บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รุกกรุงเทพฝั่งตะวันตก เปิดตัวโครงการ “เดอะแกรนด์ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ” คฤหาสน์สุดหรู มาพร้อมดีไซน์และสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ใน European Style ที่สร้างสรรค์องค์ประกอบให้เหมาะสมกับทุกการใช้ชีวิต เสริมด้วยบรรยากาศโดยรอบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว และระบบไฟฟ้าใต้ดินทั้งโครงการ บนทำเลศักยภาพ ติดถนนกาญจนาฯ ในสังคมส่วนตัวเพียง 39 ครอบครัว เริ่ม 30 – 70 ล้านบาท*
- พร้อมเปิดพรีเซลวันที่ 25 – 26 พฤษภาคมนี้
- กรุงเทพฯ – บ่ายวันนี้ (3 พฤษภาคม 2567) นายภวรัญชน์ อุดมศิริ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการภายใต้แบรนด์ “เดอะ แกรนด์” (THE GRAND) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี ในราคา 20 – 80 ล้านบาท ที่บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนาให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากขึ้น และยกระดับการใช้ชีวิตในสังคมการอยู่อาศัย
โดยถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จ จึงได้รุกกรุงเทพฝั่งตะวันตก เปิดตัวโครงการ “เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ” ซึ่งคาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีดั่งเช่นที่ผ่านมา
เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ
“โครงการ “เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ” เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี มูลค่าโครงการ 1,649 ล้านบาท บนพื้นที่โครงการ 28-2-70.5 ไร่ เอกสิทธิ์เพียง 39 ยูนิต โดยทำเลของโครงการตั้งอยู่ห่างจากถนนกาญจนาภิเษก เพียง 180 เมตร สามารถเชื่อมต่อสู่ใจกลางเมืองได้อย่างง่ายดาย ใกล้ทางด่วน ทั้งยังใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สถานีหลักสอง และครบครันไปด้วยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์มากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน และโรงพยาบาลชั้นนำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค, ซีคอน บางแค, โลตัส บางแค, โรงเรียนนานาชาติ SISB Thonburi, โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี, โรงเรียนเซนต์ปีเตอร์ ธนบุรี, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยสยาม, เนติบัณฑิตยสภา, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค และโรงพยาบาลอินเตอร์เมด เป็นต้น
โครงการ “เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ” ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามและโดดเด่นจากเมืองมรดกโลกอย่าง ปลาส เดอ ลา บูส (Place de la Bourse) ณ เมืองบอร์กโดซ์ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเมืองที่ผลิตไวน์ เป็นอันดับต้น ๆ และมีพื้นที่สวยงามที่สุด แวดล้อมด้วยอาคารสถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 17 อันโอ่อ่าอลังการ โดยมีน้ำพุกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ด้านหน้า เพื่อสะท้อนความสวยงาม อีกทั้งการวางผังและการออกแบบยังถูกถ่ายทอดให้สอดคล้องกับลักษณะภูมิประเทศของเมืองบอร์กโดซ์อีกด้วย
ในส่วนของคลับเฮาส์ มาพร้อมดีไซน์อันหรูหรา เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว และครบครันด้วยสิ่งอำนวความสะดวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส, พื้นที่นั่งทำงาน Co-Working Space, Putting Green เพื่อให้ลูกบ้านได้ฝึกฝนการเล่นกีฬากอล์ฟ และสวนสาธารณะที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Jardin Botanique Public Park ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองบอร์กโดซ์ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยเหนือระดับมาตรฐาน ตั้งแต่บริเวณทางเข้า – ออกโครงการ ด้วย Double Gate ประตู 2 ชั้น เพื่อแยกส่วนสำหรับผู้พักอาศัย และแขกผู้มาเยือน มาพร้อม Visitor Lounge พื้นที่รับรองสำหรับแขกคนสำคัญของลูกบ้าน และกล้องวงจรปิด CCTV ที่ครอบคลุมทั่วโครงการ, ระบบอ่านป้ายทะเบียน ตลอดจนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
โดยประกอบด้วยแบบบ้าน 3 แบบ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 393 – 586 ตารางเมตร
- แบบบ้าน Strasbourg (สตราสบูร์ก) ที่มาพร้อมพื้นที่ใช้สอย 393 ตารางเมตร
- ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องพระ 1 Glass house และ 3 ที่จอดรถ
- แบบบ้าน Marseille (มาร์กเซย) ที่มาพร้อมพื้นที่ใช้สอย 483 ตารางเมตร
- ประกอบด้วย 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องพระ 1 Glass house และ 3 ที่จอดรถ
- แบบบ้าน Versailles (แวร์ซาย) ที่มาพร้อมพื้นที่ใช้สอย 586 ตารางเมตร
- ประกอบด้วย 6 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 2 ห้องแม่บ้าน 1 ห้องพระ 1 Glass house และ 4 ที่จอดรถ
นอกจากนี้ ฟังก์ชันภายในบ้านยังคงเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และถือเป็นไฮไลท์สำคัญของคฤหาสน์หรูแห่งนี้ อาทิ ฟังก์ชัน Grand Sunken Lounge And Swimming Pool เปรียมเสมือนคุณได้พักผ่อนท่ามกลาง Pool Villa ตลอด 365 วัน มาพร้อมสระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่สามารถว่ายน้ำทวนกระแส (Spa & Endless Pool) หรือจะนวดผ่อนคลายแบบสปาได้อย่างลงตัว รวมทั้งบริษัทฯ ยังได้มีการพัฒนาระบบอากาศภายในตัวบ้านที่เข้ายุคทันสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน คือ ระบบ FRASERS Clean and Cool Air ที่เป็นเทคโนโลยีอากาศสะอาด เย็นสดชื่นและประหยัดไฟจากประเทศญี่ปุ่น ที่เหนือกว่าระบบทั่วไป เพื่อกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ลดความร้อน และอากาศเสียภายในบ้าน ทุกเวลาที่อยู่ในบ้านจะช่วยทำให้หลับสบายในทุกคืน และสดชื่นในทุกเช้า นอกเหนือจากเรื่องระบบอากาศแล้ว ยังมีห้องเอนกประสงค์ ซึ่งเป็นห้องสำหรับเลี้ยงสัตว์ หรือปลูกต้นไม้ รวมถึงระบบสัญญาณกันขโมยแบบระบบ Magnetic ควบคุมผ่าน Application และรองรับการใช้งานยานยนต์ยุคใหม่ด้วยระบบ EV Charger ” นายภวรัญชน์ กล่าว