The Tree หัวหมาก ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย เดินสบายถึงห้าง พร้อมส่วนกลางให้สูดออกซิเจน

วันนี้แว่นพามาดูคอนโดเปิดใหม่ในทำเลหัวหมาก พิกัดใกล้แยกลำสาลีประมาณ 300 ม. พูดถึงชื่อนี้หลายคนอาจจะต้องร้องซี้ด ด้วยความที่เป็นแยกขึ้นชื่อเรื่องรถราหนาแน่น จนเอามาแซวเป็นจุดเช็คอินชื่อลำสาหัส ฮ่าๆ แต่อดใจรออีกไม่กี่ปี ลำสาลีจะผงาดกลายเป็นจุดเช็คอินสำหรับคนที่ขึ้นรถไฟฟ้าแทน เพราะที่นี่แหละที่จะเป็นจุด Interchange ของรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ทั้ง MRT สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) BTS สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และ BTS สายสีน้ำตาล (แยกลำสาลี-นนทบุรี) มีให้เห็นกันบ่อยๆ นะครับว่า แถวไหนที่รถติด รออีกไม่นานเค้าก็จะมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่าน เพราะมันคือสัญญาณของแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ที่มีคนสัญจรไปมาเยอะ และเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จะมารองรับการใช้ชีวิตของคนแถวนั้น

การเดินทางนี้นอกเหนือจากการใช้รถทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ พี่มอเตอร์ไซค์วินหน้าโครงการ รวมไปถึงรถไฟฟ้าในอนาคตที่ต้องอดใจรอกันสักหน่อยแล้ว ยังมีเรือที่ท่าเรือเดอะมอลล์บางกะปิ เดินไปนิดหน่อยประมาณ 300 ม. ให้เราเลือกใช้ด้วย สำหรับคนกรุงแล้วการมีตัวเลือกการเดินทางที่หลากหลายก็เอื้อให้เราปรับเปลี่ยนแผนรองรับกับสภาพจราจรและดินฟ้าอากาศแต่ละวันได้ยืดหยุ่นมากขึ้นครับ

จุดเด่นอีกอย่างของที่ตั้งโครงการนี้ก็คือ เดินไปเดอะมอลล์บางกะปิได้เลย เพราะด้านหลังโครงการคือสะพานข้ามคลองแสนแสบ ที่ห้างเดอะมอลล์ทำไว้อำนวยความสะดวกทั้งคนใช้รถ และคนเดินเข้าห้าง เชื่อมต่อฝั่งรามคำแหงและลาดพร้าวเข้าด้วยกัน (แต่ถ้าไปจากโครงการก็เดินเท้าอย่างเดียวนะ) แถมรอบๆ เดอะมอลล์นั้นยังเต็มไปด้วยกลุ่มของห้างร้านและตลาดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตะวันนา Makro โลตัส ห้างพันธุ์ทิพย์ และลำสาลีฟู้ดเซ็นเตอร์ ยังไม่นับฝั่งรามคำแหงที่เรียงรายด้วยร้านค้าต่างๆ ไม่มีอดกิน อดช้อปแน่นอน พื้นที่โดยรอบยังมีสถานศึกษาอย่าง ม.รามคำแหง ABAC นิด้า และรัตนบัณฑิต รวมทั้งไม่ต้องคิดมากเรื่องสุขภาพเพราะมี รพ.ให้เลือกหลายแห่ง ทั้งรพ.รามคำแหง, รพ.เวชธานี หรือ รพ.สมิติเวชอีกด้วย หันซ้ายหันขวาก็จะเห็นว่าโซนนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันครับ

กลับมาถึงภาพรวมโครงการกันบ้าง ที่แว่นพูดถึงออกซิเจนไปด้านบนนี่ก็เพราะเค้ามี Facilities แปลกใหม่ที่ทำให้เราได้สูดออกซิเจนกันเต็มปอดในโครงการนี้ได้เลย เรารู้แหละว่าออกซิเจนสำคัญแค่ไหนต่อการดำรงชีวิต แต่แม้จะมีออกซิเจนฟรีๆ ให้เราใช้หายใจทุกวันในอากาศ ที่ประมาณ 21% มันก็ต้องไปสูดกลางสวนขนาดใหญ่ หรือไปต่างจังหวัดถึงจะได้ตามนี้ เพราะด้วยสภาพมลภาวะในกรุงเทพฯ หรือความแออัดของผู้คนในสถานที่ต่างๆ ก็ทำให้ระดับออกซิเจนต่ำลง แม้ลดลงมานิดเดียวเหลือ 19.5% ก็ไม่เหมาะสมต่อการใช้ชีวิตแล้วครับ ลองนึกถึงตอนที่หน่วยกู้ภัยเข้าไปช่วยชีวิตน้องๆ ทีมหมูป่าจากถ้ำหลวงนี่ก็ต้องวัดกันตลอดเวลาเลย แต่ที่โครงการนี้จัดมาให้ลูกบ้านทุกคนขึ้นไปสูดให้ชุ่มปอดที่ชั้น 31 ได้สบายๆ ไม่ต้องไปถึงป่าเขาลำเนาไพรข้างนอกครับ

The Tree หัวหมากออกแบบด้วยแนวคิด “เชื่อมต่อทุกความสุขของชีวิต” นอกจากการเชื่อมต่อของการเดินทางโดยรอบแล้ว ตัวอาคารเองก็ออกแบบให้สามารถเดินทะลุจากด้านหน้าไปด้านหลังจนถึงที่จอดรถโดยไม่โดนแดดโดนฝนเลย เพราะเค้ามี Sky walk  เชื่อมทุกอาคารเข้าด้วยกันทั้งชั้น 2 และชั้น 31 ครับ ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่จัดเต็มมาให้ทั้ง Co-living Lobby, Co-working space, Active Gym, Courtyard Garden, Sky Kid’s Playground, Theatre Room, Panoramic Chillaxing Zone, สนามฟุตซอล, Panoramic View Deck, Panoramic Pool with Jaguzzi และไฮไลท์ที่ว่าก็คือ O2 Loung และ O2 Creative Zone พื้นที่ส่วนกลางให้พักผ่อน ทำงาน หรือชมวิวท่ามกลางอากาศที่มีออกซิเจนถึง 21% ครับ

โครงการมีทั้งหมด 5 อาคาร เริ่มจาก อาคารด้านหน้าติดถนนรามคำแหง (มีทั้ง 7-11, Co-working space และ Fitness อยู่ที่นี่) ถัดมาคืออาคารที่พักอาศัยสูง 31 ชั้น จำนวน 3 อาคาร และอาคารจอดรถ 10 ชั้นอยู่ด้านหลัง รวมทั้งหมด 590 ยูนิต แต่ที่ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะแต่ละชั้นมีแค่ 7 ยูนิตเท่านั้นครับ Type ห้องแบ่งเป็น แบบ Studio ขนาด 23.02-23.14 ตร.ม. 1Bed ขนาด 25.69-26.76 ตร.ม. และแบบ 2Bed 2Bath ขนาด 42.56-42.94 ตร.ม. ที่น่าสนใจคือเค้าออกแบบ Floor Plan และ Layout ห้องให้ใช้ประโยชน์จากแนวยาวของอาคารให้มากที่สุด ก็เลยทำให้ห้อง 1Bedroom ที่นี่มีหน้ากว้างสุดๆ ถึง 8 เมตร แบ่งสัดส่วนการใช้งานห้องต่างๆ ลงตัว แถมได้หน้าต่างไว้ชมวิวทุกห้อง ซึ่งเราจะได้เห็นกันในภาพห้องตัวอย่างที่แว่นเอามาให้ชมในวันนี้ฮะ

โครงการนี้เค้าจะเปิด pre-sale วันที่ 3-4 Nov นี้แล้ว แต่ใครที่สนใจก็ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษกันได้ที่นี่ครับ >>  http://bit.ly/2IJ5Em0

เอาล่ะได้เวลาแล้ว ตามไปดูห้องตัวอย่างพร้อมๆ กันเลยคร้าบ

#SneakRoom #แอบดูห้องตัวอย่าง

อาคารทั้งหมดของโครงการจะเรียงกันไปแบบนี้จากหน้าถนนรามคำแหง ไปจนถึงคลองแสนแสบด้านหลังครับ ซึ่งด้านหลังนี่แหละที่เราจะใช้เป็นทางเดินเชื่อมไปยัง The Mall บางกะปิได้ง่ายนิดเดียว และถ้าดูจากตัวโมเดลก็จะเห็นว่ามีทางเดิน Sky Walk เชื่อมทุกอาคารที่ชั้น 2 จะไปตึกไหนก็เดินถึงกันได้หมด ตั้งแต่อาคารแรก ยันอาคารจอดรถด้านหลัง และกรณีเหตุฉุกเฉิน การอพยพคนก็จะง่ายขึ้นด้วยครับ

และอีกจุดคือเชื่อมที่ชั้น Facilities หลัก บนชั้น 31 ก็จะมี Sky Walk Way เช่นเดียวกันครับ จะอยู่อาคารไหน ก็มาใช้ส่วนกลางได้ตามสบายเลย มีทั้ง Sky Lounge, O2 Lounge และ Relaxing Area หันเข้าทิศตะวันออก ส่วนอีกฝั่งเป็น Theatre Room และ Kids Room ครับ

ขึ้นมาอีกชั้น จะมีสระว่ายนํ้าระบบเกลือความยาวประมาณ 30X6 เมตร มองเห็นวิวสวยๆ ได้แบบ Panorama มี Jacuzziและสระเด็กด้วยครับ ส่วนชั้นลอยด้านบนเป็นจุดชมวิว ให้ขึ้นไปนั่งเล่น รับลม ดื่มดํ่าบรรยากาศกันไปเพลินๆ เค้าพื้นชั้นนี้เป็นพื้นกระจกใส ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่เหนือน้ำ แต่สำหรับสาวๆ ต้องระวังนิดนึงนะครับ เพราะคนที่ว่ายน้ำอยู่ด้านล่าง ก็มองเห็นเราด้วยเหมือนกันฮะ ก็ต้องมิดชิดหน่อยเนอะถ้าจะไปยืน ฮ่าๆ

สำหรับ Co-working Space จะอยู่ที่ชั้น 3 ของอาคาร A หรืออาคาร Third Place ซึ่งติดกระจกโดยรอบ ทำให้ได้มุมมองรอบข้างพร้อมรับแสงธรรมชาติเต็มๆ

ภาพตัวอย่าง Theatre Room ครับ มีห้องส่วนตัวแบบนี้ วันไหนไม่อยากง้อเดอะมอลล์ก็นอนดูหนังที่คอนโดนี่แหละ

ภาพตัวอย่าง Lobby ครับ เพดานสูงถึง 7 เมตร เรียบหรู โปร่งสบาย

สำหรับห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปชมเป็นแบบ 1 Bed ตัวไฮไลท์ ที่หน้ากว้างถึง 8 เมตร โครงการเค้าให้ห้องเปล่านะครับ และก็แถมแอร์จาก Daikin 2 เครื่องครับ แต่ความพิเศษคือถ้าจองในวันที่ 27 ต.ค. นี้ได้ชุดครัวด้วยนะ ก็มาลองดูกันว่าโครงการเค้าตกแต่งให้ดูเป็นตัวอย่างยังไงบ้างครับ

ด้วยหน้ากว้างขนาดนี้เค้าก็เลยจัดแบ่งสัดส่วนพื้นที่ในห้องเรียงกันไปได้เลยจากซ้ายไปขวา ตั้งแต่ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และครัว โดยเข้ามาด้านในจะเจอห้องนั่งเล่นอยู่ตรงกลาง สามารถวางทีวี โซฟา และจับโต๊ะกลางใส่เข้าไปได้ครับ แต่ถ้าใครกลัวจะเดินไม่ถนัดก็ลองลดขนาด แล้วจับมาไว้ข้างโซฟาแทนก็จะได้พื้นที่ด้านหน้าเพิ่มขึ้น ซึ่งตรงนี้จะไม่มีระเบียง แต่จะได้กระจกบานกว้างๆ แบบบานเลื่อนให้เปิดรับลม ชมวิว และให้แสงเข้ามาในห้องได้ทั่วถึงครับ

ห้องนี้มีระยะเพดานสูง 2.6 เมตร ผนังที่ได้จะเป็นวอลเปเปอร์สีเทา ด้านข้างสามารถจัดเป็นมุมทานข้าวได้ หรือจะวางตู้รองเท้าด้านหน้า แล้วขยับโต๊ะทานข้าวเข้ามาชิดกำแพงอีกฝั่งนึงแทนครับ ส่วนพื้นเป็นลามิเนตครับ

ในห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดี แต่ก็ต้องวางชิดฝั่งกระจกบานเลื่อนบานใหญ่อยู่ด้านข้างที่อยู่ด้านข้างนะ นี่เป็นข้อดีที่ทุกห้องที่นี่มีจุดชมวิวเต็มตาไม่ต่างกันเลย

ยังมีพื้นที่เหลือบริเวณปลายเตียงให้เดินได้สะดวกครับ

ด้านข้างสามารถวางตู้เสื้อผ้าและวางโต๊ะทำงานเข้าไปได้แบบนี้ หรือจะติดกระจกบานใหญ่ให้ปรับฟังก์ชั่นเป็นโต๊ะเครื่องแป้งด้วยก็ได้ เวลาจะแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม ก็สะดวกดีครับ

เผื่ออยากติดทีวีในห้องนี้ด้วย ก็ทำเป็นทีวีติดผนังไว้ปลายเตียง ก็นอนดูละครได้สบายๆ แต่จะทำชั้นวางของก็ต้องเผื่อความสูงคนเดินไว้หน่อยครับ แอร์ในห้องนี้อยู่เหนือประตูพอดี


ห้องนั่งเล่นก็มีพื้นที่กว้างอยู่ครับ จะมีข้อจำกัดเรื่องความกว้างของผนังฝั่งวางทีวีที่ไม่ได้กว้างมาก ก็จะลดขนาดทีวีที่วางได้ลงมาหน่อย

ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอก ใกล้กับห้องครัวครับ

ส่วนอาบน้ำตรงนี้ไม่ได้มีฉากกั้นให้นะครับ สามารถติดเพิ่มได้เลย

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ American Standard ครับ จริงๆ ส่วนเปียกและแห้งก็จัดวางแยกไว้คนละมุมแล้ว จะติดฉากกั้นก็ไม่ยากเลย

มาดูในส่วนของห้องครัวกันบ้างครับ ช่องว่างด้านหลังผนังที่วางทีวี ก็จะเป็นตำแหน่งให้วางตู้เย็น ส่วนพื้นที่ระหว่างระเบียงและห้องน้ำก็ทำชุดครัวบิวท์อินลงตรงนี้ได้

ครัวติดกับระเบียงแบบนี้ก็สามารถเปิดระบายอากาศเวลาทำอาหารได้ดีนะครับ ประตูเป็นบานสไลด์พร้อมวงกบอลูมิเนียม ด้านนอกระเบียงเค้าแขวนคอมเพรสเซอร์แอร์หันออกไปด้านนอกให้แล้ว ด้านล่างก็วางเครื่องซักผ้าได้เลย

ต่อมาเป็นห้องแบบ 2Bed 2Bath ครับ มาดูกันว่าพื้นที่ 42 ตร.ม.กว่าๆ เนี่ย เค้าทำ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำได้ยังไง

เข้ามาก็จะเจอกับส่วน Living กันเหมือนเดิมครับ พื้นที่ตรงนี้เลือกเฟอร์นิเจอร์ดีๆ ก็วางได้หมดตั้งแต่โซฟา ชั้นวางทีวี รวมไปถึงโต๊ะกินข้าวประมาณ 2 ที่นั่ง ซึ่งถ้าใหญ่กว่านี้ก็คงไม่เหมาะกับพื้นที่ห้องเท่าไหร่

เข้ามาก็จะเจอกับส่วน Living กันเหมือนเดิมครับ พื้นที่ตรงนี้เลือกเฟอร์นิเจอร์ดีๆ ก็วางได้หมดตั้งแต่โซฟา ชั้นวางทีวี รวมไปถึงโต๊ะกินข้าวประมาณ 2 ที่นั่ง ซึ่งถ้าใหญ่กว่านี้ก็คงไม่เหมาะกับพื้นที่ห้องเท่าไหร่

สำหรับห้อง 2 ห้องนอนเนี่ย ของที่ต้องเก็บก็จะมากขึ้น ถ้าอยู่เองก็พยายามบิวท์ชั้นวาง หรือตู้ต่างๆ ใช้พื้นที่ความสูงของห้องให้เป็นประโยชน์กันเต็มที่ จะได้มีที่เก็บพอเนอะ

โซฟาหลักในห้องนี้ใช้ทรงตัว I น่าจะเหมาะสุดครับ ได้ประมาณ 3 ที่นั่ง พอหลวมๆ

ครัวในห้องนี้ก็จะอยู่ในส่วน Living ใกล้กับประตูทางเข้าเลย แม้จะเป็นครัวเปิดใกล้กับโซฟา แต่ข้อดีของ Floor Plan ที่นี่ Corridor ไม่ได้ไปสุดที่ริมผนังห้อง แต่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้านี่แหละ ทำให้ตรงนี้เค้าทำหน้าต่างบานกระทุ้งเพื่อเปิดระบายอากาศออกไปด้านนอกได้เลย ช่วยระบายกลิ่นอาหารได้ดีขึ้นครับ

เดินไปดูห้องนอนที่อยู่หลังทีวีกันบ้าง ทางนี้จะเป็นห้องนอน Master Bedroom ครับ

ด้วยความที่ห้อง 2 Bedroom เป็นห้อง Corner ก็จะได้กระจกเข้ามุมแบบ Bay Window พร้อมพื้นที่เล็กๆ ให้วาง Daybed หรือทำเป็นมุมนั่งคิดงานอ่านหนังสือก็ได้

แต่ตรงมุมเค้าจะมีซีลยางสีอ่อนไว้นิดนึง ความหนาเกือบๆ เท่ากับกรอบเฟรมกระจกครับ

ห้องนี้มีห้องน้ำอยู่ในตัวด้วยนะ มีฟังก์ชั่นใช้งานครบครับ ส่วนพื้นที่ก่อนเข้าห้องน้ำก็ทำเป็นตู้เสื้อผ้าได้ จะขาดนิดนึงก็ฟังก์ชั่นโต๊ะเครื่องแป้ง ที่จะต้องหาที่ทางสักนิด จะทำตรงมุม Daybed ก็ได้

ด้วยความที่ห้องน้ำอยู่เลย Corridor เหมือนกับส่วนครัว ตรงนี้ก็เลยมีบานกระทุ้งไว้ระบายอากาศได้อีกเหมือนกัน

ถ้าพ่อบ้านจะทิ้งระเบิดก็สามารถกลบร่องรอยได้ด้วยการเปิดบานนี้ทิ้งไว้สักครู่ จะได้ไม่โดนศรีภรรยามาทุบโทษฐานกลิ่นรุนแรง ฮ่าๆ

ออกมาจากห้องนอน Master Bedroom เดินผ่านส่วน Living ไปก็จะเจอห้องน้ำอีกห้องที่เข้าได้จากด้านนอกนี้ให้แขกที่แวะไปมาเข้าใช้ได้โดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวครับ และฝั่งนี้เองก็เป็นตำแหน่งห้องนอนอีกห้องนึง

โครงการเค้าตกแต่งเป็นห้องนอนคุณหนูไว้ ทำเตียงแบบ 2 ชั้น ใครชอบปีนป่ายก็ขึ้นไปชั้นบน เลยวัยแล้วก็นอนชั้นล่าง ก็ดูเหมาะดีนะ

มีพื้นที่สำหรับทำตู้เสื้อผ้าบิวท์อินไว้บริเวณประตูเข้าห้อง แต่ถ้ายังไม่มีลูกน้อย ห้องนี้ก็ปรับฟังก์ชั่นเสมือนห้องอเนกประสงค์ไว้ทำงาน ทำ Walk-in Closet หรืออื่นๆ ก็แล้วแต่สไตล์การใช้ชีวิตแต่ละคนได้เลยครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือ ภาพรวมโครงการและห้องตัวอย่างของ The Tree หัวหมาก ที่แว่นพามาแอบดูในวันนี้ครับ ก็น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบายแบบใช้ชีวิตติดห้าง ไม่อยากอยู่แต่ในคอนโด แต่ถ้าไม่อยากออกมาเจอความวุ่นวายข้างนอก ก็ขึ้นมาว่ายน้ำ และสูดอากาศบริสุทธิ์ได้ง่ายๆ เหมือนกับการขับรถไปสูดอากาศที่เขาใหญ่ได้ภายใน 5 นาที

สำหรับใครที่สนใจโครงการนี้ เค้าเปิด pre-sale วันที่ 3-4 Nov นี้นะครับ รีบลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่นี่คร้าบ >> http://bit.ly/2IJ5Em0

ติดตามเราได้ที่ : facebook

ติดต่อสอบถาม : Contact