แรกเริ่มเดิมทีที่ได้รู้จักกับ “ย่านจรัญฯ” ที่นั่งรถผ่านทุกวันตั้งแต่ยังเด็ก เหมือนจะเชื้อเชิญว่าอยากให้เราสนิทกันเหมือนจรัญสนิทวงศ์ แต่ใครจะคิดว่าจังหวะชีวิตจะนำพาผมให้ได้เป็นคนจรัญสนิทวงศ์ย่านบางอ้อ-บางพลัด มาร่วมสิบปี จรัญฯ เป็นเส้นทางที่การเดินทางคับคั่งในช่วงเวลากลางวัน และสงบเงียบในเวลากลางคืน เป็นชุมชนที่ผู้คนพักอาศัย แต่ก็มีแหล่งงานขนาดใหญ่ซ่อนอยู่ สำหรับผมแล้วจรัญฯ เป็นเหมือนประตูสู่ฝั่งธนฯ เดินทางเข้านอกออกเมืองง่าย สามารถใช้ชีวิตในวันว่างไม่ว่าจะไปหาของกินที่ตลาดราชวัตร เดินห้างย่านปิ่นเกล้า ไป Hangout สยาม หรืออยากตามหาของกินแถวราชพฤกษ์ จากที่นี่ไปได้สบายๆ ครับ
เมื่อวันที่การเดินทางสะดวกขึ้นด้วยการมีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ก็ทำให้จรัญฯ เจิดจรัสขึ้นไปอีก ความเป็น Loop Line ทำให้สายเดียวเดินทางเที่ยวได้ทั่วกรุงเทพฯ แต่จะสะดวกที่สุดก็ในฝั่งสถานีที่อยู่ใกล้ๆ ไม่ว่าจะบางซื่อ – จตุจักร ไป เยาวราช – สามย่านก็ไม่ยาก แต่ถ้าอยู่ตรงกันข้ามเป็นอีกฟากของลูป อย่างพระราม 9 หรือ อโศก ก็ใช้เวลาเดินทางหน่อย แต่ก็ยังมีข้อดีตรงไม่ต้องกังวลเรื่องการจราจร เพราะกำหนดเวลาได้ ซึ่งพอมีตัวเลือกอื่นนอกจากการใช้รถ การใช้ชีวิตก็ยืดหยุ่นครับ ผมว่าคนทำงานไม่ว่าจะเป็น กฟผ., รพ.ยันฮี, ส่วนราชการที่อยู่แนวถนนทหาร หรือคนฝั่งธนฯ ที่ยังอยากอยู่ใกล้บ้านแถวๆ บางพลัด บางอ้อ นี่เป็นจุดลงตัวที่น่าอยู่เลย
นอกจากเรื่องของสิ่งอำนวยความสะดวกและการเดินทาง จรัญฯ ยังมีเสน่ห์ของการเป็นชุมชนริมแม่น้ำ สะพานสำคัญๆ ก็อยู่ในโซนนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็นสะพานพระราม 7 ที่ตั้งของทางด่วนศรีรัชฯ เชื่อมไปสู่ ถ.รัชดาภิเษก, สะพานกรุงธนบุรี (ซังฮี้) ที่เดินทางข้ามไปไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สะพานพระราม 8 วิวสวยๆ ที่ช่วยให้ข้ามไปสู่ ถ.เพชรบุรีและสยามได้ แถมโซนบางพลัดนี้ยังมีแลนด์มาร์คริมแม่น้ำอย่างรัฐสภาใหม่ ที่โดดเด่นยามค่ำคืน สิ่งเหล่านี้เป็นจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการย่านบางพลัด จนการมาถึงของโครงการใหม่ที่ผมจะพาไปชมอย่าง “Chapter One Spark Charan” คอนโดใกล้ MRT บางพลัด เพียงแค่ 150 ม.* ครับ
ภาพรวมโครงการ Chapter One Spark Charan
ที่นี่เป็นคอนโดภายใต้แบรนด์ Chapter One จากพฤกษาที่ดูจากสีขาวสลับเทาดำด้านนอกอาคารปุ๊บ ก็รู้ปั๊บเลยว่าครอบครัวเดียวกัน มีคำโปรยเก๋ๆ ว่า “ใช้ชีวิตเจิดๆ ที่ Chapter One Spark Charan” มาจากการให้ความสำคัญในเรื่องของงานดีไซน์ พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย และสเปคภายในห้องที่ให้มาอย่างดี โครงการนี้เป็นอาคารสูง 26 ชั้น 1 อาคาร มีที่พักอาศัย 1,533 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดิน 6 ไร่กว่า Facilities ที่นี่มีให้ใช้งานถึง 3 ชั้น คิดมาจาก 3 โหมดหลักของชีวิต ไม่ว่าจะเรื่องการทำงาน สุขภาพ และการพักผ่อน แถมยังเป็นการร่วมมือกันกับเครือโรงพยาบาลวิมุตเพื่อให้ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจสุขภาพของลูกบ้านในระยะยาวด้วยครับ ผมขอเล่าให้ฟังสักหน่อย
บริเวณชั้น 1 มีสวน Sparkling Eden ให้ความร่มรื่นคอยต้อนรับเวลากลับถึงบ้านอยู่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังมีสนามเด็กเล่น หรือ Shine Zone ที่ออกแบบเพื่อสร้างเสริมการเรียนรู้สำหรับคุณหนูโดยเฉพาะ ด้านในอาคารมีการแบ่งสัดส่วนพื้นที่เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ไล่มาตั้งแต่ Waiting Area ที่อยู่ด้านนอกสุด, Sparkling Lobby และ Shining Lounge เป็นพื้นที่เชื่อมโยงต่อกันเข้ามาด้านในทั้งส่วนนั่งเล่นและทำงาน ถ้าใครอยากได้ห้อง Private ก็มี Chill & Shine Space หรือถ้าจะมาเป็นกลุ่มอย่าง Gather & Glow Room จัดเตรียมเอาไว้ให้ มีการออกแบบส่วน Vending & Delivery ไว้ต่างหากโดยไม่ต้องเดินออกมาภายนอก อ้อ ใครใช้รถไฟฟ้าเค้ามี EV Charger ให้มาแล้วด้วยนะ เป็นสิ่งซึ่งคอนโดอื่นในย่านนี้ยังไม่ได้มีออกแบบมาให้ครับ
ขึ้นมาที่ชั้น 5 เป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัยโอบล้อม Facilities ที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่สวนขนาดใหญ่อยู่ภายนอก ส่วนภายในเป็นพื้นที่ Co-working Space หรือ Cafe Glow สไตล์คาเฟ่ กระจกใส ให้ฟิลนั่งทำงานไปชมวิวไปให้จิตใจปลอดโปร่ง หรือจะเป็น Glow-Working Sapce แบบแยกโซนมุมสงบให้คนที่ต้องใช้สมาธิในการทำงานด้วยเช่นกัน และขาดไม่ได้สำหรับความบันเทิงชั้นนี้ชวนเพื่อนชวนแฟนไปนั่งชมได้ในห้อง Sparkling Ciné โรงหนังส่วนตัว
สุดท้ายคือทีเด็ดที่ต้องยกขึ้นไปไว้บนสุดกับ Rooftop Facilities ที่ชั้น 26 นอกจากจะเป็นชั้นที่วิวดีที่สุดแล้ว ยังมีห้องพักอาศัย 14 ห้องสุด Exclusive อยู่ที่ชั้นนี้ด้วย ที่จะได้ใช้ส่วนกลางสบายแบบเดินไปไม่กี่ก้าว ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำความยาว 50 ม. ไซส์โอลิมปิก ที่มีมุมแช่น้ำ แช่ jacuzzi ชมวิวส่วนตัว เหนือสระมีสะพาน Sparkling Bridge พร้อมพื้นกระจกสำหรับยืนสวมบทบาทแจ๊คกะโรสเหนือหัวเรือไททานิค แค่ไม่ได้ชนกับภูเขาน้ำแข็งที่ไหน เพราะวิวตรงหน้าเป็นรัฐสภาใหม่เคียงคู่แม่น้ำเจ้าพระยานั่นเอง บนชั้นนี้มีสวนให้อีกหนึ่งที่ ซึ่งเค้าผนวกเรื่องของพืชผักสวนครัว รวมทั้งการออกกำลังกายกลางแจ้งทั้งที่ปั่นจักรยาน และ Jogging Track ให้ใช้งาน ภายในอาคารยังมีฟิตเนสเทควิว 2 ฝั่ง, ห้องสตีมแยกชายหญิง เห็นวิวเมือง, Sky lounge และ Game Room เรียกว่าชั้นนี้มีทั้ง Indoor & Outdoor ได้ทั้งสุขภาพกาย ผ่อนคลายจิตใจ สดชื่นด้วยวิวแม่น้ำครบครับ
รูปแบบห้องและราคา
ที่นี่มีทั้งหมด 7 Room Type ครับ ได้แก่
- 1 Bedroom ขนาด 22 – 23.75 ตร.ม. เป็นห้องที่จัดวางพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นรวมกันแบบ Open Plan และกั้นแยกส่วนครัวออกมาเป็นสัดเป็นส่วน จุดเด่นก็คือ มีมุมทำงานติดกระจกบานใหญ่ให้ชมวิว
- 1 Bedroom ขนาด 26 – 27 ตร.ม. เป็นห้องที่กั้นทุกฟังก์ชันไว้ครบ ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัวซึ่งอยู่ติดระเบียงระบายอากาศได้ง่ายครับ ห้องนี้เค้าทำเป็นห้องตัวอย่างที่โครงการครับ
- 1 Bedroom ขนาด 28.00-28.75 ตร.ม. เป็นห้องที่จุดเด่นคือมีฟังก์ชั่นเพิ่มเป็น walk In Closet เหมาะกับสายแฟชั่น เสื้อผ้าของเยอะ ต้องชอบ
- 1 Bedroom ขนาด 30 – 30.75 ตร.ม. ห้องนี้จุดเด่นคือเป็นห้องหน้ากว้าง พื้นที่ส่วนนั่งเล่นกว้าง และห้องนอนได้เป็นผนังทึบเพิ่มความเป็นส่วนตัว Layout สวยเลยครับ
- 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม. เป็นห้องที่น่าจะถูกใจคนที่ใช้เวลาในห้องเพราะนอกจากจะได้ความเป็นส่วนตัว ได้ครัวปิดแล้ว ก็ยังได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มมาเป็นพื้นที่ให้ใช้งานตามความต้องการ
- 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55.30-55.75 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด หน้ากว้างที่สุดในโครงการ ความพิเศษคือ ได้ครัวปิดรูปตัว L ขนาดใหญ่ และสำหรับห้อง Type ขนาด 55.75 ตร.ม. ห้องนอน Master ยังได้กระจกเข้ามุมด้วย พร้อมกับพื้นที่ Living Area กว้างๆ จนวางโต๊ะกินข้าวได้ถึง 4 ที่นั่ง ถูกใจคนมีแพลนจะสร้างครอบครัวครับ
ห้อง Loft ขนาด 22.00-55.30 ตารางเมตร ที่มีอยู่จำนวนไม่เยอะมีเฉพาะชั้น 26
ห้องในโครงการนี้ออกแบบด้วยมีสเปคที่ดีเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยครับ ไม่ว่าจะเพดานสูง 2.7 ม. พื้นใช้วัสดุ SPC ทั้งทนทานและทนความชื้นได้ดีกว่าลามิเนตทั่วไป ให้กระจกบานใหญ่ ชุดครัวได้ท็อปหินเทียม Composite Stone และมีกระเบื้อง Backsplash บนผนังครัวเป็นลายหิน Terrazzo น่ารักน่าใช้ มี Digital Door Lock ติดตั้งให้แล้วครับ สำหรับเรื่องของราคาฟังให้ดีที่นี่เริ่ม 1.69 ล้าน* เท่านั้น (เฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 87,000 บาท/ตร.ม.) ผมว่าน่าสนใจเลยนะกับโครงการเปิดใหม่ปีนี้ที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าเพียงแค่ 150 ม. และเค้าจะเตรียมเปิดจองชั้นสวยในงาน Pre-Sale ครั้งแรก 18 – 19 พ.ย. นี้ครับ มาพร้อมกับโปรดีๆ จองแค่ 990 บาท (ถูกกว่าค่าจอง iPhone อีก ฮ่าๆ) ผ่อนเริ่ม 1,999 บาท/เดือน* ยังไม่หมด รับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 700,000 บาท* ไม่หยุดเพียงเท่านี้ จองในงานรับเฟอร์นิเจอร์ฟรีไปเลยทั้งเซ็ต* แต่ย้ำว่าจำนวนจำกัดนะครับ ใครที่สนใจ
- ลงทะเบียนรับสิทธิที่ https://bit.ly/3sc1jTF ได้เลย Pre-Sale 18-19 พ.ย.66 นี้
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1739 ครับ
ตอนเปิดเกริ่นด้วยอยากให้เราสนิทกันเหมือนจรัญสนิทวงศ์…ก่อนจะไปขอทิ้งท้ายว่า ถ้าอยากให้สปาร์คกัน ก็ลองไปดู Chapter One Spark Charan สักทีครับ
วันนี้พามาชมโครงการในย่านบางพลัด กับ “Chapter One Spark Charan” คอนโดใหม่ทางฝั่งธนฯที่มากับดีไซน์สุดชิค ได้วิวเมืองและแม่น้ำ ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีบางพลัด 150 ม. ติดถ.จรัญสนิทวงศ์ ที่จะมาเติมความเจิดจรัสให้บางพลัด ในราคาเริ่ม 1.69 ล้านบาทครับ
ที่นี่เป็นคอนโด High Rise สูง 26 ชั้นกับห้องพัก 1,533 ยูนิต อยู่บนพื้นที่ 6 ไร่กว่าครับ จุดที่ผมชอบคือมีพื้นที่สีเขียวในคอนโดเยอะดี เกือบ 3 ไร่แนะ นอกจากนี้ยังมี Facilities ที่น่าสนใจตั้งแต่ชั้นแรกไปจน Rooftop ผมขอเริ่มจากห้องพักอาศัยกันก่อนครับ
ที่นี่เค้าก็มีห้องรูปแบบหลักๆ 6 รูปแบบครับตั้งแต่ 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus ไปจน 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 22-55 ตร.ม. ครับ ส่วนที่สำนักงานขายทำ Show Unit ไว้ 2 ห้องครับ
เริ่มกันที่ห้องขนาดใหญ่กันก่อนนะ กับห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.5 ตร.ม. ขนาดกว้างขวาง ห้องนี้ตกแต่งมาแบบหวานแหววโทนสีละมุนเอาใจคุณผู้หญิง ที่อยากได้พื้นที่ในห้องไว้ใช้งาน
ผ่านประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวฝั่งซ้าย และห้องนั่งเล่นฝั่งขวา สามารถวางโซฟาขนาดยาวววววตลอดแนวพร้อมโต๊ะตรงกลางหนึ่งตัว อย่างห้องนี้ที่วางไว้เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ใช้ได้หลายอย่าง ทั้งทำงาน กินข้าว กินขนม ตกแต่งได้น่ารัก วันไหนอ่อนล้ากลับมาได้เจอห้องสวยๆ ของเราก็เหมือนได้เติมพลังเนอะ
ตรงข้ามกันกับโซฟาก็เป็นจุดวางทีวีพร้อมกับตำแหน่งแอร์ครับ ซ้ายมือทีวีก็เป็นส่วนของครัว ส่วนทางเข้าห้องน้ำซ่อนอยู่หลังทีวีฝั่งขวามือ
ฝั่งครัวทำเป็นครัวปิดกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนครับ ได้เคาน์เตอร์ครัวท็อปหินเทียม composite Stone สีขาวสะอาดตา มาพร้อม Back Splash กระเบื้องลายหิน Terrazzo น่ารักๆ แบบนี้แต่งแต้มสีสัน มาพร้อมเตาและที่ดูดควัน เป็นแบบดูดออกนอกตัวอาคารเลย ของ Hafele ทั้งหมด และวางเครื่องซักผ้าในโซนนี้อยู่ร่วมกันครับ
ถัดกันกับห้องนั่งเล่นก็คือพื้นที่ห้องอเนกประสงค์นั่นเองครับ กั้นกระจกบานเลื่อนแบบนี้มาให้แล้ว
ห้องอเนกประสงค์นี่สมัยก่อนตอนผมอยู่ห้อง 1 Bedroom ก็อยากได้มาก
พอมีก็กลายเป็นหนึ่งในห้องที่ได้ใช้ประโยชน์มาก ไม่ว่าจะทำงาน นั่งเล่น ซึ่งจะทำเป็นห้องดูหนังเล่นเกมส่วนตัว ก็ดูเข้าท่ามีระเบียงเข้าออกได้ที่ห้องนี้ด้วย
ถัดมาที่ห้องนอนขนาดกว้างกั้นด้วยประตูทึบได้ความเป็นส่วนตัว วางเตียงใหญ่ๆแบบนี้แล้วก็ยังมีพื้นที่เดินรอบได้สบายนะครับ
ข้างเตียงก็ยังเหลือพื้นที่บิวท์ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ครับ
พื้นที่ก็เลยเชื่อมโยงต่อเนื่องกัน อาบน้ำเสร็จเดินเข้ามาแต่งหน้าแต่งตัว สวยครบจบในมุมเดียว
ห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามห้องนอน ตกแต่งสุขภัณฑ์มาให้ครบ พร้อมกระเบื้องสีอ่อนสะอาดตา ส่วน Shower Screen เค้าตกแต่งมาให้ดูเป็นตัวอย่างนะ ผมชอบที่นอกจากจะมีช่องใส่อุปกรณ์อาบน้ำในโซน Shower มาให้แล้ว ยังมีช่องเก็บของข้างกับโถส้วมให้วางของได้อีก ดูใส่ใจรายละเอียดดี
ก็จบแล้วสำหรับห้องแรกนี้นะครับ ถูกใจคุณน้องเขาน่าดู
ห้องตัวอย่างอีกหนึ่งห้องที่นี่ คือ ห้องรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.5 ตร.ม. ห้องนี้ตกแต่งสีสันสดใสให้สปาร์คจอย เอาใจหนุ่มๆ บ้างครับ
ห้องนี้เปิดประตูเข้ามา ก็จะเป็นโซน Living เช่นเดียวกันครับ ผมชอบนะ เรียกว่าสองทุ่มครึ่งบึ่งถึงห้อง เปิดประตูกด 33 นั่งดูพี่หมื่น คุณหญิงการะเกดและมัลติเวิร์สของบรรดาออเจ้าได้ทันที ฮ่าๆ
มุมข้างทีวีก็บิวท์อินเป็นตู้เก็บของเก็บรองเท้าเป็น Flow สะดวกของการใช้ชีวิตในห้อง ด้านหลังที่เห็นนั้นเป็นพื้นที่ครัวปิดซึ่งจะเป็นประตูกระจกเฟรมอลูมิเนียมสีดำครับ ตำแหน่งแอร์ห้องนี้ก็จะขยับมาอยู่ตรงประตูครัวหน่อย Service ง่าย
ห้องนั่งเล่นมีพื้นที่ให้จัดสรรอยู่ครับ เราเลือกโซฟาขนาดกำลังดี ก็มีพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวได้อยู่ข้างๆ กัน สีสันไม่มีใครยอมใคร
ด้วยขนาดพื้นที่ห้องนี้ก็เหมาะกับการกั้นห้องนอนด้วยกระจกบานเลื่อนครับ
ห้องนอนจัดวางเลย์เอาท์ให้อยู่ฝั่งเดียวกันกับตู้เสื้อผ้า มีหน้าต่างบานใหญ่พร้อมบานกระทุ้งเปิดรับลมชมวิว
ภาพนี้บรีฟให้ยัยพุดตาน เอ๊ย น้องอายแง้มด้วยจริตคิดว่ามีแม่น้ำอยู่ตรงหน้า เปิดดูว่าเจ้าพระยาไหลแรงแค่ไหน
ก่อนไปต่อครัวแวะดูห้องน้ำสักนิด ฟังก์ชัน การตกแต่งเดียวกันครับ ช่องเล็กๆ นี้แหละที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นดีเทลที่มีความหมายนะ เมื่อก่อนไม่ค่อยมีใครทำ
เข้ามาในห้องครัว ตำแหน่งห้องนี้นอกจากเป็นครัวปิดแล้วยังอยู่ติดระเบียง ส่วนตู้เก็บของตรงนี้เค้าบิวท์มาให้เป็นแนวทางนะว่าพื้นที่ยังเหลือให้ตกแต่งเพิ่มเติม เพื่อให้ใช้พื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพครับ
ห้องครัวจัดวางตามพื้นที่แนวยาว มีตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าในนี้เหมือนกันครับ ซักแล้วเดินเอาไปตากที่ระเบียงใกล้ๆ พื้นในครัวเป็นกระเบื้องหายห่วงเรื่องความชื้น
บริเวณระเบียงเค้าก็ยกคอมเพรสเซอร์แอร์ขึ้นข้างบนไว้เรียบร้อย ใช้งานพื้นที่ด้านล่างได้สะดวก อยากจะปลูกต้นไม้ตามสไตล์สายเขียวผู้รักธรรมชาติ จัดได้เต็มระเบียงครับ
ก็ครบแล้วนะครับ กับห้องตัวอย่าง 2 แบบ 2 สไตล์ใน Sales Gallery ของเค้า ใครอยากมาชมห้องตัวอย่างมาได้ทุกวันครับ แต่ต้องบอกว่าสำนักงานขายไม่ได้อยู่ที่ Site โครงการนะ แต่อยู่ติดกับ MRT สถานีบางพลัดนะ ลงทางออก 3 เจอเลยครับ
ต่อไปผมจะพาชมส่วนกลางที่มีให้แบบจัดเต็ม ตั้งแต่ชั้น G จนถึงชั้น Rooftop ที่รวม Sky Facilities ให้ชมวิวแม่น้ำ วิวเมืองสวยๆ ได้เต็มตาของที่นี่ เริ่มที่ชั้นบนกันก่อนแล้วกันครับ
Rooftop Facilities ที่ชั้น 26 จุดไฮไลท์คือ Swimming Sparkling Pool ยาวถึง 50 ม. ว่ายกันแบบ Olympic ไปเลยครับ เค้ามากับสะพานรักสารสิน เอ๊ย Sparkling Bridge ที่จะเป็นมุมมหาชนคนทำคอนเทนต์ ชมพระอาทิตย์ตกแสนโรแมนติก หมั่นไส้คู่ไหนมากๆ เราจะดีดน้ำขึ้นไปไล่ให้พ้นสายตา ฮ่าๆ
ส่วน Indoor มี Energetic Gym ขนาดใหญ่ ให้ออกกำลังกายชมวิวสุดลูกหูลูกตาได้แบบนี้ มีให้เลือกใช้งาน 2 ฝั่ง 2 วิวกันเลย
ขาดไม่ได้ คือ Sparkling Sky Lounge ให้ได้นั่งพบปะสังสรรค์ ยังตกแต่งโทนสีชมพูอมส้มแซมสีเขียวเข้มดีไซน์เก้าอี้สุดเก๋ เพื่อความเจิดจรัสของจรัญฯ สมชื่อ
ด้านในอาคารห้อง Game & Galaxy พาเพื่อนมาดวลฝีมือ เล่นเกมสนุกๆคลายเครียด หรือจะพากันเครียดกว่าเดิมถ้าแพ้ทุกตาก็ไม่ทราบได้
ลงมากันหน่อยที่ชั้น 5 เค้ามีสวนขนาดใหญ่กลางโครงการมาให้นั่งพักผ่อน เดินเล่นชมนกชมไม้ พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนแบบ Outdoor กระจายอยู่หลากหลายจุดครับ มีการเล่นระดับชั้นบนยกพื้นที่ขึ้นเพื่อเปิดมุมมอง ลงมากันหน่อยที่ชั้น 5 เค้ามีสวนขนาดใหญ่กลางโครงการมาให้นั่งพักผ่อน เดินเล่นชมนกชมไม้ พร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อนแบบ Outdoor กระจายอยู่หลากหลายจุดครับ มีการเล่นระดับชั้นบนยกพื้นที่ขึ้นเพื่อเปิดมุมมอง ส่วนข้างใต้นั้นก็เป็นโซฟาแขวนสไตล์ชิงช้า เนี่ย ได้มุมโรแมนติกอีกละ
มีห้องเกมแล้วก็ต้องมีห้องดูหนัง Sparking Ciné ควบคู่กันครับ ห้องนี้ไม่เหมือนห้องดูหนังอื่นทั่วไปนะ เปิดชมวิวสวนสีเขียวได้อีกบรรยากาศ แจ่มจัง
ที่ชั้นนี้เค้าเน้นพื้นที่ให้ผู้คนได้มาใช้เป็นทั้ง Co-working Space และนั่งเล่น ซึ่งทำมา 2 แบบ 2 สไตล์ได้แรงบันดาลใจจากเวลาเราไปหาที่ทำงาน เราก็มักจะต้องตามหาคาเฟ่สวยๆ เรียกว่าไม่สวย มู้ดไม่มา ไม่ได้งานอย่างน้อยต้องได้ภาพ คราวนี้ไม่ต้องไปไหนไกล หมดข้ออ้างออกไปข้างนอกแล้วครับ ฮ่าๆ
ลงมากันที่ชั้นล่างกันครับ Lobby ก็ดีไซน์ได้ไม่เหมือนใคร เป็นพื้นที่พร้อมต้อนรับแบบโปร่งโล่งสบาย สีสันเค้านี่ต้องมีส้มแซมทุกพื้นที่ ถึงจะเป็น Chapter One Spark Charan
ออกไปดูที่โซน Outdoor กันบ้างครับ นี่คือสนามเด็กเล่นที่เค้าออกแบบร่วมกับโรงพยาบาล วิมุต ที่ไม่ใช่แค่สนุกแต่ยังส่งเสริมพัฒนาการของเหล่าเด็กๆ ตามช่วงวัยด้วยแนวคิด Live Well Stay Well อยู่ดีมีสุขของทางพฤกษานั่นเอง
ที่ผมชอบก็คือการมีสวนและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ในโครงการ ให้ออกมาสูดอากาศสดชื่นหลายพื้นที่ เพราะต่อให้เรามี Facilities สวยๆ มากมายแค่ไหน สุดท้ายร่างกายก็ยังโหยหาธรรมชาติเพื่อมาเติมเต็มอยู่ดีครับ
ทั้งหมดนี้ก็คือความเจิดจรัญของ ‘Chapter One Spark Charan’ ที่ผมพาชมกันไปครับ เป็นคอนโดที่มีส่วนกลางดีไซน์สวยตอบทุกไลฟ์สไตล์ อยู่ในบรรยากาศความสนุกสนาน ให้ได้สปาร์คจอยกันทุกวัน ที่สำคัญเดินทางสะดวก ติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า Loop Line สายสีน้ำเงิน สถานีบางพลัดเพียง 150 ม. ในราคาเริ่ม 1.69 ล้านบาทครับ ใครที่สนใจขอย้ำอีกครั้ง กับงานพรีเซลล์ 18 – 19 พ.ย. นี้ กับสารพัดโปรโมชั่น จอง 990 บ. ผ่อนเริ่ม 1,999 บ./ด.* ส่วนลดสูงสุด 700,000 บ. และจองในงานรับเฟอร์นิเจอร์ฟรี จำนวนจำกัดด้วยครับ สามารถลงชื่อรับสิทธิได้ที่นี่เลย >>> https://bit.ly/3sc1jTF
