วันนี้มีอีกข่าวนึงที่ผมอ่านรอบแรกแล้วก็รู้สึกว่า เอ๊ะ มันมีแบบนี้ด้วยหรือ นั่นก็คือการประกาศออกหุ้นกู้ 100 ล้านบาท จากแสนสิริเพื่อสนับสนุนพันธกิจที่เรียกว่า “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” ​

ที่ผ่านมานอกจากแสนสิริจะมีโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพและมีสไตล์ให้เราได้ชมกันแล้ว ก็ยังเป็นองค์กรที่ทำธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมเสมอมาครับ ผมได้เห็นความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรกับองค์การยูนิเซฟทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในเด็ก โดยปีนี้ก็ได้มีพันธกิจเพิ่มเติมด้วยการสนับสนุนกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา โดยมีเป้าหมายสั้นๆ แต่สำคัญมากนั่นก็คือ “สร้างความเสมอภาคและลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา” เกิดเป็นพันธกิจ ​ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน”​

ฟังประโยคนี้จริงๆ มันก็น่าเศร้านิดนึงนะครับว่า การศึกษาเป็นสิ่งที่ควรเป็นความเสมอภาค เป็นสิทธิพื้นฐานที่เด็กในวัยเรียนทุกคนควรได้รับ ที่ผ่านมาประเทศไทยก็มีความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจครอบครัวหรือความห่างไกลและทุรกันดารในหลายพื้นที่ การมาระบาดของโควิด -19 ก็กลับยิ่งซ้ำเติมสิ่งนี้เข้าไปอีก เมื่อครอบครัวรายได้ลดลง หรือขาดรายได้ เด็กในครอบครัวก็หลุดจากระบบศึกษาไป บางคนก็ต้องไปช่วยพ่อแม่ และการเรียนในรูปแบบออนไลน์นั้น ก็ไม่ได้เอื้อต่อเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ขาดความพร้อมไม่ว่าจะอินเทอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งไฟฟ้าให้ใช้​

สิ่งที่แสนสิริจัดทำคือ การออกหุ้นกู้เพื่อระดมทุน 100 ล้านบาท สำหรับใช้ในโครงการ Zero Dropout ซึ่งจะนำร่องที่จังหวัดราชบุรีเป็นที่แรก โดยมีเด็กเสี่ยงจะหลุดจากระบบการศึกษาอยู่ 10,000 คน ซึ่งเหมาะสมกับงบระดมทุนนี้ และอยู่ในภูมิศาสตร์ที่ใกล้กับกรุงเทพในการให้ความช่วยเหลือได้โดยง่าย ที่ผมเห็นว่าดีคือ แสนสิริไม่มีการพัฒนาโครงการและผลประโยชน์ทับซ้อนในพื้นที่ดังกล่าว และยังสามารถตรวจสอบได้ เพราะจะอยู่ในบัญชี Escrow Account ของไทยพาณิชย์ชื่อ “บมจ.แสนสิริ เพื่อสนับสนุนโครงการร่วมกับ กสศ.” ซึ่ง กสศ. จะมีการจัดทำแผนรายปีและเบิกค่าใช้จ่ายไม่เกินปีละ 3 ครั้งครับ​

เป้าหมายระยะยาวของโครงการนี้ คือ การวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน ตั้งเป้าให้เด็กในช่วงวัยภาคบังคับ (ป.1 – ม.3) และเด็กที่ถึงเกณฑ์ ต้องพร้อมเข้าเรียน ป.1 ได้ 100% โดยภายในปี 2567 เด็กปฐมวัยและเด็กนอกระบบกว่า 11,200 คนที่เสี่ยงหลุดจากระบบการศึกษาในราชบุรีต้องเป็น “ศูนย์” ครับ ​

สำหรับผู้ร่วมลงทุนในครั้งนี้ก็เลยจะพิเศษกว่าหุ้นกู้อื่นๆ หน่อย ตรงที่นอกจากจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุน 3.2% ต่อปี รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้แล้ว ยังมีส่วนช่วยลงทุนในอนาคตของเด็ก ให้เด็กได้เข้าสู่ระบบการศึกษา ไม่มีใครหลุดจากระบบการศึกษาและไม่โดนทิ้งไว้ข้างหลัง สามารถเริ่มต้นลงทุนได้ 1,000 บาท เปิดจองวันที่ 15 ก.พ.นี้ เวลา 8.30 น. ผ่าน SCB Easy App ช่องทางเดียวครับ​

แน่นอนว่าเราคงไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งหมดในเวลาอันสั้น แต่สิ่งนี้จะเสมือนเป็นไม้ขีดไฟก้านแรกที่จุดให้ทุกคนได้เห็นว่าเราสามารถสร้างความหวังให้เกิดการลงมือทำได้ และการลงมือทำครั้งนี้จะเป็นแรงกระเพื่อมให้ทุกภาคส่วนหันมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ จนถึงวันที่เราหวังไว้ว่าทั้งประเทศจะไม่มีเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาแม้แต่คนเดียวครับ​

​หุ้นกู้ครั้งนี้มีมูลค่าเสนอขายไม่เกิน 100 ล้านบาท อายุ 3 ปี อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ BBB+ โดยเงิน 100 ล้านบาทจากการระดมทุนจะนำไปบริจาคให้ กสศ. ทั้งหมด เพื่อปั้น “ราชบุรีโมเดล” เป็นเมืองต้นแบบ ให้เด็กใน จ.ราชบุรี หลุดจากระบบการศึกษาเป็นศูนย์ภายใน 3 ปี ข้อมูลเพิ่มเติมอ่านได้ที่ https://blog.sansiri.com/zero-dropout-main/ หรือโทร 1685.​

#LivingSneakPeek #SneakNews​ #Sansiri #ZeroDropout