คลิกลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการ คลิก https://bit.ly/3xzt5IH
ปีนี้ต้องบอกว่าเป็นปีทองของรามอินทรา ย่าน Residential ของกรุงเทพตอนเหนือ ที่มีทั้งที่อยู่อาศัย ห้าง ร้านค้า มหาวิทยาลัย และแหล่งงาน โดยเฉพาะช่วงรามอินทราตอนต้นที่มาก่อนใครเพื่อน แต่สิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ช้าเพราะขาดระบบขนส่งมวลชนที่ดี ที่จะเชื่อมต่อติดรามอินทราเข้าสู่กรุงเทพชั้นใน และในปีนี้เค้ามาแล้วครับ กับรถไฟฟ้าสายสีชมพูสายสำคัญที่เชื่อมมาตั้งแต่แคราย แจ้งวัฒนะ รามอินทรา ไปจรดมีนบุรี ประกอบกับการรีโนเวทเซ็นทรัล รามอินทราห้างแรกในย่านในรอบเกือบ 30 ปี กลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ ทำให้ย่านนี้กลายเป็นรามอินทราโฉมใหม่ที่น่าอยู่อาศัยมากกว่าเดิม
คอนโด Chapter One All Ramintra
ที่ตั้งของโครงการ “Chapter One All Ramintra” ที่เราเอามาให้ดูวันนี้ ก็ได้อานิสงส์จากการพัฒนาไปด้วยครับ เพราะเป็นช่วงที่อยู่ใกล้กับจุด Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวสายหลัก โดยโครงการอยู่ใกล้กับสถานีลาดปลาเค้าในระยะเดินประมาณ 250 ม. เพียง 2 ป้ายก็ไปต่อสายสีเขียวบนถนนพหลโยธินได้ที่ สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ 4 สถานีถึง Interchange สายสีแดงที่สถานีหลักสี่บนถนนวิภาวดีรังสิต จากที่ได้แต่จินตนาการว่าถ้ามีรถไฟฟ้าก็คงดี ปีนี้จะได้ใช้กันแล้วครับชาวรามอินทรา แต่ถ้าไม่อยากไปไหนไกลก็ไปเดินเซ็นทรัลรามอินทราแค่สถานีเดียว โดยรอบก็ยังมี Big C, Ease Park, Foodland, The Jas รามอินทรา, ตลาดลาดปลาเค้า ให้อิ่มสบายใกล้บ้าน
ภาพรวมโครงการ
Chapter One All Ramintra เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร รวมห้องพัก 628 ยูนิต และอีก 3 Shop พร้อมที่จอดรถ 43% (รวมซ้อนคัน) บริเวณ Ground Floor ทั้งหมด แบรนด์แชปเตอร์วันนี้เด่นเรื่องงาน Design ซึ่งที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์ดัตช์อันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงอัมสเตอร์ดัม ผสานกับความ Modern และ Cozy ออกมาเป็นลักษณะจั่วอาคารที่เชื่อมต่อกันเห็นโดดเด่นจากภายนอก ใครอยากได้คอนโดที่มีการออกแบบไม่เหมือนคอนโดทั่วไป ลองมาดูโครงการนี้ครับ สวยเลยแหละ
ทั้ง 3 อาคาร A – B – C เชื่อมโยงกันเป็นแนวตอนลึกไปจากหน้าถนน จุดเด่นของที่นี่อีกอย่างคือเรื่องของการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่สะท้อน element งานดีไซน์หลักเข้ามาอยู่อย่างกลมกลืน และมีให้เยอะ ส่วนใหญ่จะอยู่โซนด้านหน้าของอาคาร A ที่ไล่จากชั้นล่างไปจนถึง Rooftop เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Living Lounge, Multiplay Space, Entertainment Space, Meeting Room, Lifestyle Kitchen, Semi-Outdoor BBQ, Active Space, Functional Training Room, Yoga & Dance Room, Outdoor Boxing, Step Garden, Urban Farming, สระว่ายน้ำพร้อมสระเด็ก จากุซซี่ และ Endless Pool ให้ออกกำลังกายได้สนุก มีโซน Drop Off & Connecting Lounge ที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่างอาคาร B & C ที่ขาดไม่ได้คือพื้นที่ทำงาน Workshop หรือ Live Studio ที่พร้อมให้บริการแบบ 7-11ครับ
รูปแบบห้อง ที่นี่มีห้องพักอาศัย 4 Type พร้อมชื่อเล่นเก๋ไก๋ ได้แก่
- 1 Bed “All-Round” ขนาด 24 ตร.ม. ซึ่งเป็นจำนวนยูนิตที่มากที่สุดในโครงการ ออกแบบมาให้ในห้องนอนและห้องนั่งเล่นไม่มีเสาเลย ทำให้จัดเฟอร์นิเจอร์ง่าย และใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า จัดวางครัวไว้ด้านในอยู่ติดระเบียงทั้งหมด
- 1 Bed “Fashionista” ขนาด 26.9 ตร.ม. Layout นี้เน้นคุณสาวๆ หนุ่มๆ ที่รักแฟชั่นสมชื่อ เพราะมีส่วน Walk-in Closet มาให้ใช้งาน
- 1 Bed Plus “Family-Designed” ขนาด 34.6 ตร.ม. เป็นยูนิตที่เป็นห้องหน้ากว้างที่สุดถึง 7.65 ม. เน้นกลุ่มครอบครัวเพราะสามารถจัดฟังก์ชันได้เหมือน 2 ห้องนอน พร้อมครัวปิด
- 1 Bed Plus “Multi-Use” ขนาด 34.9 ตร.ม. ได้ครัวปิดพร้อมห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ติดกับระเบียงส่วนตัว ห้องนี้เป็นอีกหนึ่งห้องตัวอย่างที่สำนักงานขาย ที่เค้าจัดสรรเฟอร์นิเจอร์ ที่มีฟังก์ชันหลากหลายมาให้ลองดูกันเป็นไอเดียด้วยครับ
ราคาและจุดเด่นโครงการ
โครงการนี้ขายห้องแบบ Fully-Fitted ครับ ตกแต่งชุดครัว ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า และติดตั้งแอร์มาให้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.79 ล้านบาท (เฉลี่ย 89,000 บาท/ตร.ม.) ผ่อนเริ่ม 3,900 บาท จุดที่ผมมองว่าเป็นจุดขายของโครงการก็คือ เรื่องของทำเล ระยะ 250 ม. ถึง MRT ลาดปลาเค้าซึ่งก็รู้สึกว่า Timing ในการเปิดตัวโครงการนี้ก็พอดิบพอดีกับการพัฒนาใหม่ๆ ในย่านนี้เลย, เรื่องงานดีไซน์ที่เห็นได้จากภายนอก สู่พื้นที่ส่วนกลาง มาจนถึงในห้อง ด้วยสีสันจี๊ดจ๊าดทั้งครัวและในห้องน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีครบครันสำหรับการใช้ชีวิตเริ่มต้นวัยทำงาน
แฟนเพจที่สนใจโครงการนี้ คลิกลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่นี่เลยครับ https://bit.ly/3xzt5IH
#LivingSneakPeek #รีวิวคอนโด #ChapterOneAllRamintra #คอนโดรามอินทรา
วันนี้จะพาไปย่านรามอินทราที่ไม่มีโครงการใหม่มานาน ในที่สุดวันนี้ก็มีคอนโดแจ๋วๆอย่าง “Chapter One All Ramintra” มาเปิดพอดีกับฤกษ์รถไฟฟ้าสายสีชมพูใกล้เปิดใช้งาน
เป็นการกลับมาของแบรนด์ Chapter One หลังจากลาพักร้อนไปพักใหญ่ด้วยครับ
ที่นี่เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ซึ่งมีส่วนกลางครบครัน เดินทางสะดวก
มีการออกแบบที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มากับห้อง 4 รูปแบบ
เป็นความสดใสเข้ากับสีของรถไฟฟ้า เป็นยังไงตามไปดูกันเลย
ขอเริ่มจากภาพสวยๆ ของโครงการกันก่อนกับโซน Rooftop Facilities ที่ส่วนด้านหน้าของอาคาร A มีทั้งที่นั่งพักผ่อน Scenic Sky pool ว่ายน้ำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หรืออยากทดสอบความเป็นแซลมอนในตัวคุณด้วยการว่ายทวนน้ำใน Endless Pool ก็ได้เลย ด้านบนยังมีScenic Sky yard และ Urban Farming แปลงผักให้ปลูกกินกันเองในโครงการด้วยครับ
จากภาพด้านข้างของอาคารจะเห็นว่าเค้านำจั่ว และงานดีไซน์หลังคาเฉียงมาเป็นลูกเล่นในงานออกแบบทำให้ฟิลลิ่งการใช้พื้นที่ส่วนกลางเป็นไปในทางเดียวกันได้อย่างน่าสนใจ ตกแต่งด้วยสีโทนเข้มตัดกับสีส้มสะดุดตา
โซน Drop Off & Connecting Lounge ที่อยู่ระหว่างอาคาร B & C มีต้นไม้ใหญ่อยู่เด่นเป็นสง่าให้ร่มเงาพื้นที่กึ่ง Semi-Outdoor พร้อมพื้นที่นั่งทำงานภายใน
Lifestyle Kitchen ที่เห็นเพดานแนวเฉียงนั้นก็จะได้ฟิลลิ่งของงานดีไซน์จากจั่วภายนอกเข้ามาสู่ภายในด้วย
Lobby สีสันสดใสไปในแนวทางเดียวกัน
ฟิตเนสออกแบบเส้นสายเพิ่มความ Active
มีห้องเฉพาะสำหรับ Functional Training
Co-working Space ที่นี่เปิด 24 ชม.
Workshop Space ก็แบบ 24 Hr. เหมือนกัน น่าจะถูกใจคนทำงาน
ทำงานจนตึงก็คลายเครียดในห้อง Entertainment
พามาดูห้องตัวอย่างกันบ้างครับ ห้องแรกจะเป็นรูปแบบ 1 Bedroom Multi-Use ขนาด 34.68 ตร.ม. ซึ่งสามารถปรับใช้งานเป็น 2 ห้องนอนสำหรับมุนินทร์ มุตตา สบายๆ
กลับมาเหนื่อยๆ เปิดประตูเข้ามาถึงก็เป็นพื้นที่ของ Living Area ที่เป็นตอนยาวขนานกับฝั่งทีวี มาถึงแล้วทิ้งตัวลงนอนได้เลย
หายเหนื่อยแล้วก็ไปเล่นเกมกันต่อ ตรงนี้กว้างขวางแบบวางโต๊ะสำหรับ 4 คนได้ จะใช้เป็นโต๊ะกินข้าว หรือจะเอาเกมมาตั้ง ไว้ชวนเพื่อนมาเล่นได้ครับ
มาถึงเฟอร์นิเจอร์ Multifunction แรกที่เค้าตกแต่งมาให้ดูว่าเราสามารถใช้ฟังก์ชันได้หลากหลายในพื้นที่จำกัด เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบที่เปิดปิดได้ จะเปิดออกมาวางเป็นโต๊ะทำงาน ถ้าเสร็จแล้วก็ยกขึ้นเก็บกลับที่เดิมตามสะดวก (ได้ยินมาว่าวันเปิดชมสำนักงานขาย 11 มี.ค.นี้เค้ามีโปรฯแถม Smart Furniture Set แบบนี้ให้ด้วยนะ)
พอปิดกลับแล้วก็จะมีพื้นที่ว่างๆให้เดินหมุนตัวเข้าห้องน้ำหรือห้องครัวได้แบบไม่ต้องกลัวชนโต๊ะครับ ปูเสื่อออกกำลังกายตรงนี้ก็ได้ ทำให้พื้นที่โล่งเพิ่มขึ้น
เล่นเสร็จก็หิว เข้ามาหาอะไรกินซักหน่อย ห้องครัวไทป์นี้กว้าง ได้เคาน์เตอร์บิวท์เป็นรูปตัว L ตกแต่งสีสันสดใสแบบนี้เป๊ะ อย่างที่บอกความจี๊ดจ๊าดของสีสันมันเข้ามาถึงในห้องเลย
ที่อยู่ข้างๆ กันก็คือตำแหน่งห้องน้ำที่อยู่ในส่วนของห้องนั่งเล่น
เข้ามาอาบน้ำให้กระปรี้กระเปร่าเหมือนสีของห้องน้ำ ซึ่งก็ตกแต่งมาให้แบบนี้เช่นเดียวกันครับ (ยกเว้นฉากกั้นนะ) มีช่องวางอุปกรณ์ในห้องน้ำเยอะเลย ผมชอบตรงที่เป็นยาแนวสีดำ ดูเท่ แล้วยังมองไม่ออกว่ามันสกปรกแล้วรึยังด้วย ฮ่าๆ
มาดูห้องนอนของมุนินทร์ ตกแต่งด้วยเตียง 5 ฟุต และได้ตู้เสื้อผ้าบานใหญ่แบบนี้เลย เหมาะกับคนมีพร็อพเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเยอะ เก็บได้จุกๆ
อีกห้องของมุตตา สามารถแต่งด้วยเตียงสูง 2 ชั้น ที่มีโซนนั่งเล่น และตู้เสื้อผ้าข้างล่างได้ อยู่ในห้องแบบไม่ต้องออกไปเจอหน้าใครได้เลย พร้อมระเบียงส่วนตัว ห้องนี้เค้าตกแต่งขึ้นมาจากห้องอเนกประสงค์ ถ้าเราอยากจะทำเป็นห้องดูหนัง ทำงาน หรืออะไรที่เราชอบก็ได้ครับ
นี่ก็เป็นมุมต่างๆ ที่น่าสนใจสำหรับห้องนี้ครับ
มาดูห้องตัวอย่างอีกห้อง รูปแบบ 1 Bedroom All-Round ขนาด 24.02 ตร.ม. กันต่อครับ
เข้ามายังเจอกับห้องนั่งเล่นให้พักผ่อนหย่อนใจเช่นเดิม เรามาเก็บไอเดียการใช้พื้นที่ห้องอย่างเต็มที่ได้ที่นี่ อย่างการเก็บจักรยานขึ้นไปอยู่บนผนัง ใช้พื้นที่คุ้มค่าเลย
ถัดจากโซฟาจะมีโซนทำงาน ที่เป็นกิมมิคของการตกแต่งห้องนี้เลยครับ เป็นอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่น่าสนใจมากๆในยุคที่ Space มีจำกัดแต่เราอยากให้ใช้คุ้มค่า
สาย Freelance หรือคน Work From Home น่าจะชอบฟังก์ชันของโต๊ะทำงานตัวนี้ครับ อยากจะทำงานก็ลากออกมา พอทำเหนื่อยแล้ว อยากพักไถหน้าจอ หรือแชทกับเพื่อนๆ ก็ลากปิดกลับได้ ก็จะมีพื้นที่กว้างขวางให้ใช้งานอย่างอื่นได้อีก (เหมือนเดิมครับ วันเปิดชมสำนักงานขาย 11 มี.ค.นี้เค้ามีโปรฯแถม Smart Furniture Set ให้ด้วย)
ส่วนที่กั้นด้วยบานเลื่อนด้านหลังนั้นก็คือห้องนอนนี่เอง
ทำงานเสร็จก็เข้ามานั่งพักผ่อนอ่านหนังสือบนเตียงได้ ห้องนอนนี้ก็จะมาแบบประตูบานเลื่อนครับ
เค้ามีความใส่ใจรายละเอียดเล็กๆน้อยอย่างช่องของตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างเตียง ที่มีปลั๊กไฟ รวมถึงวางโทรศัพท์ หรือของใช้ส่วนตัวที่ชอบเอาไว้ใกล้ไม้ใกล้มือก่อนนอนได้ครับ
ได้เห็นภาพรวมการจัดสรรฟังก์ชันในห้องนี้นะ มีกระจกบานยาวแนวตั้งอยู่ตรงกลางห้องครับ
ไปดูอีกฝั่งนึงของห้องกันบ้าง
ฝั่งนี้เป็นพื้นที่ของห้องครัวและห้องน้ำ พร้อมกับระเบียงในโซนเดียวกันครับ มากับสีสันที่ช่วยให้กระฉับกระเฉง สวยไปอีกแบบนะ
อยากกินอะไรดีครับ เดี๋ยวน้องผมจะทำให้กิน ถ้ากินได้อะนะ ฮ่าๆ ครัวนี้ระบายอากาศได้สะดวก
ที่อยู่ข้างๆ กันก็เป็นห้องน้ำที่ตกแต่งในสไตล์เดียวกันกับห้องที่แล้วครับ
และนี่ก็เป็นห้องตัวอย่างทั้งสองห้องที่โครงการจัดมาให้เราได้ชม
พาไปดูด้านหน้า Sales Gallery และสถานที่ตั้งจริงของเค้านะ อยู่เยื้องๆรถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีลาดปลาเค้า ตกแต่งด้วยสีส้ม สีครีม ตัดกับสีไม้สวยงามเช่นเดียวกัน ใครสนใจชมห้องตัวอย่างเข้ามาได้ เปิดทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น. คร้าบบ
เห็นโมเดลแล้วอยากเห็นตึกจริงแล้วครับ ความสวยงามของฟาซาด รวมถึงการออกแบบตัวอาคารทั้งด้านนอกด้านใน เค้าได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศอัมสเตอร์ดัมด้วย และมี Facilities รวม 8 ชั้น บวกพื้นที่ Rooftop เต็มๆอีก 1 ชั้นครบครันมากๆ
แปะรวบรวมสิ่งที่น่าสนใจรอบโครงการมาให้ดูกันอีกที ไม่ว่าจะของกิน แหล่งช้อปปิ้ง โดยเฉพาะเซ็นทรัลรามอินทรา นั่งรถไฟฟ้าไปใช้เวลาพอๆ กับต้มมาม่าเลย
แลนด์มาร์กย่านนี้คือเซ็นทรัลรามอินทราโฉมใหม่สวยงามน่าเดินกว่าเดิม แบบถ้าเป็นคนคือจำหน้าเก่าก่อนไปโมไม่ได้เลย
ทั้งหมดนี้ก็คือความน่าสนใจของโครงการ ‘Chapter One All Ramintra’ ถือเป็นการกลับมาของแบรนด์ Chapter แบบไม่ทำให้ผิดหวัง ตอกย้ำคอนเซ็ปต์ ALL ได้แก่ All Time เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า, Living ใส่ใจการออกแบบในทุกรายละเอียด และ Lifestyle ที่หลากหลายมาเลือกใช้ในส่วนกลาง 8+1ชั้นได้ตามใจ ให้ใช้ชีวิตได้แบบ All in One ที่นี่ครับ
เค้าเปิกให้ชมห้องตัวอย่างครั้งแรก 11 มี.ค.นี้ โปรโมชันพิเศษเฉพาะวันงานเพียบ
- ยูนิตราคาพิเศษ 20 ห้อง!! เริ่มที่ 1.79 ล้านบาท
- 100 ยูนิตแรก รับฟรี Smart Furniture Package!
- รับส่วนลดสูงสุดกว่า 200,000 บาท*
- ส่วนเงินจอง+ทำสัญญา เริ่มที่ 5,000 บาท ผ่อนดาวน์เริ่มต้น 3,900 บาท เท่านั้น
- ลงทะเบียนนัดชมโครงการ คลิก https://bit.ly/3xzt5IH
