เป็นยังไงกันบ้างครับกับวันหยุดสามวันผ่านมา ใครออกไปดูหนัง Aladdin, นอนดู Netflix อยู่บ้าน หรือออกไปตามหาเสื้อยูนิโคล่คอลเลคชั่นใหม่กันบ้าง ส่วนผมถือโอกาสในวันหยุดนี้ หนีออกจากเมืองกรุงมุ่งหน้าสู่ทะเลเพื่อไปพักร่างชาร์จแบตร่างกายให้กลับมามีไฟ มีพลังเต็มที่ ก่อนจะกลับมาตั้งใจเดินหน้าทำงานที่เรารักต่อไป
และแน่นอนครับกับทริป 3 วัน 2 คืนแบบนี้ เราก็เลือก “พัทยา” เป็นจุดหมายปลายทาง เพราะไปได้สะดวกแปบเดียวถึง และผมก็ได้มีโอกาสไปพักรีสอร์ทสวยๆ แห่งหนึ่ง ที่ตลอดทั้งทริปผมแทบไม่ได้ใช้เวลาไปที่อื่นเลย (นอกจากตลาดนัดใกล้ๆ) เนื่องจากที่นี่ช่วยให้ผมรู้สึกผ่อนคลาย และตอบโจทย์การพักผ่อนในช่วงวันหยุดสั้นๆ ครั้งนี้ได้มาก … ใครอยากจะรู้ว่าผมไปที่ไหนมา เดี๋ยวรอติดตามอ่ากันได้ที่นี่เร็วๆ นี้ครับ
เซเว่นพัทยา Flagship Store
อ่ะ พาออกทะเลกันไปหน่อย ขอเข้าเรื่องของวันนี้ด้วยการแวะไปแอบดูเรือยอร์ชที่จอดอยู่บนบก ณ พัทยาใต้ ที่มีของกินมากมายหลากหลาย ทั้งหยิบง่าย จ่ายคล่อง แถมยังแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร แบบว่าไฮเทคสุดๆ … ใช่ครับอ่านไม่ผิด เพราะที่นี่เค้าตกแต่งให้ดูเหมือนอยู่ใต้ท้องเรือในมหาสมุทร และมีทุกสิ่งให้เลือกสรรสมกับนิยามความเป็น “ร้านสะดวกซื้อ” ที่แท้ทรู นั่นก็คือ … เซเว่น อีเลฟเว่น สาขาธาราพัทยา… ซึ่งเป็นร้านระดับ Flagship Store สาขาที่ 2 ของ 7-11 ในเมืองไทย ที่ใครไปพัทยา ก็ควรลองเข้าไปดู ไปซื้อขนมจีบ ซาลาเปากันสักครั้งแหละครับ
ที่ผมตื่นเต้นจนต้องหยิบมารีวิว เพราะเซเว่นคือ “เพื่อนแท้เวลาหิว” ของผม ดังนั้นเมื่อเซเว่นที่ร้อง ตื๊ด ดืออ ไปวันๆ จู่ๆ กลายมาเป็น Landmark แห่งใหม่ในเมืองพัทยาได้แบบนี้ต้องไม่ธรรมดา แถมได้ข่าวว่าเป็นเซเว่นในยุคดิจิตัล ที่เหมาะกับผู้บริโภคยุค 4.0 อย่างเราเอามากๆ ถ้าอยากรู้ว่าเซเว่นที่นี่มีความน่าสนใจแค่ไหน ตามไปดูกันเลย
เริ่มตั้งแต่การตกแต่ง และการออกแบบให้ดูเหมือนมีเรือยอร์ชลำใหญ่จอดเทียบท่าอยู่ ด้านในมีการใช้วัสดุที่ใช้ในการทำเรือยอร์ชจริงๆ อีกด้วยนะครับ มีห้องน้ำไว้บริการ 2 จุดทั้งด้านนอกและด้านใน
เค้าจำลองให้เหมือนเรากำลังกินข้าว จับจ่ายซื้อของกันอยู่ใต้ท้องเรือในมหาสมุทร โดยมีการบิวท์ให้ดูสมจริงมากขึ้นด้วยจอ LED (Digital Aquarium) ฉายภาพบรรยากาศจริงจากใต้ทะเลอ่าวไทยที่ทาง CP ALL ร่วมกับ ม.บูรพาจัดทำขึ้นด้วยครับ
อีกหนึ่งจุดสนใจของที่นี่คือเจ้าตัวนี้ครับ “สินสมุทร” SEVY-BOT ที่แต่งตัวเหมือนนักประดาน้ำ คอยเลื่อนไปเรื่อยๆ ตามรางด้านบน ทำหน้าที่โบกมือทักทาย พูดคุยกับลูกค้า แต่ก็ไม่ต้องไปชวนเค้าคุยเรื่องเศรษฐกิจหรืออะไรยากๆ นะครับ เพราะน้องเค้าทักทายได้แค่ “สวัสดีครับ “ขอบคุณครับ อะไรทำนองนี้ ฮ่าๆ
ด้านในมีของกินเพียบครับ แบบว่าตอนแรกผมกะจะไปหาร้านอาหารนั่งกินข้าว เจอแบบนี้เปลี่ยนใจ กินเซเว่นมันนี่แหละ อิ่มเหมือนกัน แถมแอร์เย็นอีกต่างหาก สำหรับอาหารฝั่งนี้ก็มีทั้งสมูทตี้ แซนวิช โจ้กข้าวต้ม ให้เลือกหลายแบบ
ขนมปังใส่ตู้เรียงกันไว้ยั่วน้ำลายสุดๆ ไปเลยครับ
เมนูนี้อร่อยจนรู้สึกผิดว่าไม่น่าซื้อมาชิ้นเดียวเลย
ตู้น้ำ ตู้อาหารมีป้ายบอกชัดเจน หากันง่ายๆ ไม่ต้องเดินวนไป วนมา
ตรงจุดนี้ผมชอบมาก คือเค้าใช้ไฟในตู้วางสินค้าแบบ LED ทำให้ประหยัดพลังงานจากปกติที่เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ได้ถึง 30% ส่วนตู้อาหารสดก็มีการใช้กระจกซ้อน 2 ชั้นแบบพิเศษเก็บความเย็นได้ดี และไม่ทำให้เกิดฝ้า มาบดบังสายตาการเลือกสินค้า ทำให้ของในชั้นดูเชิญชวนให้หยิบขึ้นมาก หาง่าย เลือกได้เลยก่อนจะเปิดตู้ แต่เด็กๆ ก็จะอดเล่นเขียนข้อความบนกระจกไปนะครับ สาขานี้ ฮ่าๆ
Cashier จะอยู่ตรงกลาง ถ้าใครไม่อยากต่อคิวก็เดินไปใช้ Self-Checkout หรือจุดชำระสินค้าด้วยตัวเอง แค่สแกนบาร์โคดแล้วชำระเงินเป็นอันเสร็จเรียบร้อย หรือใครหิวสุดๆ หยุดไม่อยู่ เดินไปเปิดไมโครเวฟอุ่นอาหารเองก็ได้เช่นกันครับ
ของที่ระลึกก็มีนะครับ
เสลอปี้ที่รัก กดสัมผัสที่หน้าจอ เลือก Mix รสชาติเองได้ครั้งละ 2 รส ไม่ต้องบิดเองให้มือเหนียวเลย เอาซี่
สำหรับจอ LED จอนี้เค้าเรียกว่า Digital Energy Saving Monitor มีไว้แสดงการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ภายในร้านแบบ Real Time เพื่อให้เห็นว่าที่นี่เค้าประหยัดพลังงานได้จริงแบเห็นผลนะเออ โดยจะแบ่งเป็นระบบแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ และเครื่องเย็น ครับ
เท่านี้ยังไม่พอมีชั้น 2 ด้วยครับ
ชั้นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดสั่งอาหาร มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งทานพร้อม จะสั่งอาหารข้างล่างหรือข้างบนก็เดินขึ้นมานั่งทางบริเวณนี้ได้ครับ
ฮั่นแหน่ มี EV Charger กับเค้าด้วยนะครับ (ใช้เวลาชาร์จประมาณ 20 นาที/คัน)
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับ 7-11 Flagship store สุดล้ำที่ผมพาทัวร์กันในวันนี้ ใครที่มีโอกาสได้ไป Check In ถ่ายรูปลง Instagram ชิค ชิค แล้ว ก็อย่าลืมเอามาอวดกันด้วยนะ หรือใครที่ได้ลองเมนูคล็อกมูสแฮมผักโขมที่ผมบอกว่าอร่อยสุดๆ ก็ซื้อมาฝากกันสักชิ้น ฮ่าๆ วันนี้แว่นขอตัวก่อน ยังไงก็ฝากติดตามเรื่องราว “สนุกสนานไลฟ์สไตล์” ของพวกเราได้ที่ “LivingSneakPeek.com” ที่นี่ที่คร้าบบบ
Contact : livingsneakpeek.com
Facebook : livingsneakpeek
