ใครมีสัตว์เลี้ยงคู่ใจแบบพ่อแม่ไปไหนหนูขอไปด้วย วันนี้เรามีคอนโดแห่งใหม่ที่เป็นสถานที่แห่งความสุขสำหรับทุกคนมาให้ชมกันครับ ที่นี่คือ “The Cuvee พระราม 3 – สุขสวัสดิ์” คอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ สถานีราษฎร์บูรณะ เลี้ยงสัตว์ได้ เริ่ม 1.79 ล้าน*
พูดถึงสุขสวัสดิ์ หลายคนที่อยู่โซนนี้ คงเฝ้ารอ “การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้” อยู่ใช่มั้ยครับ รถไฟฟ้าเส้นนี้น่าสนใจมากเพราะเป็นเส้นทางที่จะเชื่อมต่อ 3 จังหวัด จากนนทบุรี ผ่านกรุงเทพฯ ทั้งฝั่งธนและฝั่งพระนคร ยาวไปจนถึงสมุทรปราการ เดินทางผ่านย่านเมืองเก่าไม่ว่าจะเป็นศรีย่าน หอสมุดแห่งชาติ สะพานพุทธ เข้าสู่ ถ.สุขสวัสดิ์ ทำให้ผู้คนจากกรุงเทพฯ ใต้เดินทางเข้าสู่เมืองสะดวกขึ้นมาก สามารถเปลี่ยนเส้นทางสู่รถไฟฟ้าอื่นได้ด้วย ทั้งสายสีน้ำเงินที่สถานีเตาปูน และสถานีสามยอด ไปเที่ยวเยาวราชสบาย, สายสีส้มที่สถานีผ่านฟ้า, ไปต่อสายสีแดงเข้มที่สถานีวงเวียนใหญ่ และไม่ไกลจากสายสีทองที่สถานีสะพานพุทธฯ นี่จะเป็นการเติมเส้นทางรถไฟฟ้าให้ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ที่มีประโยชน์มากครับ
The Cuvee พระราม 3 – สุขสวัสดิ์
ตัวโครงการเดอะ คิวเว่ พระราม 3 – สุขสวัสดิ์ตั้งอยู่ติดถนนสุขสวัสดิ์ ช่วงซอยสุขสวัสดิ์ 35/2 ครับ ทำเลนี้ถ้าคนใช้รถใช้ถนนจะสามารถเดินทางเชื่อมต่อสะพานสำคัญใกล้ๆ ได้สะดวก ถ้าเป็นขาเข้ามุ่งหน้าสู่วงแหวนอุตสาหกรรมแค่นาทีเดียวจากหน้าโครงการ มีให้เลือกระหว่างสะพานภูมิพล 1 เข้าพระราม 3 – สาทร หรือจะไปสะพานภูมิพล 2 ออกสู่บางนาสำโรง ส่วนสะพานพระราม 9 ก็ถือเป็นสะพานคู่ใจเอาไว้ใช้กลับบ้านจากทางด่วนเฉลิมมหานครเพราะจะพามาลงผ่านหน้าโครงการเลยครับ ส่วนพ่อบ้านแม่บ้านถ้าอยู่โซนสุขสวัสดิ์ – บางปะกอก – ทุ่งครุ นี่มี Hypermarket เยอะน่าดู แค่ Big C ก็มี 3 สาขา มี Homepro, Lotus’s, ไทวัสดุ, Makro Food Service ทั้งหมดนี้ไม่ต้องไปไหนเกิน 5 กม. จากคอนโดครับ นี่ยังไม่นับฝั่งพระราม 3 ที่ข้ามไปนิดเดียวซึ่งมีทั้ง HomePro, Central พระราม 3, Terminal21 พระราม 3 รออยู่ให้ใช้บริการ
และถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้แล้วเสร็จก็จะวิ่งไปตามแนว ถ.สุขสวัสดิ์ ซึ่งสถานีราษฎร์บูรณะที่อยู่ใกล้โครงการเพียงแค่ 1 นาทีถึง สถานีนี้จะมีอาคารจอดแล้วจรทั้ง 2 ฝั่งถนนด้วยครับ ก็ถือเป็นสถานีต้นๆ ของฝั่งนี้ที่จะนั่งเข้าไปในเมืองได้เลย
ภาพรวมโครงการ
ครั้งแรกที่ผมได้ฟังการพัฒนาโครงการเดอะ คิวเว่ พระราม 3 – สุขสวัสดิ์ ก็รู้สึกได้ว่านี่ถือเป็นคอนโดที่ทาง CMC ตั้งเป้าให้เป็นตัวแทนภาพยุคใหม่ของบริษัท เพราะเค้าคิดบนพื้นฐานของคนที่อยู่อาศัยทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะชอบทำอะไร เป็นคนแบบไหน อยากเลี้ยงสัตว์ใช่มั้ย เราจะมีให้ในคอนโดนี้ทั้งหมดกว่า 60 โซนกิจกรรม แล้วบางอย่างก็ไม่เคยเห็นโครงการไหนที่ใส่ให้มาก่อนด้วย อย่างเช่น สระว่ายน้ำของน้องหมาน้องแมว รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสุขภาวะที่ดีของลูกบ้าน ที่เค้าให้มาทั้งเครื่องฟอกอากาศ เครื่องกรองน้ำ แอร์ ซึ่งไม่ใช่ให้ผลิตภัณฑ์มาอย่างเดียวนะ แต่จะมีบริการ Service รองรับตลอด 3 ปีด้วย โอ้โห แถมยังเป็นคอนโดที่มาพร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าโครงการแล้วเสร็จและสามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี นี่จะเป็นคอนโดที่จะสร้างชื่อให้เค้าได้จริงๆ
โครงการตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 5 ไร่ครับ เป็นอาคารสูง 39 ชั้น 1 อาคาร รวมห้องพักอาศัย 817 ยูนิตกับอีก 7 ร้านค้า และมีอาคารจอดรถสูง 8 ชั้นแยกไปต่างหากตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอีก 1 อาคาร (รองรับที่จอดรถจำนวน 299 คัน) ทั้ง 2 อาคารนี้เชื่อมต่อกันทั้งชั้น 1 และชั้น 7 (เดินเข้าจากทาง Rooftop ของอาคารจอดรถ) เค้าออกแบบคอนเซปต์ดีไซน์ของพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ให้เหมือนการเดินทางเข้าสู่ธรรมชาติที่แตกต่างกันตามระดับความสูง จากผืนป่า ผ่านสายน้ำ เข้าไปผจญภัยในถ้ำ จนไปถึงยอดหน้าผาที่สามารถมองเห็นดาวบนท้องฟ้าได้ชัดเจนยามค่ำคืน โดยเค้าจัดวาง Facilities กระจายกันไปในหลายชั้น ซึ่งมันมีเยอะมาก ผมขอเล่าให้พอเห็นภาพไล่เรียงกันตามนี้ครับ
- ชั้น 1 ด้านนอกอาคารจะมีพื้นที่สวน, สนามเด็กเล่น, Basketball Court, Pets Park และที่นั่งพักผ่อนตามร่มไม้ ส่วนด้านในอาคารจะมีโถง Lobby แบบ Double Volume คอยต้อนรับพร้อมกับต้นไม้อยู่ภายใน เป็นตัวแทนให้เรารู้สึกว่าได้เดินเข้าป่ามาแล้วนั่นเอง
- ชั้น 7 จะมีส่วนของ Grand Lobby และพื้นที่ Semi-Outdoor อีกส่วนคอยรองรับคนที่เดินเชื่อมมาจากชั้นบนสุดของอาคารจอดรถ
- ชั้น 11 นี่เอาใจคนรักสัตว์ เพราะมีห้องให้มานั่งเล่นแยกทั้งน้องหมา น้องแมว มี Pet Swimming Pool ให้สนุกกันไม่ต้องไปไหน และใครอยากนั่งทำงานไปด้วย เล่นกับน้องได้ด้วยในส่วนกลางก็มี Pets-Working Space ให้อีก
- ชั้น 12 เป็นโซนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับทุกวัย ไม่ว่าจะ Harborland สำหรับหนูๆ, Multi Classroom และ Library สำหรับวัยเรียน, Co-Creative Space กับ Meeting Room พร้อมห้องส่วนตัวสำหรับคนทำงาน ใครอยากจะไลฟ์สด อ่านหนังสืออย่างเป็นส่วนตัวมีให้เลือกใช้ และก็ยังมีพื้นที่ Semi-Outdoor อย่าง BBQ Area และ Sky Urban ฟาร์มสำหรับทุกคนในครอบครัวด้วย
- ชั้น 12A เป็น Facilities เพื่อความบันเทิง ทั้งดูหนัง, ร้องคาราโอเกะ, จริงจังแบบ E-Sport หรือจะ Casual แบบบอร์ดเกม ปิงปอง โต๊ะพูล ก็มีให้มาเอนจอยทุกความบันเทิง
- ชั้น 18 อันนี้จะเป็นโซนสำหรับชาวแอคทีฟ มีทั้งห้อง VR Cycling, Boxing & Martial Arts, ห้องซ้อมดนตรี, Golf Simulator หรือจะออกแรงในการทำอาหารก็มีส่วนพื้นที่ Creative Kitchen เพื่อลับฝีมือกัน กับห้อง Arcade Mancave ที่รวบรวมเกมไฮเทคทั้งหมดไว้ที่นี่
- ขึ้นไปสุ่ชั้นบนที่ชั้น 30 จะเป็นโซนสระว่ายน้ำแรก มีทั้งสระเด็ก จากุซซี่ และพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระ
- ชั้น 38 จะเป็นโซนสระที่ 2 ของโครงการซึ่งมีขนาดใหญ่ให้ชมวิวเต็มตาในสไตล์ Infinity Edge มาพร้อมกับสระเด็ก และจากุซซี่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีสระปรับอุณหภูมิด้วย รวมทั้งฟิตเนสให้ชมวิวแบบพาโนรามา
- ชั้น 39 ชั้นบนสุดของโครงการ เป็นส่วนของ Sky Lounge ที่ออกแบบให้เพดานมีสีสันเหมือนแสงเหนือ เปรียบเสมือนได้ขึ้นมาสู่ยอดเขาแล้วมองดูท้องฟ้าที่จะมีแสงสีที่แตกต่างกันทั้งกลางวันกลางคืน
รูปแบบห้อง
ห้องที่นี่แบ่งเป็น 3 Type ครับ ได้แก่
- แบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 23 – 33 ตร.ม. เป็นห้องที่ออกแบบมาในสไตล์หน้ากว้าง มีห้องนอนที่เป็นผนังทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว และกั้นพื้นที่ครัวเป็นครัวปิดอยู่ติดกับระเบียง ห้องนี้เค้าทำเป็นห้องตัวอย่างที่สำนักงานขาย ซึ่งเราจะพาไปชมกันครับ
- แบบ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 55-64 ตร.ม. ห้องนี้มี Living Area ที่รวมพื้นที่ของส่วนนั่งเล่น พื้นที่กินข้าวเข้าไว้ด้วยกัน แถมมีมุม Working Area ติดกระจก ได้ครัวปิดขนาดใหญ่เป็นครัวรูปตัว L กั้นด้วยบานเลื่อนและผนังกระจกอยู่กลางห้อง มีห้องนอนใหญ่ที่ได้ห้องน้ำในตัว
- แบบ 2 Bedroom Loft ขนาดพื้นที่ใช้สอยประมาณ 47 – 59 ตร.ม. ห้องนี้ก็เป็นครัวปิดด้วยครับ ทำให้ทุกห้องไม่ว่าจะจิ้มห้องไหนก็ได้ครัวปิดทั้งหมด ชั้นล่างเป็นพื้นที่ของห้องนอนหลัก และส่วน Living Area ส่วนพื้นที่ชั้นบนจะเป็นส่วนของห้องนอนที่ 2 ซึ่งมีให้เลือก 2 Layout ทั้งแบบที่มีห้องน้ำในตัวด้านบน และส่วนที่เป็นห้องนอนเพียงอย่างเดียวครับ
โครงการขายแบบ Fully Fitted โดยจะตกแต่งส่วนของครัว ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้ามาให้ มีการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่คำนึงถึงสัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใช้กระเบื้อง SPC ที่จะมีความทนทานต่อรอยขีดข่วนและถนอมข้อต่อ, ยางรองกรอบประตูกันเสียง, เฟอร์นิเจอร์เคลือบเมลามีนทนความร้อน ความชื้นและรอยขีดข่วน ลดความกังวลใจเรื่องขนของน้องๆ ด้วยเครื่องฟอกอากาศที่มีให้ทุกห้อง แถมด้วย Pet Service Solution ที่ช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงครบวงจรทั้งเรื่องของโรงพยาบาลสัตว์ บริการฝากเลี้ยง อาบน้ำตัดขน และ Pet Shop เรียกว่าอยู่ให้อุ่นใจและมีความสุขสำหรับทุกชีวิตครับ ในราคาเริ่ม 1.79 ล้าน* บาท ใครที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่ https://www.cmc.co.th/the-cuvee-suksawat/ เลยครับ
เปิดความน่ารักมากับเจ้าสี่ขาแบบนี้ แน่นอนว่าโครงการที่จะพาไปชมต้องเลี้ยงสัตว์ได้แน่นอน ที่นี่คือ “The Cuvee Rama 3 – Suksawat” คอนโดวิวโค้งน้ำบางกระเจ้าและแม่น้ำเจ้าพระยา ตกแต่งเสมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติผืนป่าน้ำตก กับส่วนกลางให้จัดเต็มทั้งคนและสัตว์ แถมใกล้ MRT สายสีม่วงใต้ระยะ 700 ม. เริ่ม 1.79 ล้าน
รีวิวคอนโดวันนี้ น้องวิ้งกี้จะพาทุกคนไปชมเองค่า
พรีวิวให้เห็นฟังก์ชันการใช้ชีวิตกับเจ้าขนปุยแบบไม่ต้องหลบซ่อน
คนรักสัตว์ต้องใจฟูกันแน่นอนล่ะ ไปชมกันเลยครับ
ที่นี่เป็นคอนโด High Rise สูง 39 ชั้น มีทั้งหมด 821 ยูนิต ซึ่งนอกจากห้องมีให้เลือกหลายรูปแบบหลายขนาด ก็ยังมีไฮไลต์ที่ส่วนกลางกว่า 60 กิจกรรมของเค้านี่แหละครับ
เก็บไฮไลต์ไว้ว้าวทีหลัง ก่อนอื่นผมจะพาทุกคนไปชมห้องตัวอย่างของเค้าเลยดีกว่า ที่นี่มีรูปแบบห้องตั้งแต่ 1 Bedroom 23-33 ตร.ม., 2 Bedroom 55-64 ตร.ม. และมีห้อง Duplex 2 ชั้น ขนาด 47-59 ตร.ม. ด้วยครับ
ห้องตัวอย่างวันนี้เป็นห้องรูปแบบ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 26 ตร.ม. ที่มีสเปซกำลังดี เล่นเพลิดเพลินกับน้องหมาในห้องได้ชิลล์ๆ
ส่องพื้นที่คร่าวๆ เปิดประตูเข้ามาก็จะเจอกับโซน Living มีห้องน้ำที่จุดนี้ ข้างกันมีประตูบานเลื่อนเข้าไปที่ครัวซึ่งเป็นครัวปิดติดระเบียง และห้องนอนประตูบานทึบได้ความเป็นส่วนตัว
ไปเที่ยวเล่นกลับมาถึงห้องก็เก็บรถเข็นและสายจูงให้เรียบร้อย แล้วไปนอนเล่นกันบนโซฟาให้หายเหนื่อยก่อน พื้นที่ตรงนี้ดีไซน์ได้ตามชอบ จะวางโซฟาขนาดเล็กพร้อมโต๊ะกินข้าวแบบนี้ก็ครบครันดี หรือชอบนอนเหยียดแข้งเหยียดขา จะวางโซฟาตัวยาวเต็มพื้นที่ก็ได้
ฝั่งตรงข้ามก็เป็นจุดวางทีวีได้ในระยะเหลือพื้นที่ให้นอนฟัดกันบนพื้นได้ ซึ่งพื้นที่นี่เค้าให้เป็น SPC Click Lock กระเบื้องยางที่ช่วยถนอมข้อต่อของน้องๆ ทนน้ำ และรอยขีดข่วนด้วยครับ เล่นกันได้เต็มที่
เล่นกันจนพอใจแล้วก็เข้าห้องน้ำมาอาบน้ำอาบท่าคลายร้อนซักหน่อย ห้องน้ำเค้าตกแต่งกระเบื้องสีเทาเข้มสวยงามมาแบบนี้ ผมชอบที่เค้าทำพื้นที่วางอุปกรณ์ในห้องน้ำได้เยอะเลย นอกจากวางแชมพูและครีมอาบน้ำของตัวเองแล้วก็ต้องมีของลูกสี่ขาเราด้วยแน่นอน แค่อย่าหยิบผิดก็พอนะ
เริ่มหิวท้องกิ่วกันแล้วล่ะ เปิดเข้าประตูบานเลื่อนกระจกมาเตรียมอาหารกันก่อน จะต้มผัดแกงทอดก็ได้ครบแบบไม่ต้องกลัวกลิ่นและควันนะ และอย่าลืมเทอาหารให้น้องหมา แล้วร้องเพลงตามสเต็ป นปโปะหม่ำๆ หม่ำๆ กู๊ดบอย ให้เค้าเจริญอาหารมากขึ้นครับ ฮ่าๆ
เปิดมาชมวิวยามเย็นที่ริมระเบียงซักหน่อย ก็ทำเป็นโซนซักล้าง วางเครื่องซักผ้า ติดราวตากผ้าได้จบที่ตรงนี้
หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน เข้ามานอนพักผ่อนกันดีกว่า ห้องนอนก็สามารถวางเตียงขนาด Queen Size ได้สบาย ยังพอมีพื้นที่รอบๆ เตียงให้เดินไปมาได้อยู่นะ ส่วนหน้าต่างก็ขนาดกำลังโอเค นั่งชมวิวกันได้ทั้งคู่ มาพร้อมบานกระทุ้งให้เปิดรับลมระบายอากาศ
อะ วิ้งกี้ยิ้มหน่อย Say Cheese
ข้างๆ เตียงก็มีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้า ซึ่งผมว่าใครที่เลี้ยงน้องหมานี่น่าจะมีพร็อพและเสื้อผ้าของน้องเยอะไม่แพ้คนเลยล่ะ อย่างผมเองไปไหนเจออะไรน่ารักก็ซื้อมาให้เค้าใส่ เห็นแล้วสุขใจทุกครั้ง
นี่ก็เป็นพื้นที่และฟังก์ชันให้พอเห็นภาพการอยู่อาศัยกับเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราครับ แค่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนเป็นคนนึงในครอบครัว ผมว่าก็มีความสุขทุกวันแล้วล่ะ
ต่อไปจะพาเดินเล่นชมส่วนกลางกันบ้าง ที่นี่เค้าจัดให้มากกว่า 60 กิจกรรม ไม่ใช่แค่ของคน ยังมีของสัตว์เลี้ยงแยกให้ใช้ด้วยล่ะ แล้วเค้าก็ยังออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้เหมือนเราได้ไปเที่ยวเล่นในผืนป่า ลำธาร ถ้ำ และไปล่าแสงเหนือกันด้วย
และเนื่องจากที่นี่เป็นตึกสูงอยู่ในย่านสุขสวัสดิ์ไม่ไกลแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนกลางก็จะมีวิวเมือง ตัดกับวิวแม่น้ำและผืนป่าบางกระเจ้า ทำให้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติเข้าไปอีกขั้น จะสวยงามแค่ไหน ไปชมกัน
ที่ชั้น 1 ในโซน Outdoor ก็จะมีทั้งพื้นที่สีเขียว, Trail ให้เดินเล่นรับลม, สวนสนุกสำหรับเด็กๆ วัยกำลังซน และ Pets Park ให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ มาเจอกับเพื่อนๆ นอกจากน้องจะดีใจได้เพื่อนใหม่ คนรักสัตว์อย่างเจ้าของก็จะได้เล่นกับลูกๆ บ้านอื่นด้วย 555
ทางด้านหลังก็มี Pavilion ในสวนให้พ่อๆ แม่ๆ มานั่งชมนกชมไม้ ใกล้กันมี Basketball Court เอาใจน้องๆ วัยกำลังชอบเล่นกีฬา เรียกได้ว่ามีส่วนกลางสำหรับทุกเจนครับ
กลับจากเมืองที่แสนวุ่นวาย เข้ามาใน Lobby ก็ผ่อนคลายได้ทันที เค้าทำเป็นแบบ Double Volume สูงโปร่ง ซึ่งก็ยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติเพราะตกแต่งด้วยต้นไม้ กับบรรดานกน้อยตามธีม Under The Tree พร้อมกระจกเต็มความสูงชมวิวด้านนอกได้ทั้ง 2 ฝั่ง
มาถึงส่วนกลางชั้น 11 ที่ผมว้าวมากๆ เพราะเค้ามีทั้ง Pets Play Room และห้องพักผ่อนที่ทำแยกเฉพาะมาให้ทั้งน้องหมาและน้องแมวครับ แถมยังมีสระว่ายน้ำให้น้องออกกำลังกายชุ่มฉ่ำได้ด้วย ผมยังไม่เคยเห็นที่ไหนทำขนาดนี้นะ
ต่อมาชั้น 12 เรามา Look At The Stream ที่เค้าออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากลำธาร ตกแต่งให้มีโค้งเสมือนคลื่นน้ำที่เคลื่อนไหว ชั้นนี้มีส่วนกลางครบสำหรับ All Gen อย่าง Harborland Space สวนสนุกในร่มเพื่อน้องๆ หนูๆ
ลื่นไหลมาที่ Library แวะเปิดหนังสืออ่านพร้อมชมวิวเมืองสวยๆ มีพื้นที่หลากหลายแบบทั้งโต๊ะเดี่ยว โต๊ะกลุ่ม และ Amphitheater
มาถึงพื้นที่สำหรับวัยทำงานอย่างเราบ้างครับ เค้ามี Co-Working Space และ Meeting Room ให้มานั่งทำงานเดี่ยว หรือจะชวนกันทำโปรเจคก็มีพื้นที่พร้อม
ถ้ายังไม่จุใจ ก็มี Live Studio มาให้สำหรับนักค้าขายออนไลน์ได้มาถ่ายรูปและไลฟ์สดขายสินค้า นอกจากนี้ก็มี Multi Classroom ที่จ้างติวเตอร์มาสอนได้ถึงในคอนโด
จริงจังกันมานานแล้ว อยากผ่อนคลายก็มีโซน Semi Outdoor ให้เปลี่ยนบรรยากาศครับ
ครอบครัวไหนสายปิ้งย่าง เค้ามี BBQ Area ไว้ให้ถึงที่ ปิ้งย่างไปชมวิวเมืองแสงสีของตึก ชมท้องฟ้าและหมู่ดาวไป คงเพลิดเพลินกันน่าดู
ขึ้นมาชั้น 12A เราจะมาปลดปล่อยความสนุกกันบ้างละ เปิดด้วยห้องเล่นเกม และห้อง E-Sport ของเค้า สายเกมอย่างผมก็คงมีชั้นนี้แหละที่ล่อตาล่อใจสุดๆ
หรือใครสาย Old School หน่อย ก็มีห้องสำหรับบอร์ดเกม, Football Table, โต๊ะ Pool และโต๊ะปิงปองให้มาดวลฝีมือกับเพื่อน ตรงนี้มีบาร์ เหมาะกับจะจัดปาร์ตี้สนุกสุดเหวี่ยง
ส่วนสายดูหนัง มาที่ Theatre House พาสุดที่รักมาเดต เป็น Movie Night สำหรับเราสอง ดูหนังได้แบบส่วนตัวไปเลย
ปาร์ตี้ทั้งที สิ่งนี้ขาดไม่ได้ Karaoke Room ให้ประชันลูกคอกันต่อ จะเต้นจะร้องจะเล่นก็เอาให้สุด
ขึ้นมาชั้น 18 เราจะพาไป Explore The Cave เค้าตกแต่งได้แรงบันดาลใจมาจากถ้ำ มีการไล่ Layer ที่ผนังในจุดต่างๆ อย่างห้อง Creative Kitchen ให้มาโชว์ฝีมือการทำอาหาร หรือจะจ้างเชฟมาเสิร์ฟถึงบ้านก็ได้
ทานข้าวอิ่มแล้วก็มาหวดสวิงกันซักหน่อย ที่ห้อง Golf Simulator แห่งนี้
เอาใจนักดนตรีบ้าง Musicbox Studio ก็มา นอกจากการเล่นกีฬา ก็มีการเล่นดนตรีนี่แหละที่จะทำให้สาวๆ กรี๊ด สมัยผมยังเด็กๆ ต้องไปหาเช่าสตูดิโอนอกซ้อมดนตรีกับเพื่อน ตอนนี้มีให้ถึงในคอนโด สะดวกสบายสุดๆ
สำหรับสาย Healthy เค้าก็มี Indoor Cycling & Studio Bikes ให้ปั่นจักรยานเสมือนจริง จะปั่นขึ้นเขาลงเขาก็ปลอดภัย อีกห้องคือ Boxing & Martial Arts นอกจากมาต่อยมวยออกกำลัง ก็ยังมาระบายอารมณ์ได้ด้วย ฮ่าๆ
ขึ้นมาชั้น 30 มองดูหมู่ดวงดาวให้ใกล้ชิดกว่าเดิม เริ่มมีการตกแต่งด้วยไฟระยิบระยับเสมือนดาวบนฟ้า ชั้นนี้ก็มี Sky Swimming Pool ทั้งสระเด็กและผู้ใหญ่ พร้อมอ่าง Jacuzzi ให้ผ่อนคลายกับสายน้ำ
ชั้น 38 ยิ่งสูงยิ่งสวย ชั้นนี้มี Crown Warm Pool ให้มาแช่น้ำอุ่นๆ และมีจุดนั่งพักผ่อนชมวิวแบบสุดลูกหูลูกตา
มาถึง Fitness Cliff ให้ออกกำลังกายเสมือนอยู่บนหน้าผาสูงชัน มีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมอุปกรณ์หลากหลายทั้ง Cardio และ Weight Training ครับ
พามาล่าแสงเหนือที่ Clubhouse Aurora Borealis ที่อยู่ชั้นสูงที่สุดของโครงการ ตกแต่งด้วยแสงไฟที่ดูเหมือนแสงเหนือ เป็นอีกจุดสุดอลังการให้มานั่งพักผ่อนพบปะสังสรรค์กัน
เป็นไงกันบ้างครับ ถือว่าตื่นตาตื่นใจกันเลย ผมนี่อยากจะชมของจริงตึกจริงซะเหลือเกิน เค้าจะเริ่มก่อสร้างสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะเสร็จปี 70 ครับ ใกล้ๆ กับรถไฟฟ้าพอดิบพอดี
ใครที่สนใจ สามารถพาน้องๆ ขนปุยเข้าไปชมห้องตัวอย่างได้ที่ Sales Gallery ของโครงการ ‘เดอะ คิวเว่ พระราม 3 – สุขสวัสดิ์’ ได้ทุกวันคร้าบบ
