Niche MONO แจ้งวัฒนะ
เราจะพาทุกคนลัดเลาะไปกับย่านแจ้งวัฒนะที่ตั้งของโครงการ “Niche MONO แจ้งวัฒนะ” ในวันที่โครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง กำลังก้าวหน้าและเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการใช้ชีวิตให้ครบ และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่ออนาคตอันใกล้นี้
ย่านนี้มีอะไร?
แจ้งวัฒนะ มีที่มาจากถนนชื่อเดียวกัน ซึ่งจุดกำเนิดของต้นแบบความเป็นเมืองที่นี่ต้องเริ่มจากอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งเป็นทั้งสถานที่ประชุม จัดแสดงสินค้า และคอนเสิร์ตระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีทั้งออฟฟิศ ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และที่อยู่อาศัย พัฒนาเกิดขึ้นใหม่เรื่อยมา อยู่รวมกันด้านในกลายเป็นเสมือนเมืองขนาดย่อมๆ มีผู้คนใช้ชีวิตหมุนเวียนแต่ละวันหลักแสน แต่ชีวิตในนี้จะสะดวกขึ้นไปอีก หลังจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูเริ่มใช้งาน เพราะเค้ามีสถานีวิ่งเข้าสู่เมืองทองธานีเลยครับ
ในย่านนี้ ยังเป็นที่ตั้งของแหล่งงานขนาดใหญ่ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดคนให้เข้ามาในพื้นที่ ทั้งศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ที่มีหน่วยงานรายการต่างอยู่รวมกันเป็น Complex ขนาดมหึมากว่า 29 กระทรวง ซึ่งทางภาครัฐมีแผนที่จะย้ายกระทรวงต่างๆมาอยู่รวมกัน ในอนาคต นอกจากนี้ ยังมี “ซอฟต์แวร์ พาร์ค” ศูนย์รวมออฟฟิศทางด้าน IT และเทคโนโลยี ที่สำคัญยังอยู่ใกล้กับสนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นสนามบินที่ยังคงได้รับความนิยมจากความเติบโตของสายการบินแบบ Low-cost Airline ทั้งในและต่างประเทศ จนต้องขยายไปสู่เฟสที่ 3 โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จ ปี 2567 เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นได้กว่า 50 ล้านคนต่อปี แถมตอนนี้เค้าก็เตรียมการในการเชื่อมต่อ Skywalk เข้ากับรถไฟฟ้าสายสีแดงให้ผู้คนที่ใช้สนามบินดอนเมืองได้มีทางเลือกอื่นนอกจากแท็กซี่กันซักทีครับ
การเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก
ที่ผ่านมาการเดินทางด้วยรถเป็นช่องทางหลักที่สะดวกที่สุด เพราะถนนแจ้งวัฒนะเป็นถนนใหญ่ขนาด 8 เลน เชื่อมต่อมาจาก ถ.ชัยพฤกษ์ ไปออกทั้งวิภาวดีรังสิต และพหลโยธินได้ แถมมีทางด่วนให้ใช้งานได้สะดวกทั้งทางด่วนศรีรัช และดอนเมืองโทลล์เวย์ แต่ที่ทำให้การเดินทางที่นี่จะเปลี่ยนโฉมหน้าไปเลยในปีหน้าก็คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่วิ่งผ่านถนนแจ้งวัฒนะทั้งเส้น แถมยังเป็นรถไฟฟ้าที่มีจุดเชื่อมต่อกับสายอื่นๆ ได้อีกถึง 5 สาย คือ เชื่อมสายสีม่วงที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี, เชื่อมต่อสายสีแดงที่สถานีหลักสี่, เชื่อมต่อสายสีเขียวที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ, เชื่อมต่อสายสีเทาที่สถานีวัชรพล และสุดท้ายไปเชื่อมต่อสายสีส้มที่สถานีมีนบุรี ครับ เมื่อโครงสร้างทั้งหมดแล้วเสร็จ ก็ไม่ต้องปวดหัวกับการจราจรแล้วล่ะทีนี้
แถวนี้ก็ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ รองรับครับ ไม่ว่าจะเป็นสถานศึกษาอย่าง รร.สวนกุหลาบ นนทบุรี, ม.ธุรกิจบัณฑิตย์, มสธ., ม.ราชภัฎพระนคร และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ของ CP ALL ส่วนโรงพยาบาลก็มี รพ.เวิลด์เมดิคอล และ รพ.มงกุฎวัฒนะ ใครใคร่ช้อปก็มีห้างและ Lifestyle Mall ให้เดินเล่นในยามว่างทั้ง เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ห้างแม่เหล็กของฝั่งนี้ที่มีทุกสิ่งครบครัน และที่เราชอบมากก็คือมี Government Center หรือชื่อไทยว่า ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ถามว่าเบ็ดเสร็จยังไงก็ทำได้ทั้งบัตรประชาชน, ชำระค่าน้ำค่าไฟ, ต่อภาษีรถยนต์, บริการด้านแรงงาน, รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ รวมไปถึงรับแจ้งความก็ทำได้ที่นี่หมดเลย หรือถ้าอยากซื้อของใช้ก็มี Tesco Lotus, บิ๊กซี และ Makro ให้เลือก แต่หากอยากพักผ่อนแบบชิลล์ๆ ก็เดินเล่น The Avenue แจ้งวัฒนะ ที่อยู่ใกล้ๆ กันได้ครับ
ภาพรวมโครงการและราคา
เห็นภาพของย่านแจ้งวัฒนะกันไปพอหอมปากหอมคอ ขอเข้าสู่ตัวโครงการในวันนี้นั่นก็คือ “Niche MONO แจ้งวัฒนะ” โครงการใหม่จาก เสนา ฮันคิว ที่มาในคอนเซปต์ Recharge Your Digital Life เพราะได้รับการออกแบบโดยนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อรองรับการอยู่อาศัยให้สะดวกสบาย ด้วยระบบ QR Code Security Access, Smart Locker, Vending Machine, EV Charger, บริการ Hi-Speed Wifi ครอบคลุมทุกพื้นที่ส่วนกลาง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ภายในโครงการ อย่าง Co-Working Space & Mini Bar, Digital Theater ที่รองรับ VDO Streaming อย่าง Netflix ที่เราๆ ชอบดูกัน, Upbeat Active Pool ที่เพิ่มความสุนทรีย์ในการว่ายน้ำบนสระ Infinity Edge ท่ามกลางเสียงดนตรี ซึ่งมีทั้งพื้นที่สระเด็ก และ จากุซซี่ในตัว, Fitness ขนาดใหญ่บนพื้นที่ 200 ตร.ม. มีทั้ง Cardio และ Free Weight Zone, Playground & Kids Zone, Sky Rooftop Facilities ที่มีทั้งสวน, ลู่วิ่ง, โซนโยคะ, โซน BBQ และ Sky Terrace ให้นั่งพักผ่อนเอนจอยไปกับท้องฟ้ายามค่ำคืน และบริการหลังการขายทั้งหมดที่เกี่ยวกับการอยู่อาศัยที่สะดวกแค่ปลายนิ้วด้วย SENA 360 Application ครับ
ตัวโครงการอยู่ห่างเพียง 120 ม. จากสถานีศรีรัชฯ เป็นอาคารสูง 35 ชั้น รวม 921 ยูนิต ในพื้นที่รวม 3 ไร่กว่า พร้อมที่จอดรถประมาณ 47% Unit Type ที่นี่มีทั้งแบบ 1Bedroom ขนาด 28 และ 31 ตร.ม. กับ 2Bedroom ขนาด 53 ตร.ม. และด้านหน้าโครงการมี 7-11 รองรับลูกบ้านเพื่อเพิ่มความสะดวกอีกด้วยครับ ส่วนราคาเริ่มต้นที่นี่อยู่ที่ 1.79 ล้านบาทครับ มีเงินจองแค่ 5,000 ผ่อนเริ่ม 5,000 บาท/เดือน ก็ซื้อที่นี่ได้แล้วครับ
ความน่าสนใจยังไม่หมดแค่นี้นะครับ เพราะเรื่องอาหารการกินแถวนี้ก็มีไม่ขาดเช่นกัน มีร้านหลากหลายให้เลือกเยอะแยะ เอาแค่ในเมืองทองฯ มีทั้งร้านเจ้าเก่าที่เป็นตึกแถว ร้านใหม่ๆ ใน BEE HIVE หรือร้านขึ้นห้างในคอสโม บาซาร์ ซึ่งมี Max Value เปิดตลอด 24 ชม. และถ้าดูจากถนนแจ้งวัฒนะเส้นหลักเอง จะริมถนน หรือเข้าออกตรอกซอยน้อยใหญ่ก็มีทั้งคาเฟ่สวยๆ และร้านอาหารบรรยากาศดีให้เลือกเช่นกัน ซึ่งวันนี้เราจะพาไปชิม 2 ร้านเด็ดของย่านนี้ เริ่มจากกาแฟรสชาติเข้มข้นกลมกล่อมที่ PaPa’ Chao Café ร้านน่ารักๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านของลุงเชาว์ผู้เป็นเจ้าของแถมอัธยาศัยดีมาก กับร้านอาหาร Din Din Thai Cuisine ร้านอาหารใต้โฮมเมดรสชาติแบบฉบับต้นตำรับในบรรยากาศชิโนโปรตุกีส หน้าตากับรสชาติจะน่าสนใจแค่ไหน ตามอ่านกันได้ด้านในครับ
แฟนเพจ Living Sneak Peek ที่สนใจลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษจากโครงการได้ที่นี่ครับ >> http://bit.ly/3bBU1vl
ส่วนใครพร้อมแล้วก็ลองสวมบทบาทการใช้ชีวิตที่นี่ไปกับเราได้เลยครับ!
“ตื่นแต่เช้า ปลุกตัวเองด้วยเพลงเพราะๆ สักเพลงหนึ่ง จากแผ่นที่เธอเขียนให้เราเมื่อวันก่อน…..” เมื่อเพลง Good Morning จากศิลปินคนโปรดเริ่มดังขึ้น ก็ได้เวลาลืมตา บิดตัวไปมาพร้อมกับเสียงเพลงเบาๆ ที่ค่อยๆ เคล้าคลอไปกับเสียงร้องของนกเขาคู่รักสองตัว ที่กำลังถกเถียงกันว่าใครจะเป็นคนบินไปหาอาหาร…. เช้าวันนี้ยังคงเป็นวันที่สดใสอีกวันหนึ่ง เพราะนอกจากจะเป็นวันหยุดที่คุณวางแผนจะทำอะไรหลายอย่างเพื่อใช้วันหยุดให้คุ้มค่าแล้ว ยังเป็นวันดีๆ ที่คุณได้ใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ ที่คุณเลือกใช้ชีวิตในแบบของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ยังไงล่ะครับ
และเพื่อให้การใช้ชีวิตสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ก็ถึงเวลาที่ต้อง Recharge ชีวิตกันสักหน่อย วันนี้เลยอยากชวนทุกคนมาเปิดหูเปิดตา และลองเปิดใจ ตามพวกเรามาใช้ชีวิตรอบๆ โครงการ “Niche MONO แจ้งวัฒนะ” ด้วยกันสักครู่ครับ มาดูกันว่าความสะดวกสบาย การใช้ชีวิตได้อย่างใจต้องการ การเจอสิ่งที่เข้ามาตอบโจทย์ได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มตั้งคำถาม มันจะเป็นยังไง….ถ้าพร้อมแล้ว ลุยเลยนะ!
หลังจากแกล้งทำตัวหนัก นอนกลิ้งไปมาบนเตียง King Size ที่โครงการเตรียมมาให้ ก็ได้เวลาลุกไปตระเตรียมความพร้อม ก่อนออกไปใช้ชีวิตสบายๆ ในวันหยุดของเรากันครับ
หลังจากดูแลตัวเองและคนที่คุณรักเรียบร้อย ลองหย่อนตัวลงบนโซฟานุ่มๆ แล้วคว้ากระดาษปากกามาจดลิสต์รายการของที่ต้องซื้อเข้าบ้านได้เลย เพราะวันนี้เราจะออกไปช้อปปิ้งกัน
อันที่จริงฝั่งตรงข้ามโครงการมี “Makro แจ้งวัฒนะ” อยู่ด้วยนะครับ แต่เนื่องจากวันนี้เป้าหมายของเราวันนี้ไม่ได้ไปแค่หน้าบ้านเพียงอย่างเดียว ดังนั้นเราจะใช้เวลาที่มีลัดเลาะไปกับเส้นแจ้งวัฒนะหน้าโครงการกันก่อน ขับตรงไปอย่างเดียวจนเจอกับ “Tesco lotus” (ซึ่งมี Index Living Mall อยู่ที่นี่ด้วย)
เลี้ยวซ้ายแวะเข้าไปซื้อของใช้เข้าบ้านก่อนได้เลยครับ
อันนี้จริงในความเห็นส่วนตัว สำหรับผม ถ้าแถวบ้านมีโลตัสให้เดิน ก็ถือว่าสบายใจแล้วนะครับ เพราะนอกจากจะมีร้านอาหาร, ธนาคาร, ร้านโทรศัพท์, ร้านยา, ร้านแว่น และอื่นๆ อีกมาก บางที่ถึงกับมีโรงหนังให้ดูแล้วด้วยซ้ำนะ
เสร็จจากโลตัส ขับตรงไปอีกไม่ถึง 10 นาที ก็เลี้ยวซ้ายเข้า “The Avenue แจ้งวัฒนะ” เพื่อไปหาข้าวเช้าทานต่อได้เลย ในนี้มีทั้ง “Villa Market” ให้ได้เดินเลือกซื้อผัก ผลไม้ หรือน้ำหวานแสนอร่อยได้ตามต้องการ
มีร้านทำเล็บ ทำผม, ร้านข้าว, ร้านขนม, Kerry Express ตอบโจทย์ใครที่กำลังขายของออนไลน์ตอนนี้ด้วย ค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียวครับ
หรือใครอยากฟิตแอนด์เฟิร์มที่นี่เค้าก็มีฟิตเนสให้เล่นด้วยครับ ซึ่งเรื่องนี้หมดกังวลไปได้เลยสำหรับคนอยู่ “Niche MONO แจ้งวัฒนะ” เพราะโครงการเค้ามีฟิตเนสขนาดใหญ่กว่า 200 ตร.ม. เตรียมไว้ให้ลูกบ้านแล้วเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับเล่น Cardio หรือ Free Weight พร้อมอุปกรณ์เครื่องเล่น รวมไปถึง Sky Garden ให้คุณสามารถออกไปเดินสูดอากาศ ชมนกชมไม้ หรือเล่นโยคะปรับสมดุลในร่างกายได้ตามใจต้องการ
อ๊ะ ที่นี่เค้ามี “โรงหนัง MAJOR” ด้วยนะครับเนี่ย หนังใหม่ หนังดังเข้าเมื่อไหร่ เราก็แอบแวะไปดูได้ก่อนใคร ใกล้บ้านแค่นี้เอง แต่ แต่ แต่ …. ใครว่าต้องมาโรงหนังเสมอไป ที่ “Niche MONO แจ้งวัฒนะ” เค้ามี Digital Theater เตรียมไว้ให้แล้ว ซึ่งคุณก็จะได้เข้าไปเปิด Netflix แล้วเอนหลังนั่ง นอนได้ตามสบายในห้องแอร์เย็นๆ แบบส่วนตัวๆ สองตาดู สองมือคว้าน้ำ คว้าป๊อบคอร์นกินได้แบบเพลินๆ เลย
อ่ะ ภารกิจยังไม่จบแค่นี้ ไหนๆ ก็ว่างแล้ว จะออกไปเดินเล่นคนเดียวให้มันเหงาทำไมกันครับ ในเมื่อเราตัดสินใจทิ้งคุณสาไว้ที่บ้านแล้ว หลังจากช้อปของเข้าบ้าน หาข้าวหาขนมกินจนอิ่มท้อง ก็ขับรถออกไปรับเพื่อนที่บินตรงมาหาจากดอยสุเทพที่สนามบินดอนเมืองต่อเลยแล้วกัน
เนื่องจากโครงการตั้งอยู่บนถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งมีจุดตัดไปยังถนนวิภาวดีรังสิตบริเวณแยกหลักสี่ ดังนั้นถ้าจะต้องออกไปรับเพื่อนที่ดอนเมือง ก็ออกจากโครงการแล้ววิ่งตรงยาวๆ ไปเลยครับ จนกว่าจะเจอแยกหลักสี่แล้วเลี้ยวซ้ายตรงต่อไปยาวๆ ตามเส้นวิภาฯ ซึ่งระหว่างทางที่เราไปดอนเมืองนี้ ก็ยังผ่านสถานที่ต่างๆ ที่สำคัญอีกมากมาย นอกจาก Lotus, The Avenue ที่เราเพิ่งแวะกันไป ก็ยังมี ศูนย์ราชการ, TOT, โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และ IT SQUARE เป็นต้นครับ เรียกได้ว่าในระยะเดินทางไม่กี่นาทีก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกแทบจะครบถ้วนต่อการใช้ชีวิตประจำวันแล้วครับ
จากนั้นจะไปไหนต่อไม่ได้นอกจาก “เมืองทองธานี” เพราะที่นี่มีร้านอาหารหลากหลายพอให้คุณกับเพื่อนได้ฝากท้องกันได้สำหรับเที่ยงวันนี้
ขับรถจากดอนเมืองไปเมืองทองธานี สามารถเลือกวิ่งได้หลายเส้นทางอยู่ครับ คือจะย้อนกลับมาวิ่งเส้นถนนแจ้งวัฒนะ หรือจะเลือกไปเข้าถนนสรงประภาแล้วไปออกเส้นติวานนท์เพื่อเข้าเมืองทองก็ได้ครับ
อย่างที่บอกว่าในเมืองทองมีทั้งศูนย์ประชุม ศูนย์จัดแสดงสินค้า และเจ้าอิมแพ็คอารีนา สถานที่จัดงานคอนเสิร์ตและ Event ใหญ่ ศิลปินระดับโลกก็มาเล่นที่นี่นักต่อนักแล้ว
ถึงเวลาต้องพาลูกมาดู Disney on Ice, คอนเสิร์ต Maroon 5, งานแสดงสินค้าลดกระหน่ำ Summer Sale หรือแม้กระทั่งงานวิ่งมาราธอนต่างๆ ก็สามารถมาได้ก่อนใครเพื่อน
เดี๋ยวนี้เค้าทำที่จอดรถรองรับไว้สะดวกสบายพอสมควรนะครับ ยกเว้นงานใหญ่จริงๆ ก็วนกันสักหน่อย
ถึงเวลา Lunch Time คุณก็สามารถแวะทานข้าว หรือซื้อเค้กแสนอร่อยกลับไปฝากคุณลูก หรือคุณสาที่รออยู่ที่บ้านได้ที่ “BEE HIVE” ไลฟ์สไตล์มอลล์ที่รวมของกินของใช้ไว้มากมาย เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่: 10:00-22:00 น.
อยู่ย่านนี้ไม่ไปเดินห้างนี้คงไม่ได้ “เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ” ห้างสรรพสินค้า ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียงแค่ไม่ถึง 5 กม. ใครจะมาช้อปแบรนด์ดัง ทานข้าว ดูหนัง ซื้อของใช้ต่างๆ ก็มาที่นี่ได้เลยครับ (เอ๊ะ ทำไมเราไม่มาที่นี่ที่เดียวแต่แรกกันนะ ฮ่าๆ)
สมัยก่อนรีโนเวทจะเป็นไฟสีแดงอยู่รอบนอกตัวห้างนะ แต่ตอนนี้ไม่มีละ ข้างในก็โปร่งโล่งเดินสบาย ถ้าเบื่อในตัวห้างบางช่วงเค้าก็จัด Night Market ที่ลานด้านหน้าห้างด้วยครับ
มายืนอยู่ด้านนอกก็จะเห็นรางรถไฟฟ้าสายสีชมพูซึ่งฐานรากเสร็จหมดแล้ว เริ่มเห็นเสาสถานีมาตั้งแล้วด้วย ก็ต้องลุ้นว่าจะมี Skywalk ตรงเข้าห้างเลยมั้ยครับ
ระหว่างนี้ก็สามารถใช้รถสาธารณะไปก่อนนะครับ ด้านหน้ามีเยอะเลย ทั้ง Taxi รถตู้ รถประจำทาง แต่วันนี้เราขับรถลัดเลาะชิลล์ๆ ขอไปตามทางดูก่อนว่ามีอะไรให้ใช้บริการอีก
โอ๊ะ ออกจากเซ็นทรัลมานิดเดียว เห็นอาคารขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน มันไม่ใช่ออฟฟิศ แต่คือโรงพยาบาล “เวิลด์เมดิคอล” ครับ
ไม่ใกล้ไม่ไกลกันเป็นอาณาจักรการศึกษาของกลุ่ม CP ALL เขาล่ะ ในชื่อที่เรียกว่า “PIM” หรือ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ตั้งอยู่บนพื้นที่รวมเกือบ 40 ไร่ มีตึกหน้าตาโดดเด่นไม่เหมือนใคร เดี๋ยวนี้มีตั้งแต่ ป.ตรีไปจนถึง ป.เอกกันเลยทีเดียว
ผ่านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แล้วก็มาหยุดแวะช้อปซื้อของใช้ในบ้านกันอีกนิดที่โฮมโปร คืออมีห้างรูปแบบหลากหลายทั้งของกินของใช้ อุปกรณ์แต่งบ้านอยู่ใกล้ๆ ถูกใจคุณนายเขาล่ะเนอะ เอาละ วันนี้เดินจนเมื่อยแล้ว ขอเปลี่ยนบรรยากาศหาที่นั่งพักกันสักหน่อยดีกว่า
ได้เวลาหาเครื่องดื่มหวานๆ มาดื่มให้ชื่นใจ ไม่ต้องไปไหนไกล ขับตรงมาเรื่อยๆ บนเส้นถนนแจ้งวัฒนะ เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแจ้งวัฒนะ 14 ร้านอยู่ขวามือ ชื่อว่า “Papa Chao Café”
ร้านกาแฟเล็กๆ สุดอบอุ่น ที่อบอวนไปด้วยรอยยิ้มและกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟหลากสายพันธุ์ ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านเลย ที่สำคัญมีขนมและของหวาน Homemade ให้ทานเข้าคู่กันได้เพลินๆ ด้วยครับ
ที่นี่คุณลุงเจ้าของร้านพร้อมให้บริการลูกค้าทุกคนด้วยใจและรอยยิ้ม บด และชงกาแฟสุดฝีมือด้วยความพิถีพิถัน รสชาติเข้มเข้นและหอมมากจริงๆ ครับ
การตกแต่งก็น่ารัก มีมุมให้นั่งถ่ายรูปลงโซเชียลกันได้หลากมุมเลยล่ะ
แล้วรสชาตินี่หอมละมุนมาก ต้องยกเครดิตให้วัตถุดิบคุณลุงครับ
คอกาแฟเชิญแวะมานั่งเล่น มาถ่ายรูปเก๋ๆ ลง IG Story กันได้ ร้านอยู่ไม่ไกลจากโครงการเลยครับ มีทั้งเค้ก เบเกอร์รี่ เครื่องดื่มรสชาติดีให้ลิ้มลอง พร้อมรอยยิ้มกลับบ้าน ตามไปโดนกันได้ที่นี่ >> https://www.facebook.com/papachaocafe/
ความสนุกวันนี้เราขอปิดท้ายด้วยมื้อเย็นแสนอร่อยที่ร้าน “Din Din Thai Cuisine” ร้านอาหารปักษ์ใต้ บรรยากาศสบายๆ เหมือนได้กลับมากินข้าวที่บ้าน
ร้านนี้น่ารักมาก มีต้นไม้ใหญ่เป็นพระเอกกลางลานคอยให้ร่มเงา ด้วยแสงธรรมชาติที่ตกกระทบมาด้านในช่วยให้บรรยากาศการทานข้าวของเราเป็นไปอย่างสุนทรีย์น่าดู
ด้านในโปร่งโล่ง ตกแต่งด้วยสีสันโทน Earth Tone ตัดด้วยสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีหลักของร้าน ให้เราได้อยู่ในบรรยากาศสบายๆ สไตล์ชิโนโปรตุกีส
เมนูอาหารนี่ต้องยกนิ้วให้เลยครับ บอกเลยว่าอร่อยมากกกกก (กอไก่ห้าตัว) รสชาติเค้าถึงเครื่องแกงใต้จริงๆ ส่วนเนื้อปูนี่ก็ให้ชิ้นใหญ่ ใบเหลียงผัดไข่ก็กลมกล่อมอร่อยไม่เบา มื้อนี้มีจุกเลยแหละครับ
เครื่องดื่มเค้าก็ไม่ธรรมดา มีให้เลือกหลากหมายเมนู แถมมีความสร้างสรรค์ในการนำเอาสมุนไพรแบบบ้านๆ มาผสมผสาน อย่างเมนูต้มยำโซดา หรือน้ำส้มที่มีกลิ่นตะไคร้และใบมะพรูดให้จิบๆ กันพอชื่นใจ
ร้านนี้บรรยากาศยามเย็นเป็นอย่างที่เห็นเลยครับ ดังนั้นถ้าคุณอยู่ในห้องแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศออกมาทานข้าวนอกบ้านบ้าง แนะนำร้านนี้เลย ชวนเพื่อนชวนฝูง ชวนครอบครัวมาทานกันได้ ออกจากโครงการมาง่ายๆ แค่ขับตรงมาเรื่อยๆ (ถ้ารถไม่ติด น่าจะแค่ 5 นาทีได้ครับ) อ่ะ ตามไปตำกันได้ที่นี่ >> https://www.facebook.com/dindinthaicuisine/
และทั้งหมดนี้ก็คือการใช้ชีวิตในหนึ่งวันที่เราพาเดินทางรอบรั้วโครงการ Niche MONO แจ้งวัฒนะกันครับ ก่อนจากกันไปขอทิ้งท้ายด้วยภาพ Perspective ของโครงการให้ดูกันสักนิด
ตัวโครงการจะอยู่ใกล้กับสถานีศรีรัชในระยะเดินราว 120 ม.ครับ
Co-working Space มีรูปแบบที่นั่งหลากหลาย และมี Vending Machine มาพร้อมเพื่อให้กองทัพสามารถเดินด้วยท้อง นั่งทำงานได้ยาวๆ กันเลย
Digital Theater พร้อมรองรับบริการ Streaming ที่เราๆ ชื่นชอบ ให้นั่งดูหนังและซีรีย์ได้เต็มตาเต็มอารมณ์
BBQ Area นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Rooftop Facilities ที่นี่ครับ
บริเวณใกล้เคียงจัดเป็น Star Terrace พื้นที่นั่งพักผ่อนได้เป็นคู่ หรือจะมาหมู่ มาเดี่ยว ก็นั่งชมวิวเมืองยามค่ำคืนได้
หรือถ้าอยากจะออกกำลังก็มีทั้งฟิตเนสมาพร้อมวิวสระอยู่บนชั้น 7 ให้เพิ่มความฟิตได้ทุกวันครับ
ตอนนี้โครงการก็เปิดสำนักงานขายให้เข้าไปชมห้องตัวอย่าง และพูดคุยสอบถามรายละเอียดกันได้ทุกวันนะครับ หากแฟนเพจ Living Sneak Peek คนไหนที่สนใจก็คลิกลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษกันได้ที่นี่ >> http://bit.ly/3bBU1vl
แล้วพบกันใหม่คราวหน้า สวัสดีครับ