‘Supalai Blu สาทร-ราชพฤกษ์’ คอนโดใกล้บางหว้า Interchange ราคาสุดคุ้ม เริ่ม 1.89 ล้าน*

คอนโด Supalai Blu สาทร-ราชพฤกษ์

ถึงเวลาศุภาลัยขาใหญ่ย่านภาษีเจริญเปิดตัวดาวดวงใหม่ ขวัญใจคนทำงาน “Supalai Blu สาทร – ราชพฤกษ์” โครงการใกล้ บางหว้า Interchange ที่ให้สเป็คสุดคุ้ม พื้นที่ใช้สอยครบสำหรับทุกการอยู่อาศัย ในราคาเริ่มแค่ 1.89 ล้าน ​ พร้อมประกันยาวนานอุ่นใจ 3 + 10 ปี เปิดจองปลายตุลาคมนี้ครับ

​นึกถึงจุดสำคัญของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าฝั่งธนฯ ก่อนจะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ก็ต้องนึกถึง “บางหว้า Interchange” อยู่เสมอ เพราะเป็นเสมือนจุดเชื่อมนำพาผู้คนจากกรุงเทพตะวันตกเข้าสู่เมือง ไม่ว่าคุณจะทำงานฝั่งสาทรด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว หรือจะอยู่โซนสีลม พระราม 4 ก็ใช้ MRT สายสีน้ำเงินได้จากบางหว้านี่แหละ แถมคอนโดที่อยู่รอบๆ บางหว้าก็เป็นระดับราคาที่ยังพอซื้อได้ อยู่ไม่ไกลเกินไปแบบสายเพชรเกษม และคอนโดในวันนี้ก็เรียกว่าราคาคุ้มค่ามากในสไตล์ศุภาลัยเช่นเดิม

​ที่ตั้งของศุภาลัย บลู สาทร – ราชพฤกษ์ อยู่ในระยะเดินจากสถานีบางหว้าราว 570 ม. ถ้าจะขับรถอาจจะต้องอาศัยความชำนาญเรื่องการยูเทิร์นเข้าเลนนอกที่จะกลับเข้ามาคอนโดกันสักหน่อย แต่ถ้าจะไปทางฝั่งท่าพระทั้งเดอะมอลล์ ตลาดพลูนี่สะดวกโยธิน วิ่งตรงถนนราชพฤกษ์ข้ามสะพานตากสินก็เข้าเมืองได้เลย ส่วนคนอยู่คอนโดนี้ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเค้าวางให้มี Shuttle Service รับส่ง 2 สถานีทั้งบางหว้า และวุฒากาศไว้ครับ จริงๆ แล้วข้างเคียงนี้ก็มีคอนโดศิษย์พี่อย่างศุภาลัย ลอฟท์ สาทร – ราชพฤกษ์อยู่ก่อนหน้า ซึ่งจะไม่บังวิวกันเลยเพราะตัวอาคารจะเหลื่อมกันพอดี ถือว่าคิดถึงทั้งคนเก่าและคนอยู่ใหม่ให้ด้วยครับ

​รูปแบบโครงการ

​คอนโดนี้เป็นอาคารสูง 32 ชั้น รวมห้องพักอาศัย 767 ยูนิต ถือว่าไม่เยอะเกินไป ที่จอดรถ 56% จุดเด่นของคอนโดบลู ที่เป็นชื่อเฉพาะโครงการนี้ก็คือ งานดีไซน์ที่ใช้สีสันโดดเด่นเฉพาะตัว การออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนกลางที่น่าสนใจสำหรับชีวิตคน New Gen มากขึ้น รวมทั้งการมียูนิตให้เลือกครบทุกความต้องการของครอบครัวเลยครับ ไม่ว่าจะอยู่คนเดียวสบายๆ ไปจนกระทั่งครอบครัวใหญ่ที่ต้องการแบบ 3 ห้องนอน แถมยังมีห้อง Storage ที่มีโฉนดรองรับด้วยครับ ใครของเยอะ หรือทำธุรกิจออนไลน์ ซื้อพื้นที่เพิ่มไว้ได้ ราคาถูกกว่าพื้นที่ในห้องชุดครับ

​ตัวอาคารออกแบบด้วยคอนเซปต์ Stella Nova หรือ ดาวดวงใหม่ที่อยู่บนท้องฟ้า มันจะให้คอนเซปต์ท้องฟ้า อวกาศหน่อยๆ สีประจำโครงการก็จะเป็นสีน้ำเงิน มีลูกเล่นเป็นไฟระยิบระยับที่เปรียบเสมือนหมู่ดาวตกแต่งอยู่ในส่วนของ Façade หน้าโครงการ โดยจัด Facilities มาให้เยอะเลยครับไม่ว่าจะเป็น

  • สนามเด็กเล่น สวน ส่วน Lobby พื้นที่นั่งทำงาน ประชุม รับของ Delivery และห้องเก็บของที่ชั้น 1 ซึ่งเป็นพื้นที่แบ่งขายซอยเป็น Storage Room พื้นที่ตั้งแต่ 2.5 – 7.5 ตร.ม. รวมทั้งหมด 14 ห้อง
  • ที่ชั้น 6 มีสระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool กว่า 50 ม. สระเด็ก และจากุซซี่, สวนพักผ่อน, Rock Climbing, ฟิตเนส, ห้องดูหนัง, ห้องเกม และ Hybrid Club ที่รองรับทั้งการทำกิจกรรม Live Streaming, Co-Kitchen และพื้นที่ทำงาน
  • สุดท้ายที่ชั้น 32 มีส่วนของ Sky Garden และ Stella Lounge ไว้สำหรับนั่งชมวิว พักผ่อนหย่อนใจ หรือนั่งทำงาน

​รูปแบบห้องและราคาช

ห้องพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 6-32 ครับ ส่วนชั้น 2-5 จะเป็นชั้นจอดรถ อย่างที่บอกว่าโครงการนี้มีห้องพักอาศัยที่ Range กว้างมาก รองรับทุกความต้องการเลย เริ่มตั้งแต่

  • ​1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ อยู่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดครับ ห้องนี้แบ่งแยกส่วนห้องนอนและห้องนั่งเล่นกั้นด้วยบานเลื่อน ส่วนครัวเปิด ได้พื้นที่สำหรับทำมุม Favorite Corner ในห้องนอน ซึ่งเค้าวางเป็นมุมทำงานไว้เป็นตัวอย่างผมก็ว่าลงตัวพอดี ความพิเศษคือระเบียงที่นี่จะไม่ได้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าปกติ แต่จะยื่นทำมุมออกไป เพิ่มพื้นที่ใช้สอย และวิสัยทัศน์ให้ดีขึ้นครับ
  • 1 Bedroom ขนาด 35 ตร.ม. ห้องนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยในแต่ละฟังก์ชันของห้องเพิ่มขึ้น ทั้ง Living Area และห้องนอน ได้ส่วนครัวปิด แถมโซน Favorite Corner ในห้องนอนนี้ไม่ใช่มุมเล็กๆ เหมือนห้องแรกแล้ว แต่ใหญ่แบบทำ Walk-in Closet ได้เลยครับ มีให้เลือก 2 Layout ที่แตกต่างกันนิดหน่อยครับ
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 44 ตร.ม. ห้องนี้มีส่วนห้องนั่งเล่นที่กว้างมากครับ และได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาอีกห้องนึง เอาไว้ใช้ประโยชน์ตาม Passion และความต้องการของเรา
  • 2 Bedroom ขนาด 50 – 75.5 ตร.ม. มีให้เลือกทั้ง 1 – 2 ห้องน้ำ ขึ้นอยู่กับขนาดของห้อง แต่จะมีห้องไฮไลต์อยู่ คือ 2 ห้องนอนขนาด 75.5 ตร.ม. ที่ชั้น 7 ที่จะได้ระเบียงห้องขนาดใหญ่มากกกกจนตะลึง อารมณ์ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น Outdoor ได้เลย และห้อง เป็น Rare Item หนึ่งเดียวของโครงการ
  • ห้องบนชั้น 32 อันนี้ถือว่าเป็น Floor อภิสิทธิ์ชน เพราะเหมือนมีสวนและ Lounge เป็นของตัวเอง ได้ระยะเพดานสูงโปร่งถึง 3.2 ม. (ปกติ 2.7 ม.) มีเพียง 7 ยูนิต คือห้อง 2 Bedroom 4 ยูนิต และ 3 Bedroomเพียงแค่ 3 ยูนิต พื้นที่ตั้งแต่ 89.5 – 122.5 ตร.ม. ซึ่งห้อง 3 Bedroom นี้จะได้ที่จอดแบบ Fix เพิ่มมาด้วยครับ

​สเป็คห้องที่นี่ให้ทั้งพื้นแบบ SPC, ประตูแบบ Digital Door Lick, แต่งชุดครัวให้ครบ พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งเตาไฟฟ้าและฮูดดูดควัน เมื่อรวมกับจุดเด่นที่เป็น DNA ของศุภาลัยก็คือ พื้นที่ห้องที่กว้างขวางเมื่อเทียบกับ Segment เดียวกัน แต่ทำราคามาอย่างคุ้มค่า (ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการราว 75,000 บาท/ตร.ม.) ก็เรียกว่านี่เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคนวัยทำงานที่อยากได้คอนโดอยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้าครับ

ส่วนการรับประกันมาตรฐานศุภาลัยก็จะมากกว่าคอนโดทั่วไป โดยรับประกันส่วนควบห้องชุดนาน 3 ปี และประกันโครงสร้างอาคารนานถึง 10 ปี อยู่อย่างสบายใจได้เลยครับ

​เอาเป็นว่าใครที่สนใจรอได้เลย พร้อมเปิดให้จอง 26 – 27 ต.ค. นี้ ในราคาเริ่ม 1.89 ล้านบาท (ประมาณ 65,000 บาท/ตร.ม.) สามารถคลิกรับสิทธิจากโครงการได้ที่นี่เลยครับ https://bit.ly/4eSo4in

พามาชมโครงการที่เหมือนได้ตะลุยในอวกาศกว้างใหญ่กัน ที่ “Supalai Blu Sathorn – Ratchaphruek” คอนโดที่มีห้องให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะอยู่คนเดียว อยู่กับเพื่อนหรือคนรัก รวมถึงอยู่กันแบบครอบครัว บนทำเลเข้าออกเมืองสะดวก ติดถนนราชพฤกษ์ ไม่ไกล BTS x MRT สถานีบางหว้า เริ่ม 1.89 ล้านครับ

อีกด้วยอนาคตเราจะได้เห็นอาคารที่มีสี Blue Nova โทนน้ำเงินเข้มไม่เหมือนใครตั้งโดดเด่นบนเส้นราชพฤกษ์ เป็นสีที่ให้ความสงบและอิสระดีนะ เหมือนธีมจักรวาล ดวงดาว และอวกาศของเค้านั่นเองครับ มีการใช้เส้นสายและแสงระยิบระยับเพิ่มลูกเล่น

ส่วนกลางสวยระยิบระยับ

รูปแบบห้องที่นี่มีให้เลือกเยอะมากๆ ตั้งแต่ 1 ห้องนอน ไปจนถึง 3 ห้องนอนใหญ่อยู่ได้ทั้งครอบครัว ขนาด 29-122.5 ตร.ม. ซี่งวันนี้มี 2 รูปแบบห้องมาให้ชมครับ

ผมขอพามาดูห้องตัวอย่างแรก รูปแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 44 ตร.ม. กันก่อน เป็นห้องที่มีพื้นที่อเนกประสงค์หรือที่เค้าเรียกว่า Favorite Coner เพิ่มขึ้นมา

จากรูปตรงผนังด้านขวาจะเป็นผนังทึบนะ แต่เค้ามีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่สำนักงานขาย เลยต้องปรับเป็นทางเข้าเมื่อมาดูห้องตัวอย่างครับ ข้อดีคือผนังตรงนี้ก็จะสามารถบิ้วท์ตู้เก็บของ หรือทำชั้นวางกระเป๋า เก็บของสะสมได้ โดยในห้องนั่งเล่น ห้องอเนกประสงค์ ครัว และห้องนอน ระยะระหว่างผนังในห้องจริงจะกว้างกว่าห้องตัวอย่าง 10 ซม. ด้วยครับ

เปิดเข้าห้องมาจากประตูด้านซ้ายที่เค้าให้ Digital Door Lock มาด้วย เราก็จะเจอพื้นที่ที่สามารถทำตู้เก็บของและจัดวางโต๊ะเก้าอี้ทานข้าวเป็นสัดเป็นส่วนได้แบบนี้ หรือจะทำเป็น Foyer ต้อนรับก็เก๋อีกแบบนะ ที่นี่จะได้เพดานสูงถึง 2.7 ม. โปร่งสบาย

มาดูโซน Living ที่เชื่อมต่อกันครับ สามารถวางโซฟาขนาดเล็ก ไปจนขนาดใหญ่หน่อยก็ยังได้นะ เพราะผนังด้านหลังเป็นผนังทึบอยู่แล้วครับ นั่งพักผ่อนเอนกายสบายใจพร้อมเปิดดูคลิปหมูเด้งเพลินๆ 555

ระยะดูทีวีก็กำลังดีเลยครับ ไปต่อกันที่ห้องอเนกประสงค์ห้องด้านขวากัน

พอเป็นห้อง Plus ก็จะได้พื้นที่ Favorite Corner กว้างขึ้น ห้องนี้ออกแบบปรับเปลี่ยนตามไลฟ์สไตล์ของเราได้เลย ผมก็คุยกับน้องว่าถ้าเป็นเราจะทำเป็นห้องอะไร ของผมก็คงเป็นห้องทำงานนี่แหละ ส่วนน้องสาย Gaming อยากทำเป็นห้องเล่นเกม พร้อมอุปกรณ์จัดเต็มไปเลย หรือชาวอินฟลู รวมถึงพ่อค้าแม่ค้า ก็แต่งสวยๆ เป็นสตูดิโอถ่ายคลิป ไลฟ์สดได้ มีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดรับลม พร้อมประตูบานเลื่อนกระจกให้แสงยังเข้าโซน Living ได้อยู่ฮะ

ข้างกันก็เป็นห้องนอนได้ประตูบานทึบเป็นส่วนตัวขึ้นมา วางเตียงควีนไซส์แล้วระยะข้างเตียงยังเดินได้สบาย ทำงานเสร็จก็แวะมานอนพักผ่อนไถ Tiktok ซักครู่

เค้าแต่งบรรยากาศห้องนอนได้อบอุ่น น่าเปิดเพลงโปรดฟัง พร้อมงีบหลับพักสายตา

ส่วนอีกฝั่งก็จัดวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ครบครัน

ในห้องนี้มีระเบียงส่วนตัว ซึ่งความพิเศษของระเบียงทุกห้อง นอกจากเค้าจะเก็บคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบนให้มีพื้นที่โล่ง ยังออกแบบระเบียงทำมุมเฉียง ข้อดีคือเพิ่มพื้นที่ใช้สอย และชมวิวได้กว้างขึ้นด้วย

ดูพื้นที่ฝั่งสำหรับพักผ่อนไปครบแล้ว ไปดูห้องครัวและห้องน้ำอีกฝั่งกันต่อ เริ่มที่ครัวทางฝั่งขวาก่อนครับ

ที่นี่เค้าให้ชุดครัวทั้งเคาน์เตอร์ ตู้เก็บของ เตาและเครื่องดูดควันยี่ห้อ Hafele พร้อมกระเบื้อง Backsplash กันเปื้อน ซึ่งก็เป็นครัวปิดมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้น ทำอาหารได้เต็มที่เลยล่ะ

ส่วนห้องน้ำก็ตกแต่งมาในโทนสีขาวและเทา สุขภัณฑ์เป็นของ Cotto มีฉากกั้นอาบน้ำให้พร้อมครับ

ห้องตัวอย่างสุดท้ายเป็นห้องเริ่มต้น รูปแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 29 ตร.ม. เป็นขนาดที่ใช้ชีวิตได้ครับครัน จัดสัดส่วนมาได้กำลังดีเลย

ห้องนี้เข้ามาเจอกับโซนครัว และห้องน้ำตรงข้ามกันครับ Layout แบบนี้ก็สะดวกตรงที่เรากลับถึงห้องก็สามารถวางข้าวของ ล้างไม้ล้างมือ และจิบน้ำเย็นๆ กันก่อนได้เลย

เชื่อมกันเป็นโซน Living ที่จัดวางโซฟา และโต๊ะกลางได้ตามใจชอบ จิบน้ำเสร็จก็มานั่งเปิดทีวีดูหนังเรื่องโปรดในพื้นที่ส่วนตัวของเรา ถัดกันไปเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยกระจกบานสไลด์สีใส ช่วยให้ห้องยังดูโปร่งโล่งครับ

ส่วนระยะดูทีวีกว้างเช่นเคย ติดทีวีจอใหญ่ได้เลยนะ

เข้ามาดูในโซนห้องนอน ที่วางเตียงแล้วก็ยังมีพื้นที่สำหรับโต๊ะข้างเตียง โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าที่ปลายเตียง

ส่วนที่พิเศษคือพื้นที่ Favorite Corner ที่อยู่ติดกับหน้าต่างนี่เองครับ สามารถดีไซน์ทำเป็นมุมทำงาน หรือวาง Daybed ไว้พักผ่อนมองวิวอีกหนึ่งจุดได้ ถือว่าเป็นการใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าทุกตารางเมตร แถมเป็นมุมให้เราแต่งแต้มสีสันแสดงออกถึงความเป็นตัวเองได้เต็มที่

มีระเบียงมุมเฉียงให้ออกไปรับลมชมบ้านชมเมืองเช่นกันฮะ ก็จบไปแล้วกับห้องตัวอย่างทั้ง 2 รูปแบบของวันนี้

อย่างที่บอกว่าใกล้กันมีคอนโดรุ่นพี่อย่างศุภาลัย ลอฟท์ สาทร – ราชพฤกษ์ ซึ่งก็จะไม่บังวิวกันเพราะตัวอาคารจะเหลื่อมกันพอดีนะ ต่อไปเรามาดูพื้นที่ส่วนกลางกันดีกว่า

เริ่มแรกที่ชั้น G มีสวนพร้อมพื้นที่ให้เดินชมธรรมชาติรอบๆ โครงการ ยังมีสนามเด็กเล่นด้วยครับ

เข้ามาใน Lobby นอกจากโทนสีที่เห็นหลักๆ อย่างสีน้ำเงิน ขาว เทา ยังมีสีส้มตัดเข้ามาให้ความกระปรี้กระเปร่า เพดานก็มีเส้นสายและแสงวิบวับประดับให้เข้าธีมเช่นเคย นั่งพักผ่อนรอแขกไปชมแสงไฟไปได้

ต่อมาเป็น Facilities ที่ชั้น 6 เป็นชั้นของส่วนกลางหลักของเค้าครับ

บนชั้น 6 นี้ก็จะมีสระว่ายน้ำยาว 50 ม. พร้อมจากุซซี่, พื้นที่นั่งพักผ่อนกินลมชมวิว, หน้าผาจำลอง, ห้องเกม, ห้องดูหนัง และพื้นที่ทำงานอ่านหนังสือครับ

มองจากมุมสูงก็เห็นสวนสีเขียวชัดเจน

ชั้นนี้ก็มีฟิตเนสวิวสระว่ายน้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนออกกำลังกายท่ามกลางหมู่ดาวเลยล่ะ

ยังมี Hybrid Club พื้นที่สตูดิโอไลฟ์สด, Co-Kitchen และจุดทำงานต่างๆ ด้วยครับ

ขึ้นมาบนชั้น 32 เป็นที่ตั้งของ Stella Lounge ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ พบปะพูดคุยกัน พร้อมวิวเมือง ยามพระอาทิตย์ตกนี่สวยงามน่าดู

และสุดท้ายที่ Rooftop ก็ยังมีสวน ที่นั่ง จุดชมวิว และ Jogging Track ให้ออกกำลังกายครับ

ที่นี่อยู่ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์ ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีบางหว้า ที่เป็นจุด Interchange และไม่ไกล BTS สถานีวุฒากาศ ซึ่งเค้ามี Shuttle Service รับส่งทั้ง 2 สถานี ส่วนแหล่งไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงมีครบทั้งโซนท่าพระอย่าง The Mall Lifestore ท่าพระ, โซนเพชรเกษมอย่างซีคอนบางแค, โซนราชพฤกษ์ทั้ง The Circle และ Food Villa ราชพฤกษ์ หรือจะเข้าไปทางเจริญนครก็มีไอคอนสยามอยู่ไม่ไกลครับ

ถือว่า ‘Supalai Blu สาทร-ราชพฤกษ์’ นี่เป็นน้องใหม่ที่ทำมาได้น่าสนใจเลยนะ อยู่ในทำเลฝั่งธนที่เดินทางง่ายทั้งรถไฟฟ้าและรถส่วนตัว เรื่องอาหารการกินรวมถึงการช็อปปิ้งก็ครบแบบหมดห่วง มีห้องหลายรูปแบบอยู่ได้ทุก Gen ซึ่งแต่ละห้องก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป แล้วแต่ว่าชอบแบบไหน สามารถมาดูมาเลือกได้ที่ Sales Gallery เปิดทุกวัน อยู่ตรงที่ตั้งโครงการ แถมราคาเริ่มเพียง 1.89 ล้านบาท เตรียมเปิดจอง 26 – 27 ต.ค. นี้ครับ