อยู่ในเมืองใหญ่..จะหาคอนโดอยู่สักที่ นี่ตัดสินใจยากมั้ยครับ? ชาวออฟฟิศอยากสะดวก ชิดรถไฟฟ้า แต่ราคานี่สินับวันจะพุ่งแซงการปรับเงินเดือน คนรักธรรมชาติ อยากได้บรรยากาศร่มรื่น แต่ถ้าออกมาแล้วเงียบเหงา ก็ต้องจับเจ่าอยู่แต่ในห้อง ชาว
กว่าจะได้เป็นชาวคอนโดนี่ไม่ง่ายนะฮะ เริ่มนับหนึ่งจากควานหาห้องที่ใช่ โครงการที่ชอบ กี่ห้องตัวอย่างที่มีก็ไปดูแล้วดูอีก เพื่อให้มั่นใจว่านี่แหละตรงใจเราจริงๆ ผ่านขั้นตอนนี้ไป ก็เข้าสู่เรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นกู้ หรือทุบกระปุกคงคลัง
“เฮ้ย นี่ถิ่นข้า เดี๋ยวพาเที่ยวเอง” ผมได้ยินคำนี้จากเพื่อนคนนึงที่เรียนจบจากจุฬาฯ ตอนที่เจอกันขณะมุ่งหน้าไปสมัครเรียนปริญญาโทที่นู่นเมื่อหลายปีมาแล้ว ความรู้สึกของเราคือ แปลกที่แปลกถิ่น ทั้งๆ ที่อยู่ใจกลางเมือง ก็แหงล่ะนะ
พูดถึงโครงการที่อยู่ซอยทองหล่อแล้ว ใครๆ ก็นึกถึงความหรูหรา และการได้อยู่ท่ามกลางแสงสีที่คึกคักแบบ 24/7 ความหรูหรานี้บางครั้งก็ซับซ้อน ประโคมด้วยการปรุงแต่งที่ฟุ่มเฟือย จัดจ้าน แต่โครงการที่เราจะพามาชมนี่มีความแตกต่างบางอย่างที่เค้าตั้งใจทำให้เป็นเอกลักษณ์ คือ เลือกใช้การออกแบบที่ลดทอนสิ่งไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุด
ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่ แก้วน้ำ จานชาม บันได โคมไฟที่สวยงามมม …
วันนี้แว่นพามาดูคอนโดเปิดใหม่ในทำเลหัวหมาก พิกัดใกล้แยกลำสาลีประมาณ 300 ม. พูดถึงชื่อนี้หลายคนอาจจะต้องร้องซี้ด ด้วยความที่เป็นแยกขึ้นชื่อเรื่องรถราหนาแน่น จนเอามาแซวเป็นจุดเช็คอินชื่อลำสาหัส ฮ่าๆ แต่อดใจรออีกไม่กี่ปี ลำสาลีจะผงาดกลายเป็นจุดเช็คอินสำหรับคนที่ขึ้นรถไฟฟ้าแทน เพราะที่นี่แหละที่จะเป็นจุด
กลับมาอีกครั้งสำหรับ Series พาชมคอนโดพร้อมอยู่ ซึ่งวันนี้แว่นจะพาไปดูคอนโดสีแดงอิฐสูง 36 ชั้น ตั้งตระหง่านเป็นเอกลักษณ์อยู่ตรงเกือบๆ หัวมุมแยกรามคำแหง ที่ถ้าใครผ่านมาแถวนี้ก็จะสังเกตเห็นไม่ยาก นั่นก็คือ The
อยู่ในเมืองใหญ่..จะหาคอนโดอยู่สักที่ นี่ตัดสินใจยากมั้ยครับ? ชาวออฟฟิศอยากสะดวก ชิดรถไฟฟ้า แต่ราคานี่สินับวันจะพุ่งแซงการปรับเงินเดือน คนรักธรรมชาติ อยากได้บรรยากาศร่มรื่น แต่ถ้าออกมาแล้วเงียบเหงา ก็ต้องจับเจ่าอยู่แต่ในห้อง ชาว Startup อยากเริ่มทำงานในคอนโด แต่พื้นที่ก็มีจำกัด ไม่รู้จะวางที่ทำงานตรงไหน จริงๆ มีอีกหลายความคิดที่ขัดแย้งกันเวลาจะตัดสินใจเลือกคอนโดสักที่ เพราะนี่เป็นก้าวสำคัญที่จะผูกพันเราไปอีกนาน อย่างแว่นเองชอบที่จะอยู่คอนโดนะครับ เพราะไม่ต้องดูแลมาก และยังเดินทางง่ายถ้าเราเลือกทำเลใกล้รถไฟฟ้า แต่อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ “ชีวิตที่อยู่นอกห้อง” นอกเหนือจากการทำงาน เราจะไปพักผ่อน กินข้าว
กว่าจะได้เป็นชาวคอนโดนี่ไม่ง่ายนะฮะ เริ่มนับหนึ่งจากควานหาห้องที่ใช่ โครงการที่ชอบ กี่ห้องตัวอย่างที่มีก็ไปดูแล้วดูอีก เพื่อให้มั่นใจว่านี่แหละตรงใจเราจริงๆ ผ่านขั้นตอนนี้ไป ก็เข้าสู่เรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่ว่าจะเป็นการยื่นกู้ หรือทุบกระปุกคงคลัง ผ่านหลายกระบวนการกว่าจะได้ห้องมาครอบครอง แต่เรื่องราวมันไม่ได้จบแค่ตอนซื้อนี่สิ เพราะส่วนใหญ่โครงการขายให้เราเป็นห้องเปล่า อย่างมาตรฐานที่ได้ยินกันบ่อยๆ ว่า “Fully-Fitted” ก็คือมีครัว กับห้องน้ำที่ทำมาไว้แล้ว แต่ที่เหลือนี่แหละคือเรื่องใหญ่ ต้องไปหาเฟอร์นิเจอร์ หรือหาของตกแต่งอะไรต่อมิอะไร จนกว่าห้องเปล่าจะกลายร่างเป็นห้องที่อยู่ได้จริงๆ จุดเริ่มต้นของความยุ่งยากก่อนเข้าอยู่ ก็คือการแต่งห้องนี่แหละคับ ถ้าจะเอาแค่อยู่ได้
“เฮ้ย นี่ถิ่นข้า เดี๋ยวพาเที่ยวเอง” ผมได้ยินคำนี้จากเพื่อนคนนึงที่เรียนจบจากจุฬาฯ ตอนที่เจอกันขณะมุ่งหน้าไปสมัครเรียนปริญญาโทที่นู่นเมื่อหลายปีมาแล้ว ความรู้สึกของเราคือ แปลกที่แปลกถิ่น ทั้งๆ ที่อยู่ใจกลางเมือง ก็แหงล่ะนะ ถ้าเทียบกับคนที่เรียนอยู่ตรงนี้มาสี่ห้าปี จนรู้สึกผูกพันและรู้สึกว่ามันคือ “ถิ่นของเขา” เพราะตัวเรานั้นสมัยเรียน ป.ตรี ก็เด็กฝั่งรังสิต คู่แข่งลับแข้งของจุฬาฯ จนต้องชวนกันมาเตะฟุตบอลกันทุกปี (ไม่ต้องเดานะที่ไหน 55) แต่ไหนๆ แล้วพอจะเข้า ป.โท ก็ขอมาตามความฝันเรียนมันใจกลางเมืองที่เค้าว่ากันว่าเป็นมหาลัยที่เก่าแก่ที่สุดดูสักที แต่แถบนี้หลายๆ
พูดถึงโครงการที่อยู่ซอยทองหล่อแล้ว ใครๆ ก็นึกถึงความหรูหรา และการได้อยู่ท่ามกลางแสงสีที่คึกคักแบบ 24/7 ความหรูหรานี้บางครั้งก็ซับซ้อน ประโคมด้วยการปรุงแต่งที่ฟุ่มเฟือย จัดจ้าน แต่โครงการที่เราจะพามาชมนี่มีความแตกต่างบางอย่างที่เค้าตั้งใจทำให้เป็นเอกลักษณ์ คือ เลือกใช้การออกแบบที่ลดทอนสิ่งไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุด เหลือเพียงความเรียบง่าย ที่ได้รับการคัดสรรมาแล้วอย่างประณีต บรรจง Craftsmanship เส้นสายและการตกแต่งตามสไตล์งานฝีมือ ให้เกิดเป็นโครงการในแบบ Minimal Luxury และที่สำคัญ โครงการนี้เชื่อมโยง ลมหายใจของความเป็นทองหล่อที่ไม่เคยหลับไหล ด้วยการพัฒนาที่พักอาศัยแบบ Mixed use ที่มีส่วนกลางบริเวณชั้นล่างๆ เปิดต้อนรับชาวทองหล่อ ทั้งเป็นที่พบปะสังสรรค์ หรือมาพักผ่อนท่ามกลางสวนสีเขียว
ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่ แก้วน้ำ จานชาม บันได โคมไฟที่สวยงามมม … แว๊บแรกที่ได้เดินเข้าไปชมโครงการ เพลง Home นี้ก็ผุดขึ้นมาในหัว ไม่ใช่เพราะห้องตัวอย่างเค้าตกแต่งด้วยของต่างๆ เหล่านี้ แต่เป็นความรู้สึกอบอุ่นที่ส่งมาถึงเราผ่านโทนสี วัสดุ เฟอร์นิเจอร์ และของประดับน้อยใหญ่ที่เลือกใช้ไว้อย่างเข้ากัน ด้วยสีอ่อนสบายตา และอิงจากวัสดุธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอุ่นใจเหมือนอยู่บ้าน ซึ่งก็ไม่สงสัยเลยเพราะผู้พัฒนาโครงการเค้าเชี่ยวชาญในการสร้างบ้านมากว่า 30 ปี
วันนี้แว่นพามาดูคอนโดเปิดใหม่ในทำเลหัวหมาก พิกัดใกล้แยกลำสาลีประมาณ 300 ม. พูดถึงชื่อนี้หลายคนอาจจะต้องร้องซี้ด ด้วยความที่เป็นแยกขึ้นชื่อเรื่องรถราหนาแน่น จนเอามาแซวเป็นจุดเช็คอินชื่อลำสาหัส ฮ่าๆ แต่อดใจรออีกไม่กี่ปี ลำสาลีจะผงาดกลายเป็นจุดเช็คอินสำหรับคนที่ขึ้นรถไฟฟ้าแทน เพราะที่นี่แหละที่จะเป็นจุด Interchange ของรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ทั้ง MRT สายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) BTS สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และ BTS สายสีน้ำตาล (แยกลำสาลี-นนทบุรี) มีให้เห็นกันบ่อยๆ
กลับมาอีกครั้งสำหรับ Series พาชมคอนโดพร้อมอยู่ ซึ่งวันนี้แว่นจะพาไปดูคอนโดสีแดงอิฐสูง 36 ชั้น ตั้งตระหง่านเป็นเอกลักษณ์อยู่ตรงเกือบๆ หัวมุมแยกรามคำแหง ที่ถ้าใครผ่านมาแถวนี้ก็จะสังเกตเห็นไม่ยาก นั่นก็คือ The Base Garden พระราม 9 จากแสนสิริคร้าบ ตั้งแต่ช่วงเปิดขายใหม่ๆ หลายคนเคยสงสัยว่า แสนสิริมาทำโครงการใหม่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับของเดิม แต่ทำไมราคาสูงกว่าพอสมควร ตอนนี้ก็ตามมาดูด้วยตาพร้อมกันหลังตึกเสร็จก็จะเห็นว่าทำไม The Base ตัวนี้ถึงไม่เหมือนเดิม แล้วก็ลืมภาพห้องตัวอย่างสมัยขายแรกๆ ไปได้เลย
