รีวิวคอนโด Flexi Taopoon – Interchange ราคาเบาสบาย ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ เริ่ม 1.59 ล้าน*

ผมขอพาทุกคนไปดูคอนโดแล้วเสร็จใหม่เอี่ยมในย่านเตาปูนต้อนรับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่เริ่มใช้งานแล้วกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงเส้นทาง “สถานีคลองบางไผ่-สถานีเตาปูน” ที่ผ่านมาใครที่ใช้เส้นนี้เป็นหลัก ไม่ว่าจะไปศูนย์ราชการนนทบุรี หรือไปช้อปปิ้งที่เซ็นทรัลเวสเกตต์จะฟินมาก เพราะหยิบแบงค์สีเขียวใบเดียวเที่ยวได้ตลอด เช่นเดียวกันกับรถไฟฟ้าสายสีแดงอีก 2 เส้นทางที่วิ่งจาก “บางซื่อ-รังสิต” และ “บางซื่อ-ตลิ่งชัน” ซึ่งสายหลังนี้มีอินเตอร์เชนจ์ที่สถานีบางซ่อนด้วยครับ

เปิดมาด้วยรถไฟฟ้า ก็เพราะว่าพิกัดของโครงการในวันนี้ เชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้ 3 สถานีในระยะใกล้เคียงกัน (ประมาณ 1.5 กม.) ทั้ง “สถานีเตาปูน” ที่เป็นสถานี Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน – “สถานีบางซ่อน” ที่ Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีแดง – และ “สถานีบางโพ” สถานีสุดท้ายก่อนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสู่ฝั่งธน ถ้าเราใช้ชีวิตอยู่ในโซนจตุจักร หรือทำงานอยู่บางซื่อ การมาหาคอนโดอยู่โซนนี้สิ่งที่จะได้เลยคือราคาที่เบากว่า ในบรรยากาศที่ไม่วุ่นวายโดยใช้เวลาเดินทางแปบเดียว เป็นตัวเลือกที่น่าคิดสำหรับคนเพิ่งเริ่มทำงานไม่อยากสร้างภาระจนเกินไปครับ

เตาปูน-บางโพ เป็นย่านชุมชนเก่าแก่ มีชื่อเสียงจากการเป็นย่านโรงไม้ ถ้ามองหางานไม้ไม่ว่าเล็กใหญ่มาที่นี่ที่เดียวได้ครบทุกอย่าง ถือเป็นศูนย์รวมเรื่องไม้ที่ใหญ่ที่สุดใน กทม. ซึ่งเส้นทางที่เราใช้เข้าออกโครงการผ่านซอยกรุงเทพฯ – นนทบุรี 13 ก็จะได้สัมผัสบรรยากาศนี้ได้อย่างชัดเจนครับ รอบๆ โครงการคือ ถ.ที่เชื่อมต่อกันเป็นลูป ไม่ว่าจะ ถ.วงศ์สว่างที่เดินทางสู่รัชดาฯ และ ถ.ประชาราษฎร์สาย 2 ที่มุ่งหน้าสู่บางซื่อ มีห้างอย่าง Gateway บางซื่อ, Market Place และบิ๊กซีวงศ์สว่าง ให้ช้อปปิ้ง มีตลาดบางโพ ตลาดเตาปูน และร้าน Local อร่อยๆ คอยให้บริการ อย่างผมเคยไปอุดหนุนเฮียแบะบางโพ เป็นข้าวต้มรสชาติจัดจ้าน จะมาทานให้จอดรถที่ รพ.บางโพ นะครับ ส่วนใครอยากไปเที่ยวจตุจักร และเซ็นทรัลลาดพร้าว ก็ขึ้นรถไฟฟ้าไปแค่ 4 สถานีจากเตาปูน หรือจะไปทำงานย่านพระราม 9 ก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีครับ

ภาพรวมโครงการ Flexi Taopoon – Interchange

คอนโด “Flexi Taopoon – Interchange” เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ คือเมื่อเทียบกับพื้นที่แล้วเค้าสร้างอาคารไม่มาก ทำให้บรรยากาศภายในค่อนข้างเปิดโล่งให้อากาศไหลเวียนดี มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 555 (อันนี้ไม่ใช่หัวเราะแต่เป็นตัวเลขห้อง) ยูนิต ตัวอาคารใช้สีเทา สีน้ำตาลเข้ม ตัดสลับด้วยสีส้มเพิ่มความโดดเด่น อาคาร A จะได้ความสงบอยู่แยกออกมา ส่วนอาคาร B และ C จะอยู่คู่กันโอบล้อม Facilities หลักคือ สวนสีเขียว และสระว่ายน้ำเอาไว้ตรงกลางเป็นวิวภายในของทั้งคู่ แต่ละอาคารมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้หมด ซึ่งเราจะพาไปชมกันทุกมุมเลยครับ

วิธีคิดในการออกแบบโครงการนี้ก็เป็นหลักเดียวกันกับทุกโครงการของ Sena Development ที่ออกแบบมาอย่างละเอียดถึงการใช้งานจริง และวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นเรื่องที่ลงลึกไปถึง Detail ยกตัวอย่างเช่น โซฟาที่ใช้นั่งพักผ่อนในส่วนกลาง เค้าออกแบบให้มีจุดชาร์ต USB มาให้ เพราะเวลาเราไปนั่งรอใคร ทุกคนก็ต้องหยิบมือถือขึ้นมาไถไม่ต่างกัน ก็เตรียมไว้ให้เรียบร้อย หรือตอนเค้าพัฒนาโครงการแรกๆ เห็นว่าทางเดินหน้าโครงการไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ เค้าก็นำไฟส่องสว่างจาก Solar Cell มาติดตั้งให้เพิ่มความปลอดภัย และโครงการนี้ยังเป็นการร่วมทุนกับกลุ่มฮันคิว ฮันชิน จากญี่ปุ่น จึงได้นำ Knowhow เรื่องการออกแบบที่เรียกว่า geofit+ มาใช้ด้วย เป็นวิธีคิดของการพัฒนาอสังหาฯ ญี่ปุ่น ที่นำความคิดเห็นของคนอยู่มาปรับ ทดลอง ทำซ้ำ จนได้บ้านที่ตอบสนองความต้องการทั้งความสะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมครับ

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการนี้มีให้ใช้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Lobby, Co-working Space ที่จำเป็นสำหรับชีวิตคนทำงาน มีให้เลือกใช้หลายห้อง ด้วยรูปแบบที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะนั่งเป็นบาร์ ทำงานเป็นกลุ่มใน Meeting Room หรือเป็นมุมส่วนตัว, ห้องดูหนัง, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนสพร้อมวิวสระ, สวนและพื้นที่สีเขียวที่ทำไว้โดยรอบอาคาร ที่จอดรถมีครอบคลุม 45% มี EV Charger รองรับไว้แล้วถึง 3 ช่อง และมีช่องจอดสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะด้วย ส่วนใครเดินทางใช้รถไฟฟ้าก็มี Shuttle Service บริการรับส่ง MRT เป็นรอบๆ ครับ

ห้องที่นี่มีให้เลือก 3 รูปแบบ ครับ ได้แก่

  • ห้อง 1Bedroom ขนาด 27 – 28.5 ตร.ม. กั้นแยกห้องนอนห้องนั่งเล่นด้วยกระจกบานเลื่อนเป็นสัดส่วนเรียบร้อย แถมเป็นครัวแบบปิดมีให้เลือก 2 Layout ครบทุกความต้องการเลยครับ ไม่ว่าจะอยากห้องแบบครัวปิดติดระเบียงหรือ แบบ Walk-in Closet ที่ครัวอยู่ตำแหน่งใกล้ทางเข้าห้องก็มีให้เลือก
  • ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 36 ตร.ม. มีให้เลือก 2 รูปแบบ ไม่ว่าคุณอยากจะได้ห้องน้ำที่อยู่ด้านนอกสำหรับคนที่เผื่อไว้รับแขกบ่อยๆ หรืออยากได้ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนเพื่อความสะดวกของตัวเอง Layout นี้ Sold out แล้วครับ
  • ห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 54 – 54.5 ตร.ม. อันนี้ก็ยังมีให้เลือก 4 รูปแบบ แตกต่างกันที่ตำแหน่งของครัว และการให้ความสำคัญกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น หรือพื้นที่ในห้องนอน

ผมชอบ Layout ห้องที่นี่นะ เป็นอีกจุดนึงที่สะท้อนแนวคิดเรื่องการลงถึงรายละเอียดของเสนาได้ดี คือไม่ว่าจะเลือกรูปแบบไหน Layout อะไร ทุกห้องจะได้เป็นครัวปิดทั้งหมดแบบไม่ต้องกังวลเลยครับ และหลายๆ ครั้งเวลาเราไปดูคอนโดมันมักจะติดว่าอยากได้ห้อง type นึง แต่ Layout ไม่ตรงใจ เช่น ห้องน้ำอยู่ในห้องนอน กลัวจะไม่เป็นส่วนตัวเวลามีใครมา ซึ่งที่นี่เค้าคิดเผื่อรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันไว้อย่างรอบคอบ มีให้เลือกตามที่เราต้องการได้เลย บางยูนิตที่นี่เป็น Garden Access ด้วยแต่แว่วว่าขายหมดไปตั้งแต่ช่วงแรกแล้วครับ

สิ่งที่ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้นอีกสเตปคือ โครงการในซีรีย์ Flexi นี้ มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ครบเซ็ตที่คิดมาให้อย่างละเอียดเช่นเดียวกันครับ ไม่ว่าจะเรื่องของขนาด รูปแบบ และสีสัน จัดมาให้เข้าเซ็ตกันแบบที่เราจะได้เห็นรายละเอียดสัดส่วนหลัก มม. อย่างชัดเจนเลย ไม่ว่าจะเป็น ชุดครัวพร้อมตู้แขวนลอย, โต๊ะกินข้าวพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว, โซฟา 2 ที่นั่ง, ตู้เก็บรองเท้าพร้อมช่องใส่จดหมาย, ตู้วางทีวีพร้อมลิ้นชัก, ตู้เสื้อผ้า, ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตพร้อมที่เก็บของ ซึ่งจะแตกต่างกันเล็กน้อยตามขนาดของห้อง มีแอร์ Panasonic Inverter ติดตั้งมาให้ครับ

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ในราคาเริ่มต้นแค่ 1.59 ล้าน*นะครับ (เฉลี่ย 60,000 – 70,000 บาท/ตร.ม.) สำหรับคอนโดที่เดินทางเข้าเมืองง่าย ให้เฟอร์นิเจอร์ครบ ในราคาแบบนี้ผมว่าช่วยให้คนวัยเริ่มทำงานสามารถใช้ชีวิตได้สบาย ไม่ต้องมีภาระเกินความจำเป็น ใครที่สนใจผมขอชวนให้ลองเข้าไปดูโครงการจริงกันก่อนครับ ในวันที่ 4-5 พ.ย. นี้ เค้าจะจัด Event พิเศษเปิดตึกและส่วนกลางให้ชมแบบ 100% ใครอยากรู้ว่าโครงการเป็นยังไง ห้องที่เราเล็งโอเคมั้ย นี่จะเป็นโอกาสดีที่สุดเลยครับ ในวันงานมีให้ Voucher ของ Homepro และส่วนลด On top สูงสุดถึง 200,000 บาท*ด้วย สามารถลงชื่อล่วงหน้าได้ที่นี่เลยครับ https://bit.ly/3SeNLRS

วันนี้พามาชมคอนโดพร้อมอยู่กันที่ “Flexi Taopoon – Interchange” ในทำเลใกล้รถไฟฟ้า 3 สถานี ทั้ง MRT บางโพ, บางซ่อน และเตาปูน ส่วนกลางสวย มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบๆ ในราคาจับต้องได้ คุณภาพดีตามมาตรฐานของ Sena Development ที่คิดละเอียดกว่าก็อยู่สบายกว่า จะน่าสนใจยังไง ไปดูกันครับ

ที่นี่เป็นคอนโด Low Rise 3 อาคาร ในสไตล์โมเดิร์นรีสอร์ท คอนเซ็ปต์ ‘Flexi Your Style’ ให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างยืดหยุ่น รองรับทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะทำงาน หรือพักผ่อนครับ

สีสันของอาคารมีสีส้มตัดเพิ่มความโดดเด่น ส่วนที่จอดรถจะอยู่รอบๆ อาคารบริเวณชั้น 1 ครับ

ก่อนอื่นผมจะพาทุกคนไปดูส่วนกลางของที่นี่กันก่อน เค้าก็กระจายออกไปในแต่ละตึกนะ เริ่มที่ตึก A กันครับ มี Co-Working Space ที่มี Meeting Room อยู่ด้านในครับ ใครไม่อยากทำงานเหงาๆอยู่ที่ห้อง ก็ลงมานั่งตากแอร์ เปลี่ยนบรรยากาศทำงานที่นี่ได้ หรือจะนัดเพื่อนมาประชุมระดมสมองก็ได้ฮะ

อ่านหนังสือกับแสงธรรมชาติและแอร์เย็นๆ เป็นผมน่าจะหลับตั้งแต่เปิดหน้าที่ 2 แล้วล่ะ ฮ่าๆ

มาต่อที่ตึก B ตรงนี้เป็น Lobby ครับ สิ่งที่ผมชอบมากคือความใส่ใจในรายละเอียดของเสนาครับ อย่างโซฟาจะมีช่องเสียบ USB ชาร์จแบตได้แบบนี้ สะดวกสุดๆ

ถัดมาเป็น Fitness วิวสระว่ายน้ำครับ จะวิ่ง คาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง หรือปูเสื่อโยคะบิดคลายกล้ามเนื้อ ก็มีพื้นที่รองรับทั้งหมดนะ

อย่างที่บอกว่าอาคาร B และ C เค้าอยู่คู่กัน ระหว่างสองอาคารนี้จึงออกแบบเป็นสระว่ายน้ำ และสวนสีเขียวเป็น Facilities หลักและเป็นวิวสวยๆ ภายในครับ

ระยะว่ายออกกำลังกายกำลังดีเลย ผมว่ายไปกลับรอบเดียวก็พอละ ขึ้นฝั่งได้ ฮ่าๆ

ข้างกันมีสวนให้ออกมาเดินสูดอากาศได้ครับ บรรยากาศร่มรื่นเลย ที่นี่เค้ามียูนิต Garden Access ด้วยนะ เหมือนมีสวนหลังบ้านของตัวเองเลย

เดินตรงมาที่ตึก C ก็มี Co-Working Space อีกที่นึงครับ ตรงนี้จะดูมีสีสันสดใสขึ้นมา เหมาะกับกลุ่มเพื่อนมานั่งติว หรือจะนั่งพูดคุยเม้ามอยกัน สังเกตที่โซฟาก็ยังมีช่องเสียบ USB ชาร์จแบตได้

ใครมาคนเดียว ต้องการความเป็นส่วนตัว ก็มีมุมนั่งทำงานแบบนี้ให้ด้วย หรือจะมานั่งเล่นโทรศัพท์แบบน้องก็ได้ หรือใครบอกว่าที่นั่งยังว่าง คนข้างๆ ยังไม่มี จะจู๋จี๋กัน 2 คนเพื่อความอบอุ่น อันนี้ตามสะดวก

ด้านในมีห้องดูหนังพร้อมโซฟาขนาดใหญ่ถึง 4 ตัว นัดเพื่อนมานั่งดูหนังได้ทีเดียวทั้งแก๊ง

ส่วนน้องนั่งยิ้มแห้งๆ ดูคนเดียวไปก่อนละกันวันนี้

มาเดินดูรอบๆโครงการ เค้าก็มีสวนและพื้นที่สีเขียวอีกครับ อย่างข้างตึก A ก็มีสวนไปเดินเล่น หรือวิ่งออกกำลังกายได้ มาพร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนให้ลมพัดโกรก

ผมชอบความใส่ใจในการออกแบบของเสนานะ มีพื้นที่จอดรถสำหรับคนชราหรือผู้พิการหลายช่องเลยครับ ใส่ใจรายละเอียดดีมาก เสาไฟทางเข้าหน้าโครงการของที่นี่เค้าใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วย ให้ความสว่างในตอนกลางคืนแบบประหยัดค่าไฟ ช่วยลดคาร์บอนตามคอนเซ็ปต์คอนโด Low Carbon ครับ

และที่จอดรถที่จัดไว้ให้ใต้อาคาร B เป็นที่จอดรถคุณผู้หญิงครับ อยู่ใกล้ทางขึ้นตึก เน้นความปลอดภัยและสะดวก มาพร้อม EV Charger 3 จุด

ขึ้นไปดูห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ที่นี่เค้ามีห้องตัวอย่าง 3 รูปแบบให้ชม ซึ่งทุกยูนิตเค้าเป็นครัวปิด 100% ด้วย และเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาจากแนวคิด Geofit+ ที่เค้าออกแบบมาอย่างดีจากความคิดเห็นของผู้อยู่อาศัยจริงครับ

เริ่มที่ห้องใหญ่สุดก่อนครับ รูปแบบ 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 54 ตร.ม. เหมาะกับอยู่กันแบบครอบครัว ซึ่งรูปแบบนี้มีให้เลือก 4 Layout นะ รูปแบบที่จัดแสดงในห้องตัวอย่างจะเป็น Layout ที่เน้น Space ของห้องนอน เพิ่มพื้นที่ Walk-in Closet ให้ใช้แบบจุใจ

เข้ามาจะเจอกับโซนครัวก่อนเลย สะดวกสำหรับคุณแม่บ้านที่ไปจับจ่ายตลาดมาก็จัดวางเตรียมพร้อมที่ห้องนี้ได้ทันที ได้เคาน์เตอร์ครัวหน้าบานสีอ่อนแบบนี้ครับ วัสดุ Countertop ปิดผิวด้วยลามิเนตมาพร้อมซิงค์หลุมเดี่ยว ตู้แขวนลอยข้างบนติดตั้งมาให้แล้วครับ

ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวก็มีพื้นที่วางตู้เย็นและเครื่องซักผ้าครบจบที่โซนครัวนะ กั้นด้วยกระจกบานเลื่อนเป็นครัวปิด ถัดกันเป็น Living Area ที่จัดวางโต๊ะกินข้าวได้ถึง 4 ที่นั่ง ทำอาหารเสร็จก็เสิร์ฟข้างๆ ได้เลย จัดวางเชื่อมโยงกับโซฟา และระเบียงด้านนอก เฟอร์นิเจอร์เซ็ตนี้โครงการก็มีมาให้แล้ว (ไม่รวมโต๊ะกลาง)

ระเบียงตรงนี้ถ้าเป็นวิวด้านใน ก็จะมองไปเห็นสวนและชมวิวสระว่ายน้ำด้านล่างครับ

ระยะดูทีวีโอเคเลยนะ จุดนี้มีชั้นวางทีวี และตู้เก็บรองเท้าหน้าบานสีไม้อ่อนให้มาด้วย เก็บรองเท้า วางกุญแจ กระเป๋าได้ตรงนี้เลย ที่เห็นเป็นทางเดินเชื่อมไปด้านในจะเป็นส่วนพักผ่อนทั้งหมดครับ ไล่จากห้องนอนที่สอง และห้องน้ำที่อยู่ระหว่างทาง ส่วนด้านในสุดเป็น Master Bedroom ใหญ่พอๆ กับส่วนครัวและ Living Area ของฝั่งนี้รวมกันเลย

เดินเข้ามาทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอนที่สองครับ ซึ่งกว้างใช้ได้เลย มีกระจกบานใหญ่ให้ได้แสงธรรมชาติ

ตรงข้ามเป็นห้องน้ำส่วนกลางฮะ ครบฟังก์ชันทั้งส่วนเปียกส่วนแห้ง ตกแต่งด้วยสีเทาเข้มตัดกับสีขาวแบบนี้เลย ส่วน Shower Screen เค้าก็กั้นให้ดูเป็นแนวทางครับ

เข้ามาสุดทางก็จะเป็นห้องนอนหลัก ยาวตลอดพื้นที่ซ้ายขวาเลยครับ อยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่เปิดระบายอากาศ และให้แสงธรรมชาติสาดส่องทั่วห้อง

ฐานเตียงที่เค้าให้สำหรับห้องนี้เป็นขนาด 6 ฟุต มีช่องเก็บของเช่นเคยครับ อยู่คอนโดทุกตารางเซนติเมตรของพื้นที่มีคุณค่าหมด

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ของตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-In Closet และห้องน้ำในตัวครับ ยังเหลือพื้นที่ว่างจะทำเป็นโต๊ะทำงาน และวางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มยังได้ หรือจะบิวท์เพิ่มเป็นโซนแต่งตัวขนาดใหญ่เลยก็ได้ จุดนี้ใหญ่เหมือนห้องนอนในบ้าน

มาต่อห้องที่ 2 กับรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ที่มีไฮไลท์ตรงโซน Walk-In Closet ส่วนตัวครับ

ห้องนี้มี Living Area อยู่ด้านหน้าครับ กลับบ้านมาทิ้งตัวนอนเปิดดูซีรี่ส์ที่ค้างอยู่ได้เลย จัดวางโต๊ะกินข้าวได้ 2 ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ กัน

ตรงข้ามกันเป็นพื้นที่ชั้นวางรองเท้า และทีวีครับ ส่วนหลังประตูที่มีกระจกใสให้แอบดูได้ ไม่ใช่ห้องน้ำวาบหวิว แต่เป็นห้องครัวนั่นเอง ประตูแบบนี้ไม่ค่อยเห็นที่ไหนนะ ด้วย Space ที่ทำให้เป็นประตูแบบบานเปิดแบบนี้ เค้าก็เลือกที่จะเพิ่มกระจกเอาไว้ เวลาเปิดเข้าออกไม่ต้องลุ้นกันว่าจะไปตีเข้ากับกลางกระหม่อมคนรู้ใจของเรา ฮ่าๆ

ในห้องก็มีพื้นที่วางตู้เย็นได้ด้วยนะครับ เอาล่ะทำอาหารถึงไหนแล้วนะ ขอแอบส่องซักหน่อย

ถัดเข้ามาเป็นห้องนอนซึ่งกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนครับ เตียงเค้าตกแต่งสีหวานเลย เห็นแล้วอยากนึกถึงเค้กสตอร์เบอร์รี่ ถัดกันเป็นพื้นที่ระเบียง วางเครื่องซักผ้าได้ที่โซนนั้นเลย

มาถึงส่วนไฮไลต์ของห้องนี้กันครับ นั่นก็คือ โซน Walk-In Closet นั่นเอง น่ารักมากๆ เหมาะกับคุณผู้หญิงที่เสื้อผ้าข้าวของในการแต่งตัวเยอะครับ โต๊ะตรงนี้เค้าตกแต่งมาให้ดูว่าเราจะปรับเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานก็ได้ ห้องน้ำก็เข้าได้จากฝั่งนี้เลยครับ

ห้องสุดท้ายเป็นห้องรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. เช่นกันนะ แต่จะสลับครัวไปอยู่ติดระเบียงกันบ้าง เหมาะกับสายเชฟกระทะเหล็กที่เน้นท่าทางและอุปกรณ์

การจัดวางในส่วน Living Area จะคล้ายๆ กับห้องที่แล้วครับ แต่จะสลับโต๊ะกินข้าวกันนิดนึง

ฝั่งตรงข้ามเป็นตำแหน่งที่วางตู้รองเท้าและชั้นวางทีวี ด้านหลังของทีวีซ่อนทางเข้าห้องน้ำเอาไว้ ส่วนที่อยู่เยื้องๆ กันไปก็คือห้องนอนและห้องครัวครับ กั้นด้วยบานเลื่อนแบบนี้ช่วยให้ห้องดูสว่างดีนะ

ห้องนอนที่นี่เค้ากว้างขวางทุกห้องฮะ มีพื้นที่เดินซ้ายขวาได้สบายๆ ตู้เสื้อผ้าในห้องนี้ได้แบบมีบานปิดนะครับ

ห้องครัวของ Layout นี้นอกจากเป็นครัวปิดเหมือนเดิมแล้วยังอยู่ติดระเบียงด้วยครับ ใครมีเจ๊ไฝเป็นไอดอล หรืออยากซ้อมมือก่อนไปแข่งมาสเตอร์เชฟ เหมาะกับห้องนี้สุดๆ ระบายอากาศได้ดี มีแสงธรรมชาติเพียงพอ ไลฟ์สด ถ่ายคลิปทำอาหารได้เพลินๆ

ก็พาชมครบจบกันไปแล้วนะครับ ทั้งส่วนกลางและห้องตัวอย่างของที่นี่ ใครอยากมาสัมผัสตึกจริง บรรยากาศจริง ในวันที่ 4-5 พ.ย. นี้ เค้าจะจัด Event พิเศษเปิดตึกและส่วนกลางให้ชมแบบ 100% พร้อมสิทธิพิเศษมากมายครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือความน่าสนใจของโครงการเฟล็กซี่ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ครับ ไม่ว่าจะเริ่มต้นใช้ชีวิตคนเดียว หรือมีครอบครัว ชอบสันโดษ หรือเพื่อนฝูงมากมาย ที่นี่มีรูปแบบห้องให้เลือกได้ครบๆ เลยครับ และด้วยความใส่ใจในเชิงรายละเอียดของเสนา เป็นสิ่งเล็กๆ ที่มีความหมายทำให้เราได้ใช้งานกันได้จริง ไม่ว่าจะเรื่องของเฟอร์นิเจอร์ หรือพื้นที่ส่วนกลาง มากับราคาจับต้องได้ เริ่ม 1.59 ล้านบาท* ใครที่กำลังมองหาคอนโดย่านนี้ ก็ชวนให้เข้ามาชมครับ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด