ใช้ชีวิตติดห้าง เดินทางสะดวก ใกล้ BTS สายสีเหลือง ที่ ‘Nue Z-Square’

Nue Z-Square

ตอนเรากำลังหาคอนโดสักที่นึง ก็อาจจะมีเหตุผลในการเลือกทำเลต่างกันไปใช่มั้ยครับ บางคนอยากใกล้ที่ทำงาน บางคนอยากอยู่ใกล้ห้าง และมันก็คงดีมากถ้าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าด้วย และนั่นก็คือความคิดที่แล่นผ่านมาในหัวผมตอนยืนอยู่บน Rooftop ของคอนโดนี้ สายตามองออกไปเห็นสองห้างใหญ่อยู่แค่เอื้อม พร้อมกับเห็นรถไฟฟ้าสายสีเหลืองน่ารักที่กำลังเคลื่อนตัวเทียบสถานี ตรงนี้มี 2 ห้างติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์ที่พัฒนาแข่งกันสนุก ทั้งซีคอนสแควร์ และพาราไดซ์พาร์ค อยู่ที่นี่มีทุกสิ่งอย่างให้เลือกสรรทั้งอาหารการกิน ช้อปปิ้ง ซื้อของเข้าบ้าน จัดการเรื่องต่างๆ มีทั้งสวนสาธารณะและศูนย์กีฬาทางน้ำขนาดใหญ่ แล้วก็นั่งรถไฟฟ้าได้สะดวกด้วย นี่แหละครับคือส่วนหนึ่งชีวิตที่ Nue Z-Square คอนโดพร้อมอยู่จาก Noble Development ครับ

ห้าง + รถไฟฟ้า + ถนนที่เชื่อมต่อได้หลายสาย คือจุดเด่นของ Location นี้ครับ จากตัวโครงการที่อยู่ในซอยสุภาพงษ์ 3 แยก 5-4 เป็นซอยย่อยที่เข้าออกได้จากทั้งซอยศรีนครินทร์ 40 และ 42 ในระยะประมาณ 500 ม.มาถึงปากซอย จากตรงนี้ฝั่งตรงข้ามก็คือ 2 ห้างใหญ่ ใกล้ๆ ก็คือสถานีรถไฟฟ้าสวนหลวง ร.9 ภายในซอยนี้เชื่อมต่อถนนได้ถึง 4 สาย ทั้ง ถ.ศรีนครินทร์, สุขุมวิท, อ่อนนุช และอุดมสุข ระหว่างทางที่ผมเข้าไปจากหน้าถนนใหญ่ก็มีทั้งโรงแรม รวมถึงอาคารพาณิชย์ตึกเตี้ยๆ อยู่เรียงราย และก็มีชาวต่างชาติเดินทางไปมาในโซนนี้อยู่ด้วย

​ที่นี่เป็นคอนโดในซีรีย์ NUE ที่ผมรู้สึกว่าให้อารมณ์แตกต่างออกไปจากโครงการอื่นครับ โดยเฉพาะในเรื่องของขนาดโครงการที่มีจำนวนไม่เยอะ ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 2 ไร่ แต่ทำออกมาได้น่าสนใจ คือด้วยขนาดพื้นที่เท่านี้ เค้าพัฒนาเป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร รวมกันเพียง 289 ยูนิต (ที่จอดรถ 106 คัน) นี่เป็นข้อดีสำหรับคนที่ชอบความสงบเพราะคนน้อย ไม่พลุกพล่าน ผมเห็นสเกลแบบนี้บอกตามตรงว่าไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมีส่วนกลางอะไรมาก แต่เค้าทำออกมาได้เกินคาดแหะ Nue Z-Square ยังคงจุดเด่นในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางหลากหลายให้ใช้เยอะ เป็นการรวมกลุ่มฟังก์ชันใช้งานที่คล้ายกันให้อยู่ด้วยกัน จนแต่ละส่วนมีสเปซให้ใช้ครอบคลุมเหลือเฟือกับจำนวนยูนิตเมื่อเทียบกับโครงการทั่วๆ ไปซะอีก ซึ่งผมจะขอเล่าให้เห็นภาพแบบนี้ครับ

​ตัวอาคารเค้าเรียกชื่อว่าอาคาร X และ Y บรรจบเข้ากับชื่อโครงการที่มีตัว Z พอดี สองอาคารนี้เป็นตึกสูง 8 ชั้นทั้งคู่ เดินไปมาระหว่างกันได้ด้วยทางเชื่อมบริเวณชั้น Rooftop ที่ทำให้ตัวอาคารโดดเด่นเห็นมาตั้งแต่ทางเข้า ซึ่งภายนอกใช้สีเขียวเข้ากันดีกับการเพิ่มความชุ่มชื่นร่มเย็นของต้นไม้ลงไปในโครงการ โดยโซนแรกก็คือพื้นที่ส่วนกลางชั้นล่างที่รวมทั้งสระว่ายน้ำ สวน และสนามเด็กเล่นเข้าไว้ด้วยกัน ตรงนี้ต้นไม้ร่มรื่นมาก แต่ละอาคารก็มีล๊อบบี้แบบ Double Volume สูงโปร่งของตัวเอง พร้อมกับที่นั่งพักผ่อน มี Mailbox ที่ Smart เปิดปิดแบบไม่ต้องพกกุญแจและตกแต่งออกมาได้น่าถ่ายรูปจริงๆ

​ที่ชั้น 2 ของแต่ละอาคารจะมี Facilities ซึ่งสามารถเดินขึ้นได้เลยจากบริเวณล๊อบบี้ โซนนี้แหละครับที่เค้าจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ให้ใช้งานเยอะเลย แยกกันไป 2 อาคาร ฝั่งนึงเป็น Fitness ที่มีทั้งลู่วิ่ง จักรยาน Stepper สำหรับคาร์ดิโอ มี Machine และโซน Free Weight สำหรับการโฟกัสกล้ามเนื้อ และยังมีโซนสำหรับ Boxing ซึ่งสามารถปรับใช้เป็นส่วนโยคะได้ด้วย คือทุกตารางนิ้วในห้องนี้สามารถใช้ออกกำลังกายได้อย่างคุ้มค่าครับ อีกฝั่งเป็น Co-Creative Space ซึ่งมีมุมนั่งทำงาน อ่านหนังสือ ทั้งรูปแบบโต๊ะ โซฟาเอนหลังสบายๆ ให้นั่งดูทีวี มุมนั่งทำงานแบบเดี่ยว และห้องส่วนตัวให้อีก 4 ห้อง เรียกว่าเพียบ!

​ส่วนสุดท้ายสำหรับพื้นที่ส่วนกลางที่เค้านำพื้นที่มาใช้ได้คุ้มเหลือเกินก็คือส่วน Rooftop ครับ ตรงนี้จัดไว้อย่างเต็มพื้นที่เลย ผสมผสานทั้งส่วน Passive และ Active เข้าด้วยกัน จะมานั่งพักผ่อน ชมวิว ก็มีให้เลือกกระจายไปหลายโซน รวมถึงใต้ Pavillion จะจัดปาร์ตี้ BBQ เล็กๆ ก็ทำได้ หรือจะใช้พืชผักสวนครัวที่ปลูกเองในคอนโดก็มีพื้นที่รองรับ ส่วนใครอยากจะออกกำลังท่ามกลางธรรมชาติขึ้นมาบนนี้ก็มาได้ทั้งจ๊อกกิ้ง โยคะ และห้อยโหนกับอุปกรณ์บาร์ที่จัดวางไว้ เมื่อรวมพื้นที่ส่วนกลางบนนี้เข้าไปแล้ว ผมว่าเค้าเลือกแต่ละส่วนมาแบบที่คนอยู่อาศัยได้ใช้จริงครบสำหรับการใช้ชีวิตในโครงการเลยครับ

​สำหรับห้องของที่นี่มีตั้งแต่แบบ Studio ขนาด 22.20 ตร.ม. ไปจนถึงแบบ 2 Bedroom ขนาด 51.8 ตร.ม. ซึ่งก็ทยอยขายไปได้พอสมควรแล้วนะครับ ผมเก็บภาพห้องตัวอย่างที่ยังมีอยู่มา 3 Type ก็คือ

  • ​1 Bedroom ขนาด 26.7 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้อง 1 นอนสำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว เพราะได้ห้องนอนที่เป็นผนังทึบมีห้องน้ำในตัว จะว่าไปส่วนครัวนี่รวมข้อดีหลายอย่าง ทั้งการมีพื้นที่ให้ใช้งาน 2 ฝั่ง ตำแหน่งก็อยู่ติดกับระเบียงเปิดระบายอากาศได้งาน และบานเลื่อนกั้นครัวเลื่อนได้ทั้ง 2 ทางแบบไม่ Fix ด้วยใช้งานสะดวกมากขึ้น
  • 1 Bedroom ขนาด 30.8 ตร.ม. ห้องนี้ เป็นห้องที่ Layout เหมือนกับห้องแรกครับ แต่ได้พื้นที่ตอนลึกเพิ่มขึ้น สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็ทำให้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้องทำได้มากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะโต๊ะกินข้าว หรือตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้องนอน
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. ห้องนี้ก็เป็นห้องโชว์ความสามารถในการจัดสรรปันส่วนพื้นที่ของโนเบิล ที่ทำให้พื้นที่เท่านี้เสมือนมีห้องนอนได้ถึง 2 ห้อง ด้วยความเป็นห้องหน้ากว้าง ตรงส่วน Living Area ก็จัดออกมาแบบ Open Plan ร่วมกับส่วนครัวซึ่งได้เป็นครัวตัว L ขนาดใหญ่ และโต๊ะกินข้าวอยู่บริเวณกลางห้อง ฝั่งซ้ายและขวาก็แบ่งเป็นห้องนอนที่อยู่ติดกับห้องน้ำกับห้องอเนกประสงค์นั่นเอง

​ทุกห้องมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ครบชุดครับ สเปคของที่ให้ก็ดีเลยนะ ได้เตาและเครื่องดูดควันจาก Teka, สุขภัณฑ์จาก Kohler / Lavenz ได้ SPC เป็นวัสดุปูพื้นที่มีความทนทาน สำหรับคนเพิ่งเริ่มทำงานที่อยากมีคอนโดที่อยู่สบาย ใกล้รถไฟฟ้า มี Shuttle Service รับ-ส่ง ใกล้ห้าง ถ้าใจมาทางสายสีเหลืองแล้วล่ะก็ Nue Z-Square เป็นคอนโดสงบครบสำหรับชีวิตที่น่ามาดู ในราคาเริ่ม 1.89 ล้านบาท* ครับ บรรยากาศจริงและห้องตัวอย่างจะเป็นยังไง ตามไปดูกับเราด้านในได้เลย

​ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการ เริ่ม 1.89 ล้านบาท* จอง 0 บาท* รับทอง 1 บาท* พร้อมส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท* คลิก https://nobleurl.com/3PvcOxJ

Nue Z-Square

สวัสดีเดือนแรกของปีครับ ในวันที่มีลมเย็นๆ ท้องฟ้าสีครามสดใสแบบนี้ เลยอยากพามาชมคอนโดพร้อมอยู่ในบรรยากาศรีสอร์ทแสนร่มรื่น อยู่อย่างสงบเพราะยูนิตน้อย แถมใกล้ห้างซีคอนสแควร์และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีสวนหลวง ร.9 เราอยู่กันที่ “Nue Z-Square” ที่นี่ห้องแต่งให้ครบ ในราคาเริ่ม 1.89 ล้านบาท*

มองไปเห็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร พร้อมกับสะพานข้ามอาคารสวยๆ แบบนี้ตั้งแต่หน้าทางเข้า สีสันของตัวตึกด้วยสีเขียวเข้ม เข้ากับต้นไม้ใบหญ้าและความร่มรื่นภายในโครงการ แค่มองก็ผ่อนคลาย และที่สำคัญที่นี่มีเพื่อนบ้านแค่ 289 ห้อง เป็นส่วนตัวแน่นอน

ส่วนกลางเค้ามีทั้งหมด 3 ชั้น 9 โซน 17 กิจกรรมเอาใจคนรุ่นใหม่ ให้ออกกำลัง นั่งชิลล์ และทำงาน และยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน

ขอพาทุกคนไปชมห้องตัวอย่างของเค้ากันก่อนละกันครับ

รูปแบบห้องทั้งหมดของเค้ามีตั้งแต่ Studio 22.2 ตร.ม. ไปจน 2 Bedroom 51.8 ตร.ม. แต่งมาให้ครบแล้วครับ ส่วนที่จะพาชมวันนี้มีทั้งหมด 3 ห้อง ยังพอมีให้จองนะ รูปแบบ 1 Bedroom 2 ห้อง และ 1 Bedroom Plus อีกหนึ่ง ไปชมกันเลยครับ

เริ่มที่ห้องแรก รูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 30.8 ตร.ม. กันก่อนครับ อยู่ 1-2 คนได้แบบกำลังดี เหมาะกับคนวัยเริ่มต้นทำงานที่อยากจะขยับหาที่อยู่ของตัวเอง

เปิดประตูมาก็มีโซน Living แบบห้องหน้ากว้างต้อนรับ เก็บรองเท้าเข้าตู้ที่เค้าบิ้วท์ไว้ให้เรียบร้อย แล้วนั่งพักผ่อนกันสักหน่อย เพดานที่นี่สูง 2.4 ม. กับพื้น SPC ทนทานลายสวยๆ

ชุดโซฟาที่เค้าให้มาก็มีที่วางขา ให้นอนเหยียดแข้งเหยียดขาสบายใจได้แบบนี้ นอนเพลินจนหิว ก็ลุกเดินไม่กี่ก้าวถึงโซน Dining และครัวปิดอยู่ติดระเบียงครับ เค้ากั้นครัวด้วยบานเลื่อนกระจกก็ช่วยนำพาแสงเข้าห้องนั่งเล่นได้ด้วย และดีเทลที่ผมชอบคือบานเลื่อนเปิดได้ทั้ง 2 ฝั่ง จะทำอาหารหยิบเสิร์ฟที่โต๊ะสะดวกขึ้นเยอะเลย ดีกับพื้นที่แบบนี้มาก

ครัวยังมีเคาน์เตอร์มาให้ทั้ง 2 ฝั่งด้วย คนนึงทำอาหาร อีกคนเตรียมอุปกรณ์ ล้านจาน ช่วยกันก็จะไวขึ้น ถ้าหันมาส่งสายตาหวานๆ ให้กันอีก อาหารก็จะอร่อยขึ้น 50% มีเตาและเครื่องดูดควันยี่ห้อ Teka ติดตั้งให้มาแล้วครับ

ครัวเค้าก็อยู่ติดระเบียง วันไหนอยากทำผัดฉ่า ผัดผักบุ้ง ทอดปลาในน้ำมันฉ่ำๆ ก็เปิดประตูระเบียงช่วยระบายกลิ่นและควันได้อีกแรง พูดแล้วก็หิว ฮ่าๆ เครื่องซักผ้าก็วางตรงระเบียงนี่แหละครับ

เข้าไปดูในห้องนอนแสนส่วนตัวที่กั้นด้วยประตูบานทึบกันต่อ แอบเห็นพื้นที่ก่อนเข้าห้องนอนทางด้านซ้ายนี่ก็ยังเหลือที่ให้ทำมุม Hobby หรือบิ้วท์ชั้นวางของได้อีกนะ ส่วนตู้ข้างทีวีก็คือตู้เก็บรองเท้าที่เค้าบิ้วท์ไว้ให้นั่นเอง

เข้ามาที่ห้องนอนก็ได้ฐานเตียง 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าลายไม้สีอ่อนมาให้ โดยเค้าติดบานเลื่อนกระจกและทำชั้นวางของเพิ่มเข้ามาเป็นไอเดีย เผื่อคุณผู้หญิงอยากจัดมุมแต่งตัวให้เป็นสัดส่วนแบบนี้ก็ทำได้ ส่วนหน้าต่างนี่บานใหญ่มองวิวได้เต็มความสูง โปร่งสบายเต็มตา

เห็นแสงสวยๆ ว่าแล้วคุณน้องก็ขอชักภาพสักรูปนึง แชะ!

ที่นี่ก็เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวนะครับ ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนก็จะสะดวกในยามกลางคืน

มุมนี้ได้ทั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งเลยครับ

ภายในห้องน้ำได้กระจกบานใหญ่เต็มตา พร้อมชั้นวางของสีไม้อ่อนดูเข้ากันดี มุมตรงนี้เป็นพื้นที่สำหรับใช้วางของใช้ หรือผ้าเช็ดตัวเช็ดหน้าได้ เค้าติดฉากกั้นแยกโซนเปียกโซนแห้งมาให้แล้วด้วย ส่วนสุขภัณฑ์ก็ใช้แบรนด์ Kohler ครับ

ห้องถัดไปเป็นรูปแบบ 1 Bedroom เช่นกัน ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอย 26.7 ตร.ม. Layout เหมือนกันกับห้องแรก แต่ความลึกจะน้อยกว่านิดหน่อยครับ ห้องนี้หนุ่มโสดสาวโสดอยู่คนเดียวได้ชิลล์ๆ

ห้องนี้ก็จะเข้ามาเจอโซนห้องนั่งเล่นเช่นเดียวกัน ข้างกันก็เป็นโซนวางโต๊ะกินข้าวหรือโต๊ะทำงาน แต่วิธีการจัดวางเก้าอี้ทานข้าวก็จะแตกต่างนิดนึงให้เหมาะกับพื้นที่ห้อง

ถัดไปเป็นครัวปิดติดระเบียง มี Layout แบบพี่น้องกาสะลอง ซ้องปีปกับห้องแรก เรียกว่าส่วนครัวห้องที่แล้วดีตรงไหน ห้องนี้ก็ยกมาด้วย

ผมชอบพื้นที่ในห้องนอนนะครับ การจัดวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ทำให้มีพื้นที่ว่างทำให้ห้องดูกว้าง ใช้งานสะดวก

ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนเช่นเดียวกันครับ

ห้องสุดท้ายมาที่รูปแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. หน้ากว้างสะใจ ห้องนี้จะอยู่ 2 คนก็สบาย หรืออยู่กันแบบครอบครัวเล็กพ่อแม่และลูกเล็กก็ยังได้ เพราะห้องอเนกประสงค์แปลงร่างเป็นห้องนอนคุณหนูได้สบายเลย

เปิดประตูเข้ามากลางห้องก็จะพบกับโซน Living คั่นกลางระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ฝั่ง เป็น Layout ที่โนเบิลทำมาลงตัวสำหรับการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ทั้งเรื่องของหน้ากว้าง ความเป็นส่วนตัว พร้อมพื้นที่ให้มาพบปะกันตรงกลาง มานั่งพูดคุย ดูหนังเรื่องโปรดด้วยกัน

ระเบียงสามารถเข้าออกได้จากห้องนั่งเล่น ซึ่งห้องนี้ได้วิวสระว่ายน้ำสีฟ้าใสและต้นไม้สีเขียว มองดูสดชื่นสุดๆ เลยแหละ

พาไปดูทางฝั่งซ้ายของห้องกันก่อนนะครับ

โซนครัวและ Dining อยู่เชื่อมต่อกัน ตรงนี้วางโต๊ะกินข้าวได้ถึง 4 ที่นั่ง ให้กินอาหารกันพร้อมหน้าพร้อมตา บานเลื่อนตรงเคาน์เตอร์นี่เค้าทำมาให้เป็นไอเดียในการแบ่งฟังก์ชันการใช้งาน ตกแต่งตามกันได้ครับ

ครัวของห้องรูปแบบนี้ก็จะเป็นครัวตัว U มีเคาน์เตอร์และตู้เก็บของติดไว้ให้แบบจุใจ สมาชิกเยอะ ก็ต้องทำอาหารหลายเมนู มีพื้นที่ให้เตรียมอาหารได้มากขึ้น สำหรับเครื่องซักผ้า ก็มีที่ให้วางในครัวได้เลย

ห้องที่อยู่ติดกันกับห้องครัวก็เป็นห้องอเนกประสงค์ ที่ทำเป็นห้องนอนน้องหนูได้อีกห้อง โดยเค้าก็แถมฐานเตียง 3 ฟุตพร้อมตู้มาให้ด้วย หรืออยู่กัน 2 คน จะปรับเป็นห้องทำงานก็ได้ครับ

ส่วนทางฝั่งขวาก็ยังมีอีก 2 ห้อง คือห้องน้ำที่เข้าออกได้ 2 ฝั่งทั้งจากห้องนั่งเล่นและในห้องนอนที่อยู่ติดกัน

ห้องนี้ก็จัดวางเฟอร์นิเจอร์มาให้ครบเหมือนกันทั้งฐานเตียง ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

ห้องน้ำที่นี่ก็จะสะดวกทั้งกลางวันกลางคืน เข้าออกได้หมดตามแต่ว่าเราอยู่ตรงไหนเลย

และนี่ก็คือห้องตัวอย่างทั้งหมดที่เราพาชมในวันนี้นะครับ

ต่อไปมาเดินรับลม ชมบรรยากาศรอบๆ และส่วนกลางทั้งหมดของเค้ากันบ้าง

เริ่มจากส่วนกลาง Outdoor ที่ชั้น G ซึ่งเหมือน Oasis สีเขียวที่รายล้อมด้วยตึก ได้ความร่มรื่นด้วยร่มไม้ ได้ความผ่อนคลายจากสายน้ำ ด้วยสระว่ายน้ำตรงนี้นี่แหละ

ในสวนเค้ามีสนามเด็กเล่น พร้อมจุดพักผ่อน ให้รับลมชมทิวทัศน์ วันนี้อากาศดีมีลมโชยดูใบไม้ปลิวพลิ้วไหว นั่งเพลินเลยครับ

เข้ามาที่ส่วนกลางด้านในกันบ้าง ผมเริ่มที่ตึก Y ก่อนนะ ผ่าน Lobby ที่ชั้นแรกขึ้นมาชั้น 2 ก็จะพับกบ พบกับ Co-Creative Space ให้มานั่งทำงานอ่านหนังสือ

มีมุมและที่นั่งหลากหลายรูปแบบให้เลือกกันตามสบายเลยครับ จะทำงาน นั่งเล่น หรืออ่านหนังสือก็เลือกมุมที่ชอบ

หรือถ้าต้องการสมาธิมากๆ อยากได้ความเป็นส่วนตัว คุยงาน รวมถึงมาติวกับเพื่อนๆ เค้าก็มีห้องรองรับถึง 4 ห้องเลย พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ให้พักสายตาชมยอดไม้ด้านนอกด้วย เป็นโครงการที่ให้ห้องส่วนตัวเยอะจริงๆ เมื่อเทียบกับสเกลโครงการ

ถัดมาที่ตึก X กันบ้าง แม้โครงการขนาดไม่ใหญ่ก็ไม่ลืมให้ Lobby แบบ Double Volume มาด้วย ได้แสงธรรมชาติเต็มๆ ตรงนี้จะมีบันไดวนเดินไปชั้น 2 ได้เลย

แต่ถ้าหัวเข่าเราไม่ถูกกับบันได ก็เดินไปขึ้นลิฟท์ด้านในได้ 555 ก็จะได้เดินผ่านตู้ Mailbox ของตึกนี้ที่สมาร์ทด้วยเปิดง่ายไม่ต้องใช้กุญแจ

แถมมุมตรงนี้ก็ทำมาซะสวยเหมาะจะถ่ายรูปไว้อีกสักแชะ

ขึ้นมาชั้น 2 ก็จะเป็นโซนฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์เพียบ จะวิ่งลู่ ปั่นจักรยาน เดินสเต็ป เล่นเครื่อง หรือบอดี้เวท อยากเล่นส่วนไหนก็ได้ครบ เรียกว่าให้เครื่องล้นไม่สนพื้นที่

หรือการเล่นแบบนั้นมันธรรมดาไป ก็มานัดเคลียร์ใจกับเพื่อนในสังเวียนได้ด้วย ฮ่าๆ ส่วน Boxing นี้เค้าก็ยังใช้พื้นที่คุ้มอีก เพราะนั่งเล่นโยคะก็ได้ ครบจริงๆ

จากนี้ขอชวนไปเดินชมส่วนกลางชั้นสุดท้ายที่ชั้น Rooftop ด้านบนสุดกันครับ

ขึ้นมาแล้วก็เซอร์ไพรส์ว่านี่หรือคือ Rooftop หรือจริงๆ มันคือชั้น Ground มีพื้นที่ให้เดินเล่น นั่งชมวิว และออกกำลังกายกันได้อีกหนึ่งชั้น แถมตรงนี้ยังเป็นโซนปิ้งย่าง BBQ นัดเพื่อนหรือครอบครัวมาเอนจอยกันได้ อากาศกำลังดีเลย

ได้นั่งท่ามกลางต้นไม้ดอกไม้ มีพืชผักสวนครัวที่เราปลูกกินเองได้ ได้เดินหรือจ๊อกกิ้งออกกำลังกาย ช่วงเย็นๆ บนนี้น่าใช้งานมากครับ

ตรงนี้นี่เองคือสะพานที่เชื่อมทั้ง 2 อาคารไว้ด้วยกัน เป็นกระจกใสให้เราชมวิวได้สะดวกที่เห็นมาจากข้างล่าง

ด้านในสุดก็จะมีโซนออกกำลังกายกลางแจ้งให้โหนบาร์ ดึงข้อ เล่นส่วนอกส่วนหลังกันได้อีกจุด ส่วนในรูปนี่น้องหันมาถามว่ามันเล่นยังไง 555 ดูท่าก็พอจะเดาได้

วิวจากบนนี้มองเห็นรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีสวนหลวง ร.9 ห้างซีคอนสแควร์และพาราไดส์พาร์คได้ชัดเลย เพราะอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามนี่เอง สะดวกมาก เค้ามี Shuttle Service คอยรับส่งทั้งรถไฟฟ้าและห้างด้วยครับ ส่วนใครอยากได้ธรรมชาติเต็มปอด สวนหลวง ร.9 ก็อยู่แค่นี้เอง

และนี่ก็คือโครงการที่ทำให้เรามีชีวิตที่สะดวก ไม่ว่าจะการเดินทาง แหล่งไลฟ์สไตล์และสวนสาธารณะ มีห้องให้เลือกหลากหลายพร้อมแต่งเฟอร์นิเจอร์ให้ครบ แถมยังมีส่วนกลางสวยๆ ในบรรยากาศสงบเปรียบเสมือนโอเอซิสที่ซ่อนอยู่ในเมือง ที่ ‘Nue Z-Square’ ครับ

 

ข่าวสารน่ารู้

สโคป สร้างสีสันต้อนรับ “สโคป ทองหล่อ” โครงการแฟลกชิปล่าสุดบนสุขุมวิท-ทองหล่อ ปล่อยทีเซอร์สุดเท่ รูปแบบแอนิเมชัน ผลงานศิลปินระดับโลก Andrea Mongia สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดให้เข้าชมไตรมาสแรกปี 2568 นี้