1 วัน กับ IDEO MOBI RANGNAM ดูห้องตัวอย่างปรับดีไซน์ใหม่ แล้วลัดเลาะล่องไปกับบรรยากาศสบายๆ ในซอยรางน้ำ * เริ่ม 5.29 ล้านบาท ​

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้กลับมาที่นี่ “ซอยรางน้ำ” ครับ ย่านนี้เป็นถนนเส้นที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายใจกลางเมือง ไม่ว่าจะอนุสาวรีย์, ราชเทวี, สยาม, ประตูน้ำ แต่ให้บรรยากาศเป็นอีกโลกนึงเลย ด้วยความที่เป็นซอยสงบ ร่มรื่น แถมเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่น้อยใหญ่ มีพื้นที่สีเขียวให้สูดอากาศบริสุทธิ์ที่หาได้ยากในใจกลางเมืองได้ด้วยอย่างสวนสันติภาพ ในบรรยากาศวันสบายๆ ในทำเลที่น่าอยู่แบบวันนี้ ผมก็เลยจะพาดูทั้งคอนโด ไปนั่งดื่มในร้านน่ารักๆ แล้วก็พักผ่อนหย่อนใจในสวนกันให้ครบสูตร พร้อมมุมถ่ายรูปสวยๆ มาฝากกันด้วยครับ​

IDEO MOBI RANGNAM

​ก่อนอื่นขอชวนไปดูคอนโด “IDEO MOBI RANGNAM” คอนโดพร้อมอยู่ในซอยนี้กันสักหน่อย เพราะเค้าปรับดีไซน์ ห้องตัวอย่างใหม่ที่เน้นการใช้ชีวิตในห้องให้อยู่โปร่งสบาย มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มาให้ชมกันถึง 3 แบบ 3 สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น​

  • ห้อง 1Bed Cozy ขนาด 35 ตร.ม. ที่มีฟังก์ชั่น Living Area ขนาดใหญ่ ปรับเปิด/ปิด ได้เพื่อความเป็นส่วนตัว แถมด้วย Walk-in Closet สวยๆ ให้ใช้งาน ​
  • ห้อง 2 Bed 2 Bath ขนาด 58 ตร.ม. ที่โปร่งมากขึ้นด้วยแสงธรรมชาติเข้าถึงทุกห้อง พร้อมอ่างอาบน้ำในห้อง Master Bedroom ​
  • ห้อง 1 Bed Wide Living ขนาด 58 ตร.ม. ห้องนี้ปรับมาจากห้องแบบ 2 ห้องนอน ทำมาเอาใจคนอยากได้ 1 Bedroom ไซส์ใหญ่พิเศษ พร้อมพื้นที่ Co-Living Space ในตัว​

อ้อ แล้วต้องบอกว่า ห้องขนาดใหญ่ ไซส์ 58 ตร.ม. ทั้ง 2 ห้องนี้ ได้สิทธิจอดรถ 2 คันทั้งคู่ด้วยครับ​

สิ่งที่น่าสนใจของโครงการนี้คือ การออกแบบอาคาร พื้นที่ส่วนกลาง และความเป็นส่วนตัว คอนโดนี้สูง 31 ชั้น แต่มีห้องพักอาศัยเพียง 366 ยูนิต มีดีไซน์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมวัสดุเกรดพรีเมี่ยมระดับแบรนด์ IDEO MOBI ซึ่งโครงการที่เกิดขึ้นมาภายหลังไม่ค่อยเห็นแบบนี้แล้ว สัมผัสได้จาก Facilities สวยๆ ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำว่ายได้รอบทิศแบบ 360 องศาที่ชั้น 30 พร้อม Jacuzzi Corner, Fitness ที่ให้ชมวิวเต็มตา และ Sky Lounge ขนาดใหญ่ ที่มีมุมหลากหลายให้นั่งเล่น นั่งทำงานพร้อมกับรับแสงแดดยามเช้า, Sky Garden ให้เปลี่ยนบรรยากาศบนชั้น Rooftop แซมด้วย Pocket Garden ระหว่างชั้น ที่ชั้น 21, 24 และ 26 อีกด้วยครับ​

ถ้าใครใช้รถอยู่แล้วจะค่อนข้างสะดวกในการเดินทางเพราะเชื่อมต่อไปยังถนนสำคัญใกล้เคียงทั้ง ถ.พญาไท, ถ.ราชปรารภ, ถ.ราชวิถี และ ถ.ศรีอยุธยา หรือหากอยากทางขึ้นด่วน (ศรีรัชฯ) ก็เชื่อมต่อจากอนุสาวรีย์ชัยฯ ใกล้นิดเดียว ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ อย่างสยาม หรือ Central World ก็อยู่ในรัศมีแค่ 2 กม. เศษ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในช่วงที่ไม่ใช่ Rush Hour เพื่อไปย่านธุรกิจใจกลางเมือง ​ ผมให้นิยามทำเลแบบนี้ว่าเป็นย่านที่อยู่ติดกัน คือ เพิ่มความสะดวก ให้ชีวิตใกล้เข้ามาหน่อย แต่ไม่ต้องถึงกับไปอยู่ในกลางความวุ่นวาย​

​แต่จริงๆ แล้วในวันธรรมดาก็อาจจะไม่ต้องไปไหนไกล ​ เพราะมีห้าง Century Plaza อยู่ปากซอย มี King Power อยู่ถัดกันมา มีร้านขายยา ธนาคาร ร้านอาหารทั้งแบบติดแอร์และ Street Food ร้านคาเฟ่ คลินิก สปา ร้านนวด ฯลฯ สารพัด อุดมสมบูรณ์แค่ไหนลองนึกดูว่าในระยะเดินไม่กี่ร้อยเมตรบนถนนเส้นนี้เส้นเดียว มี 7-11 มาตั้งถึง 6 สาขาแน่ะ ด้วยองค์ประกอบต่างๆ จึงดึงดูด Residential Building หลากหลายรูปแบบมาตั้งอยู่บนถนนเส้นนี้ และที่พิเศษกว่าโซนอื่นก็คือมีโรงพยาบาลหลากหลายอยู่รายรอบด้วย ไม่ว่าจะ รพ.พญาไท 1 และ 2 ,รพ. พระมงกุฎเกล้าฯ, รพ.รามาธิบดี, รพ.สงฆ์ ก็เลยไม่ค่อยแปลกใจที่จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของบรรดาคุณหมอ เพราะสงบ เดินทางง่าย และอุดมสมบูรณ์ นั่นเองครับ​

​ก่อนจะเข้าไปชมกันขอทิ้งท้ายไว้ด้วยโปรโมชั่นของคอนโด ณ ตอนนี้ไว้สักหน่อย ที่นี่ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุดนะครับ แบบ 1 ห้องนอน เริ่ม 5.29 ล้านบาท* ส่วน 2 ห้องนอน พร้อม 2 สิทธิจอดรถ เริ่มที่ 8.99 ล้านบาท* ครับ โครงการแถมฟรีค่าใช้จ่ายวันโอนด้วย ไม่ต้องมานั่งจุกจิกเรื่องค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ใครที่สนใจสามารถคลิกรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่นี่เลยครับ https://anan.ly/3E0kh14​

#LivingSneakPeek #SneakReview​ #รีวิวคอนโด #IDEOMOBIRANGNAM #AnandaDevelopment

IDEO MOBI RANGNAM ห้องตัวอย่างปรับดีไซน์ใหม่

ตามผมมา วันนี้จะพาดูคอนโดสวยๆ ที่ IDEO MOBI RANGNAM กันก่อน ตามด้วยพิกัดร้านคาเฟ่น่านั่ง และพาไปสูดอากาศดีๆ กันที่สวนสันติภาพก่อนกลับครับ

กับห้องตัวอย่าง 3 แบบ 3 สไตล์ที่ปรับดีไซน์มาใหม่โดยเฉพาะ

มีพื้นที่เพิ่มขึ้นตอบโจทย์คนที่ต้องการ Space ของตัวเองเป็นพิเศษ ตามไปดูกันเลยครับ

ขอเริ่มกันที่พาร์ทห้องตัวอย่างกันก่อนนะครับ ไปดูห้องปรับดีไซน์ใหม่ห้องแรก 1 Bedroom Cozy 35 ตร.ม.

ห้องนี้ไซส์กำลังดี มีฟังก์ชั่นครบ เมื่อเปิดประตูเข้ามาเราจะเจอกับตำแหน่งครัวด้านหน้าเลย อยู่ฝั่งขวามือ ส่วนฝั่งซ้ายมือเป็นที่ตั้งของชั้นวางรองเท้าและทางเข้าห้องน้ำครับ

ประตูที่นี่เค้าติด Digital Door Lock ดีไซน์สวยของ SAMSUNG แถมมาให้เรียบร้อย

สเปคห้องน้ำดี และทำมาสวยเลยนะครับ ไม่ว่าจะสุขภัณฑ์แบบ Washlet จาก Toto และได้ Rain Shower ด้วย บานประตูห้องน้ำเป็นบานสไลด์ ตกแต่งภายในด้วยกระเบื้องลายหินอ่อน

ฟังก์ชั่นของ Kitchen และ Dining อยู่เชื่อมต่อกัน ทุกอย่างจบในนี้เป็นครัวปิดเพื่อลดกลิ่นรบกวนภายในห้อง ครัวแต่งมาให้ครบทั้ง Hob / Hood จาก Franke ซึ่งได้เตา 2 หัวสำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน กรุกระเบื้องกันเปื้อนบนผนังไว้ให้เรียบร้อย มาพร้อมโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งไซส์กำลังพอดี เพราะใช้แค่ทานข้าวอย่างเดียวไม่ต้องแชร์ฟังก์ชั่นอื่น

เพราะเค้ามีฟังก์ชั่น Working Corner ใหญ่ๆ เต็มพื้นที่ไว้ใน Living Area ด้านในที่กั้นด้วยกระจกบานเลื่อนไว้แล้วครับ เดี๋ยวจะพาให้ดูว่าด้านในมีครบในตัวยังไงบ้าง

ใน Living Area นี้มีฟังก์ชั่นครบทุกอย่างอยู่ในตัวเลยครับ เรามีมุมนั่งทำงานฝั่งขวามือ มีมุมพักผ่อนบนเตียงนอน แถมที่อยู่ติดกับหน้าต่างมีมุมนั่งเล่นเพิ่มมาอีก ซึ่งจัดวางตำแหน่งทีวีให้แชร์กันกับการนอนบนเตียงพอดิบพอดี

เป็น Living Area ที่อยู่สบาย โปร่ง และได้ประโยชน์ใช้สอยครบเลย แต่ยังไม่จบเท่านี้นะ

ห้องนี้มีความยืดหยุ่นเพิ่มอีกอย่างคือเค้าจัดทำ Partition กั้นปิดระหว่างเตียงนอนและโต๊ะทำงานด้วยครับ แขวนเพดาน ไม่มีรางด้านล่างให้ทำความสะอาดยุ่งยาก เราอยู่คนเดียว ก็เปิดให้มันโล่งๆ มีแขกมา ก็เลื่อนปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวได้ ผมชอบตรงที่เค้าทำช่องหน้าต่างแยกกันไว้ทั้ง 2 ฝั่งเลย เมื่อเลื่อนปิด ก็ยังได้ช่องแสงเข้าทั้ง 2 ห้อง และแอร์ก็มีติดตั้งทั้ง 2 ห้องด้วยเช่นกัน เป็นการเลื่อนปิด และใช้งานได้จริงทั้งคู

ยังไม่หมดน้า ห้องนี้ได้ Walk-in Closet สองฝั่งทางเดินเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนอีก จุใจสำหรับคนชอบแต่งตัว และห้องน้ำก็เข้าได้จาก 2 ทาง ทั้งในห้องครัว และในห้องนอนด้วยครับ

ห้องนี้ก็เลยเป็นห้อง 1Bedroom ที่ยืดหยุ่นที่สุดในการใช้งาน ไม่ว่าจะเพื่อความเป็นส่วนตัว หรือเพื่อความสะดวกในการ access ห้องน้ำ และมีครบทุกฟังก์ชั่น ตอบโจทย์คนที่มองหา 1 Bedroom เป็นตัวเลือกแรก

ไปต่อกันที่ห้องขนาดใหญ่กันบ้าง แบบ 2 Bedroom 2 Bathroom 58 ตร.ม. ครับ

ห้องนี้ได้รับการแปลงโฉมใหม่แบบศัลยกรรมเกาหลี คือ ปรับนิดเดียวได้ผลเยอะ นั่นก็คือการเปลี่ยนผนังห้องนอนที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ให้เป็นผนังกระจกอย่างที่เห็นในรูปนี่แหละครับ เพราะก่อนหน้านี้เค้าทำเป็นผนังทึบ ข้อดีคือเป็นส่วนตัว แต่ข้อเสียคือห้องนั่งเล่นจะไม่มีแสงธรรมชาติเลย เมื่อปรับแบบนี้ห้องนั่งเล่นก็โปร่งโล่งขึ้นเยอะมาก ในขณะเดียวกันเราก็สามารถเลือกใช้มู่ลี่เพื่อบังตา สร้างความเป็นส่วนตัวในห้องนอนชดเชยกันไป ซึ่งผมว่าคุ้มนะกับการปรับใหม่มา

Layout นี้จะได้เป็นครัวเปิดนะครับ ทั้งส่วนนั่งเล่น Kitchen & Dining ก็จะอยู่รวมกันแบบ Open Plan

สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมาก็คือเตาไฟฟ้าแบบ 4 หัวนี่แหละครับ

ตำแหน่งโซฟาก็ตั้งไว้ตรงกลางห้อง ด้วยความที่ห้องเป็นแบบหน้ากว้างก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยู่ใกล้เกินไป แถมยังมีทางเดินกว้างๆ ด้านหลังให้ไปมาสะดวก ทุกคนลองดูภาพนี้สิครับ บานกระจกช่วยให้ห้องโปร่งขึ้นเยอะเลย

ประตูห้องนอนนี้ก็จะพิเศษหน่อยเป็นบานใส ให้ดีไซน์ไปด้วยกันแบบกลมกลืน

ห้องนอนนี้เป็น Master Bedroom ที่มาพร้อมกับห้องน้ำในตัว พร้อม Bathtub ให้นอนแช่สบายๆ ด้วย กระจกที่เค้าให้มาในห้องนอนก็บานใหญ่เต็มตา

แล้วมาพร้อมกับช่องแสงขนาดใหญ่ที่เปิดระบายอากาศได้ด้วยนะครับ เป็นจุดที่หาได้ยากกับคอนโดสมัยนี้

พื้นที่ที่เหลือในห้องนอกจากวางตู้เสื้อผ้าแล้ว ก็จัดวางโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ได้เลยครับ

ไปดูห้องนอนอีกห้องด้านในกันต่อ

เอาจริงๆ ถ้าดูด้วยขนาด นี่ชักไม่ค่อยมั่นใจอันไหนห้องนอน Master ฮ่าๆ แต่ใจผมชอบห้องนอนนี้มากกว่า (ถ้าไม่ติดว่าห้องน้ำที่เข้าฝั่งนี้ไม่มี Bathtub) เพราะได้บรรยากาศพักผ่อนมาก

ได้ทั้งกระจกเข้ามุมทางขวา และได้ช่องแสงทางซ้ายของหัวเตียงอีก ตรงนั้นวางเป็นโต๊ะแป้งเหมาะพอดี นั่งทำงานก็ได้แสงธรรมชาติ

ห้องน้ำนี้ก็ได้แบบ Double-Access นะครับ จากห้องครัวก็ได้ จากห้องนอนก็ได้ ก็ถือว่าห้องนอนทั้ง 2 ห้อง เข้าห้องน้ำสะดวกทั้งคู่

เพียงแต่ห้องนี้จะได้เป็น Rain shower พร้อมกับโถสุขภัณฑ์แบบปกติ แทนครับต่างกับห้อง Master Bedroom ในสองจุดนี้

เราจะมาจบห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายกันที่นี่นะครับ เป็นห้องที่เค้าออกแบบมาพิเศษ ปรับ Layout จาก 2 ห้องนอน เป็น 1 ห้องนอน 58 ตร.ม. ขนาดใหญ่ที่มาพร้อม Co-Living Space เพื่อตอบกลุ่มคนที่อยากได้พื้นที่เพิ่มพร้อมที่จอดรถแบบ Double เพิ่มเป็น 2 คันโดยเฉพาะ จะเป็นยังไงตามไปดูกันเลย

ส่วนแรกก็จะแตกต่างกับห้องที่แล้วนิดนึงครับ Living Area ของห้องนี้จะ Double เลย มี 2 ส่วน กั้นกันด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เพราะงั้นห้องนี้ก็จะได้จุดเด่นเรื่องความโปร่งมากเช่นเดียวกัน แต่เป็นความโปร่งที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว เพราะฟังก์ชั่นหลังบานเลื่อนนั้นไม่ใช่ห้องนอน

เริ่มจากฝั่งติดกับทางเข้ากันก่อน เป็นพื้นที่ของครัว และโต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่งเช่นเดียวกัน และมีห้องน้ำที่เข้าได้จากห้องนั่งเล่นอยู่ 1 ห้องส่วนประตูที่อยู่ถัดกันนั้นจะเป็นทางไปสู่ห้องนอนครับ

ห้องน้ำฟังก์ชั่นเหมือนกับห้องที่แล้วดีไซน์เดียวกันครับ

ด้วยความมีพื้นที่กว้างเยอะ เค้าลองวางตู้เย็นแบบ Side by Side ก็พอเหมาะนะครับ ยังมีที่เหลืออยู่เลย

สิ่งที่เพิ่มเติมมาคือ โซนที่นั่งทำงานที่อยู่เชื่อมต่อกับตู้เก็บรองเท้า

และฟังก์ชั่นพิเศษที่เพิ่มมา เอาใจคนใช้เวลาพักผ่อนอยู่ในห้องนั่นก็คือ Living Area อีกห้องหนึ่งที่จัดแบบเต็มอิ่มชุดใหญ่เลย ในความรู้สึกผมนะ นี่เป็นส่วนห้องนั่งเล่นที่เอาใจเจ้าของบ้านจริงๆ ให้ได้มาใช้เวลาพักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ (ให้อารมณ์ห้อง Theather, ห้อง Karaoke ส่วนตัวในบ้านอยู่เหมือนกัน) พร้อมกับมุม Daybed ให้นั่งๆ นอนๆ อยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ เต็มอิ่มเลยครับ

ด้านในเป็นที่ตั้งของห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัว เนื่องจากเค้าปรับจากแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำของห้อง Master Bedroom เดิม ห้องนี้ก็เลยได้อ่างอาบน้ำมาด้วย

ไปดูในห้องนอนกันต่อครับ

ถ้าใครจำห้องนอนที่ 2 ของห้องที่แล้วได้ นี่ก็คือห้องนอนที่ลงตัวของกระจกเข้ามุม ช่องแสง ห้องน้ำ การจัดวางพอเหมาะเลยครับ

ห้องนอนที่มีช่องแสงข้างหัวเตียงทั้ง 2 ข้างนี่มันดูโปร่งดีจริงๆ

เอาล่ะครับ เราก็พาชมครบทุกห้องแล้ว ที่เหลือแวะไปดูส่วนกลางกันบ้างว่าสวยน่าใช้งานแค่ไหน

ขอสตาร์ทกันที่ชั้น 31 Top Floor ของที่นี่กันก่อนกับส่วนของ Sky Lounge ซึ่งมีหลายมุมให้ใช้งานครับ เราเข้ามาจะเจอกับส่วนนี้ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวไม่สุงสิงกับใคร แต่เค้าก็ตกแต่งดีไซน์ได้สวยนะครับ

ด้านในจะเป็นส่วนห้องขนาดใหญ่ มีทั้งโซฟาหลัก มีโซนโต๊ะทำงาน มีโซฟาย่อยๆ ให้ชมวิวแยกกันไป ความเป็น Futuristic ผสานกับวัสดุธรรมชาติ จับคู่กันได้พอดี แถมมีกระจกเต็มบานให้ชมวิวรอบข้างเลย

ออกมานอกห้องก็มีมุมที่นั่งส่วนตัวๆ ให้ใช้ด้วยนะครับ แล้วเค้าทำกระจกเต็มๆ แบบนี้ทั่วเลย ถือว่าได้ใช้ประโยชน์ในชั้นบนสุดนี้ได้คุ้มค่าหลายมุม

ห้องน้ำก็ไม่เว้น ไม่เว้นถ่ายเลย? หมายถึงไม่เว้นใช้กระจกด้วยเหมือนกัน! ออกแบบสวยจริง เห็นแล้วก็อยากล้างมือนานๆ

ที่อยู่ติดกันในชั้นนี้ก็คือฟิตเนสรายล้อมด้วยกระจกเช่นเดียวกัน Facilities สำคัญยกมาอยู่ชั้นบนสุดก็งามเช่นนี้แหละครับ

วิวเต็มตา เพิ่มพลังในการวิ่ง 100%

จากชั้น 31 นี้มีบันไดวนเดินลงไปชั้น 30 ต่อได้เลยครับ

เป็นที่ตั้งของส่วนกลางไฮไลต์ สระว่ายน้ำที่ว่ายได้รอบอาคารแบบ 360 องศาเลย กึ่ง Outdoor น่าว่ายจริงๆ

หรือจะแค่มานั่งชมวิวก็ได้ความสบายใจกลับไปแล้วล่ะครับ

ลงมาที่ชั้น 1 เป็นที่ตั้งของ Mail box ที่อยากเก็บภาพไว้ เพราะดีไซน์ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ของตัวอาคารมาถึงนี่

Lobby แบบ Double Volume ให้ความโปร่งสบาย รอต้อนรับในบรรยากาศที่ไม่หลุดคอนเซปต์โครงการเลย

เค้าจัดวางเซ็ตโซฟาแยกซ้ายขวาเอาไว้ให้นั่งได้หลายมุมนะครับ สำนักงานนิติฯ ก็อยู่ตรงโซนนี้เลย สามารถติดต่อได้สะดวก หมดจากในโครงการแล้ว ตามสัญญา ผมจะพาไปดูร้านคาเฟ่น่านั่ง และหาที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติจริงๆ ข้างนอกกันบ้าง

เริ่มกันที่ร้านแรก สีน้ำเงินสดใส อยู่ตรงข้ามโครงการเลย กับ Double U Coffee & Bakery

เป็นคาเฟ่ที่ไม่พลุกพล่าน เงียบๆ เหมาะกับมานั่งชิลล์ๆ มุมถ่ายในร้านมีหลากหลายมุมเลย และมีที่นั่ง 2 ชั้น ครับ ใครอยากได้เร็วๆ Grab & Go ก็มาที่ชั้นล่างซื้อกลับบ้านสะดวก ส่วนใครอยากใช้เวลานั่งนานๆ หน่อยก็มีที่ชั้น 2 เหมาะกับนั่งทำงานมากขึ้น

เบเกอรี่และเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลายเมนู ผมลอง Orange Sparkling Coffee ก็สดชื่นดีครับ ดื่มง่ายสำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟแบบผม

ชั้นสองมีที่นั่งทั้งแบบ Indoor & Outdoor ถ้ามานั่ง Outdoor ก็จะเห็นวิวคอนโดเราอยู่ตรงข้ามพอดิบพอดี

สองข้างทางก็มีร้านค้าหลากหลายนะครับ เสียดายไม่มีเวลาเท่าไหร่ไม่งั้นจะลองให้หมด

ผมพามาแวะอีกสไตล์ครับ คราวนี้เหมาะกับคนหาร้านนั่งนานๆ ในอารมณ์เดียวกับเวลาเราไป Starbucks ต้องร้านนี้เลย OASIS COFFEE

สาขานี้มีโต๊ะในร้านเยอะมากกก แต่ผมไม่ได้หันไปถ่ายเพราะเกรงใจลูกค้าที่มีอยู่เต็มร้าน มีให้นั่งถึง 2 ชั้นเช่นเดียวกันครับ ทุกคนก็มานั่งทำงานกันยาวๆ ในบรรยากาศอบอุ่นสบายๆ เค้าเปิดอีกสาขานึงที่ห้วยขวาง ที่โน่นให้บริการแบบ 24 ชม. กันเลยด้วย

ร้านนี้ผมมาลองชอคโกแลตร้อนซึ่งก็เจ้มจ้นใช้ได้ แถมมาด้วยกิมมิคก้นแก้วน่ารักๆ ให้พออมยิ้ม

เค้ามีที่นั่งด้านนอกร้านด้วยนะครับ อารมณ์เหมือนคาเฟ่ที่ฝรั่งเศสที่อยู่ริมถนนหันหน้าชมถนนสวยๆ แค่ว่าเมืองไทยมันตรงกันข้ามนิดหน่อย ฮ่าๆ มีมุมให้ได้ถ่ายรูปเก๋ๆ หน้าร้านกับงาน Paint ผนัง

เติมน้ำตาลเข้าเลือดเยอะแล้ว ขอทิ้งท้ายด้วยการไปเดินย่อยสักหน่อย ข้อดีของถนนนี้คือ ฟุตบาทกว้างเดินง่าย ในวันที่ไม่ร้อนเดินแปบๆ ก็มาถึงสวนสันติภาพแล้วครับ เป็นสวนสาธารณะที่ไม่ใหญ่ แต่ร่มรื่นและบรรยากาศดี

แค่อยู่ใต้ร่มไม้ก็เย็นลงเยอะแล้วครับ

เข้ามาในนี้เหมือนเป็นอีกโลกนึงเลย เป็นพื้นที่สีเขียวใกล้บ้านที่มาเดินวิ่งออกกำลังกายได้สะดวกมากๆ ครับ

และก็ครบแล้วนะครับ สำหรับ 1 วันสบายๆ กับคอนโด IDEO MOBI RANGNAM ท่ามกลางความอุดมสมบูรณ์ และธรรมชาติใกล้ตัวที่นี่ในซอยรางน้ำ ความรู้สึกผมนะ นี่เป็นคอนโดที่ดูด้วยรูปทรงและการตกแต่งสไตล์ล้ำสมัย แต่ให้บรรยากาศที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัวมาก ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน อาจจะไม่ได้มี Facilities หลากหลายอย่างเหมือนคอนโดที่ต้องแลกมาด้วยยูนิตจำนวนมาก แต่พื้นที่ในแต่ละส่วนนั้นให้มากว้างขวาง ใช้งานได้จริงๆ ซึ่งเมื่อรวมกับห้องที่เค้าปรับดีไซน์มาใหม่ผมก็คิดว่าน่าจะถูกใจหลายคนได้ไม่ยาก โดยเฉพาะคนที่ให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่น และการใช้ชีวิตในห้องของตัวเองครับ

คนที่สนใจสามารถคลิกลิงค์รับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่ https://anan.ly/3E0kh14

แล้วพบกันใหม่โครงการหน้าคร้าบ