The Strand ชีวิตแบบ Ultra Luxury นิยามของการสร้างสรรค์งานศิลปะและงานฝีมือชั้นสูง 

พูดถึงโครงการที่อยู่ซอยทองหล่อแล้ว ใครๆ ก็นึกถึงความหรูหรา และการได้อยู่ท่ามกลางแสงสีที่คึกคักแบบ 24/7 ความหรูหรานี้บางครั้งก็ซับซ้อน ประโคมด้วยการปรุงแต่งที่ฟุ่มเฟือย จัดจ้าน แต่โครงการที่เราจะพามาชมนี่มีความแตกต่างบางอย่างที่เค้าตั้งใจทำให้เป็นเอกลักษณ์ คือ เลือกใช้การออกแบบที่ลดทอนสิ่งไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุด เหลือเพียงความเรียบง่าย ที่ได้รับการคัดสรรมาแล้วอย่างประณีต บรรจง Craftsmanship เส้นสายและการตกแต่งตามสไตล์งานฝีมือ ให้เกิดเป็นโครงการในแบบ Minimal Luxury และที่สำคัญ โครงการนี้เชื่อมโยง ลมหายใจของความเป็นทองหล่อที่ไม่เคยหลับไหล ด้วยการพัฒนาที่พักอาศัยแบบ Mixed use ที่มีส่วนกลางบริเวณชั้นล่างๆ เปิดต้อนรับชาวทองหล่อ ทั้งเป็นที่พบปะสังสรรค์ หรือมาพักผ่อนท่ามกลางสวนสีเขียว โดยไม่กระทบความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย นี่เป็นภาพรวมของโครงการที่เราจะพาชมกันในวันนี้ กับ แอบดูคอนโด… The Strand ทองหล่อครับ

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทองหล่อน่าสนใจก็คือ Culture เฉพาะตัว คนเจนใหม่หลายคนอาจนึกไม่ออกถ้าบอกว่าทองหล่อเป็นซอยที่เงียบสงบมาก่อน แต่การพัฒนาสะพานข้ามคลอง และการขยายตัวของรถไฟฟ้าทำให้ 10 กว่าปีที่ผ่านมาทำให้ถนนความยาว 2 กม.เศษนี้กลายเป็นศูนย์รวม Lifestyle หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นร้านรวง และคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ ในเวลากลางวัน ไปจนถึงแหล่งแฮงก์เอาท์เรียงรายในเวลาค่ำคืน ยังไม่นับรวมถึงโรงพยาบาล  Co-working space สถานเสริมความงาม Fitness และอื่นๆ อีกมาก เรียกว่าตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตกดิน เราสามารถใช้ชีวิตอยู่บนถนนนี้ได้ทุกบทบาท ไม่เว้นแต่คนไทยเท่านั้น บรรดาชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ก็อยู่แถบนี้มาอย่างยาวนาน จนทุกวันนี้เราสามารถหาร้านอาหารที่มีเจ้าของเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆ อยู่ตามซอยทองหล่อได้ไม่ยาก ทองหล่อจึงไม่เคยหลับใหล สเน่ห์แบบนี้เองจึงเป็นที่มาของการออกแบบโครงการให้มีส่วนกลางที่เปิดรับทุกคนอย่าง All-day Dining, Speakeasy Bar, Business Lounge and Micro Offices รวมไปถึง The Strand Park ที่จะคอยต้อนรับชาวทองหล่อให้มาพบปะกันท่ามกลางสวนสวยใกล้ๆ ตัว

โครงการ The Strand ตั้งอยู่บนต้นซอยทองหล่อเลย ห่างจาก BTS ทองหล่อเพียง 30 เมตร หรือเดินยังไม่ทันนับก้าวก็ถึงบันได BTS แล้ว จึงเป็นที่สุดของความสะดวกสบายที่จะหาได้จากทำเลนี้ เป็นอาคารสูง 30 ชั้น แต่มีจำนวนแค่ 198 ยูนิต จุดเด่นของที่นี่คือ จำนวนยูนิตไม่มาก และให้ความเป็นส่วนตัวสูง แถมขนาดห้องเล็กสุดของที่นี่ก็ยังกว้างขวางอยู่สบาย Unit type ทั้ง 4 แบบ ได้แก่

• แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 48-55 ตร.ม. รวม 124 ยูนิต
• แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (Simplex) ขนาด 73-90.60 ตร.ม. รวม 63 ยูนิต
• แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (Duplex) ขนาด 110.40 ตร.ม. รวม 5 ยูนิต
• แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ (Penthouse) ขนาด 184.20 ตร.ม. รวม 6 ยูนิต

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ถือเป็นสิทธิเฉพาะของลูกบ้านที่นี่นอกเหนือจากส่วนกลางที่เป็น Public Area ที่กล่าวมาข้างบนแล้วก็ยังมี Play Room, Tutor Room ที่ชั้น 6 ส่วนชั้น 27 และ Rooftop เป็นพื้นที่ Clubhouse ประกอบด้วย Fitness & Meditation Studio, สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก, Sauna, The Living room, Putting Green และ Rooftop Terrace ครับ ที่นี่เค้าจัดทำ Application มาให้โดยเฉพาะด้วยเพื่อให้ลูกบ้านได้ใช้ลิงค์กับระบบ Home Automation และบริการ Concierge พร้อมที่จอดรถในระบบ Auto Parking รวม 103%

เข้ามาดูในห้องพักกันบ้าง ความโดดเด่นของที่นี่คือ Living Area ขนาดใหญ่ ถึง ใหญ่มากกก โดยการรวมพื้นที่ครัว ส่วนรับประทานอาหาร และส่วนนั่งเล่นดูทีวีเป็นพื้นที่เปิดรวมกัน ซึ่งสะท้อนความตั้งใจของเค้าที่อยากให้ผู้คนได้ใช้พื้นที่ร่วมกันมากขึ้น เราเห็นภาพแม่ที่กำลังทำครัวพร้อมเหลือบตามองลูกที่นั่งดูละครไม่ห่าง หรือคนวัยทำงานที่ชวนเพื่อนฝูงมาปาร์ตี้หลังประชุมเย็นมาใช้เวลาในส่วนนี้ร่วมกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้เค้ายังจัดเตรียมเทคโนโลยีมาใช้อำนวยความสะดวกการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้อง รวมไปถึงระบบตรวจวัด CO2 ภายในห้องนอน เพื่อเติมอากาศให้เพียงพอแก่การพักผ่อนนอนหลับซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

โครงการขายแบบ Fully-Fitted แบบที่ให้ชุดครัวพร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้ามาแบบครบครันไม่ว่าจะเป็นเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของ GAGGENAU, ตู้เย็นแบบ Built-in ของ SIEMENS, ท็อปครัวหิน Quartz มาตรฐาน Food Grade, สุขภัณฑ์ TOTO NEOREST, อ่างอาบน้ำ, ตู้เสื้อผ้า, พื้นปูด้วยไม้ Engineered ทั้งหมดออกแบบมาเข้าคู่กันในโทนอบอุ่น เรียบหรูตามแนวคิด “Essentially More” ของเค้านี่แหละครับ ส่วนราคาตอนนี้เริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 16.5 ล้านบาท หรือ 335,000 บาท/ตร.ม.ครับ

สำหรับใครที่สนใจ ก็คลิกเข้าไปลงทะเบียนกันได้ที่นี่คร้าบ >>http://www.thestrandthonglor.com/register-reward-customer

ส่วนห้องตัวอย่างที่เราจะพาชมในวันนี้มี 2 ห้อง คือแบบ 1 Bedroom และ 2 Bedroom จะเป็นยังไงตามไปดูพร้อมๆ กันเลยครับ

ห้องตัวอย่างแรกที่แว่นจะพามาชมวันนี้ เป็น Type 1 Bedroom ขนาด 55 ตารางเมตรครับ ทั้ง Mood & Tone ที่โครงการเค้าจัดเตรียมไว้ ทำให้ห้องนี้ดูเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความน่าสนใจ ทั้งวัสดุ และโทนสีที่ใช้ตกแต่ง ประกอบกับพื้นที่ใช้สอยในแต่ละส่วน ที่มีเหลือเฟือเพียงพอต่อการใช้งาน และการใช้ชีวิตอยู่จริง

ที่ห้องนี้ดูโปร่งเอามากๆ ก็เพราะระยะเพดานสูงถึง 3 เมตรทีเดียวครับ ได้แอร์แบบฝังฝ้าจาก “DAIKIN” ทั้งหมด 2 ตัว พื้นห้องเป็น “พื้นไม้เอ็นจิเนียร์วูด” หนา 14 ม.ม. ผนังจะเป็นแบบ “ฉาบเรียบทาสี” มีระบบ “Home Automation” ไว้คอยสั่งการระบบไฟฟ้าภายในห้อง รวมไปถึงประตูที่เป็นระบบ “Digital Door Lock” จาก “SAMSUNG” ที่จะมาช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้เราครับ

ใช้ได้ทั้งแบบใส่รหัส คีย์การ์ด กุญแจ และยังมี Application ที่สามารถสั่งปลดล็อคห้อง หรือส่งรหัสไปให้ผู้อื่นได้ เช่น แม่บ้าน หรือเพื่อนเรา อันนี้ก็สะดวกสบาย ตัวเราไม่ต้องเข้ามาถึงห้องก็ส่งเพื่อนเข้ามาได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องให้ Key card เค้าไป

ระบบ Home Automation ที่เตรียมไว้มีหมวดให้เลือกหลากหลาย เช่น เมื่อเรากำลังจะออกจากห้องก็กดสั่งปิดไฟทั้งห้องได้ โดยไม่ต้องไปเดินไล่ปิดเองให้เสียเวลาครับ หรือจะ Set Scene ระบบแสงไฟต่างๆ ให้เหมาะกับกิจกรรมที่เราจะทำ เช่น ดูหนัง ก็ได้

สำหรับ “ห้องครัว” …. ชุดครัวได้รับการบิวท์อินไว้ให้เรียบร้อย มีหน้าบานเป็นแบบ “Soft Close” ใช้ “วัสดุพรีเมี่ยม” ที่ให้ผิวสัมผัสเรียบเนียน แถมยังช่วยลดรอยนิ้วมือซึ่งเป็นศัตรูของหน้าบานขาวๆ ของเรา ใครที่หิวดึก ชอบย่องมาเปิดตู้หาขนม ก็ไม่มีใครจับได้แล้วครับ ฮ่าๆ ส่วน “ตู้เย็น” เป็นของ “Siemens” ถูกซ่อนเข้าไว้ในตู้ครัวด้วยเช่นกัน ทำให้ครัวที่นี่ดูสบายตาขึ้นมากครับ

Top ครัวเป็น “หินควอทซ์” ที่ได้รับการเพิ่มคุณสมบัติป้องกันเรื่องของรอยขีดข่วน ไม่ซึมน้ำ แถมยังแข็งแรง ทนทาน ช่วยให้ครัวสวยๆ อยู่กับเราไปได้นานๆ ได้มาตรฐาน “Food Grade” วันไหนหาเขียงไม่เจอ จำเป็นต้องหั่นพริก ตีกระเทียม ก็ทำได้เลยสบายๆ ครับ เค้าให้เตาไฟฟ้า Induction มาด้วยจาก “GAGGENAU” แบรนด์เดียวกันกับเครื่องดูดควันที่มาเข้าชุดกัน

อ่างล้างจานและก๊อกน้ำ เป็นของ “FRANKE” 1 หลุม สำหรับห้อง 1 Bed ครับ

“เตาอบ” บิวท์อิน จาก “Siemens” นี่ก็ได้เช่นกันนะ จะอบพิซซ่าให้หอมฟุ้งไปทั่วห้อง หรือจะใช้อุ่นอาหารก็ได้ทั้งนั้นคร้าบบบ

ส่วนตู้เก็บของตรงนี้เค้าไม่ได้ให้ จะได้เป็นพื้นที่โล่งๆ ซึ่งเราก็สามารถเลือกสี เลือกแบบที่ถูกใจกันได้เอง จะบิวท์อินเป็นชั้นวางของก็ได้ หรือทำเป็นตู้รองเท้าสูงจรดเพดานแบบห้องตัวอย่างก็น่าจะช่วยเก็บของได้จุใจทีเดียวครับ

ขยับมาอีกนิดเป็นพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหาร ซึ่งบอกเลยว่าพื้นที่เหลือเฟือสุดๆ ใครที่มีแขกมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆ จะเลือกโต๊ะขนาดใหญ่ แล้วจัดเก้าอี้ใส่ไป 5-6 ที่ก็ยังพอครับ

อย่างที่บอกจุดเด่นของโครงการนี้คือการให้ Space ในส่วนของ “ห้องนั่งเล่น” ค่อนข้างมาก… มากเลยแหละครับ ดูจากระยะห่างโซฟาถึงทีวี แบบนี้ใครอยากติดทีวีจอยักษ์ 60 นิ้วก็ยังได้เลยนะเนี่ย

นอกจากความสูงของเพดานแล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบทำให้ห้องนี้ดูโล่ง และโปร่งเอามากๆ ก็คือ “หน้าต่าง” ครับ คือที่นี่เค้าจัดหน้าต่างมาให้เป็นกระจกบานใหญ่เต็มบาน ส่วนที่กว้างสุดที่มีที่นี่คือกว้างถึง “2.20 เมตร” เลยทีเดียว จะมองวิวมองฟ้าก็จุใจ จะมองวิวทองหล่อยามค่ำคืนก็ได้เต็มที่ครับ ซึ่งกระจกนี้เป็น “กระจก IGU” ที่มีช่องอากาศอยู่ระหว่างกระจก ทำหน้าที่เป็นฉนวนช่วยลดความร้อนและลดเสียงจากภายนอกได

เข้ามาดูในห้องนอนกันบ้างครับ ด้านนอกว่ากว้างแล้ว ห้อนนอนนี่กว้างไม่แพ้กันเลย สามารถใส่เตียง “King Size” เข้าไปได้ จะวางโต๊ะหัวเตียงไว้ทั้งด้านซ้ายและขวา ก็ไม่มีปัญหาเลยครับ พื้นที่ข้างเตียงเดินได้สบายๆ

ที่สำคัญเลยคือพื้นที่บริเวณปลายเตียง แว่นชอบมาก!! เพราะเหลือพื้นที่เยอะมาก เดินสวนกัน 2 คน 3 คนยังไหว ซึ่งถ้าใครอยากได้พื้นที่เหลือๆ แบบนี้ ก็ติดทีวีที่ผนังแบบห้องตัวอย่างเลยครับ จะได้เดินสะดวก ลุกนั่งสบาย

แถมยังสามารถวางโต๊ะทำงานเข้าไปได้อีกครับ

“ตู้เสื้อผ้า” จะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี อาบน้ำตัวหอม แต่งตัวสวยหล่อได้เลยทีเดียว เค้าบิวท์อินมาให้เรียบร้อยถึงแม้จะดูใหญ่ ใส่เสื้อผ้าได้เยอะแล้ว ด้านบนเค้ายังทำพื้นที่ไว้ให้สำหรับเก็บกระเป๋าเดินทางด้วย ไม่ต้องเอาไปซ่อนใต้เตียง ใต้โต๊ะ ให้วุ่นวาย จัดเก็บไว้ด้านบนได้ลงตัวพอดี ไม่กินพื้นที่ส่วนอื่นครับ

ห้องน้ำที่นี่ดูดีไม่แพ้ห้องอื่นเลยครับ พื้นและผนังถูกปูด้วยกระเบื้อง “โฮโมจีเนียส” คือเป็นกระเบื้องที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อรอยขีดข่วน มีค่าการซึมน้ำต่ำกว่ากระเบื้องแบบอื่นครับ มาพร้อมฉากกั้นเปียก-แห้ง อ่างล้างมือเป็น “หินสังเคราะห์” ชุดอุปกรณ์อาบน้ำเป็นของ “GROHE” และสุขภัณฑ์ จาก “TOTO” รุ่น NEOREST เป็นระบบอัตโนมัติ ดูแลเราตั้งแต่เดินเข้ามายัน เสร็จภารกิจเลยครับ

ถ้ามีห้องน้ำแบบนี้ อาบน้ำได้เพลินเลยครับ เอ๊ะ หรือคนในห้องนอนจะเพลินกว่ากัน ฮ่าๆ

ระบบแอร์ภายในห้องเป็นแบบฝังฝ้า พร้อมระบบ ERV ในห้องนอนที่จะตรวจวัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งจะเกิดขึ้นเยอะตอนเรานอนอยู่แต่ในห้อง เจ้าเครื่องนี้แหละก็จะมาช่วยเติมอากาศบริสุทธิ์ ให้รู้สึกโล่ง หลับสบายถึงเช้า ติดมาก็สดชื่นครับ

ระเบียงห้องใช้กระเบื้อง “พอร์ซเลน” ซึ่งเป็นกระเบื้องที่มีลักษณะเป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั้งแผ่น ทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี และทนต่อรอยขีดข่วนอีกเช่นกัน โครงการใช้กระจกแผ่นยาวบริเวณราวกันตก ทำให้ไม่บดบังทัศนวิสัยด้วยครับ

ระเบียงสามารถเชื่อมต่อเปิดเชื่อมต่อกลับเข้าไปในส่วนของห้องนั่งเล่นได้ด้วย สะดวกไปอีกแบบครับ

ห้องถัดมาเป็น Type 2 Bedroom ขนาด 90.5 ตารางเมตร กว้างไปอีกครับห้องนี้ วัสดุมาตรฐานที่ได้ จะเป็นเช่นเดียวกับห้องแบบ 1 Bed เลย ไม่ว่าจะเป็น พื้นไม้เอ็นจิเนียร์วูด ผนังฉาบเรียบทาสี ระยะเพดานที่สูงถึง 3 เมตร ชุดครัว รวมไปถึงวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำด้วยครับ

ส่วนหน้าห้องที่ติดตั้งไว้ มันคือเครื่อง “Digital Door Phone” เอาไว้พูดคุยกับแขกของเราได้ ก็เพิ่มความปลอดภัยในการยืนยันตัวก่อนหน้าห้อง

ชุดครัวใหญ่ขึ้นครับ โชว์ฝีมือกันให้เต็มที่ไปเลย หน้าบาน Soft Close พร้อมผิวสัมผัสที่เรียบเนียนเช่นเดียวกัน

สำหรับห้องนี้จะได้ ไอร์แลนด์ตรงกลางด้วยครับ มีพื้นที่จัดเตรียมอาหารมากขึ้นอีก วันไหนมีปาร์ตี้ ก็ปรุงกันให้กระจาย สับกันให้กระจุยไปเลยครับ

เตรียมปลั๊กไว้ให้พร้อม เป็นสวิตช์ซ่อนอยู่บนโต๊ะ เวลาจะใช้งานก็กดขึ้นมาแบบนี้ครับ

พื้นที่กว้างขนาดนี้ จะหาโต๊ะอาหารแบบไหนก็ไม่จำกัด จัดมาชุดใหญ่ได้เลย จะเพิ่ม จะเสริมเก้าอี้ไว้มุมไหน ก็ได้ทั้งนั้นครับ ห้องนี้กว้างมากจริงๆ

ห้องนั่งเล่นถูกจัดวางแบบเรียบง่าย มาพร้อมกระจกบานใหญ่ กันเสียง กันความร้อน แต่ไม่กันความรัก เอ้ย! กันวิวสวยๆ ที่ชวนให้มอง ทั้งกลางวันและกลางคืนคร้าบ

ช่วงกลางวันเปิดม่านให้สุด ในนี่แทบไม่ต้องเปิดไฟเลย ตอนพระอาทิตย์ยิ้มแฉ่ง แก้มแด้งแดง ก็รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่ และด้วยความที่ห้องนี้กว้างมาก เลยจัดแอร์ขนาด 24,000 BTU มาให้สำหรับห้องนั่งเล่นครั

ในส่วนของระเบียง เปิดเชื่อมไปยังห้องนอนเล็กได้เช่นเดียวกันครับ

ห้องนอนเล็กนี่นี้ใส่เตียง 5 ฟุตยังไหวนะครับ ติดทีวีที่ผนัง บิวท์อินชั้นวางของ เท่านี้ก็อยู่ได้สบายๆ แต่ที่ห้องตัวอย่างเค้าจัดมาให้เห็นว่าเราสามารถใช้พื้นที่นี้ปรับเปลี่ยนตามความต้องการในแต่ละช่วงของชีวิตได้ อย่างนี่ก็ทำเป็นห้องนอนเด็กเล็ก พร้อม Baby Crib น่ารักๆ

สำหรับห้องนอนเจ้าตัวเล็กนี้ ก็มีที่เหลือเฟือให้ลูกน้อยได้นั่งเล่นของเล่น วิ่งไปวิ่งมา น่ารักน่าเอ็นดู อยู่กับพี่เลี้ยงอีกคนสบายๆ

ปลั๊กในห้องบริเวณหัวนอนสามารถเสียบสาย USB ได้ด้วยครับ

ตู้เสื้อผ้าเป็นบานสไลด์ บิวท์อินมาให้แล้วเช่นกัน ตู้เสื้อผ้าที่นี่เค้ามีความลึกพอสมควรนะครับ คือคิดเผื่อมาแล้วว่า ถ้าจะแขวนสูท หรือชุดราตรีตัวสวยของคุณผู้หญิง เสื้อผ้าก็จะไม่ยับ สูทไม่โดนเบียดแขนให้เสียทรงครับ

ตัวก๊อกอาบน้ำน้ำจาก Grohe นี้เป็นรุ่น Temperature Lock ด้วยนะครับ เป็นอุณหภูมิที่เค้าคิดมาแล้วว่าอาบสบาย แต่ถ้าร้อนไปก็ปรับเพิ่มลดเอา

เข้ามาดูในห้องนอนใหญ่ จัดไปกับเตียง 6 ฟุต ที่ยังสามารถวางโต๊ะข้างหัวเตียงแล้วมีทางเดินแบบเหลือๆ ด้วยเช่นกัน

สามารถใส่ Day Bed เข้ามุมไว้ได้ด้วย วางชิดกับกระจกขนาดใหญ่ ก็น่าจะเป็นมุมโปรดของใครหลายคนได้ไม่ยากครับ และทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมของห้องตัวอย่างที่เราพาชมกันในวันนี้ครับ

จะเห็นว่าโครงการ The Strand ทองหล่อ นอกจากจะอยู่บนที่สุดของทำเลที่เรียกว่าเป็นต้นซอยทองหล่อ ให้ชีวิตสะดวกทั้งรถส่วนตัวที่เข้าออกได้ 2 ซอย ทั้งสุขุมวิท 55 และ 57 และการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็ง่ายเพียงแค่ 1 นาทีแล้ว ยังมีพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์ของลูกบ้าน และไลฟ์สไตล์ของความเป็นทองหล่อที่หาจากโครงการอื่นได้ยาก วันไหนอยากแฮงค์เอาท์ที่บ้านของเราก็ทำได้เลยไม่ต้องออกไปข้างนอก เมื่อกลับเข้ามาถึงห้องก็ยังมีพื้นที่พักอาศัยที่กว้างขวาง รองรับคนได้มาก ไม่ว่าจะเพื่อนๆ หรือครอบครัวก็มาอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายอีกด้วย ถ้าจะหาโครงการไหนที่เป็นหนึ่งเดียวกับความเป็นทองหล่อทั้งด้านในและด้านนอก พร้อมความเรียบหรูอยู่ได้นาน บนพื้นฐานของการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย ก็ต้องโครงการนี้ “The Strand ทองหล่อ” นี่แหละครับ