เริ่มแล้ว “Disney 100 Village” Event สุดพิเศษเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีดิสนีย์ที่เอเชียทีค

วันนี้เป็นวันแรกที่แฟนดิสนีย์อย่างผมตั้งตารอจะไปสัมผัสมาตั้งแต่ได้ยินข่าว และก็ไปจนได้ประสบการณ์ตรงมาเรียบร้อย จะขอรีวิวอย่างตรงไปตรงมาในฐานะซื้อเอง เที่ยวเองให้ฟังกันครับ และจะขอเริ่มด้วยการบ่นก่อน 555 ไปถึงช่วงเที่ยงวันก็ต้องพบว่าวันนี้มีการจัดรอบพิเศษให้กับสื่อมวลชนด้วยโดยไม่รู้ล่วงหน้า แล้วเป็นการจัดวันเดียวกันกับ Public Event ทำให้ต้องรอเข้ากิจกรรมที่ผมซื้อบัตรไว้ในตอนบ่าย 2 เท่านั้น(ผมซื้อแยกทุกโซนเพราะบัตร Bundle หมดตั้งแต่แรกๆ) โดยเจ้าหน้าที่ให้ไปเดินเล่นในโซนที่เปิดฟรีก่อน ที่จอดรถก็แทบไม่มีเพราะกั้นโซนเอาไว้เยอะมาก และงานก็ยังมีส่วนที่ยังไม่เสร็จอีกด้วย เรียกว่าตอนรอเข้าชมงานก่อนบ่าย 2 ซึ่งร้อนระอุอย่างที่สุดนั้นเจอแต่สิ่งที่ไม่ได้คาดหวังจะเจอหลายสิ่งเลยครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคิดว่าวันหลังๆ จากนี้ เค้าน่าจะทำทุกอย่างจนเสร็จ และไม่ต้องวุ่นวายกับการกั้นโซนสื่อ กับ Public แบบวันนี้

Disney 100 Village

มาถึงกิจกรรมที่เราจะได้เจอและเล่นสนุกกันที่นี่บ้าง ผมขอสรุปโซนต่างๆ ไว้คร่าวๆ แบบนี้ครับ

1. Pixar Putt อันนี้เป็นกิจกรรมพัตต์กอล์ฟสนุกๆ โดยมีการจัดหลุมต่างๆ เป็นการ์ตูนน่ารักๆ ในเครือ Pixar มีทั้งลูกเล่นและตลกๆ เหมือนเวลาเราเล่นเกมตีกอล์ฟในมือถือ กิจกรรมนี้ต้องเลือกเวลาเล่นเป็นรอบๆ รอบละ 1 ชม. ขอแนะนำว่าอย่าเลือกช่วงบ่าย เพราะร้อนตับแตก จากที่สนุกอาจจะเบื่อและเล่นแค่ไม่กี่หลุมแทน 555 ซึ่งตอนที่ผมไปคนไม่เยอะมากยังพอสลับเล่นหลุมต่างๆ ได้ครบอยู่ครับ

2. Frozen Exhibition อันนี้เป็นการโชว์บรรดาคาแรกเตอร์ ร่วมกับแสงสีเสียง และจัดซีนฉากต่างๆ ให้คนรักเอลซ่า อันนา โอลาฟ และบรรดาตัวละครในโลกแห่งความเยือกเย็น ได้มาถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็จะมีกิจกรรมที่ดูแล้วเหมาะกับกลุ่มเด็กเล็กให้เล่นด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นสไลเดอร์บ่อบอล และระบายสีภาพ digital เด็กเล็กดูเอนจอยที่นี่มากครับ เคยเห็นเพื่อนๆ บอกว่าเหมือนกับสมัยมาที่ King Power ไหมอันนี้ตอบไม่ได้เหมือนกันเพราะรอบนั้นผมไม่ทันได้ไป

3. Marvel Universe กิจกรรมนี้เอาใจคนรักมาร์เวล ที่ไล่เรียงมาจากต้นกำเนิดตั้งแต่ลายเส้นบนคอมมิค ก่อนจะมาโลดแล่นเป็นตัวละครบนจอที่เรารู้สึกผูกพันกันมาหลายปี ในกิจกรรมนี้ก็มีโซนให้ถ่ายรูปกับบรรดาคาแรกเตอร์ต่างๆ แต่ที่มากกว่านั้นก็คือจะมีเกมต่างๆ ให้เล่นเยอะมาก เหมาะกับเด็กโต และวัยรุ่น ไม่ว่าจะเกม IRONMAN VR, เกมตู้อาร์เขด, เครื่อง Playstation ที่น่าจะใช้เวลาได้อยู่นานเลย และที่สำคัญเค้าทำตัวละครอิงกับหนังในจักรวาล Marvel Universe ที่เราคุ้นเคยทั้งหมด เพราะงั้นน่าจะอินกับการเล่นกับสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะยกค้อนโยเนียร์, หรือวาดวงแหวนของหมอแปลกในนั้นได้อย่างฟิน

4. Enchanted Garden อันนี้ส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะเป็นส่วนที่เสียเงินแล้วอาจจะเฉยๆ มากที่สุด เพราะเป็นสวนหย่อมที่จัดตกแต่งด้วยตัวละครเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ทำไปในโทนสีทองเหมือนกันทั้งหมด ก็เลยไม่แปลกใจที่เค้าเอาไปเป็นส่วนแถมถ้าเราซื้อบัตรในโซนใดโซนหนึ่งด้านบนมาแล้วครับ

5. บรรดาโซนที่เข้าฟรี นอกจาก 4 ข้อด้านบน มีส่วนที่เข้าได้ฟรีด้วยนะ อย่างเช่น โซน Starwars ที่มีทั้งคาแรกเตอร์ และมีเกมให้เล่นด้วย, โซน The Rails of Animation อันนี้น่ารักมาก เพราะนำฉากจากเรื่องต่างๆ มาให้ถ่ายรูปเยอะเลย, โซน Princess Promenage นี่เป็นหนึ่งโซนที่โดนผมบ่นไปตอนบน เพราะมีส่วนหนึ่งยังทำไม่เสร็จ จะเป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงดิสนีย์เรื่องต่างๆ, มีโซน Merchandise ให้ซื้อของที่ระลึก และหนึ่งในกิจกรรมที่ผมชอบที่สุดคือ Meet the Character ที่จะให้เราได้ถ่ายภาพกับตัวละครจากดิสนีย์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างดี ได้อารมณ์เหมือนเวลาเราไปดิสนีย์แลนด์เลย โดยเค้าจะปรับเปลี่ยนไปเรื่อยในแต่ละวัน อย่างวันนี้มี Mickey Mouse, Minnie Mouse, Donald Duck ครับ

สรุปก่อนจบ ถ้าถามผมว่าคุ้มค่าบัตรมั้ย อันนี้ผมอาจจะตอบแทนทุกคนไม่ได้ ถ้าคุณเป็นแฟนดิสนีย์จริงๆ และยังไม่ได้มีกำหนดการได้ไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ในเวลาอันใกล้ การได้ไปงานนี้ก็จะพอช่วยเยียวยาความรู้สึกให้หายคิดถึง แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้อย่างนึงก็คือ เมื่อเทียบกับความพยายามนำโลกของดิสนีย์มาอยู่ที่เมืองไทยรอบก่อนในรูปแบบ Marvel Experience ไม่รู้ใครทันได้ไปก่อนจะปิดตัวลงบ้าง ผมชอบ Marvel Universe Zone ของรอบนี้มากกว่านะ เพราะอิงกับตัวละครในหนังจริงเลย ทำให้เราอินและเชื่อมโยงได้ไม่ยากครับ

แฟนๆ ดิสนีย์คนไหนได้ไปงานมามาแล้วบ้าง มาโชว์รูปกันได้นะครับ

#LivingSneakPeek #SneakLife #Disney100Village #Asiatique #ดิสนีย์เอเชียทีค

อยากมี Marvel Comic ที่เราแสดงนำแบบนี้ เล่นได้ที่โซน Marvel ครับ