คอนโด The Forestias Signature Series
ถึงวันนี้โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของไทยอย่าง “The Forestias” เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ จากผืนป่ากว้างใหญ่กว่า 30 ไร่ หัวใจของโครงการ ที่เค้าตั้งใจสร้างให้เกิดระบบนิเวศสมบูรณ์ในตัวเพื่อให้การใช้ชีวิตที่นี่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติมากที่สุด เราได้เห็นเรียงร้อยทั้งคอนโด บ้าน และ Branded Residence ลงไป ควบคู่กับการสร้าง “Happitat” พื้นที่รองรับการจัดกิจกรรม ร้านค้า ขบวนพาเหรดและศูนย์รวมความรู้ความบันเทิงที่เป็นสีสันให้ผู้คนได้กลับมาเที่ยวไม่รู้เบื่อ มาจนถึงการเปิดตัวโครงการล่าสุด “The Forestias Signature Series” ที่เราเอามาเล่าให้ฟังกันครับ
จุดเริ่มต้นของโครงการ
จุดเริ่มต้นของโครงการนี้ต้องพูดถึงตำแหน่งที่ตั้งใน The Forestias กันก่อน เค้ามีที่ดินอยู่แปลงนึงด้านในที่มีความสงบและเป็นส่วนตัว อยู่ในทำเลที่จะมองเห็นผืนป่ากลางโครงการทอดยาวตลอดแนวอย่างชัดเจนที่สุด จึงได้เริ่มพัฒนาเป็นคอนโดด้วยวิธีคิดที่ว่า “ทำโครงการโดยไม่ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดใดๆ เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” จึงเกิดเป็นคอนโดที่ให้พื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือกว้างขวางเหมือนบ้าน ซึ่งไม่เกินความจริงเลย เพราะห้องที่นี่เริ่มตั้งแต่แบบ 2 ห้องนอนขนาด 140 ตร.ม. ไปจนถึงยูนิตพิเศษสุดแรร์หนึ่งเดียวแบบ Duplex Penthouse ขนาด 917 ตร.ม. จะหาบ้านเดี่ยวที่ได้พื้นที่แบบนี้ยังหาได้ยากครับ
แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญก็คือ การใช้ชีวิตกลมกลืนกับธรรมชาติ จากที่ตั้งโครงการลูกบ้านสามารถเดินเชื่อมเข้าสู่ Canopy Walk ทางเดินยกระดับตามแนวยอดไม้เข้าไปสูดอากาศบริสุทธิ์จากผืนป่าส่วนตัวได้สบาย ทุกยูนิตเห็นวิวผืนป่านี้ได้เหมือนกัน และการออกแบบก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นตัวอาคารที่ใช้ดีไซน์อิฐมอญแดง หรือพื้นที่ส่วนกลาง โดยให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพชีวิตเป็นอันดับแรก ดังนั้นเรื่องของอุณหภูมิ, คุณภาพอากาศ, แสงธรรมชาติ, ระดับเสียง จึงได้รับการควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตไว้เรียบร้อย ผ่านวัสดุที่เลือกใช้ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เราแทบไม่ต้องทำอะไรเลยครับ
ลำดับต่อมาคือเรื่องของความเป็นส่วนตัว The Forestias Signature Series เป็นคอนโด High Rise สูง 44 ชั้น แต่มีเพียง 122 ยูนิต หรือต่อ floor มีมากที่สุดเพียงแค่ 4 ห้อง โดยมี Private Lift Lobby ส่งตรงถึงห้องทั้งหมด ถ้าได้เข้าไปชมโครงการจริง เค้ามีการทำ Projection Mapping บน Model ให้เห็นการใช้ชีวิตในโครงการแบบเกม The Sims ซึ่งสวยมาก ทั้งนี้ก็เพื่อให้แต่ละครอบครัวมี Privacy เดินทางเข้าออกคอนโดได้อย่างสบายใจ มาพร้อมกับที่จอดรถ 200% ซึ่งใช้ระบบ Automated Parking แบบที่ไม่ต้องขับเข้าช่องจอดเอง ขึ้นลงสะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวก
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในอาคารมีกระจายให้ใช้งานตั้งแต่ชั้น G / ชั้น 2 / ชั้น 20 – 22 / ชั้น 35 และ ชั้น 39 ไม่ว่าจะเป็น Treehouse, Multi-Purpose Lawn, Forest Terrace, Lobby แยกระหว่างแขกและลูกบ้าน, Co-Working Space, Smart Locker, The Enchanted Lounge, Playroom, Immersia Theater, Evergreen Dining Room, แต่งหน้าทำผมบำรุงผิวได้ที่ Private Salon และ Private Spa, ห้อง โยคะ, ห้องพีลาทีส, ห้อง Golf Simulator, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ พร้อมสระควบคุมอุณหภูมิ และสระเด็ก, Sauna แยกชายหญิง, Moonwake Club, และ Terrace ให้สูดอากาศ Outdoor ท่ามกลางสวนส่วนตัว
Facilities
นอกจากใช้งาน Facilities ต่างๆ ในโครงการแล้ว คอนโดนี้ยังอยู่ข้างๆ Hotel Indigo The Forestias ด้วย เมื่อแล้วเสร็จลูกบ้านก็เดินไปใช้งาน Facilities ที่โรงแรมนี้ได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นร้าน Café, Residents Lounge, ห้องจัดเลี้ยง และพื้นที่จัดประชุมต่างๆ เวลาเราพูดถึงโครงการใดในโปรเจค The Forestias สิ่งที่เป็นจุดแข็งมากๆ ของที่นี่ก็คือเรื่องของบริการ สิ่งอำนวยความสะดวกในภาพรวมที่มีเพื่อดูแลคนอยู่อาศัยแบบครบวงจรตลอดชีวิต ยังมีส่วน Office, Sport Complex, Town Center, ส่วน Retials และผืนป่าใจกลางโครงการ ที่เรียกว่าโครงการอื่นๆ ที่มี Scale เล็กกว่านี้ไม่สามารถทำได้ทัดเทียม
สิ่งสำคัญที่สะท้อนความอยู่สบายคือ พื้นที่ภายในห้อง ห้องที่นี่มีตั้งแต่แบบ 2 ห้องนอน (140 – 228 ตร.ม.) / 3 ห้องนอน (185 – 348 ตร.ม.) / 4 ห้องนอน (350 ตร.ม.) / 5 ห้องนอน (335 ตร.ม.) บาง Type มีพื้นที่ 2 ชั้นแบบ Duplex บาง Type มีสระให้เล่นน้ำส่วนตัว โดยยูนิตพิเศษก็คือ Duplex Penthouse พร้อมสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัว ขนาด 917 ตร.ม. ห้องที่นี่ออกแบบโดยเน้นความโปร่งสบาย เน้นแสงสว่างและวิวธรรมชาติ มีฟังก์ชันสำหรับการใช้งานไว้ครบครัน รวมทั้งคำนึงถึงชีวิตผู้อยู่เบื้องหลังอย่างแม่บ้านด้วย ซึ่งเราจะพาไปชมห้องตัวอย่างขนาด 185 ตร.ม. ในราคาเริ่ม 47 ล้านบาทของที่นี่กันครับ
จุดเด่นของห้อง
จุดเด่นของห้องคือจะหันไปทางทิศเหนือทำให้ไม่รับแดดโดยตรง มาพร้อมกระจกกันความร้อน ผิวสัมผัสในห้องแบบธรรมชาติด้วยพื้นไม้เอนจิเนียร์ ระยะเพดานสูง 3 ม. ที่นี่ขายแบบ Fully Fitted ตกแต่งชุดครัวมาให้พร้อม Hob & Hood ตู้เย็นแบบบิวท์อิน และ Microwave Combi Oven โดยใช้ท็อปหินชนิดพิเศษที่มีความทนทานกว่าหินควอตซ์ และสามารถเช็ดรอยได้ มาพร้อมกับระบบ Home Automation ดีไซน์และรายละเอียดแต่ละมุมเดี๋ยวดูในภาพกันต่อนะครับ ราคาที่นี่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 250,000 บาท/ตร.ม. ใครที่สนใจขอเชิญให้ไปที่โครงการเพื่อชมด้วยตาตัวเอง ยิ่งตอนนี้ต้นไม้ที่นั่นเริ่มหนาแน่นเขียวขจีแตกกิ่งก้านสาขา เห็นการพัฒนาชัดเจนจากตอนเปิดตัวตอนแรก ทำให้ได้ประสบการณ์ที่พิเศษจริงๆ ครับ
ติดต่อโครงการได้ที่ https://mqdc.com/…/discov…/signature-series/theforestias หรือ โทร.1265 ครับ
#LivingSneakPeek #TheForestias #MQDC #TheForestiasSignatureSeries
วันนี้ผมพามาชมโครงการสวยๆ รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว อย่าง ‘The Forestias Signature Series’ คอนโด 1 ในสุดยอดอาณาจักร The Forestias ย่านบางนา ที่เน้นพื้นที่ห้องใหญ่อยู่สบาย จะเป็นยังไงไปชมกันครับ
ห้องที่นี่เน้นเรื่องธรรมชาติเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเรื่องแสง อากาศ อุณหภูมิ หรือวิวทิวทัศน์ที่ทำออกมาได้เต็มอิ่ม
ห้องตัวอย่างที่จะพาไปชม เป็นห้องรูปแบบ 2 Bedroom ขนาด 185.32 ตร.ม. ที่มีห้องอเนกประสงค์เพิ่มมา, มีห้องครัวถึง 2 ห้องด้วยกัน และมีห้อง Maid 1 ห้องครับ สำหรับห้อง Type นี้เค้าให้ที่จอดรถ 2 คันครับ
ไฮไลท์ของโครงการนี้คือเค้ามี Private Lift ที่รับ-ส่งถึงหน้าห้องเลย ซึ่งทางโครงการเค้าก็จำลองตำแหน่งลิฟท์มาให้ดูด้วยครับ ในแต่ละชั้นจะมีจำนวนห้องพักมากสุด 4 ยูนิตเท่านั้น ลิฟท์ส่วนตัวก็มี 4 ตัวพอดี และเมื่อลิฟท์มาถึงห้องของเรา ก็จะเปิดมาเจอกับ Foyer ส่วนตัวของห้องเรานั่นเอง
โถงหน้าห้องก็จะมีที่นั่งพัก ให้ถอดหรือใส่รองเท้าครับ ส่วนประตูทางซ้ายมือจะเป็นโซนครัวไทย รวมถึงห้องซักล้าง และทางไปห้องนอนแม่บ้าน ซึ่งเป็นโซนที่เค้าดูแลจัดการนั่นเอง ไว้ผมจะพาไปดูทีหลังนะ
ข้างๆที่นั่งเค้าก็ทำเป็นตู้รองเท้าให้ดูครับ มีพื้นที่เก็บได้เยอะทีเดียว
จาก Foyer ด้านหน้าผ่านประตู Digital Door lock มาก็เป็นด้านในโซนห้องพักอาศัยครับ พื้นที่ในนี้เป็นสไตล์ห้องหน้ากว้างจัดวางพื้นที่ Common Area ไว้ตรงกลาง และมีห้องนอนแยกไป 2 ฝั่งทั้งซ้ายและขวา
ด้านขวามือก่อนจะเข้าไปถึงด้านใน เป็นพื้นที่ของห้องน้ำแบบ Powder Room ครับ กลับบ้านมาก็เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว ล้างไม้ล้างมือได้ตั้งแต่ตรงนี้ และเป็นห้องน้ำรับแขกที่ไม่เข้าไปรบกวนด้านในครับ
ผมจะพาชมทางปีกขวาของห้องก่อนแล้วกันครับ ที่โซน Living หน้ากว้างสูงโปร่งด้วยเพดาน 3 ม. มากับช่องแสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่เต็มพื้นที่เลย เป็นกระจกกันความร้อนด้วย จัดสรรฟังก์ชันด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียงกันมาทั้งโซฟา, Dining Table, Pantry
มีพื้นที่กว้างแบบนี้ก็สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 6 คนได้สบายๆ เหลือพื้นที่ด้านข้างเหลือเฟือ
ที่นี่เค้าขายแบบ Fully Fitted ครับ ก็จะได้เคาน์เตอร์ครัวและ Island หินสังเคราะห์ชนิดพิเศษ สีครีมอ่อนแบบนี้ ซึ่งหากมีรอยขีดข่วนก็สามารถใช้น้ำยาเฉพาะขัดให้สวยเหมือนใหม่ได้ ส่วนนี้ก็จะได้เตาอบ เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน รวมถึงตู้เย็นบิ้วท์ครบครับ ทางซ้ายมือจะเห็นช่องที่เปิดอยู่ เป็นพื้นที่ครัวไทยครับ
มาแอบส่องในช่องนี้ซักนิด เค้าเอาไว้รับส่งอาหารผ่านครัวไทยด้านในนี่เอง เดี๋ยวค่อยพาไปดูเต็มๆอีกทีนะครับ
ต่อมาในส่วนของพื้นที่นั่งเล่น เค้าจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ พร้อมที่นั่งซ้ายขวาได้เหลือๆ ที่หน้าทีวีจะเห็นโรบอตรูปไข่ นั่นคือน้องไข่ต้มที่เราจะได้รับมาด้วยครับ เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะควบคุมระบบ Home Automation สั่งการไฟ แอร์ หรือผ้าม่านผ่านแอพได้ น้องทำได้ทุกอย่างแบบไม่ดื้อ
ถัดออกไปเป็นโซนระเบียงที่กว้างใหญ่ ใช้งานได้จริงครับ มีผืนป่าส่วนตัวทั้งที เค้าก็มีพื้นที่แบบนี้ให้ชื่มชมได้แบบเต็มตา แบบหาคอนโดอื่นในกรุงเทพไม่มีเหมือน
มาที่ห้องนอนหลักสุดอลังการครับ ห้องนี้จะมากับผนังห้องน้ำที่เป็นกระจก แบบ Sexy Bath นำพาแสงธรรมชาติ ทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งขึ้นมาก
นอนอยู่ข้างหน้าต่างบานใหญ่แบบ Full Height ให้นอนชมแมกไม้ใจกลาง The Forestias ได้จากห้องนอนเลย
ก่อนเข้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับทำ Walk-In Closet ครับ เก็บของได้เยอะ อาบน้ำเสร็จแล้วก็มาแต่งตัวแต่งหน้าได้ที่โซนนี้
ห้องน้ำกว้างขวาง เค้ามีอ่างอาบน้ำแบบ Free Stand ติดตั้งมาให้ รวมทั้งกระจกแต่งหน้ายาวตลอดแนว พร้อมอ่างล้างหน้าแบบ His & Her ห้องน้ำก็ตกแต่งด้วยโทนสีครีมอ่อนเช่นกันครับ ให้ความรู้สึกอบอุ่นดีจัง
อีกฝั่งของห้องน้ำเป็นพื้นที่โซนโถสุขภัณฑ์ และโซน Shower แยกกันเป็นสัดส่วนพร้อมประตูกระจกใส นั่งส้วมไป หรืออาบน้ำไปก็ยังชมวิวได้
สุขภัณฑ์อย่างก๊อกน้ำ หรือ Rain Shower ได้สี Copper เป็นสีพิเศษของ Gessi แบบนี้ ดูหรูหรา เข้ากับอ่างล้างมือ Duravit ได้ลงตัว
หลังจากดูห้องนอนฝั่งนี้ครบ ก็ไปดูทางปีกซ้ายของห้องกันบ้างครับ
ระหว่างทางเดิน มีอีกหนึ่งห้องอเนกประสงค์ทางขวามือ ที่นี่เค้าตกแต่งเป็นห้องทำงานอ่านหนังสือครับ เป็น Station ส่วนตัวที่กว้างขวางพอจะวางเก้าอี้พักผ่อนไว้อีกชุดได้เลย
จากห้องนี้ เดินไปสุดทางเดินก็เป็นห้องนอนอีกห้อง ซึ่งขนาดพอๆกับห้องนอนหลักเลยครับ ทั้ง 2 ห้องนอนแยกกันอยู่คนฝั่งห่างกันแบบรักษาความเป็นส่วนตัวระหว่างกันได้ดี
จัดวางทั้งเตียง มุมทำงาน เก้าอี้นั่งพักผ่อนได้สบายๆ ห้องนี้ได้กระจกมุมทรงโค้งสวยงาม ทำให้ได้วิวเต็มตาแบบพาโนรามา
ทางซ้ายของห้องก็เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อม Walk-In Closet ด้านในครับ
นอกจากเป็นที่แต่งตัวแล้วก็เสมือนเป็น Corner ส่วนตัวให้เก็บข้าวของ เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้ที่นี่
มาพร้อมห้องน้ำในตัวเช่นกันมีแนวกระจกยาวทางด้านข้างเพิ่มความโปร่งรับแสงธรรมชาติจากด้านนอกครับ ห้องน้ำฝั่งนี้ก็จะเล็กลงหน่อย
กลับออกไปดูตรงโซนครัวไทยและห้องซักล้างกันครับ ตรงนี้ก็จะเป็นโซนเชื่อมระหว่างห้องพัก โถงส่วนกลาง และห้องนอนแม่บ้าน ซึ่งเป็นโฟลว์ให้ทีมหลังบ้านของเราเค้าได้ทำงาน และกลับห้องนอนได้สะดวกครับ
ครัวไทยก็กว้างขวางเลย ตกแต่งโทนสีขาวดูสะอาดสะอ้านสบายตา มากับเคาน์เตอร์เข้ามุมพร้อมช่องเล็กๆ ที่เราเห็นจากฝั่งด้านในเพื่อใช้ส่งของระหว่างกันแบบไม่ต้องเดินอ้อม
ข้างกันเป็นพื้นที่ห้อง Laundry ครับ วางเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าได้ครบ ด้วยความสูงเพดานสามารถทำตู้ที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆ ได้เยอะจริงๆ
ด้านหลังเชื่อมต่อกับทางเดินไปห้องแม่บ้านและออกสู่โถงลิฟท์ส่วนกลางได้ครับ ซึ่งตู้ตรงนี้ก็คือ Mailbox ส่วนตัวของแต่ละห้อง ที่เค้าจะนำมาส่งได้สะดวกถึงหน้าประตู
ไปดูห้อง Maid หรือห้องนอนส่วนตัวของแม่บ้านกันบ้าง ระหว่างทางเดินก็มีหน้าต่างบานใหญ่ให้ด้วย
ฝั่งขวาเป็นห้องน้ำขนาดกะทัดรัด แถมทำ Shower Box ไว้ให้ แยกโซนเปียกแห้งเรียบร้อย อารมณ์เหมือนโรงแรมเล็กๆ ที่ญี่ปุ่นเลย
ห้องแม่บ้านก็มีตู้เสื้อผ้าสูงเต็มพื้นที่มาให้ และก็มีช่องแสงธรรมชาติที่ปลายเตียงเพิ่มมาอีก ให้อยู่โปร่งสบายกันทุกชีวิตในครอบครัว
ต่อไปผมจะพาไปชมส่วนกลางในโครงการกันบ้างครับ เค้ามีทั้งหมด 25 รายการ ตั้งแต่ชั้น G Floor – ชั้น 39 เลยครับ
ตำแหน่งที่ตั้งโครงการอยู่ด้านในสุดที่จะมีความสงบ และได้เห็นวิวสวนป่ากว่า 30 ไร่ หัวใจของเดอะฟอเรสเทียส์ เต็มตาตลอดแนวยาว
เริ่มที่ชั้น G ที่โซน Outdoor ก็มี The Garden ให้ได้เดินสูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวครับ
มาที่ Forest Terrace พื้นที่นั่งปิกนิกในสวน พร้อมอุปกรณ์ปิ้งย่าง สามารถมาปิกนิกพักผ่อนกันได้ทั้งครอบครัวครับ
มี Outdoor Sitting Area ให้เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งชมนกชมไม้ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวเติมความสดชื่นได้ครับ
มาที่ชั้น 2 มี The Enchanted Lounge มานั่งชิลล์ พบปะพูดคุย จิบเครื่องดื่มได้ครับ ตกแต่งด้วยวัสดุสี Copper และไม้สีเข้มที่เน้นความกลมกลืมกับธรรมชาติ โดยมีลูกเล่นคือดีไซน์สไตล์อิฐมอญแดงเป็นเอกลักษณ์ของอาคาร
ยังมี Private Spa และ Private Salon สำหรับเหล่าแม่บ้านให้มาใช้เวลาว่าง นัดช่างส่วนตัวมาเสริมเติมแต่งความสวย หรือนวดผ่อนคลายแบบส่วนตัวกันได้
และชั้นนี้ก็ยังมี Play Room ให้เล่นสนุกสนานกับโต๊ะพูล และกิจกรรมที่เค้ามีให้ครับ นอกจากนี้ก็ยังมีห้องดูหนังส่วนตัวเพิ่มความบันเทิงอีกด้วย
ขึ้นมาที่ชั้น 20 มี Yoga & Pilates Room ให้ออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายเพื่อสุขภาพกันได้ ชั้นนี้มีห้อง Golf Simulator ด้วยครับ
ส่วนใครชอบออกกำลังกายหนักหน่อย ขึ้นมาที่ชั้น 21 ก็มี Gym รองรับครับ มาพร้อมเครื่องออกกำลังกายหลากหลายแบบ ชั้นนี้ยังมีสระว่ายน้ำทั้งสระเด็ก-สระผู้ใหญ่, Thermal Pool รวมถึงห้องซาวน่าด้วย
ที่ชั้น 22 มีโซนนั่งพักผ่อน 2 สไตล์ทั้ง The Relaxation และ Moonwake Club ขึ้นไปชั้นบนยังมีจุดชมวิว Forest View terrace ที่ชั้น 35 และ Sunset View Terrace ที่ชั้น 39 ให้ด้วย เรียกว่ากระจายใช้งานกันได้ครบครับ
ทั้งหมดนี้ก็คือความน่าสนใจของ ‘The Forestias Signature Series’ ที่เราพาชมไปครับ นับว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการบนอาณาจักร The Forestias ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ทั้งเรื่องความเป็นส่วนตัว พื้นที่ห้องขนาดใหญ่อยู่กันได้ทั้งครอบครัว และได้อยู่ร่วมกันกับธรรมชาติแบบที่แค่หันไปก็เห็น ใครที่ได้อยากห้องใหญ่ในโปรเจค The Forestias นี้ ขอเชิญมาชมครับ
