รีวิวคอนโด “RHYTHM เจริญนคร ไอคอนิค” หนึ่งเดียวของคอนโดตรงข้ามไอคอนสยาม นิยามใหม่ของ RHYTHM ในแบบ Super Condominium เริ่ม 7.7 ล้านบาท

เมื่อพูดถึงไอคอนสยาม ผมคิดว่าเราแทบไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากแล้วครับ กว่า 5 ปี ของอภิมหาโครงการบนที่ดิน 55 ไร่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ยกระดับทำเลโดยรอบไปอีกขั้น จากแต่ก่อนจุดขายของฝั่งเจริญนคร อาจจะมีเพียงวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงาม รวมถึงการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก แต่ทุกวันนี้เจริญนคร คือ ไอคอนสยาม ที่ที่มีผู้คนแวะเวียนเข้ามานับแสนทุกวัน ทุกเทศกาลไม่ว่าจะใหญ่แบบปีใหม่ สงกรานต์ หรือแม้แต่ลอยกระทง ทุกคนก็มีจุดหมายปลายทางที่นี่ ไม่ว่าจะมาเพื่อชมการตกแต่งสีสันตระการตา หรือพลุที่งดงาม รวมไปถึงร่วมงาน Event ใหญ่ระดับ World Class จนเป็นหนึ่งใน Global Destination ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกผ่าน Soft Power ของไทย

​ตอนนี้พื้นที่ภายในไอคอนสยามเต็มหมดแล้วนะครับ แต่ยังมีแบรนด์ชั้นนำอยู่ใน Waiting List อีกมาก นำไปสู่การ Renovate พื้นที่ภายในชั้น M และ ชั้น 1 เพื่อขยายพื้นที่เช่าเพิ่มไปอีกด้วยเม็ดเงินกว่า 1 พันล้านบาทในปี 2567 รวมทั้งการปรับปรุงมิวเซียมรูปแบบใหม่ในสไตล์ River Museum ที่ชั้น 8 ซึ่งนอกจากภาพของ Retail จะชัดเจนแล้ว สิ่งที่มาคู่กันก็คือ Residential Project โดยเฉพาะโครงการที่พัฒนาภายใน ICONSIAM เอง หรือที่อยู่ใกล้เคียงล้วนแต่เป็นโครงการระดับ Ultimate Luxury ที่มีราคาเฉลี่ยระดับ 300,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นไปทั้งสิ้น ที่เหลือก็เป็นโครงการที่อยู่ถัดออกไปเป็นหลักกิโลเมตร แต่สิ่งที่เซอร์ไพรส์และน่าตื่นเต้นสำหรับผมตั้งแต่ได้ยินข่าวครั้งแรกก็คือ การมาของ “RHYTHM เจริญนคร ไอคอนิค” ที่อยู่เยื้องกันกับไอคอนสยาม ในระยะเดินเพียงแค่ข้ามถนน จนถึงกับต้องยกนิ้วให้กับความสามารถในการหาที่ดินของ AP Thai จริงๆ

​ผมชอบไอคอนสยามในหลายมิตินะครับ ไม่ว่าจะเป็นความหลากหลายของสินค้าตั้งแต่ Local ไปจนถึงแบรนด์ระดับโลก Flagship Store ของ Apple ก็ดีงาม มีตลาดน้ำแบบไทยๆ ให้เดิน ร้านอาหารก็มีละลานตาทุกชนชาติ แถมยังพิเศษกว่าห้างอื่นตรงที่ความเป็น Riverside นี่แหละ เป็นสเน่ห์ที่หาเทียบได้ยาก แต่มีแค่สิ่งเดียวที่ผมไม่เคยชอบเลยจริงๆ ของที่นี่ก็คือ การจราจร และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ผมไม่ไปไอคอนสยามในช่วงเทศกาล บรรดาโครงการ Residential Project ที่อยู่ติดหรือใกล้ชิดกับ ICONSIAM เหล่านี้มันเลยก็สะดวกมากที่เราจะสามารถเดินไปชิลล์ ๆ ช้อปปิ้งแล้วให้เค้ามาส่งได้โดยไม่ต้องสนใจรถราบนถนนอีกต่อไป และที่ RHYTHM เจริญนคร ไอคอนิค นี้ก็คือโครงการเดียวที่สามารถเป็นเจ้าของคอนโดใกล้ไอคอนสยามระดับเดินได้ในราคาใกล้เคียงกับย่านห้าแยกลาดพร้าวเลยครับ

​นอกจากพื้นที่เจริญนครฝั่งเลขคี่ที่ตั้งของไอคอนสยามจะเติบโตให้เห็นเด่นชัดแล้ว บรรดาซอยต่าง ๆ ในเจริญนครฝั่งเลขคู่ก็ค่อย ๆ พัฒนาเปลี่ยนแปลงตามไปเหมือนกันนะ ถ้าทุกคนคุ้นชินกับบรรยากาศร้านคาเฟ่ชิคๆ หรือร้านอาหารที่มีสไตล์เฉพาะตัวในย่านอารีย์ ลองมาเดินในซอยเจริญนครฝั่งเลขคู่กันดูนะครับ ตอนนี้มีร้านใหม่ๆ ที่มีสไตล์ ผสมผสานความเป็นโลคอลเปิดใหม่เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นร้าน Holiday Pastry, HEY หมูกระทะ, SHELTER, It’s Bread Time, Baobei Dimsum Company, Mute Mute Café x Board Game Café ที่บริการโดยคนหูหนวก, ร้านเวทย์มนต์ คาเฟ่, ร้านขนมหวาน “Baked by Ball” ยังไม่นับของกินอีกมากมายบนถนนเจริญรัถ นี่เป็นแค่ตัวอย่างนะครับ ว่าเราสามารถเดินหาของกินเล่นในฝั่งเดียวนี้ได้อีกเพียบ ซึ่ง End Credit ท้ายรีวิววันนี้ผมจะพาไปดูกันด้วยครับ

ภาพรวมโครงการ

RHYTHM เจริญนคร ไอคอนิค ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 4 ไร่ เป็นคอนโดสูง 29 ชั้น รวมทั้งหมด 577 ยูนิต พร้อมที่จอดรถ 60% (รวม EV Parking) ตัวโครงการอยู่ติดถนนเจริญนคร ใกล้กับทั้ง ICONSIAM, Lotus’s Privé, ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสีทองสถานีเจริญนครราว 100 ม. การเดินทางด้วยรถยนต์จาก ถ.เจริญนครด้านหน้าไปเชื่อมต่อ ถ.กรุงธนบุรี สู่สาทร, เชื่อมต่อ ถ.ลาดหญ้า สู่วงเวียนใหญ่ ใกล้ทั้งสะพานตากสิน, สะพานพุทธฯ และสะพานกรุงเทพ หรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งเรือที่ท่าเรือไอคอนสยามก็สะดวกเหมือนกันครับ

เมื่อได้ที่ดินระดับนี้มา การพัฒนาโครงการก็ต้องทำให้สมฐานะ ดังที่ AP Thai ให้นิยามว่าเป็น Super Condominium ของแบรนด์ RHYTHM ใน 4 มิติ ไม่ว่าจะเป็น Super Radius อยู่ในใจกลางของย่านธุรกิจของเจริญนคร, Super Design ในสไตล์ Japanese – Italian Craftsmanship ซึ่งก็ทำออกมาได้ไม่เหมือนใคร เป็นการผสมผสานความละเอียดอ่อนในเชิง Material ของ 2 โลกแล้วเติมความเป็น Futuristic ลงไป, Super Architecture เมื่อย่านนี้มีแสงสีมากมาย ตัวโครงการก็ต้องโดดเด่นสะดุดตาโดยเฉพาะ Iconic Stairs บันไดสี Copper Revival บน Rooftop Facilities ที่โดดเด้งเห็นได้จากระยะไกล และจะกลายเป็น Super Bluechip คอนโดที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือครองไปอีกนาน

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการมีถึง 4 ชั้น ประกอบด้วย

  • ชั้น G โซนด้านหน้ามีพื้นที่สีเขียวต้อนรับก่อนเข้าสู่ตัวโครงการ ไม่ว่าจะ Private Sanctuary Yard, Wharf Yard Garden ที่มีโซนที่นั่งให้เลือกพักผ่อนหลายสไตล์ เข้ามาสู่ด้านในจะพบกับ Welcome Foyer สุดโฉบเฉี่ยว ซึ่งสะท้อนความเป็น Craftsmanship กับ Futuristic ของโครงการนี้ ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ Lobby Lounge และ Co-working Space ให้ใช้งาน ซึ่งออกแบบมาอย่างเป็นเอกลักษณ์อีกเหมือนเคยอารมณ์เหมือนเราเดินไปใน Art Gallery ซึ่งแต่ละห้องมีสไตล์ของตัวเอง ห้องนี้เค้าไม่ได้จัดที่นั่งเป็นโต๊ะ ๆ ตามปกติ แต่เหมือนนั่งอยู่ใจกลาง Spiral โค้งมน และสิ่งที่เพิ่มมาแบบที่ยังไม่เคยทำในโครงการ RHYTHM ที่ไหนก็คือ Concierge Service ที่จะคอยให้บริการที่ชั้นนี้ด้วยครับ
  • ชั้น 6 มีพื้นที่สวน Yacht Garden Terrace อยู่รวมกับยูนิตพักอาศัย
  • ชั้น 28 เป็นพื้นที่ Facilities ทั้ง Floor ครับ ด้านนอกมีสระว่ายน้ำสวยๆ แบบ Multi-function ทั้งโซน Lap Pool, Jacuzzi, Kids Pool, River Hydro Pool พร้อมส่วนใช้งานริมสระอย่าง Pool Deck, Pool Bar และ Circular Outdoor Living รวมทั้ง River Deck จุดชมวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา ส่วนด้านในมี Artistic Pavilion เป็นพื้นที่พักผ่อนพร้อมงานศิลปะสไตล์โมเดิร์นที่ถือเป็นมาสเตอร์พีซของโครงการและ Fitness วิวสวน Courtyard สำหรับคนฟิตแอนด์เฟิร์ม
  • ชั้น 29 เชื่อมโยงมาจากชั้นล่างด้วยบันไดสี Copper Revival จุด Landmark ของโครงการ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานด้านในทั้งหมดครับ เน้นกระจกใสให้ชมวิวได้รอบทิศได้แก่ Iconic Lounge, The Grand Yacht Lounge ห้องโทนสีเข้มขรึมสไตล์ Italia Yacht, Private Meeting Room, Private Club ตกแต่งโดยหินธรรมชาติสร้างสรรค์เป็น Iconic Bar, Sky Living Room และ Private Gym

รูปแบบห้องและราคา

โครงการนี้มีห้องให้เลือก 2 แบบครับ ได้แก่

1. แบบ SIMPLEX เพดานสูง 3 ม. (ชั้น 6 – 22) แบ่งเป็น1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ได้รูปแบบครัวปิด เข้าออกห้องน้ำสะดวกด้วย Double Access

  • 1 Bedroom Plus ขนาด 43.5 ตร.ม. ในห้องจัดแบบ Open Plan เป็นครัวเปิดรูปตัว L เชื่อมต่อกับส่วนทานข้าวสไตล์บาร์ มีห้องอเนกประสงค์ที่ได้กระจกเข้ามุมแบบ Bay Window
  • 2 Bedroom ขนาด 62 – 95 ตร.ม. ด้วยสเปซที่ใหญ่ขึ้น Type นี้ก็มีเลย์เอาท์ให้เลือกหลากหลายถึง 8 รูปแบบครับ แล้วแต่ว่าเราอยากได้แบบไหน อยากได้ครัวใหญ่ อยากได้ Living กว้างๆ เน้นห้อง Master Bedroom หรืออยากได้ทุกห้องสัดส่วนพอๆ กันมีให้เลือกหมด โดยห้องตัวอย่างที่เราจะพาชมนี้จะเป็นห้องที่เป็นรูปแบบ Open Plan ที่ได้ส่วน Living Area ใหญ่มากกก พร้อมกับระเบียงยาวตลอดแนว มีห้องเก็บของและห้อง Laundry จัดไว้โดยเฉพาะ
  • 3 Bedroom ขนาด 130 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้องใหญ่ที่สุดของรูปแบบ SIMPLEX ครับ และเป็นห้องเดียวที่มีส่วน Maid Quarter สำหรับคนที่ต้องการแม่บ้านช่วยดูแล และเป็นห้องที่มี Master Bedroom พร้อมกระจกเต็มตาสวยงาม (เลย์เอ้าท์คล้ายห้อง 2 Bedroom แบบ E2 ครับ)

​2. แบบ VERTIPLEX เพดานสูง 4.45 ม. (ชั้น 23 – 27) พื้นที่ใช้สอย 2 ชั้น โดยภาพรวมแล้วชั้นบนจะเป็นพื้นที่ห้องนอนและมีห้องน้ำแบบ Powder Room ให้ใช้ทุกรูปแบบ มีทั้งหมด 6 Type ขนาดตั้งแต่ 35 – 127.5 ตร.ม. โดยขนาดห้องตั้งแต่ 43.5 ตร.ม. ขึ้นไปจะจัด Layout ได้ 2 ห้องนอน ส่วนห้องตั้งแต่ขนาด 61 ตร.ม. ขึ้นไปจะจัดได้ 3 ห้องนอน แถมมีส่วนนั่งเล่นที่ชั้นบนเพิ่มขึ้นมาด้วย และขนาดที่ใหญ่ที่สุดแบบ 127.5 ตร.ม. จะมีได้สูงสุด 4 ห้องนอน กับ 1 ห้อง Maid เลยครับ

​ห้องที่นี่ขายในรูปแบบ Fully Fitted มีสเปคหลายอย่างที่อัพเกรดขึ้นมา ไม่ว่าจะพื้นแบบ SPC, มีแอร์แบบ Ceiling Concealed Type ให้สำหรับห้องขนาด 95 ตร.ม. ขึ้นไป, ครัวได้ครบชุดทั้งเตาไฟฟ้า ฮู้ดดูดควัน แถมด้วยเตาแบบ Combi ทั้งย่างและเป็นไมโครเวฟจาก Gorenje ครับ ณ ตอนนี้ โครงการขายตั้งเริ่มต้นสำหรับ 1 Bedroom แบบ SIMPLEX ขนาด 43.5 ตร.ม. อยู่ที่ 7.7 ล้าน ราคานี้ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับองค์ประกอบของโครงการนี้มาก นอกจากเรื่องของทำเลแล้ว ผมรู้สึกว่าที่นี่ค่อนข้างมีความหลากหลายใน Layout ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันได้ดี และมีห้องขนาดใหญ่พิเศษสำหรับคนที่ต้องการอยู่แบบครอบครัวได้เลย เป็นอีกที่หนึ่งที่จะพูดได้ว่านานๆ ทีจะมีโครงการแบบนี้ออกมาสักครั้งหนึ่ง ใครที่สนใจขอชวนเข้าไปชมนะครับ

​สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่ https://apth.ly/bsp6 ครับ

RHYTHM CharoennakhonIconi

ได้เวลาพามาชม “RHYTHM Charoennakhon Iconic” คอนโดสุด Luxury บนที่สุดของทำเลทางฝั่งธนอย่างเจริญนคร-คลองสาน อยู่ตรงข้าม ICONSIAM ใกล้รถไฟฟ้าสายสีทอง ที่มีทั้งห้องรูปแบบ SIMPLEX และ VERTIPLEX 2 ชั้น 1 Bedroom Plus เริ่ม 7.7 ล้านครับ ต้องบอกก่อนว่า Sales Gallery นี้ไม่ได้อยู่ตรงที่ตั้งโครงการจริงนะครับ แต่ตั้งอยู่ระหว่าง รร.มิลเลนเนียม ฮิลตัน กับ ไอคอนสยามครับ

โครงการนี้เป็นการทิ้งทวนปลายปี 2023 ได้สมการรอคอย ได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถันภายใต้แนวคิด ‘Bluechip Design Residence’ ที่ดีไซน์ได้แรงบันดาลใจมาจาก Japanese-Italian Craftmanship เราจะได้เห็นวัสดุ เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและความงามครับ

ที่นี่มีห้องตัวอย่าง 2 ห้อง ทั้งแบบ SIMPLEX และแบบ VERTIPLEX ห้องเพดานสูง พื้นที่ใช้สอย 2 ชั้น จะสวยงามน่าอยู่แค่ไหน ไปชมกันเลยครับ

ขอเริ่มที่ห้องรูปแบบ VERTIPLEX ขนาด 43.5 ตร.ม. กันก่อนครับ เป็นห้องที่เน้นการใช้พื้นที่ในแนวสูง มี 1 ห้องนอนที่ชั้นล่าง ส่วนชั้นบนมีห้องอเนกประสงค์ (ที่จัดเป็นห้องนอนได้) พร้อมกับห้องน้ำแบบ Powder Room ให้ใช้อย่างสะดวกสบาย

เข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่ครัวก่อนครับ ส่วนห้องน้ำก็เข้าได้จากฝั่งตรงข้ามนี่เอง ที่เห็นด้านในสุดก็จะเป็นส่วน Living Area ทางด้านซ้าย และห้องนอนอยู่ทางฝั่งขวามือ

ครัวเราจะได้แบบนี้ไปเลย เคาน์เตอร์หินสังเคราะห์ มีเตาและเครื่องดูดควันให้พร้อม ซึ่งที่ให้เพิ่มมาคือเตาย่างพร้อมไมโครเวฟด้านล่าง ทั้งหมดจากแบรนด์ Gorenje ใครอยากทำสเต็กเอาเนื้อเข้าเลยครับ เครื่องซักผ้าก็วางตำแหน่งนี้นะ บันไดขึ้นไปชั้นบนอยู่ฝั่งซ้ายมืออ้อมหลังครัวขึ้นนี่เอง

ตรงข้ามห้องครัวเป็นห้องน้ำตกแต่งกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาวสะอาดตา พร้อมกระจกขนาดใหญ่ให้เช็คความพร้อมกันแบบสะใจ มี Rain Shower เพิ่มความฟิน และช่องใส่อุปกรณ์ให้ด้วย เข้าได้ทั้งจากทางห้องครัว และห้องนอนสะดวกทั้ง 2 ฝั่งเลยครับ

เข้ามาพักผ่อนที่โซน Living สูงโปร่งด้วยเพดาน 4.45 ม. กันต่อครับ ตรงนี้ก็มีพื้นที่ให้จัดวางโต๊ะกินข้าว นั่งได้ถึง 4-5 คน ผนังแนวสูงแบบนี้ขาดไม่ได้ก็คือการตกแต่งด้วยของสวยๆงามๆ หรือบิวท์เป็นชั้นโชว์ของสะสมแสนรักเพื่อบอกว่านี่คือห้องของฉันนะ

ห้องนั่งเล่นนี้ได้ความสูงโปร่งจากเพดาน และรับแสงธรรมชาติจากกระจกเข้ามุม เค้าตกแต่งได้เรียบหรู อบอุ่น ผมชอบเตาผิงไฟอันนี้สุดๆ เร่งแอร์สักนิดได้ฟีลอยู่เมืองหนาวเลยล่ะ ฮ่าๆ

แหงนมองส่องดูคนข้างบนทำอะไรอยู่น้า ความโปร่งแบบนี้ทำให้ลืมว่าอยู่คอนโดลงไปได้บ้าง

ก่อนขึ้นไปข้างบน ยังมีห้องนอนชั้นล่างให้แวะชมกันก่อน สเปซกว้าง วางเตียง และโต๊ะเครื่องแป้งได้สบายๆ เฉพาะพื้นที่ชั้นล่างของห้องนี้มี Layout เกือบจะเหมือนรูปแบบ SIMPLEX ในพื้นที่เดียวกันเลยครับ ถ้ารูปแบบ SIMPLEX เราก็จะได้เพดานสูง 3 ม. ส่วนแบบ VERTIPLEX นี้ด้านล่างจะสูง 2.05 ม. ก็คือห้องตัวอย่างเดียวดูได้ทั้ง 2 รูปแบบเลย

อีกฝั่งก็คือตู้เสื้อผ้าและประตูเข้าห้องน้ำอีกจุดที่ผมเล่าให้ฟังครับ

ไปดูชั้นบนกันต่อเลย

ห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นบนก็ยังกว้าง มีพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงาน โซฟาพักผ่อน รวมถึงตู้เก็บของไม่ว่าจะหนังสือ เอกสาร หรือเครื่องดื่มแสนอร่อยไว้ผ่อนคลายจากการทำงาน

ซึ่งห้องนี้จะปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเป็นห้องนอนอีกห้องนึงก็ยังสะดวก เพราะเป็นห้องกั้นด้วยประตูกระจก ได้ความเป็นสัดเป็นส่วน แต่ยังโปร่งโล่ง และเหตุผลสำคัญอีกอย่างที่ช่วยให้ห้องนี้อยู่สบายมากขึ้นก็คือห้องทางฝั่งขวานี่เอง

นี่คือห้องน้ำแบบ Powder Room ให้ใช้งานที่ด้านบนครับ อยู่บนนี้ก็ไม่ต้องลงไปใช้ห้องน้ำที่ด้านล่างทั้งระหว่างวัน และตอนกลางคืน ยกเว้นว่าจะไปอาบน้ำ ซึ่งไม่ใช่ปัญหา เพราะปกติผมไม่อาบ แฮ่!

กั้นด้วยบานกระจกแบบนี้ ก็สามารถส่องคนข้างล่างกลับคืน ดูว่าทำอาหารเสร็จรึยังน้า

ห้องแรกก็จบเท่านี้ครับ ห้องนี้ก็ว่าใหญ่แล้ว ไปดูอีกห้องกันดีกว่า

Show Unit อีกห้องนึงเป็นรูปแบบ SIMPLEX 2 Bedroom ขนาด 95 ตร.ม. ครับ ห้องนี้อยู่กันแบบครอบครัวขนาดเริ่มต้นก็ยังสบาย ๆ เลยครับ

ต้อนรับกลับห้องด้วย Foyer อารมณ์เหมือนเดินเข้าบ้านเลยล่ะ ทางกว้างแบบนี้เต้นลีลาศเข้ามาก็ยังพอ ซึ่งตรงนี้ก็มีพื้นที่พอเหมาะให้วางตู้รองเท้า รวมถึงชั้นวางกระเป๋า วางกุญแจได้ตามชอบครับ ก่อนจะไปถึงครัวฝั่งซ้ายมือจะมีห้อง Laundry กั้นปิดไว้เรียบร้อย ส่วนห้องที่เป็นบานเลื่อนกระจกทางฝั่งขวานี่คือห้องอะไรกันนะ

เป็นห้อง Storage Room นั่นเองครับ มีพื้นที่เหลือเฟือให้ใช้งานเลย กำลังนึกอยู่ว่าจะเอาไปทำอะไรนอกเหนือจากนี้ไว้บ้าง เอาไว้ทำห้องพระนั่งสมาธิก็ดูไม่เหมือนใครดีนะ ฮ่าๆ

จุดเด่นของห้องนี้คือการจัด Layout แบบ Open Plan เพื่อให้ส่วน Living Are นั้นมหึมา จัดวางฟังก์ชันใช้งานได้ครบแบบเหลือๆ ครับ เราก็จะจัดเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวสวยๆ สร้างบรรยากาศภายในห้องได้อย่างใจครับ

ห้องครัวมี 2 ฝั่งนะ ให้เคาน์เตอร์แบบ Island เพิ่มมาด้วย ได้เตาไฟฟ้า 4 หัว พื้นที่เตรียมอาหารกว้างขวางถูกใจแม่บ้าน ใช้งานสบาย

มาดูส่วน Living Area กันต่อนะ สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์เรียงกันไปได้เลยทั้งโซฟา และโต๊ะกินข้าว ทำอาหารเสร็จแล้วก็มาเสิร์ฟได้ใกล้ๆกันเลยครับ มีแสงธรรมชาติเข้ามาจากระเบียงตลอดแนว

ตำแหน่งจัดวางทีวีอยู่ฝั่งนี้เป็นตำแหน่งที่ดีเห็นได้จากทุกมุมของห้อง จัดใหญ่เต็มตาได้เลยกับพื้นที่ขนาดนี้ และห้องนี้ได้แอร์แบบฝังฝ้าที่ส่วนนั่งเล่นด้วยครับ

ระเบียงด้านนอกกว้างมากใช้งานได้เต็มพื้นที่ พร้อมด้วยราวกันตกแบบกระจกเทมเปอร์สวยงามไม่บดบังสายตา

ห้องนี้เค้าจะจัดวางตำแหน่งห้องนอนอยู่ด้านในเพื่อแยกสัดส่วนกันสักหน่อยเพื่อความสงบให้หลับเต็มตื่น มีห้องน้ำคั่นอยู่หนึ่งห้องทางด้านซ้ายมือซึ่งเข้าได้จากโถงทางเดินและในห้องนอนที่ 2 ส่วนห้องนอนหลักอยู่สุดทางเดิน ซึ่งขอตรงเข้าไปชมก่อนครับ

ห้องนี้เรียกว่าแกรนด์จริงๆ พื้นที่เดินรอบเตียงสบายๆ เหมาะมากกับเตียงคิงไซส์ครับ

ห้องนี้พิเศษตรงที่หัวเตียงเป็นกระจกเข้ามุมนะ จะวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานในห้องนอนก็ยังได้ ช่วงที่ผมเข้าไปถ่ายแล้วมีแสงแดดสาดเข้ามานี่สวยงามเลยครับ

พื้นที่ฝั่งตู้เสื้อผ้าตรงนั้นทำเข้ามุมรูปตัว L ได้จุเท่าที่คุณผู้หญิงพึงใจ

ห้องนอนนี้มีห้องน้ำในตัว พิเศษที่มีอ่างอาบน้ำให้แช่น้ำอุ่นๆ ใส่ Bath Bomb โรยด้วยดอกไม้อีกซักหน่อย อร่อย เอ๊ย เพลิดเพลินเลย สำหรับยูนิตที่มีอ่างอาบน้ำจะเป็นห้องขนาด 70 ตร.ม. ขึ้นไปครับ

มาที่ห้องนอนอีกห้องซึ่งขนาดก็อยู่สบายเหมือนกัน มีพื้นที่ให้วางโต๊ะเครื่องแป้งได้

มีตู้เสื้อผ้า จัดวางอยู่ถัดจากประตูห้องน้ำ ที่เข้าได้จากห้องนอนอีก 1 จุดแบบนี้ อาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวแต่งหน้าได้สะดวกทั้งตอนนอนและตอนอยู่ข้างนอกครับ

และจุดเด่นที่ไม่แพ้กัน คือห้องนี้มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ ให้ออกมาจิบชารับลมชมวิวได้ทุกวันครับ คอมเพรสเซอร์แอร์เค้าก็ซ่อนไว้ข้างบนให้เรียบร้อย นี่ก็คือความดีงามของห้องรูปแบบ 2 ห้องนอนที่นี่ครับ เอาล่ะครบทุกห้องตัวอย่างแล้ว ขอพาไปชมภาพโครงการสุดจึ้งกันต่อเลย

ขอเริ่มที่ชั้น G นี่คือ Welcome Foyer มาแบบสูงโปร่งพร้อมวิวและประตูออกไปสู่สวนได้ ดูดีไซน์ของเค้าซะก่อนครับ เส้นโค้งมนด้วยโลหะที่ผิวสะท้อนแสงเน้น Reflection ให้อารมณ์ Futuristic แต่ยังมีความละมุนคงอยู่

แน่นอนว่ามี Main Lobby Lounge ให้นั่งรอ พักผ่อน กับกระจกเต็มบานวิวสีเขียว ที่นี่พื้นที่ส่วนกลางจะเด่นด้วยกระจกแบบนี้หลายพื้นที่ครับ

ส่วนอีกห้องที่ตกแต่งด้วยโทนเดียวกันนี้ก็คือ Co-Working Space ที่เหมือนนั่งอยู่ใต้ Spiral โดดเด่นด้วยดวงไฟดวงใหญ่ด้านบน ที่ห้องนี้มีสวนเป็นวิวสีเขียวด้านนอกเช่นกัน แค่ชั้นแรกก็ดีไซน์ได้อลังการสุดๆ

มาดูส่วนกลางแบบ Top Floor กันครับ เห็นได้ทั้งวิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

ด้านในยังมี Artistic Pavilion ที่ออกแบบได้แรงบันดาลใจจาก Japanese – Italian Design ผสมผสานความมินิมอลแบบญี่ปุ่น เข้ากับความสง่าของอิตาลีได้อย่างมีสไตล์ นี่คืองาน Master Piece ของโครงการด้วยชิ้นงานศิลปะขนาดใหญ่ สีสันจัดจ้าน

ชั้นนี้ยังมี Fitness ให้ออกกำลังกายเทควิวได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกดินเลย

ชั้นนี้ยังมี Fitness ให้ออกกำลังกายเทควิวได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตกดินเลย, มี Private Living Room ให้เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งพักผ่อนนอกห้องตัวเอง หรือจะมานั่งเม้ามอยกับเพื่อนๆได้ที่นี่ หรือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวเพิ่มอีกซักหน่อยก็มี Private Club ดูสิแต่ละห้องดีไซน์มันเคลื่อนไหวเปลี่ยนไปไม่ซ้ำกันเลย และถ้ารู้สึกอยากจะนั่งชิลล์ ที่ชั้นนี้ก็มี The Grand Yacht Lounge ตกแต่งได้แหวกแนวกว่าส่วนกลางห้องอื่นๆ ด้วยสไตล์ Italia Yacht ไว้รวมตัวกันชิลล์หลังพระอาทิตย์ตกดิน

และยังมีอีกห้อง “Iconic Lounge” จุดเด่นของชั้นนี้ก็คือการแบ่งพื้นที่ใช้งานหลากสไตล์ ในมุมที่แตกต่างกัน ให้เราเข้าไปใช้งานได้หลายอารมณ์ครับ สวยๆ ทั้งนั้นเลย จบสำหรับโครงการแล้วผมมี End Credit เป็นโบนัสทิ้งท้ายครับ

ขอพาทุกคนไปเดินเที่ยวใกล้ๆ โครงการกันหน่อย ผมไปเจอ Hidden Gem ที่ ซ.เจริญนคร 10 ในนี้เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ ให้ฟีลเหมือนย่านอารีย์เลยล่ะ จะชวนไปชมกัน 2 ร้าน เริ่มแรกมาที่คาเฟ่ ‘Shelter’ กันครับ

เค้าตกแต่งด้วยโทนสีขาว ตัดกับดำ มินิมอลมากครับ ร้านขนาดใหญ่มีหลายที่นั่ง

ปลายปีแบบนี้ก็ต้องตกแต่งในธีมคริสต์มาสครับ ในส่วนของเมนูที่นี่มีทั้งเครื่องดื่ม ของหวาน และของคาวอย่างเมนูแซนวิชสไตล์โฮมเมด

สั่งน้ำและขนมเสร็จแล้วก็ได้เวลาหามุมถ่ายรูปตามสไตล์ Café Hopper ครับ 5555 ซึ่งที่นี่หามุมไม่ยาก เพราะสวยหมดทุกมุม

เครื่องดื่มมาแล้วครับ ของผมเป็น Dirty เบาๆ ส่วนของน้องก็เป็นช็อกโกแลตเย็น สั่งหวานน้อยก็ยิ่งเจ้มจ้นมากๆ และไฮไลท์วันนี้คือแซนวิชผักโขมอบชีส รสชาติดีเลยครับ แนะนำให้ไปลอง

ข้างๆกันมีอีกร้าน It’s Bread Time ตกแต่งสีสันน่ารักเข้าไปอีก ตรงนี้มีเมสนูขนม เบเกอรี่ครับ สั่งเข้าไปกินที่ร้าน Shelter ได้นะ

มาแล้วครับ เสิร์ฟให้ถึงที่ ผมสั่งมาเป็นขนมปัง Ham & Cheese ที่เป็นตัวขายของเค้า ขนมปังนุ่มมาก จัดไป 2 ชุด เริ่มอิ่มแล้วนะ 

ร้านเปิดทุกวัน 8.00-17.00 น. มีที่จอดรถหน้าร้าน 8-10 คันครับ

ร้านสุดท้ายของวันนี้ ‘Bao Bei’ อ่านว่า เป่าเป้ย เป็นร้านอาหารจีน มีข้าว ซาลาเปา หรือเมนูเกี๊ยว ให้ได้ลิ้มรสจีนแท้ ส่วนหน้าร้านบรรยากาศดีมากกก

ร้านตกแต่งด้วยสีแดง ตัดกับสีฟ้าเขียว มีโต๊ะเก้าอี้หลายแบบให้เลือกนั่งด้วยครับ

จะนั่งมุมไหน รูปก็ต้องมา วันนี้สั่งเป็นเกี๊ยวกุ้งซอสเผ็ดครับ เกี๊ยวเนื้อนุ่ม มากับซอสและโปะด้วยพริกเผาสไตล์จีน หอมๆ อร่อยเลยนะ

ร้านเปิด 10.00-20.00 น. (ปิดทุกวันพุธ) มีที่จอดรถหน้าร้านครับ อิ่มกันมั้ยฮะ ผมอิ่มแล้วล่ะขอจรลี ฮ่าๆ

และนี่ก็คือความน่าสนใจของโครงการ “RHYTHM Charoennakhon Iconic” และทำเลใกล้เคียงที่ผมพามาชมวันนี้ครับ ไม่ต้องสรุปอะไรมากนอกจากว่า นี่คือของดีที่นานๆ จะมีสักที ใครที่สนใจขอเชิญไปชมกันได้ที่โครงการครับ