Let’s take a deep breath @The Politan Breeze

วันนี้เราจะไป “เอเวอร์แลนด์” กันครับ แต่ไม่ได้จะพาบินลัดฟ้า ไปสวนสนุกที่เกาหลีหรอกนะ แต่จะพาไปแอบดูโครงการของ Developer เจ้าหนึ่งที่มีชื่อว่า Everland ต่างหาก หลายคนคงจะเคยได้ยินชื่อโครงการของเจ้านี้กันมาบ้างแล้ว อย่าง The The Politan River, The Politan Breeze หรือ The Politan Aqua เนื่องจากโครงการเหล่านี้ตั้งอยู่บนที่ดินผืนงามติดแม่น้ำเจ้าพระยา บนเนื้อที่กว่า 50 ไร่ โดยโครงการเฟสที่ 1 คือ The Politan Rive เฟสที่ 2 คือ The Politan Breeze และ The The Politan Aqua เป็นเฟสที่ 4 ส่วนในอนาคตถึงจะมีการสร้าง เฟสที่ 3 และ เฟสที่ 5 ต่อไปครับ ส่วนจะเป็นชื่อ Politan … อะไรนั้น ต้องรอติดตาม (ถ้ามีประกวดตั้งชื่อโครงการน่าจะดีเนอะ) และในวันนี้ก็จะขอหยิบเจ้าโครงการเฟสที่ 2 ที่มีชื่อว่า “The Politan Breeze” นี่แหละ มาให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้น เพราะโครงการนี้เค้ามีความโดนเด่นและน่าสนใจไม่แพ้พี่คนโตหรือน้องคนรองอย่าง The Politan Rive หรือ The Politan Aqua เลย ทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก การออกแบบที่มีความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ  วิวสวยๆ ชิดริมน้ำ พร้อมอากาศบริสุทธิ์  ที่หาในเมืองไม่ได้แบบนี้อย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วสูดหายใจให้เต็มปอด เดี๋ยวจะพาไปกอดวิวเจ้าพระยากันครับ

โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ที่หลายคนคงจะรู้จักกันดี โดยมีระยะห่างจาก BTS สายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้าประมาณ 400 เมตร มี Shuttle Bus  ของโครงการคอยรับ-ส่งให้ด้วยนะ โดยตัวโครงการจะอยู่ในซอยนนทบุรี 15 ขับรถมาก็ง่ายนิดเดียว จากถนนสนามบินน้ำ เลี้ยวเข้าซอยนนทบุรี 15 ก็เจอโครงการเลย ส่วนสถานที่ใกล้เคียงก็มีทั้ง Central รัตนาธิเบศร์ Big C รัตนาธิเบศร์ Lotus แคราย รวมไปถึงโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ใกล้ๆ ก็มีร้านอาหารบรรยากาศดีอย่าง บ้านระเบียงน้ำ (River Tree House) ที่อร่อยจริงเพราะไปชิมมาให้แล้วฮะ ฮ่าๆ บริเวณโดยรอบก็เป็นชุมชนดั้งเดิม และค่อนข้างเงียบสงบ แม้ตอนนี้ในตัวโครงการยังไม่มี shop แต่ในอนาคตจะเปิดถึง 3 ร้านแน่นอนครับ

สำหรับโครงการ The Politan Breeze เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น  รวม 587 ยูนิต มีด้วยกันทั้งหมด 4 อาคาร และอาคารจอดรถสูง 7 ชั้นอีก 1 อาคาร รวมพื้นที่โครงการทั้งหมดกว่า 7 ไร่ โดยแบ่งเป็น ตึก A B C และ D โดยแต่ละตึกจะมี Lobby เป็นของตัวเอง (ตึก D จะใหญ่สุด) ส่วนกลางเค้าจัดมาอย่างสวยงาม หรูหรา เกินเบอร์ไปมาก ด้วยการใช้หินอ่อนตกแต่งพื้น หรือเคาน์เตอร์อ่านหนังสือ ทั้งในส่วน Lobby ห้องสมุด Fitness ไปจนถึงตัวลิฟต์ มาหมดทุกที่ คือฟิลลิ่งในการอยู่อาศัยนี่หรูหราและภูมิใจกับความคุ้มค่าที่ได้มาก แม้ส่วนกลางจะจัดไว้แค่บางตึกแต่ไปใช้ส่วนกลางร่วมกันได้หมดเลย (ยกเว้นขึ้นไปบนตึกซึ่งจะต้องใช้ Key card ของใครของมันครับ) ทั้งยังทำ Mailbox ไม่เหมือนใครด้วยการใช้วิธีตั้งรหัสป้องกันได้เองด้วยเพิ่มความปลอดภัยแถมไม่ต้องพกกุญแจให้เยอะ นอกจากนี้ The River Breeze Pond หรือสระว่ายน้ำ ที่คั่นกลางระหว่างตัวอาคารทั้งสองฝั่ง ก็ดูสวยงามพร้อมแสงสีที่ปรับเปลี่ยนได้ในตอนกลางคืน พร้อมสวนสวยๆ ในช่วงทางเดินระหว่างอาคาร และ River terrace ริมน้ำเรียกได้ว่าเปลี่ยนบรรยากาศคอนโดมิเนียมแบบเดิมๆ ให้เป็นการพักผ่อนเสมือนอยู่ในรีสอร์ทที่เงียบสงบ ท่ามกลางธรรมชาติได้ทุกวัน

มาดูรายละเอียดของ Unity Type ที่นี่กันบ้าง  มีตั้งแต่ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 29 ตร.ม. เริ่มประมาณ 1.99 ล้านบาท, 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 43-48 ตร.ม. และสุดท้ายเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 50-60 ตร.ม. โดยที่ห้อง Type 1 Bedroom นั้นจะมีอยู่ที่ตึก C และ D เท่านั้น ส่วน 2 Bedroom เค้าจัดให้ไปอยู่ที่ตึก A กับ B หมด และได้วิวชิดริมแม่น้ำ โดยเฉพาะห้องมุมนั้นได้วิวคู่ทั้งสระและแม่น้ำเลยทีเดียว ตอนนี้เค้าจัดโปรโมชั่น ทั้ง ฟรีพรีเมี่ยมเฟอร์นิเจอร์ครบชุดตั้งแต่ โซฟา โต๊ะกลาง ชั้นวางทีวี หัวเตียง แอร์ ตู้เสื้อผ้า และวอลเปเปอร์ ส่วนใครที่สนใจอยากจะมานอนกอดวิวเจ้าพระยาไวๆ ก็ไปลงทะเบียนพร้อมดูรายละเอียดกันที่นี่ก่อนเลยคร้าบบบ  >> http://bit.ly/2MH5xbE หรือสอบถามโทร สำนักงานขาย 02-002-2222

ช้าอยู่ไย ไปดูภาพสวยๆของโครงการกัน แล้วจะรู้ว่าแอบดูไม่ได้โม้ !!

ก่อนจะเข้าไปดูห้องตัวอย่าง  จะขอพาไปแอบดูบรรยากาศสวยๆโดยรอบโครงการและส่วนกลางกันก่อนครับ

สำหรับจุดแรกที่เราจะพบก่อนเดินเข้าไปถึงตัวอาคาร คือทางเดินที่มีดีไซน์เก๋ไก๋พร้อมประดับประดาด้วยต้นไม้ ใบหญ้า สีเขียวขจีตลอดสองข้างทาง เอาจริงๆไม่ต้องไปหาที่ชิคๆถ่ายรูปที่ไหนไกลเลยครับ จับนางแบบยืนตรงกลางแล้วถ่ายออกมา สวยมากนะขอบอก

จากนั้นเดินเข้ามาด้านใน อย่าเพิ่งตกใจว่ามาโผล่รีสอร์ทที่ไหน นี่ไม่ใช่บ้านพักตากอากาศเขาใหญ่หรือรีสอร์ทริมหาดหัวหิน แต่เป็นคอนโดมิเนียมจริงๆครับ จากภาพจะเห็นว่าจะเจอกับตึก A และ B อยู่ตรงข้ามกัน โดยตรงกลางก็จะมีสระน้ำขั้นกลาง ก่อนที่จะไปถึงสระว่ายน้ำของจริงที่อยู่ชิดติดขอบแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมมีพื้นที่ให้นั่งเล่น ชมวิว พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย รับรองว่าลมโกรกดีอย่าบอกใคร

พาเดินมาดูบริเวณสระว่ายน้ำกันบ้าง ว่ายน้ำกันแบบฟินๆไปเลยครับ สำหรับคนขี้อายก็คงจะเขินๆหน่อยเนอะ แต่วิวสวย และบรรยากาศดีแบบนี้ มันคุ้มนะครับ ที่จะลงมาเอนกาย แช่น้ำกันสักเดี๋ยว ทั้งท้องฟ้าสีคราม และต้นไม้สูงใหญ่ ที่รายล้อมอยู่ ดูยังไงก็ไม่เบื่อเลยจริงๆ

แถมยังมีพื้นที่นั่งพักผ่อนริมน้ำ เอาไว้ให้มาถ่ายรูป ชมวิวแม่น้ำ ดูพระอาทิตย์ตกดิน ให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดและสัมผัสกับบรรยากาศดีๆได้แบบใกล้ตัว ดูสงบและชดชื่นมากเลยครับ

มาต่อกันที่ห้องออกกำลังกายกันบ้าง ห้องนี้จะอยู่ที่ตึก B ครับ ดูหรูหราด้วยหินอ่อน Black Forest แถมเครื่องเล่นจัดหนักจัดเต็มได้ทุกกระบวนท่า แล้วเค้าจัดตกแต่งรายล้อมห้องไปด้วยกระจกได้อารมณ์เหมือนฟิตเนสข้างนอกเลย ลูกบ้านสามารถมาออกกำลังกาย ฟิตหุ่นกันได้เต็มที่

ถัดมาเป็นห้องสมุด หรือห้องอเนกประสงค์ ที่อยู่ในตึก B เช่นเดียวกัน การออกแบบและการตกแต่งดูหรูหราพร้อมด้วยหินอ่อนบนเคาน์เตอร์บาร์เช่นเคย

มีบันไดวนให้ขึ้นไปนั่งที่ชั้นลอยได้ด้วย เหล่าสมาคมแม่บ้านจะมานั่งแลกเปลี่ยนเมนูอาหารเย็น น้องๆนักศึกษาจะมานั่งอ่านหนังสือ หรือคุณหนูๆจะมานั่งดูการ์ตูนเบ็นเท็น กันที่นี่ก็ได้ (แต่คงต้องระวังเรื่องการใช้เสียงด้วยนะครับ)

จากนั้นผมพาข้ามมาดูที่ตึก  D ต่อ Lobby ของตึกนี้ก็จะใหญ่กว่าเพื่อนสักหน่อยครับ พื้นจะเป็นหินอ่อนทั้งหมด ส่วนผนังก็จะเป็นกระเบื้องลายไม้ ดูสวยและเข้ากันดีทีเดียว

Mailbox ที่นี่อย่างที่บอกครับ เค้าให้ตั้งรหัสได้เองเลย เจ๋งสุดๆ

แอบดูส่วนกลางกันไปแล้ว ได้เวลาไปชมห้องตัวอย่างกันบ้าง โดยเรามาเริ่มที่ห้อง 1 Bedroom 1 Bathroom ที่ตึก D กันก่อน

ประตูที่ได้สำหรับห้อง 1 Bedroom จะไม่ใช่แบบ Digital Door Lock นะครับ

เข้ามาด้านในก็จะเป็นห้องนั่งเล่น ซึ่งมีระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีพอสมควร ตู้โชว์และชั้นวางทีวีอันนี้ก็ได้นะครับ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ทางโครงการโปรโมชั่นพิเศษ ฟรีชุดพรีเมี่ยมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด

ส่วนไฟในตู้ก็จะได้แบบนี้ด้วยนะ

ครัวก็จะเป็นครัวปิด มีกระจกบานเลื่อนมาให้เรียบร้อย โครงการให้เคาน์เตอร์ครัวและตู้เก็บของด้านบน บานปิดจะเป็นลามิเนตลายหนังแบบ Soft Close Top หินควอท แต่จะไม่ได้เครื่องใช้ไฟฟ้านะครับ

มีระเบียงเล็กๆด้านนอก และได้แอร์ 2 ตัวนะครับห้องนี้

เปิดเข้ามาดูในห้องนอนกันบ้าง  ห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้และยังพอมีที่ให้เดินด้านข้างอยู่นะครับ สามารถเอาโต๊ะหัวเตียงเล็กๆ หรือโคมไฟตั้งพื้นมาวางข้างๆได้สบายๆเลย ส่วนไฟดาวน์ไลท์ก็ทำไว้ให้อย่างที่เห็นเลย ผนังจะได้เป็นวอลเปเปอร์ทั้งหมด

ตู้เสื้อผ้าก็ได้ด้วยครับ ส่วนพื้นจะเป็นลามิเนตหนา 8  ซม.

จะเห็นว่าระยะห่างของช่วงตึก D กับ ตึก C นั้น จะใกล้กว่าตึกอื่นหน่อย ดังนั้นหาม่านมาติดไว้ เพื่อความเป็นส่วนตัวได้เลยครับ

ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ในห้องนอน ได้มาพร้อมฉากกั้นเปียก-แห้งเรียบร้อย พร้อม Rain Shower มาให้ด้วย แถมที่วางสบู่นั้นเป็นหินอ่อน โอ้คุณพี่จะใจป้ำไปไหน ส่วนผนังก็จะเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนและโมเสคหินอ่อนในส่วนผนังของ Rain showerเรียบหรูครับ

ถัดมาจะเป็นห้องแบบ 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 43 ตร.ม.

ห้องนี้จะได้ประตู Digital Door Lock โต๊ะอาหารบิวท์อินมาให้แบบนี้เรียบร้อยแล้ว นั่ง 2-3 ที่นั่งพอได้ แต่เวลาแขกไปใครมา ถ้าทานอาหารอยู่ก็คงต้องมีลุกขึ้น ลุกลงกันซะหน่อยครับ ถ้านั่งตรงประตูพอดี

เคาน์เตอร์ครัวได้ทั้งหมด เหมือนห้องแบบ 1 Bed นั่นแหละครับ แต่จะได้ครัวตัว L ขนาดยาว พร้อมพื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ แถมได้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันด้วย ตู้ลอยเป็นบานลามิเนตลายหนังสวยงาม จัดครัวเข้ามุมแบบนี้ก็ดูเป็นที่เป็นทางดีครับ ไม่ต้องเลอะเทอะไปถึงห้องอื่นๆ

ในส่วนของห้องนั่งเล่นอยู่ระหว่างห้องนอนทั้งสองห้อง แบ่งชัดเจนห้องใครห้องมัน ถึงเวลา Movie Time ก็ค่อยมารวมตัวกันตรงนี้ ก็โอเคเลยนะครับ ห้องนี้ได้แอร์ 3 ตัว เปิดให้ชุ่มฉ่ำกันไปเลยครับ

ส่วนระเบียงก็จะได้ยาวๆแบบนี้เลย ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นไปจนถึงห้องนอนใหญ่ครับ

ในห้อง Master Bedroom นั้นสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตเข้าไปได้ (โครงการให้หัวเตียง แต่ไม่รวมฐานเตียงกับฟูกนะครับ)

กระจกบานเลื่อนริมระเบียงช่วยให้แสงแดดเข้าห้องมาได้เต็มที่ ยิ่งอยู่ริมแม่น้ำอากาศดีแน่นอน เปิดประตูรับลมกันได้สบายๆเลยครับ

ส่วนห้องน้ำเข้าได้จากบริเวณห้องนั่งเล่นด้านนอก แบบนี้ดีครับ แขกก็ไม่ต้องเปิดเข้าเปิดออกไปรบกวนเจ้าห้อง ของจริงก็จะได้ตามนี้เลยครับ

ส่วนอีกหนึ่งห้องนอน ก็มีขนาดกำลังน่ารัก ใช้เป็นห้องเด็ก หรือใครจะเปลี่ยนเป็นห้องทำงานไปเลย ก็ได้ความเป็นส่วนตัวแบบเต็มๆครับ

ส่วนตู้เสื้อผ้าสามารถวางชิด เข้ามุมแบบนี้ได้เลย

สุดท้ายท้ายสุดกันที่ห้องแบบ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 60 ตร.ม.

เปิดเข้ามาด้านใน ห้องนี้ค่อนข้างกว้างทีเดียวครับ มีพื้นที่ใช้สอยในแต่ละส่วนแบบสบายๆเลย

อย่างชุดครัวก็จะได้แบบเดียวกับ 2 ห้องแรก แต่ได้เตาไฟฟ้า 2 หัว และตู้อบด้านล่างด้วย ส่วนโต๊ะทานข้าวก็จะถูกบิวท์อินมาให้ในลักษณะนี้

จะมีห้องน้ำอยู่ด้านนอกหนึ่งห้อง จะได้ไม่ต้องแย่งกัน

สำหรับห้องนอนห้องแรก สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต ได้ พื้นที่ด้านข้างยังดูไม่อึดอัดมาก ตั้งทีวีไว้ปลายเตียง ยังคงมีทางเดินอยู่เหลือๆ หรือจะติดผนังไว้เลย ก็ช่วยประหยัดเนื้อที่ได้นะครับ

จุดสำคัญที่แอบดูชอบมากเลยคือจะได้ระเบียงยาวไปจนสุด ยิ่งเป็นห้องมุมด้วยแล้ว จะได้มุมระเบียงที่สวยงามมาก

เห็นทั้งวิวสระว่ายน้ำทั้ง วิวแม่น้ำเจ้าพระยาเลยครับ สีครามของท้องฟ้า ตัดกับสีเขียวของต้นไม้ได้ลงตัวมากๆ

ต่อมาคือ Master Bedroom ที่วิวดีมากๆ จัดเตียง 6 ฟุตไปเลยได้อารมณ์อย่างกับนอนอยู่ในรีสอร์ทจริงๆครับ ตื่นเช้ามาแสงพระอาทิตย์ส่องเข้ามารำไร ลอดผ่านกระจกบานใหญ่เข้ามุม ชวนให้นอนต่อจริงๆครับ

ห้องนี้ก็จะได้ตู้เสื้อผ้า พร้อมห้องน้ำในตัว

Rain Shower พร้อม ฉากกั้นพร้อม

ห้องนี้ก็ดูจะครบครัน และเติมสีสันให้กับคนอยู่ในทุกๆวันได้เป็นอย่างดีแน่นอนครับ

เชื่อกันแล้วใช่ไหมครับ ว่าพามากอดวิวเจ้าพระยาจริงๆ คอนโดมิเนียม Low Rise ที่สงบ และเป็นส่วนตัวในราคาที่จับต้องได้แต่หรูหราเกินราคาแบบนี้ หากันไมได้ง่ายๆเลย เมื่อเทียบกับความคุ้มค่าและประสบการณ์ที่จะได้จากการอยู่อาศัยในทุกๆวัน เสมือนได้พาตัวเองไปใกล้ชิดกับธรรมชาติแบบที่ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไปไหนไกลเลย วิวสวยๆทั้งยามนอนและตอนตื่น กับอากาศบริสุทธิ์ที่สูดกันได้แบบเต็มปอด ถ้าถูกใจใครแล้วก็สามารถเข้ามาสัมผัสด้วยตาตัวเองได้ที่ สำนักงานขาย โครงการ The Politan Breeze แล้ว อย่าลืม Take a deep breath เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ไปพร้อมๆกันที่นี่คร้าบ

ติดตามเราได้ที่ : facebook

ติดต่อสอบถาม : Contact