อยู่กับลูกสี่ขา มูฟมา “The MUVE Sukhumvit 107” ใกล้ BTS แบริ่ง เริ่ม 1.89 ล้าน

อยู่กับลูกสี่ขา มูฟมา The MUVE Sukhumvit 107 ได้ใกล้ BTS สายสีเขียว ได้กินเที่ยวครบ ได้อยู่สงบคนไม่เยอะ กับคอนโดพร้อมอยู่อุ่นใจสไตล์แสนสิริ เริ่ม 1.89 ล้าน

​ผมพาลูกสาวมาดมกลิ่นคอนโดใหม่เผื่อพ่อๆ แม่ๆ Pet Parents ทุกคนที่คอนโด The MUVE สุขุมวิท 107 ครับ แบรนด์นี้คือคอนโดที่เป็นมิตรสำหรับชีวิตวัยเริ่มทำงานมาก เพราะราคาเบา อยู่ในทำเลที่ใช่ และก็ได้สิ่งอำนวยความสะดวกที่ตรงจุดกับความต้องการ อย่างที่นี่ต้องบอกว่าพิเศษกว่าที่อื่น เพราะเป็นโครงการแรกในซีรีย์ The MUVE ที่ให้เลี้ยงสัตว์ได้ และไม่ใช่แค่ให้เลี้ยงนะ แต่ยังทำ “Pet Park” มาให้โดยเฉพาะด้วยครับ เป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อย ได้อยู่กับลูกๆ อย่างเป็นส่วนตัวในทำเลใกล้ BTS แบริ่ง ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะ ทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร และวันนี้เราจะพาไปดูร้าน Pet Friendly ที่จริงใจใกล้ๆ โครงการกันด้วยครับ

​The MUVE Sukhumvit 107 มีอะไรน่าสนใจบ้าง?

  • ​สงบ เพราะเป็นโครงการ Low Rise ที่ยูนิตน้อย เพียง 254 ยูนิต ไม่วุ่นวาย เป็นอาคารสูง 8 ชั้น มีที่จอดรถ 75 คัน (ผสมระหว่างช่องจอด 55 ช่อง และ Auto Parking 20 คัน)
  • เซฟงบแบบคุ้มค่า เพราะโครงการนี้ราคาเริ่มแค่ 1.89 ล้าน นี่คือคอนโดที่พร้อมอยู่แล้วนะครับ ใกล้ BTS แบริ่ง ประมาณ 1 กม.นิดๆ มี Shuttle Service ให้บริการฟรี และช่วยประหยัดเงินเริ่มต้นใช้ชีวิตไปได้มาก เพราะถ้าจองและโอนก่อน 30 ก.ย. นี้ เค้าให้อยู่ฟรีถึง 1 ปี* ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า 4 รายการ* (ทีวี ไมโครเวฟ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า) ฟรี ฟูก+ผ้าม่าน* ฟรีค่าใช้จ่ายทั้งค่าส่วนกลาง 1 ปี ค่ากองทุน ค่าโอน ไม่ต้องจ่ายเลย และสำหรับคนกู้ก็ผ่อนเริ่ม 2,500 บาท/เดือน* เท่านั้นครับ
  • เป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยง ที่นี่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้แบบแยกชั้นกันอยู่ครับ โดยอนุญาตให้เลี้ยงหมาและแมวที่ความสูงไม่เกิน 15 นิ้ว และหนักไม่เกิน 15 กก. เมื่อโตเต็มวัย ได้ห้องละ 1 ตัวครับ อย่างซี่ระเบียงเนี่ยเค้าก็ออกแบบให้ถี่ขึ้น ป้องกันน้องๆ มุดได้ และที่ถูกใจผมที่สุดก็คือการมี Pet Park ที่ตั้งใจทำ ทั้งพื้นที่นุ่ม มีอุปกรณ์ให้น้องเล่น มีที่ล้างเท้า อาบน้ำ ที่ทิ้งขยะ ครบถ้วน สามารถพามาเดินเล่นได้ทุกวันเลย ความดีเทลเรื่องการใส่ใจน้องๆ ของเค้าที่ผมชอบก็คือ พรรณไม้ทุกต้นใน Pet Park ล้วนเป็น Pet-Friendly Plants ทั้งหมดด้วยครับ เวลาเราพาน้องมาเดินเล่นธรรมชาติของเค้าก็จะแวะดมแวะงับอะไรไปเรื่อยอยู่แล้ว เพราะงั้นไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรที่จะเป็นอันตรายกับลูกเราเลย นอกจากจะอยู่โดยไม่กลับห้องมากกว่า ฮ่าๆ
  • ส่วนกลางตรงจุด คือ Facilities ของที่นี่ไม่ได้เน้นจำนวนครับ แต่ที่จัดให้แบบที่คนทำงานได้ใช้ อย่างเช่น โซนทำงาน มีครบเลยทั้ง Co-working Space ขนาดใหญ่ มีห้องประชุม มีห้องทำงานแบบ Solo สำหรับ Introvert มีห้อง Studio & Streaming Room พร้อมอุปกรณ์ให้ใช้งาน ถูกใจสายครีเอเตอร์มาก และก็จัดวางตู้ Snack / ตู้เต่าบินรองรับให้นั่งกันได้ยาวๆ มี Fitness มีสวนทั้งชั้นล่างและบน Rooftop ที่ใหญ่และน่าใช้มาก ซึ่งบนนั้นทำ Sansiri Backyard ที่มีพืชผักสวนครัวไว้เพียบ โดยตัดสระว่ายน้ำที่จะต้อง Maintenance ออกไปแต่ก็ได้ Pet Park เติมมาแทนครับ ถ้าคุณไม่ได้ว่ายน้ำอยู่แล้วนะ เหมาะเจาะมากๆ
  • เดินทางสะดวก ผมว่าสำหรับคนเพิ่งเริ่มต้นทำงานถ้าอยากเกาะติดเส้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวเส้นหลัก ก็ต้องมองไปทางฝั่งส่วนต่อขยายทางอ่อนนุช-แบริ่งนี่แหละครับ และถ้าคิดว่าในงบเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านยังอยู่ซอยแบริ่งได้ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่านะ นอกจากรถไฟฟ้าที่ต่อเดียวตรงเข้าใจกลางเมืองแล้ว ซอยแบริ่งยังทะลุไปถนนรอบข้างได้หมด ทั้งซ.ลาซาล ทั้ง ถ.บางนา-ตราด และ ถ.ศรีนครินทร์ที่มีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองให้บริการ
  • สิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ ย่านนี้มี Mega project ใกล้เคียงอย่าง Bangkok Mall ว่าที่ห้างใหญ่สุดในไทยที่กำลังก่อสร้าง มีโรงเรียนนานาชาติอยู่ปากซอย มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่เยอะเลยครับ ไม่นับที่อยู่กันเป็นกระจุกอย่างลาซาล อเวนิว / ดาดฟ้าลาซาล (ที่ตั้งของร้าน Loafyco ที่มีชิโอะปังสุดเทพจนคนต้องต่อคิว) ส่วนคนออกกำลังกายนี่มีคอร์ทแบดอยู่ตั้ง 4 คอร์ทให้เล่นใกล้ๆ และที่น่าสนใจก็คือมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่เป็นร้าน Pet Friendly ที่จริงใจ สามารถพาน้องไปกินด้วยอยู่แถวคอนโดเลยครับ

​สำหรับผมที่ได้เข้าไปชมโครงการหลังสร้างเสร็จ ก็รู้สึกว่าส่วนกลางของที่นี่ทำออกมาได้สวยเกินราคานะ ทั้งโซนของคนทำงานที่ผมว่าเค้าคิดมาเผื่อชีวิตจริง ไม่ใช่ห้องที่ได้มาใช้เฉยๆ แต่มันมีขนม ของกิน รองรับ มันเห็นภาพชีวิตที่มาใช้เวลาขลุกทำงานที่นี่ได้อย่างสะดวก ได้ไปลอง Pet Park ที่ทำออกมาเพื่อพ่อแม่น้องหมา การที่เราสามารถปล่อยน้องวิ่งเล่นได้อย่างสบายใจโดยมีรั้วรอบได้ในคอนโดเนี่ย มันดีมากๆ และที่ Surprise ที่สุดก็คือส่วนของสวนที่อยู่บน Rooftop ซึ่งสเกลใหญ่ แล้วก็ทำโซนของ Sansiri Backyard ออกมาได้กลมกลืนกับพันธุ์ไม้ที่เอาไว้ตกแต่งสวนไปเลยครับ

​นอกจากเซฟงบด้านบนที่บอกแล้ว ห้องที่นี่ยังแต่งแบบ Fully Furnished ด้วยนะ มีให้เลือกทั้ง 1 Bedroom (S) ขนาด 23 – 23.5 ตร.ม. / 1 Bedroom (M) ขนาด 24.75 – 26 ตร.ม. / 1 Bedroom Plus ขนาด 36.75 – 37.25 ตร.ม. ซึ่งขายหมดเป็นที่เรียบร้อย และ Combine Unit ขนาด 50 – 51.25 ตร.ม. (เหลือเพียง 3 ห้อง) เห็นว่าฟีดแบคลูกค้าที่ได้มาดูดีมาก ใครที่จดๆ จ้องๆ อยู่อย่ารอนานนะครับ

​โดยสรุปที่นี่คือโครงการที่เหมาะสำหรับวัยเพิ่งเริ่มทำงาน อยากใช้ชีวิตทั้งไลฟ์สไตล์กินเที่ยวนอกบ้าน และก็มีมุมส่วนตัวกับลูกหมา ลูกแมวของตัวเอง เป็น Pet Allowed Condo ที่ราคาเข้าถึงง่ายด้วยงบล้านปลายถึงสองล้านต้น ยูนิตน้อย เป็นส่วนตัว และอุ่นใจด้วยการดูแลของแสนสิริที่น่าเข้าไปชมครับ Pet Parents หรือเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็ลงทะเบียนรับสิทธิจากโครงการได้ที่นี่เลยครับ https://siri.ly/kOlxNq7

น้องวิ้งกี้ดีใจได้ไปวิ่งเล่นเชยชม “The MUVE Sukhumvit 107” คอนโด Pet Friendly ยูนิตไม่มาก พร้อมส่วนกลางอย่าง Pet Park ที่แรกของแบรนด์ The MUVE ในทำเลใกล้ BTS แบริ่ง 2 นาที แถมรายล้อมด้วยร้านอาหารคาเฟ่เพียบ ในราคาเริ่มเบาๆ 1.89 ล้าน คร้าบ

เห็นคอนโดสีแดงเข้มตัดกับสีเหลืองสดใสแบบนี้ในสุขุมวิท 107 ก็รู้ได้เลยว่าเป็น The MUVE แน่นอน โดยจุดเด่นหลักเค้าคือความไพรเวท ไม่วุ่นวาย เพราะมีเพียง 254 ยูนิต บนตึก 8 ชั้น 1 อาคาร และทำเลนี่ทะลุไปได้หลายซอยทั้งลาซาล-แบริ่ง-บางนาตราด-ศรีนครินทร์ ที่มีของกินให้ฝากท้องเพียบ ที่สำคัญคือพาเจ้าขนปุยมาอยู่ด้วยกันได้นี่แหละ รับเทรนด์ Pet Parents ที่เราไม่มีไม่เป็นไร แต่ลูกฉันต้องได้อยู่สบายเลย

คุณหนูวิ้งกี้เลยใส่ชุดแดงสวยเก๋ ส่วนพี่อายก็ใส่สีเหลือง เข้ากับสีของโครงการเลยค่า

วันนี้จะพาชมบรรยากาศโครงการจริง ทั้งส่วนกลาง ห้องตัวอย่าง และโลเคชั่นรอบๆ ถ้าพร้อมแล้วไปกันเลย

ผมขอเริ่มที่ Facilities ก่อนแล้วกันนะ ส่วนกลางที่นี่เค้าเน้นที่ใช้งานจริง ใช้กันบ่อยๆ มีทั้งถูกใจคน และถูกใจเจ้าสี่ขา โดยเฉพาะน้องวิ้งกี้ที่ไปวิ่งเล่นทดลองมาให้แล้ว

นี่ก็คือ Lobby ให้นั่งพักผ่อนกับแอร์เย็นฉ่ำ พร้อม Mail Box และห้องนิติ แวะหยิบจดหมายและรับพัสดุก่อนขึ้นห้องได้เลย สะดวกดีครับ

ด้านหลัง Lobby ก็จะมีสวนให้ออกไปนั่งรับลมธรรมชาติ และเดินออกกำลังกายใต้ร่มไม้ได้ทุกวัน

ดูร่มรื่นมากเลย

ตกเย็นก็พาน้องๆ ใส่รถเข็นมานั่งผ่อนคลาย ใช้เวลายามว่างด้วยกันได้ ดีเทลน่ารักๆ ของที่นี่คือโต๊ะหรือเฟอร์นิเจอร์ในสวนเค้าทำเป็นรูปทรงหมาด้วย น่าเอ็นดู

มุมในสวนตรงนี้น้องวิ้งกี้เห็นแล้วต้องหันขวับ! ได้เวลาพาหนูน้อยปลดปล่อยพลังงานแล้วว นี่เป็น Pet Park ที่แรกในแบรนด์ The MUVE เลยด้วยครับ เค้าออกแบบมาดีนะ มีรั้วรอบขอบชิด เป็นโซนที่สามารถปล่อยน้องๆ ออกจากสายจูงได้โดยไม่ต้องกลัววิ่งหนีออกไปไหน ส่วนจะมีอะไรข้างในบ้าง ไปดู

ในนี้มีทั้งพื้นที่ให้น้องวิ่งเล่น เป็น Soft Floor นุ่มนิ่ม ลดแรงกระแทก ไม่เจ็บเท้า พร้อมเสาให้น้องฝึกเดินซิกแซก แน่นอนว่าวิ้งกี้ทำไม่เป็น 555 และมีรูให้เดินลอด รวมถึงที่นั่งแบบต่างๆ ให้คุณแม่นั่งมองน้องได้อย่างใกล้ชิด

ที่ผมชอบสุดคือโซนตรงนี้ เป็นถังขยะทิ้ง Poop ก๊อกเติมน้ำดื่ม และที่ล้างเท้า ซึ่งฝักบัวที่เค้าทำมานี่อาบน้ำยังได้เลยล่ะ น้องวิ้งกี้ก็พยายามเดินออกห่าง เพราะรูปร่างมันคุ้นๆ เหมือนกำลังจะต้องเปียก ฮ่าๆ

พูดถึงที่จอดรถ มี 30% โดยมีทั้งที่จอดแบบ Conventional และ Auto Parking แบบลิฟต์ยกครับ รวมถึง EV Charger 2 จุดที่ข้างกับทางเข้าล็อบบี้ครับ

เราขึ้นไปดูส่วนกลางชั้นอื่นๆ กันต่อ ตรงหน้าลิฟท์ตัวทางซ้ายนี่มีติดสติ๊กเกอร์รอยเท้าหมา เป็นสัญลักษณ์ว่าเจ้าขนปุยทั้งหลายสามารถใช้ลิฟท์ฝั่งนี้ได้ครับ แยกชัดเจนไม่ปะปนกัน

ชั้น 2 จะเป็นส่วน Facilities หลักของโครงการ อย่างห้องนี้คือ Co-Working Space กว้างขวาง มีที่นั่งทั้งโต๊ะเก้าอี้ โซฟาหลายแบบให้เลือก กระจกเต็มบานแสงเข้าเต็มที่ อ่านหนังสือหรือทำงานไม่ต้องกลัวเสียสายตา และที่ดีงามก็คือ เค้าเติมเครื่องฟอกอากาศระบบ nanoe-X ที่ปกป้องเราจากแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ ไปจนถึง PM 2.5 แถมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและเส้นผม เรียกว่าใช้เวลาในห้องนี้ได้นานแบบไม่ต้องกังวลใจเรื่องอากาศเลยครับ

ผมว่ามุมต่างๆ ในโซนนี้ทำออกมาได้สวยเลยนะ

ไปดูต่อด้านในยังมีห้องอื่นๆ อีกครับ

อย่างตรงโซนนี้เป็น Pantry อ่านหนังสือหรือทำงานเหนื่อยล้าแล้วก็มาแวะกดน้ำกดขนมเติมพลังได้ มีทั้งตู้น้ำของจุบจิบ ตู้กดน้ำร้อนน้ำเย็น และตู้เต่าบิน โซฟาที่ให้นั่งนี่ก็ออกแบบมาให้มีที่วางของได้ เก๋ดีครับ นี่คือสิ่งที่ทำให้เราสามารถนั่งทำงานในห้องนี้ได้นานๆ ผมชอบนะ

ถัดมาก็มี Meeting Room สำหรับนั่งประชุม คุยงานกันเป็นกลุ่ม ส่วนสาย Introvert ชอบทำงานเดี่ยวก็มี Private Working Room นั่งคนเดียวไปเลย

ตรงข้ามกันเป็น Studio & Streaming Room สามารถมาถ่ายคอนเทนต์ ทำคลิป ถ่ายสินค้าได้ตามชอบ ถูกใจสาย Creator แหละ

เดินต่อมาจาก Co-Working Space เมื่อสักครู่ ก็จะเป็น Fitness ให้ออกกำลังกาย มีอุปกรณ์พร้อม จะวิ่งจะเวทหรือจะปั่นเลือกได้เลย

ส่วนกลางสุดท้ายในชั้นนี้ก็คือห้องซักล้าง ที่มีเครื่องซักอบผ้าและตู้กดน้ำลิตรแบบหยอดเหรียญครับ

ขึ้นมาที่ชั้นบนสุด เป็นส่วนกลางโซนสุดท้ายอย่าง Rooftop Garden & Sansiri Backyard มี Jogging Track ให้มาวิ่ง มาออกกำลังกายยามเย็นได้ พร้อมที่นั่งกระจายอยู่หลายจุดครับ สเกลนี่เค้าทำเต็มพื้นที่เลย สวยน่าใช้

Sansiri Backyard นี่ก็จะมีพืชผักออร์แกนิคที่ลูกบ้านสามารถมาเก็บไปทำอาหารกันได้ แล้วปลูกลงแบบแนบเนียนเหมือนไม้ประดับ แต่เป็นพืชผักสวนครัวรั้วกินได้

ขอแดดร่มก่อนนะ น้องจะได้ไม่ต้องใส่แว่นดำ ฮ่าๆ

นี่ก็คือส่วนกลางทั้งหมดของที่นี่ครับ ตกแต่งมาอย่างสดใส เน้นฟังก์ชันที่ใช้งานได้ทุกวัน ทั้งทำงาน ออกกำลังกาย เล่นสนุก และพักผ่อนกับลูกๆ ของเรา

น้องวิ้งกี้เดินชมเหนื่อยแล้ว เข้าไปในห้องพักกันต่อ ที่นี่เค้ามีห้องทั้งหมด 4 รูปแบบ แบ่งเป็น 1 Bedroom (S) ขนาด 23-23.5 ตร.ม., ใหญ่ขึ้นหน่อย 1 Bedroom (M) ขนาด 24.75-26 ตร.ม., ถัดมาแบบอยู่สบาย 1 Bedroom Plus ขนาด 36.75-37.25 ตร.ม. และสุดท้ายมีไม่มากเพียง 6 ยูนิตคือห้อง Combine ขนาด 50-51.25 ตร.ม. ทั้งหมดนี้ขายแบบ Fully Furnished ครับ

ส่วนห้องตัวอย่างวันนี้มี 1 ห้องให้ชม รูปแบบ 1 Bedroom (M) ขนาด 24.75-26 ตร.ม. อยู่กำลังสบายทั้ง 2 ชีวิต เจ้าหมาและเจ้าทาส เป็นทาสก็ต้องนั่งพื้นแบบนี้สินะ ฮ่าๆ

เข้าห้องมาเจอกับครัว ให้พักเก็บของล้างไม้ล้างมือกันก่อน มีเคาน์เตอร์ครัว พร้อมเตาและที่ดูดควันของ Teka ตรงข้ามเป็นชั้นวางของ และตู้เก็บของเก็บรองเท้า เค้าก็ทำมาให้เรียบร้อย ส่วนเครื่องซักผ้าสามารถวางไว้ใต้เคาน์เตอร์ได้เลย

ครัวที่นี่เป็นครัวปิด พร้อมกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ซึ่งผมว่าการมีครัวปิดอยู่หน้าห้อง ข้อดีคือเหมือนช่วยกันเสียงคนที่เดินผ่านไปมาในโถงทางเดินหน้าห้องได้อีกชั้นนึง เวลาเรานั่งในห้องนั่งเล่นก็จะไม่ค่อยได้ยินเสียงคนเดินผ่าน ถ้าเลี้ยงหมานี่ก็ช่วยลดโอกาสการถูก Trigger จากเสียงคนแล้วเห่าได้

เข้ามาในห้องสำหรับโหมดหลักของการใช้ชีวิต รูปแบบนี้จะมีโซนห้องนั่งเล่น ทานอาหาร และเตียงนอน เป็น Open Plan และจุดเด่นของรูปแบบนี้คือมี Walk-in Closet ส่วนตัว ที่นี่ได้พื้นลามิเนตนะ มีระยะเพดานสูง 2.50 ม. ครับ

เป็นยังไงหนูสวยถูกใจรึยังคะ

ซึ่งการที่ทุกส่วนสามารถเชื่อมถึงกันหมด มันก็ Flow เหมาะสำหรับขนาดห้องนะ ข้างครัวเป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะทานอาหาร อิ่มแล้วก็มานั่งพักดูรายการโปรด และกระโดดขึ้นเตียงนอนข้างกันได้ยามง่วง ที่สำคัญพอไม่ต้องกั้นโซนเยอะ เจ้าเด็กสี่ขาก็มีพื้นที่ให้วิ่งเล่นสำรวจได้มากขึ้นด้วย

เตียงนอนอยู่ข้างกับหน้าต่างบานเลื่อน พอยกระดับสูงแบบนี้รู้สึกว่าชมวิวสะดวกดีนะ

ความดีงามของฐานเตียงที่เค้าให้มาคือเราสามารถเปิดเก็บของได้ทั้งปลายเตียงและใต้เตียง นี่คือสิ่งที่ถูกใจคนอยู่คอนโดยิ่งนัก แล้วบ้านไหนมีน้องหมาหรือน้องแมวนี่จะรู้กันดีว่าของส่วนตัวน้องๆ มีเพียบบ ไป Pet Expo ทีนึง ขนมาฉ่ำๆ 😊 อยู่นี่มีที่ให้เก็บหลายจุดเลย

ใส่แว่นแล้วตัวเกร็งเลยหรอลู้กก พี่อายชอบแกล้งใช่มั้ย

อีกฝั่งนึงก็จะสามารถติดทีวีจอใหญ่ได้ เพราะระยะห่างดีครับ ซึ่งเค้าบิวท์โต๊ะทำงาน เก้าอี้ และชั้นวางของหลังตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วย ระเบียงก็เข้าออกได้ที่ปลายเตียง

เค้าตกแต่งโซนบ้านน้องให้ดูเป็นไอเดีย เอาไว้ติดกับระเบียง ให้น้องๆ นั่งมองวิวด้านนอก ชมนกชมไม้ได้

ระเบียงก็ยกคอมเพรสเซอร์ไว้สูง สามารถออกมายืนรับลมได้ ตัวซี่ระเบียงก็ออกแบบมาได้ถี่ดี และก็ยกกั้นสูงกว่าปกติด้วย น้องตัวเล็กอย่างวิ้งกี้ไม่ต้องกลัวตก

ไปดูโซนห้องน้ำ และไฮไลท์ของห้องรูปแบบนี้อย่าง Walk-in Closet ส่วนตัว ตู้เสื้อผ้านี่ก็เหมือนเป็นตัวช่วยกั้นโซนไปอีกแบบ แถมทำที่แขวนข้าวของเพิ่มที่ข้างหลังได้

ตู้เสื้อผ้ารูปตัว L เข้ามุม เก็บได้ทั้งซ้ายขวา มีช่องด้านบนขนาดใหญ่ วางของอย่างกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าหรือรถเข็นน้องได้ครับ

สุดท้ายเป็นห้องน้ำกับกระเบื้องสีครีมอ่อน ตัดฟ้าอ่อนดูสบายตา ทั้งตรงกระจกและใต้อ่างล้างหน้า สามารถเปิดเก็บของได้ ส่วนในโซน Shower ก็มีมุมวางอุปกรณ์อาบน้ำครับ

นี่ก็คือห้องตัวอย่างของที่นี่ โดยส่วน Pet Friendly นี่ตอนนี้จะแยกเป็นชั้นไว้นะครับ สามารถเลี้ยงน้องหมาและน้องแมว น้ำหนักไม่เกิน 15 กก. และส่วนสูงไม่เกิน 15 นิ้ว น้องวิ้งกี้อยู่ได้สบาย คนที่อยากเลี้ยงน้องก็ไม่ต้องแอบ โดยที่นี่มีราคาเฉลี่ย 80,000 บ./ตร.ม. ครับ

เอาล่ะเริ่มหิวกันแล้ว ไปหาอะไรทานใกล้ๆ กัน

โครงการตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 5 บนถนนสุขุมวิท 107 ซึ่งอยู่ใกล้กับ BTS สายสีเขียวสายหลัก สถานีแบริ่ง 1.3 กม. สามารถนั่งต่อเดียวเข้าทองหล่อ-สยาม ได้เลย ใกล้ที่สุดคือที่ปากซอยแบริ่ง 3 มีทั้ง 7-11 และตลาดมิ่งที่มีของกินฝากท้องได้ ที่อยู่รอบๆ บนถนนสุขุมวิท 107 นี่ก็จะมีทั้งร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ตทั้งท็อปส์ เดลี่, มินิ บิ๊กซี, โลตัส โกเฟรช และซีเจมอร์ครับ แหล่งไลฟ์สไตล์รวมถึงร้านอาหารในโซนลาซาล-แบริ่งนี่เพียบ อย่าง Lasalle Avenue ก็มีสวนให้พาน้องไปวิ่งเล่น ซึ่งคนใช้รถก็เชื่อมได้หลากหลายเส้นทาง วันนี้ผมจะพาไป 2 คาเฟ่ Pet Friendly แสนน่ารัก ที่พาน้องเข้าห้องแอร์กับเราได้ด้วยครับ

คาเฟ่แรก Longhaul Coffee บรรยากาศร้าน Cozy มากก มีทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม ร้านนี้อยู่ห่างจากโครงการเพียง 700 ม. มีที่จอดรถด้วยครับ พาน้องๆ มานั่งเล่นได้เลย…

พาเข้ามานั่งห้องแอร์เย็นฉ่ำด้วยกันได้ ถูกใจทั้งหมาแมวและคุณพ่อคุณแม่เลย…

แชะภาพเช็คอินกันหน่อย ถ่ายมุมไหนก็สวยย

ขับต่อมาบนถนนแบริ่ง-ลาซาล มี Homeals Café & Bistro ห่างจากโครงการประมาณ 2.8 กม. ร้านนี้ไวบ์ดีไม่แพ้กัน แถมอาหารรสชาติดีเลยครับ

มีโต๊ะเก้าอี้ให้เลือกนั่งหลากหลายแบบ ซึ่งเราสามารถปล่อยน้องวิ่งเล่นสำรวจได้เลย ไม่มีน้องหมาบ้านอื่นพอดีครับ เจ้าของร้านก็น่ารัก ยกชามน้ำมาให้น้องดื่ม เพราะเค้าก็คือ Pet Parents เหมือนกับผมนี่แหละ เลยเปิดร้านบริการแสนใจฟูแบบนี้

พอเจอร้านน่ารัก บรรยากาศดี วิ้งกี้เลยโชว์อภินิหารกินข้าวหมดกระปุกเลย 😊 อิ่มหนำสบายใจแล้วครับวันนี้

นี่ก็คือความน่าอยู่ของ “The MUVE สุขุมวิท 107” คอนโดที่เลี้ยงเจ้าขนปุยได้ ในสังคมที่เป็นส่วนตัว ผมเชื่อว่าการที่เราเลี้ยงลูกสี่ขาอยู่ด้วยกันก็มีค่าใช้จ่ายน้องเยอะแล้ว ถ้าเราเริ่มจากที่อยู่ที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนเยอะมาก ราคาเบา แต่อยู่ในทำเลที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมแล้วครับ

สำหรับใครที่สนใจโอนและจองภายใน 30 ก.ย. 68 ยังได้ อยู่ฟรีสูงสุด 1 ปี* ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า 4 รายการ* ฟรีฟูกและม่าน* และฟรีค่าจดค่าโอน รวมถึงส่วนกลางฟรี 1 ปี* อีกด้วยนะ เรียกว่าแทบจะหิ้วกระเป๋า เอาผ้าห่มติดมาก็อยู่ได้เลย คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ https://siri.ly/kOlxNq7

น้องวิ้งกี้ดีใจได้ไปวิ่งเล่นเชยชม “The MUVE Sukhumvit 107” คอนโด Pet Friendly ยูนิตไม่มาก พร้อมส่วนกลางอย่าง Pet Park ที่แรกของแบรนด์ The MUVE ในทำเลใกล้ BTS แบริ่ง 2 นาที แถมรายล้อมด้วยร้านอาหารคาเฟ่เพียบ ในราคาเริ่มเบาๆ 1.89 ล้าน คร้าบ

มาตรฐานใหม่ของ Pet Park ในแบรนด์ The MUVE ดีงามจริงๆ มีครบเลย

ห้อง Co-Working กว้างๆ

มุมแวะพักทานของว่าง

นั่งรับลมเย็นๆ ที่ Rooftop ชิลล์ๆ ผมสวยสะบัด

ห้องก็ทำ Layout มากำลังดี เหมาะกับอยู่กะเจ้าขนปุย

สายตาของคนรักกัน

พี่อายละลายเลยลู้กก

ไปชมโครงการจริงกันได้นะครับ

ข่าวสารน่ารู้

“โบทานิก้า ลักซูรี่ วิลล่า” รุกตลาดรีเทลครั้งแรก! เปิดตัว “The Grove by Botanica” คอมมูนิตี้มอลล์ใจกลาง “พรุจำปา” ปักหมุดแลนด์มาร์กสำคัญ เติมเต็มอีโคซิสเต็มครบวงจรบนทำเลมาแรง รองรับดีมานด์กลุ่ม HNWI โตพุ่ง หนุนขับเคลื่อน “ภูเก็ต” ฮับการลงทุนและไลฟ์สไตล์ไฮเอนด์ระดับโลก คาดแล้วเสร็จเตรียมเปิดให้บริการปลายปี 2569