว้ชั้นบนสุดเพื่อให้น้ำมีความแรงทั่วถึงกัน แถมใต้ดินยังมีแทงค์เก็บน้ำสำรองกว่า 5,000 ลิตรเก็บไว้ให้อีก! เรียกว่าคิดมาเผื่อแล้วกรณีฉุกเฉิน ถ้าอยู่กัน 5-8 คนก็มีน้ำมีน้ำใช้ 2-3 วันสบายๆ
- มีพื้นที่รองรับการทำเป็นห้องพระ ห้องฟิตเนส มีห้องซักรีดและลานซักล้างเป็นสัดส่วนอยู่บนชั้น 4 มีห้องแม่บ้านรองรับเรียบร้อย
- ผมยกตัวอย่างเรื่องการใส่ใจในการออกแบบที่ผมชอบครับ คือ ทางเดินรอบๆ บ้านเค้าทำกันสาดไว้ให้หมดแล้ว และเป็นกันสาดใสแบบที่เป็นช่องรับแสงธรรมชาติรอบบ้านได้ทั้งหมด รวมถึงบริเวณ Outdoor Terrace รอบสระว่ายน้ำด้วย ทำให้เดินออกไปใช้งานได้ไม่เปียก ไม่โดนแดดโดยตรง แถมไม่บดบังวิวสระว่ายน้ำเวลาอยู่ชั้นบนของบ้าน
- เค้าออกแบบให้บ้านที่อยู่ติดกันแทบไม่ได้มีช่องให้เห็นกันเลย ทำให้รักษาความ Privacy ไว้ได้ดีมาก แถมยังไม่ค่อยร้อนด้วยการให้พื้นที่ส่วนใหญ่ในบ้านไม่ได้โดนแดดตรงๆ ร่วมกับการใช้กระจกลามิเนต 2 ชั้นที่ช่วยลดความร้อนได้ดีด้วย
- แม้จะมีเพียง 7 หลัง แต่โครงการที่นี่มี รปภ. และกล้องวงจรปิดดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
- ที่ตั้งโครงการก็สามารถเดินทางได้สะดวก อยู่บนถนนวงแหวนอุตสาหกรรมช่วงที่ตัดกับ ถ.ยานนาวา ในระยะราว 10 นาที มีสิ่งที่น่าสนใจใกล้ๆ เพียบทั้ง รร. King’s College, KingBridge Tower, เซ็นทรัล พระราม 3, โฮมโปร, โลตัส รวมถึงทางด่วนและสะพานภูมิพลซึ่งเชื่อมต่อกับถนนวงแหวนอุตสาหกรรม
และนี่ก็คือแค่ส่วนนึงเท่านั้นครับ ที่ผมหยิบยกเรื่องความน่าสนใจของตัวบ้านเอามาให้เห็นกันก่อนที่จะพาทุกคนไปเดินดูด้านในทุกซอกทุกมุม ซึ่งบ้านนี้เป็นโครงการระดับเรือธงของภัทราโฮม ออกแบบด้วยสไตล์ NEO-CLASSIC ที่สวยแบบคลาสสิคร่วมสมัย เน้นเรื่องฟังก์ชันและพื้นที่ใช้สอยที่ใช้ได้จริง สวยงาม อยู่ได้อย่างสบายใจด้วยความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งทุกจุดที่ผมเล่ามานั้นก็เป็นสิ่งที่เค้าคิดเพื่อการใช้ชีวิตจริงของลูกบ้านมาอย่างรอบคอบนั่นเองครับ
สำหรับใครที่สนใจสามารถนัดหมายเข้าชมโครงการได้ที่ https://pattrahome.com/lavier/
- โทร. 095-155-6552
- LINE ID : https://lin.ee/zoqmtO3
- แผนที่โครงการ : https://maps.app.goo.gl/2Hp6emPDGHtcDhom6
นี่คือที่สุดของ Private Residences จาก Pattra Home เป็นบ้านเดี่ยว 4 ชั้น ในสังคมส่วนตัวเพียง 7 หลัง มีสระว่ายน้ำที่ใช้ระบบที่ดีที่สุด มาพร้อมกับลิฟท์ส่วนตัวทุกหลัง แถมยังออกแบบบ้านมาอย่างละเอียดอ่อนและพิถีพิถัน ทุกจุดคือคิดมาแล้วให้ผู้อยู่สะดวกสบาย ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยที่สุดในบ้านของเรา “Lavier Rama 3”
แค่ Façade หน้าบ้านก็สวยจับใจ
ภายในมี Living Area ที่สูงโปร่งโอ่อ่า น่าอยู่มากก
ยังไม่พอ มี Double Volume ถึง 2 ส่วน 2 ชั้นจุใจเลย
เค้าใช้ชื่อรูปแบบบ้านว่า Lorenzo มีพื้นที่ใช้สอย 859 ตร.ม. บนที่ดิน 93-126 ตร.ว. ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่นแบบ Double Volume 3 ห้องอเนกประสงค์ 2 ห้องครัว 1 ห้องแม่บ้าน และ 4 ที่จอดรถ มีสระว่ายน้ำและลิฟท์ครับ
โรงจอดรถที่จอดได้ 4 คันสบายๆ ซึ่งเค้ามี Junction รองรับระบบรองรับ EV Charger พร้อมห้องเก็บของเก็บอุปกรณ์มาให้เรียบร้อย
วัสดุที่เค้าใช้ในบ้านพรีเมียมทั้งนั้นครับ เริ่มที่ประตูไม้สักสีเข้มสวยบานใหญ่ที่ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้แล้ว รองรับ Face scan ด้วย สะดวกมาก เมื่อเปิดเข้ามาสู่ส่วนของ Foyer ตรงทางเข้านอกจากจะมีดีไซน์พื้นเป็นพิเศษ ก็ยังโปร่งจากช่องแสงซึ่งอยู่ติดกับส่วนโรงรถด้านนอก (ลวดลายพื้นของบ้านจริงที่ส่งมอบจะแตกต่างกันเล็กน้อย)
ส่วนพื้นที่ซ้ายมือทำไว้สำหรับอำนวยความสะดวกในการทำห้องเก็บรองเท้าที่อลังการมากก ส้นสูงคุณผู้หญิงหรือ Sneakers คุณผู้ชาย สักกี่คู่ก็รองรับได้หมด จะเก็บบรรดากระเป๋าก็ได้ ฝุ่นไม่จับ พร้อมพัดลมระบายอากาศมาให้ แล้วเค้าใส่ใจรายละเอียดขนาดที่ว่า ห้องนี้มีช่องแสงด้วยครับ! ผมยังไม่เคยเห็นที่ไหนทำขนาดนี้กับห้องเก็บรองเท้านะ เพราะมันเพิ่ม Cost ครับ
ช่องแสงเพิ่มความสว่าง
ถัดเข้ามาก็เจอ Open Plan กว้างขวาง ไล่เรียงไปตั้งแต่โซน Living, Dining และครัว พื้นสวยด้วยกระเบื้องหินอ่อนปูพรมไปเลย มีกระจกให้แสงธรรมชาติเข้าเต็มที่ตลอดแนวของตัวบ้าน ตกแต่งได้สวยมาก ซึ่งแสงที่เข้ามาจากด้านนอกนี่ก็จะเป็น Indirect Light ไม่ได้เข้ามาตรงๆ เพราะตัวบ้านโอบล้อมพื้นที่เปิดตรงนั้นเอาไว้ ได้เป็นเฉดเงาที่สวยงาม
โซนห้องนั่งเล่นสำหรับรับแขกตรงนี้โปร่งแบบ Double Volume ที่สูงถึง 7.15 ม. เชื่อมต่อกับพื้นที่ชั้น 2 ส่วนความสูงของเพดานในพื้นที่ทั่วไปภายในบ้านสูงที่ 3.3 ม. เรียกว่าอยู่สบายทุกพื้นที่
โซนนี้กว้างแค่ไหนให้ภาพนี้เป็นคำตอบครับ
ส่วน Dining Area ก็วางโต๊ะทานอาหารขนาดใหญ่พร้อมหน้าพร้อมตาได้สบาย ซึ่งชุด 8 ที่นั่งที่เขาวางอยู่นี้ยังเหลือพื้นที่เดินรอบๆ ได้สบาย
ที่อยู่ขนานกับพื้นที่ตัวบ้านด้านนอกนั้นก็คือโซนของสระว่ายน้ำครับ เป็นอีกจุดที่ผมประทับใจ
เห็นแล้วเหมาะกับอากาศช่วงนี้มาก นี่เป็นสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบ Semi Outdoor เล่นน้ำได้ทุกวันและก็สเปซรองรับการทำ Outdoor Terrace ริมสระได้ สามารถใช้เวลาได้ทั้งครอบครัว
สระว่ายน้ำที่นี่ใช้ระบบใหม่ล่าสุดอย่าง Fresh Water ที่ไม่ต้องใช้เกลือหรือคลอรีน เป็นระบบไฮบริดที่จัดการน้ำด้วยขั้วไฟฟ้า ให้เกิดประจุไอออนปล่อยลงน้ำในสระ โดยประจุเงินจะคอยฆ่าเชื้อโรคและแบคทีเรียในน้ำ และประจุทองแดงป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำครับ เรียกว่าปลอดภัยทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ใสสะอาดแบบน้ำประปา โครงการเค้าดูแลให้ฟรีถึง 5 ปี แถมใต้สระเค้ายังทำ Tank น้ำกว่า 5,000 ลิตรที่ทำให้มั่นใจได้ว่ายามฉุกเฉินยังไงก็มีน้ำใช้ สิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาแบบนี้มันเป็นลดต้นทุนก็ได้ แต่เค้าใส่มาให้ทั้งหมด
เค้าตกแต่งผนังด้วยกระเบื้อง Porcelain ที่สวยงามพื้นผิวมี Texture เหมือนกับหินธรรมชาติแตกต่างกันไปในแต่ละชิ้นด้วย และที่ผมชอบอีกอย่างคือเค้าทำ Sky Light หรือกันสาดแบบใสมาให้ ยามฝนตกก็ไม่เปียก แล้วห้องข้างบนยังมองวิวสระได้ด้วย เพราะ Courtyard ส่วนนี้สามารถมองลงมาเห็นได้แทบทุกห้องในบ้านเลย
มาดูโซนครัวฝรั่ง ที่เค้าบิวท์อินมาให้เรียบร้อย และยังได้ส่วน Island หินอ่อนจากกรีซมาด้วยครับ พอเอาหินมาใช้ตรงนี้เค้าก็ลงน้ำยาดูแลผิวให้เพิ่มเป็นพิเศษ ให้ได้ใช้งานพร้อมกับสัมผัสความสวยงามของวัสดุธรรมชาติ
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวด้านหลังทำมาสีสวยมาก และติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Smeg ให้ทั้งหมด ทั้งตู้เย็นบิวท์อิน, Hob & Hood ดูดควัน, ไมโครเวฟ และ Oven แยกกันที่ฝั่งซ้าย ผมแปะรูปเพิ่มเติมไว้ในคอมเม้นต์นะ
ตู้เย็นเปิดได้ 2 บานซ้ายขวาเลยครับ
Microwave & Oven แยกกันมาให้
ยังไม่หมดเท่านี้ ข้างกันยังมีครัวไทย ที่บิวท์เคาน์เตอร์มาให้ทั้งหมด เป็นของ Tecno ครับ ดีเทลที่ผมชอบคือประตูที่ออกไปหลังบ้านนี่บานโปร่งที่เสริมโลหะด้านใน แสงยังเข้าได้ แถมยังปลอดภัยด้วย
ข้างโซนครัว ใต้บันไดยังมีอะไรซ่อนอยู่ ผมแปะให้ดูในคอมเม้นต์
ตรงนี้เป็นพื้นที่ของห้องเก็บของ และตู้ไฟ ที่อยู่หน้าห้องน้ำ ซึ่งเป็น Power Room ครับ ความดีงามคือทุกน้ำทุกห้องทุกชั้นเป็นระบบก๊อกผสมน้ำร้อนน้ำเย็น และเค้ามีห้องเก็บของให้ทุกชั้นเลย ถูกใจคนที่มีของเยอะแน่นอน
ก่อนขึ้นไปดูชั้นบน ขอพาชมพื้นที่ข้างบ้านอีกฝั่งก่อนครับ
ด้านข้างบ้านเค้าทำเป็นทางลาด สามารถใช้รถเข็นขึ้นได้ มีทางเดินตลอดแนวจากหน้าบ้านมาถึงหลังบ้านสามารถเดินได้รอบ เค้าทำกันสาด Sky Light คอยบังฝนให้เราเช่นกันครับ กันฝนแถมยังโปร่งแสงส่องถึงรอบบ้าน ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำก็เข้าได้จากทางเดินนี้เหมือนกันครับ ผมใส่รูปให้ดูในคอมเม้นต์
ส่วนห้องแม่บ้านก็มี 1 ห้องที่ข้างบ้าน พร้อมห้องน้ำครับ
ขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อ จะเลือกใช้บันไดหินอ่อนสวยๆ หรือลิฟท์ Kalea จากสวีเดนนี่ก็ได้ เค้ามีระบบความปลอดภัยอย่างการหยุดอัตโนมัติถ้ามีอะไรเข้าร่อง เช่น นิ้วมือ นิ้วเท้าครับ และเป็นกระจกใสทั้งหมด อยู่ข้างในไม่รู้สึกอึดอัด
ชั้น 2 นี่จะเหมือน Master Quater ของเจ้าของบ้านครับ จากทางเข้าจะมีโซนนั่งเล่นกว้างขวางให้นั่งคุยนั่งดื่มแบบเป็นส่วนตัว ชั้นอยู่อาศัยนี่จะได้พื้น Compound Wood เป็นพื้นไม้ Engineering Wood ที่มีไม้เนื้อแข็ง 3 Layer บนสุดท็อปด้วยไม้จริง เรื่องผิวสัมผัสต้องยกให้ และก็ได้บรรยากาศที่อบอุ่นมากขึ้น
ถัดเข้ามาข้างในก็เป็นห้องนอน ที่ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มเพราะไม่ติดโถงทางเดิน นอนหลับสบาย พื้นที่กว้างขวางสามารถวางเตียง โซฟา ทีวี จะจัดทำโซนนั่งทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้เหลือเฟือ
กระจกห้องนอนนี่ความสูงเต็มพื้นที่ มองวิวได้ฟินๆ แสงเข้าแทบไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวันเลย ประหยัดไปอีกแรง
ระเบียงและวิวจากห้องนอน สวยสะกด มองเห็นสระว่ายน้ำข้างล่างให้พอชุ่มฉ่ำใจแม้ไม่ได้ลงน้ำ
อีกฝั่งเป็น Walk-in Closet อยู่คู่ขนานกับ Living Area เมื่อสักครู่ครับ
ขนาดของ Walk-in Closet สามารถจุเสื้อผ้าของ 5-6 คนได้เลยแหละ แบ่งฝั่งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายได้ ถ้าอยู่คนเดียวนี่แทบจะไม่ต้องซักผ้าเลยครับ ใส่ตัวใหม่ไม่ซ้ำก็ยังมีที่เก็บ 555
ถัดเข้ามาในห้องน้ำ มาพร้อมอ่างอาบน้ำแบบ Free Stand ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนอย่างสวยงาม มีอ่างล้างมือแบบ His & Her ซึ่งได้เคาน์เตอร์หินอ่อนแท้ แต่ในบ้านมาตรฐานจะเป็นอีกสีนะครับ อันนี้เค้าปรับโทนให้เด่นขึ้นหน่อยในบ้านตัวอย่าง
จากฝั่ง Master Quarter จะเดินผ่านโถงทางเดินตรงนี้ที่กว้างขวางแบบจัดวางโซฟาให้นั่งพักผ่อนได้สบาย ฝั่งนี้ยังมีช่องแสงธรรมชาติได้อีก ซึ่งเค้ามักจะเอาฝั่งนี้แหละจัดวางกับส่วนที่อยู่ติดกันกับบ้านหลังถัดไป ที่เห็นช่องว่างด้านในนั้นจะเป็นส่วน Service แอร์ ซึ่งผนังที่อยู่ถัดออกไปก็ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว
มองลงไปก็เชื่อมต่อกับส่วนชั้นล่างและสระว่ายน้ำข้างนอกได้แบบไร้รอยต่อ
พื้นที่ในฝั่งนี้ก็ยังมีส่วนใช้งานให้แบบจุใจเลยครับ
เริ่มจากห้องอเนกประสงค์ที่เค้าตกแต่งเป็นห้องทำงานรับแสงธรรมชาติ ขนาดพื้นที่พอเหมาะจะทำสตูดิโอส่วนตัว ห้องวาดภาพ ทำงานอดิเรกได้หมดเลย ห้องฝั่งนี้จะหันออกไปหน้าบ้านครับ
ข้างกันก็มีห้องน้ำแบบ Full Function มีสเปซสำหรับทำตู้เก็บของด้านหน้าครับ ถ้าเราจะเปลี่ยนห้องทำงานเป็นห้องนอนแขกก็เพิ่มประตูเชื่อมตรงถึงกันได้ด้วย
และอีกห้องที่อยู่ด้านในแบบสุดทางเดินนั่นก็คือ Family Living Room ที่สูงโปร่งถึง 6.5 ม. มาอยู่ที่ชั้น 2 อีกจุด เป็นอีกห้องที่ครอบครัวมารวมตัวสังสรรค์กันได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเลย
หน้าต่างบานใหญ่สูงเต็มที่ ห้องนี้แสงธรรมชาติสว่างสะใจ หันหน้าเข้าหาห้อง Master Bedroom เมื่อสักครู่ มองลงไปเห็นสระว่ายน้ำที่คั่นอยู่ตรงกลางครับ นี่เป็นห้องที่ได้ทั้งวิวหน้าบ้านและวิวสระ แสงธรรมชาติเต็มตาดีเหลือเกิน ผมชอบมาก
มองออกไปเห็นดีเทลของตัวบ้านที่สวยมาก
จะปาร์ตี้สังสรรค์ เราก็ต้องมี Station สำหรับขนม อาหารและเครื่องดื่ม หยิบจับสะดวก มีงานระบบวางไว้ให้ครับ
ไปต่อกันที่ชั้น 3 แวะชื่นชมโถงลิฟท์สักหน่อย โปร่งดีทุกชั้น ชั้น 3 นี้จะมี 3 ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทุกห้อง กับ 2 ห้องอเนกประสงค์
ห้องนอนแรกของชั้นนี้ เข้ามาจะเจอ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวก่อนครับ ความพิเศษของห้องน้ำห้องนี้ก็ได้ผนังกระจกสวยๆ
ถัดเข้ามาก็เป็นโซนห้องนอน ขนาดก็กว้างสบายไม่แพ้กัน จัดทำโซนที่นั่งชมวิวริมหน้าต่างได้
ห้องนี้ตำแหน่งเดียวกับห้อง Master Bedroom ที่ชั้น 2 เลยได้วิวเดียวกันแต่จะสูงกว่าหน่อย ยังชื่นชมต้นไม้สีเขียว และสระสีฟ้าได้อยู่ เชื่อมโยงพื้นที่เข้าหากันได้ทั้งหมด
ที่อยู่ข้างกันเป็นอีกหนึ่งห้องนอน ตกแต่งเน้นไม้สีเข้มแบบนี้ก็ Warm & Cozy ไปอีกแบบ ได้หน้าต่างบานใหญ่ วางโต๊ะเก้าอี้นั่งชมวิว สระด้านล่างได้เช่นกัน
สามารถทำโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้ พอหน้าต่างบานใหญ่ แสงก็จะดีแบบนี้ครับ และมีห้องฝั่งขวาอีกนะ ห้องอะไรดูภาพใน Comment เลย
อีกหนึ่งห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นนี้เค้าเนรมิตให้เป็นโรงหนังส่วนตัวในบ้านมีห้องแบบนี้ ดูหนังเพลิน เบาะนุ่มสบายได้ทุกวันที่บ้านคงฟินน่าดู
แล้วดูข้างหลังนั่นสิครับต่อให้เป็นห้องที่อยู่ส่วนมุมไหนของบ้านก็ยังมีช่องแสงหมด
และห้องสุดท้ายของชั้นนี้ ก็คืออีก 1 ห้องนอนที่เค้าทำมาเหมาะกับผู้สูงอายุ อย่างทางเข้าห้องน้ำที่ไม่มีสเตป เรียบเสมอกันเลย รองรับวีลแชร์และไม้ผยุงเดินได้สบายครับ พอบ้านมีลิฟท์ส่วนตัว ผู้สูงอายุก็เลือกได้เลยว่าอยากอยู่ห้องไหนชั้นไหน ซึ่งเท่าที่ดูมา Walk-in Closet ของทุกห้องนอนนี่ใหญ่ดี จุของได้เยอะแบบไม่น้อยหน้ากันเลยนะ
ตกแต่งดูอบอุ่นมากก
ห้องนอนนี้เป็นห้องนอนเดียวในบ้านที่มีวิวหน้าบ้านครับ สอดส่องคนไปใครมาได้ ถ้านี่เป็นบ้านผม ห้องนี้คงเป็นห้องส่วนตัวของน้องวิ้งกี้ เพราะนั่งรอบนเตียงแล้วเรียบร้อย อ้อ นั่นตุ๊กตา เหมือนลูกสาวที่บ้านผมเลย
ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดอย่างชั้น 4 อันนี้ก็เป็นห้องไฮไลต์นะ เป็นห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ อยากจะปรับเป็นฟิตเนสส่วนตัวของที่บ้านแบบนี้ก็ลงตัวมาก ออกกำลังกายเหนื่อยๆ ก็มาหยิบน้ำจิบได้ที่ด้านหน้าห้อง และได้ กระจกใสนี่เค้าทำมาให้แล้ว ไม่ใช่แค่การตกแต่ง นอกจากสวยแล้วยังได้ความโปร่ง แสงเข้ามาได้ตลอดทั้งชั้น
ข้างในนี้วางเครื่องออกกำลังกายได้ทั้ง Cadio และ Weight Training พร้อมโต๊ะเก้าอี้หรือโซฟานั่งพักผ่อน
หรือใครเป็นสาย Low Impact ชอบโยคะ ก็เหลือพื้นที่ให้ปูเสื่อ และยกเวทได้อีก จัดวางได้ครบครัน
มีระเบียงให้ทำ Pocket Garden ออกกำลังกายชมวิวต้นไม้สีเขียวชุ่มชื่นใจดีนะ มีระบบท่อและก๊อกน้ำไว้ให้รดน้ำกันสะดวก
นี่ก็คือทั้งหมดของ “LAVIER RAMA 3” ที่ผมพามาชมในวันนี้ครับ ผมว่านอกเหนือจากความสวยงาม และความหรูหราในรายละเอียด ผมชอบวิธีคิดของเจ้าของโครงการที่เค้าคิดมาเพื่อการใช้ชีวิตของทุกคนในครอบครัวจริงๆ หลายอย่างเป็นสิ่งที่เราไม่เห็นด้วยตาก็ยังเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมาเหมือนทำบ้านของตัวเอง รวมถึงการคิดรอบคอบเพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัยด้วย ผมว่าไม่ว่าคุณจะมีครอบครัวแบบไหน ก็สามารถอยู่ได้อย่างสะดวกสบายและมีความสุขในบ้านหลังใหญ่นี้ครับ
ใครที่สนใจขอเชิญเข้ามาชมด้วยตาตัวเอง สำหรับโครงการระดับราคานี้แล้วสเปกที่นี่ไม่เป็นรองใครเลยครับ
ที่ชั้น 3 ออกจากลิฟต์มาโซนแรกฝั่งซ้ายมือจะเจอกับห้องเก็บของอยู่ด้านหน้าห้องอเนกประสงค์ ซึ่งเค้าตกแต่งเป็นห้องพระให้ดูเป็นไอเดียครับ มีห้องนี้อยู่ในบ้านก็รู้สึกสงบร่มเย็น ผมชอบที่มีระเบียงให้ใช้ตรงนี้ด้วย สังเกตว่าไม่มีห้องไหนเป็นห้องอับแสงเลย
ชั้น 4 มีห้องที่เค้าวางงานระบบมาสำหรับทำห้อง Laundry ครับ จะวางเครื่องซักผ้าอบผ้า ที่รีดผ้า ก็เพียงพอ เพราะพื้นที่เยอะ หรือบ้านไหนมีแม่บ้านหลายคน ก็สามารถทำเป็นอีกหนึ่งห้องแม่บ้านได้ครับ มีห้องน้ำอีกห้องอยู่ข้างกัน
และชั้นสุดท้ายนี่ยังมีระเบียง เป็นโซนดาดฟ้าส่วนตัว จะมาตากผ้าตรงนี้ก็ได้ใกล้แดด บนนี้เค้ามีถังเก็บน้ำ และหม้อต้มน้ำร้อนที่เป็นหัวใจใช้แจกจ่ายไปทั่วบ้านนั่นเอง สบายอย่างกับอยู่โรงแรม ระเบียงตรงนี้เค้ายังทำหลังคายื่นมาบังแดดให้ด้วยนะ ดีเทลละเอียดดีมากก
มุม Living ชั้น 1 ถ่ายลงมาจากชั้น 2 คือสวยตะโกนน
ชั้น 2 ยังมีอีกหนึ่ง Living ที่เป็น Double Volume สูงไม่แพ้ชั้นล่าง โปร่งไปหมดด
บรรยากาศน่าจัดปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำมากก