เซ็นทรัล วิลเลจ ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ตอกย้ำผู้นำลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลก ดันขา ช้อปแบรนด์เนมกว่า 300 แบรนด์ อัดโปรแรงฉลองเปิดโซนใหม่ ลดสูงสุด 90%

  • เซ็นทรัล วิลเลจ ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ตอกย้ำผู้นำลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลก ดันขา ช้อปแบรนด์เนมกว่า 300 แบรนด์ อัดโปรแรงฉลองเปิดโซนใหม่ ลดสูงสุด 90%
  • มอบประสบการณ์ที่มากกว่าแบรนด์เนมช้อปปิ้งเดสติเนชั่น สู่การเป็น Thailand’s Most Complete Luxury Outlet & Lifestyle Destination ที่ครบและสมบูรณ์แบบที่สุด
  • ภาพรวมความสำเร็จ Traffic Q4/2021 +100% แบรนด์ครบครันหลากหลาย เจาะลึกทุกไลฟ์สไตล์ และเสริมทัพด้วย Food Destination ที่ดีที่สุดในย่าน
  • เดินเกมรุกตรงจุด จับ Top Spenders และ Quality Traffic ทั่วประเทศ ด้วย Intensive Omnichannel และ Luxury Outlet Chat & Shop ยอดใช้จ่ายเติบโตต่อเนื่อง
  • 5 ไฮไลต์ ต้องมา : Instagrammable Landmarks ทั่วทั้งโครงการ, ดีไซน์หนึ่งเดียวในโลก ตระการตาเป็นเอกลักษณ์ Thai Modern, Pet-Friendly สำหรับคนรักสัตว์, สร้าง Festive Vibes ตลอดทั้งปี เดินทางสะดวก มาง่ายเพียง 30 นาที จาก Bangkok CBD
  • พลาดไม่ได้ โปรฯ แรงแห่งปี ช้อปชาร์จความสุข เริ่ม 28 ม.ค. – 7 ก.พ. 2565

เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ต

กรุงเทพฯ – เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลกที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งแรกของไทย โดยบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทย ร่วมทุนกับ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (ไทยแลนด์) หนึ่งในบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) บิ๊กอสังหาฯ ระดับโลก ปักหมุดต่อยอดความสำเร็จ เปิดให้บริการ เซ็นทรัล วิลเลจ โซนใหม่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมแล้ววันนี้ (28 ม.ค. 2565) พร้อมมอบประสบการณ์ที่มากกว่าแบรนด์เนมช้อปปิ้ง สู่การเป็น Thailand’s Most Complete Luxury Outlet & Lifestyle Destination ที่ครบและสมบูรณ์แบบที่สุด ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ด้วยแบรนด์เนมชั้นนำกว่า 300 แบรนด์ เจาะลึก ครบครันในทุกไลฟ์สไตล์ เดินทางสะดวกจากในเมืองเพียง 30 นาที ใกล้แค่ไปสนามบินสุวรรณภูมิ มาได้ทุกวัน คลิกชมวิดีโอความสำเร็จเซ็นทรัล วิลเลจ และภาพ Sneak Peek เฟสใหม่ ได้ที่ https://youtu.be/KqxnV7MMgZ0

ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดของเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “เซ็นทรัล วิลเลจถือเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2562 ที่ได้สร้างปรากฏการณ์นวัตกรรมใหม่ๆ ให้วงการรีเทลและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศมาโดยตลอด ด้วยการมอบประสบการณ์เทียบชั้นเอาท์เล็ตชั้นนำระดับโลก และโครงการส่วนต่อขยายที่มีความยิ่งใหญ่ และเป็นมากกว่าลักชูรี่แบรนด์เนมช้อปปิ้งเดสติเนชั่น สู่การเป็น Thailand’s Most Complete Luxury Outlet & Lifestyle Destination ที่ดีที่สุดในวงการเอาท์เล็ตไทยที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบทุกไลฟ์สไตล์ โดยทราฟฟิกใน Q4/2021 ที่ผ่านมา เติบโตมากกว่า 100% เทียบกับปี 2020 และจะกระตุ้นด้วยแคมเปญต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแคมเปญฉลองโซนใหม่จะช่วยให้ ทราฟฟิกภาพรวมเพิ่มขึ้น 20% โดยเราได้อาศัยความเชี่ยวชาญของการเป็นผู้พัฒนาศูนย์การค้า 36 แห่งทั้งในและต่างประเทศ ดันยอดขายร้านค้าแบบ omnichannel อย่างต่อเนื่องตลอดปี พร้อมผนึกกำลังกับ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท (ไทยแลนด์) หนึ่งในบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท จำกัด (มหาชน) บิ๊กอสังหาฯ ระดับโลก ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาเอาท์เล็ตชื่อดังของเอเชีย ร่วมกันสร้างไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นที่ครบและสมบูรณ์แบบที่สุด”

“โดยโซนใหม่ จะตอบรับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของคนที่ลงลึกไปใน Insightful Interests มีแบรนด์ใหม่ๆ หลากหลายเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งกลุ่ม Sport & Adventure สำหรับแฟชั่นกีฬาที่เจาะลึก ทั้ง Golf, การวิ่ง กลุ่มเครื่องสำอางและแฟชั่น อย่าง Pomelo, Beautrium กลุ่มครอบครัว ทั้ง Nishimatsuya by H.I.S. ร้านเสื้อผ้าเด็กแบรนด์ดังจากญี่ปุ่น, ร้าน Pet N Me ครั้งแรกของเอาท์เล็ต ซึ่งเป็น Category ใหม่สำหรับเอาท์เล็ตในเมืองไทย, B2S เอาท์เล็ตครั้งแรก นอกจากนี้ อีกสิ่งที่เป็นความสำเร็จของเซ็นทรัล วิลเลจ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดคือ การเจาะกลุ่ม Top Spenders และ Quality Traffic ทั้งใน-นอก Catchment กระตุ้นยอดใช้จ่ายด้วยแคมเปญการตลาดต่อเนื่องผ่าน Luxury Outlet Chat & Shop และ Intensive Omnichannel ทั่วประเทศ การันตีด้วยยอดขายช่วงสิ้นปีที่เติบโตขึ้นกว่า 13 % YoY นอกจากนี้ยังสร้างสีสันด้วย Signature Events ทุกเทศกาล และมอบโปรโมชั่นส่วนลดคุ้มค่าตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยให้คู่ค้าสามารถทำธุรกิจและเติบโตไปกับเราได้อย่างต่อเนื่อง” ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าว

 

5 ไฮไลต์ ต้องมาเซ็นทรัล วิลเลจ

1.สถาปัตยกรรมดีไซน์โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ความเป็น Thai Modern

เซ็นทรัล วิลเลจ เฟสใหม่ ได้แรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตและศิลปวัฒนธรรมไทย นำเสนอในรูปแบบหมู่บ้านไทยร่วมสมัยที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก โดยเฟสใหม่นี้ขยายเพิ่มอีก 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านช่างทอ (Textile Village) โดดเด่นด้วยลายเส้นผ้าทอของไทย, หมู่บ้านช่างก่อ (Brick Village) กับการก่ออิฐเป็นแพทเทิร์นที่แปลกตา, หมู่บ้านช่างลายคราม (Porcelain Village) นำความสวยงามของเครื่องลายครามมาออกแบบให้มีลูกเล่น และหมู่บ้านช่างเงินช่างทอง (Goldsmith Village) กับลวดลายสีเงินสีทองสื่อถึงความหรูหราและความประณีตท่ามกลางบรรยากาศแบบ Outdoor Experience ที่ร่มรื่นด้วยพื้นที่สีเขียว ทางเดินมีหลังคาที่กว้างขึ้นทำให้ช้อปปิ้งได้สะดวกมากขึ้น มีความใกล้ชิดธรรมชาติด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ทั้งน้ำพุ, บ้านต้นไม้

2.แบรนด์เนมลดทุกวัน โปรปังตลอดทั้งปี ลดสูงสุด 90% และพลาดไม่ได้ โปรแห่งปีฉลองเปิดเฟสใหม่

มอบเอาท์เล็ตดีลที่ดีที่สุด ช้อปแบรนด์เนมคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า ลดสูงสุด 35-70% ช่วงแคมเปญพิเศษลดถึง 90% และเพื่อเป็นการฉลองเปิดเฟสใหม่ เซ็นทรัล วิลเลจ อัดโปรฯแรง เริ่ม28 ม.ค. – 7 ก.พ. 2565 (11 วันสุดพิเศษ) ด้วยส่วนลด และ Exclusive offer อีก 5 ต่อ ต่อที่ 1 รับฟรี! Fashion Passport รวบรวมโปรโมชั่นOn topสุดพิเศษจากแบรนด์ชั้นนำ ต่อที่ 2 Lucky Angbao ฉลองเทศกาลตรุษจีน รับฟรี! อั่งเปา 300 บาท เมื่อสะสม Passport stamp ครบ 5 ดวง (อั่งเปา Central Village 100 บาท + แบรนด์ร้านค้า 200บาท*) ต่อที่ 3 โปรฯ High Spender รับฟรี! อั่งเปา 1,000 บาท เมื่อช้อปครบ 50,000 บาท และ รับฟรี! อั่งเปา 5,000 บาท เมื่อช้อปครบ 150,000 บาท ต่อที่ 4 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 17%* จากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ และ ต่อที่ 5 รับคะแนน The1 x2 เมื่อใช้จ่ายในแบรนด์ร้านค้าที่ร่วมรายการ

3.แบรนด์ชั้นนำครบครัน และเจาะลึกทุกไลฟ์สไตล์

ครบครันด้วยแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกกว่า 300 แบรนด์ อาทิ Salvatore Ferragamo, Coach, Ermenegildo Zegna, Kate Spade, Kenzo, Marimekko, Max & Co, MCQ, Michael Kors, Moschino, Outlet by Club21, Polo Ralph Lauren, Valentino, Vivienne Westwood, Bath & Body Works, Coccinelle และJim Thompson และในเฟส 2 ที่กำลังจะเปิดให้บริการก็มีแบรนด์ใหม่ๆ หลากหลายเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งกลุ่ม Sports & Adventure เจาะกลุ่มบรรดานักกอล์ฟ นักวิ่ง หรือผู้เล่นเอ็กซ์ตรีมสปอร์ต กลุ่ม Fashion & Beauty อย่าง Pomelo, Beautrium กลุ่ม Family ทั้ง Nishimatsuya by H.I.S. ร้านเสื้อผ้าเด็กแบรนด์ดังจากญี่ปุ่น, ครั้งแรกของเอาท์เล็ตร้าน Pet N Me ซึ่งเป็น Category ใหม่สำหรับเอาท์เล็ตในเมืองไทย, B2S เอาท์เล็ตครั้งแรก นอกจากนี้ยังเป็น Food Destination ที่ดีที่สุดในย่าน รวมร้านอาหารคาเฟ่ดังต่างๆ มากมาย อาทิ A PINK RABBIT CAKE CAFE + PALETTE, BONCHON, CAFÉ AMAZON, CAFÉ KALDI, ชาตรามือ, ดอยคำและดอยตุง, FRESH ME, FUJI RESTAURANT, แหลมเจริญซีฟู้ด, ลาวญวน, เตี๋ยวไข่ตะลึง, MK RESTAURANTS, OLINO CREPE & TEA, RED DIAMOND SPECIALTY COFFEE, STARBUCKS, SUSHI HIRO, SWENSENS

4.ปักหมุดเช็คอิน Instagrammable Landmarks จุดถ่ายรูปสวยปังทั้งโครงการ

มากกว่าเอาท์เล็ต ด้วยการสร้าง Festive Vibes ตลอดทั้งปี มอบประสบการณ์ที่มากกว่าการมา ช้อปปิ้งเอาท์เล็ต ด้วยไฮไลต์ในเฟสใหม่ อาทิ จุด Attraction Landmark อาทิ ลานน้ำพุขนาดใหญ่ ภายใต้การตกแต่งสถาปัตยกรรมแบบ Thai Heritage และร่มรื่นด้วยพันธ์ไม้นานาชนิด ตระการตากับ Festive Ambience ฉลองทุกเทศกาลความสุข ที่จะหมุนเวียนมาให้เช็คอินกันตลอดทั้งปี โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนนี้ พบกับคอนเซ็ปต์สวน “Power of the Great Tiger” อลังการตระการตาด้วยตัวอักษรจีนมงคลขนาดยักษ์ นอกจากนี้ยังสร้างบรรยากาศ Chill Vibes ท่ามกลางพื้นที่แบบเอาท์ดอร์ผ่อนคลายใกล้ชิดธรรมชาติ

5.เดินทางสะดวก เพียง 30 นาทีจาก Bangkok CBD มาได้ทุกวัน สร้าง The Emerging Lifestyle Communities ที่ตอบโจทย์ครอบคลุมทุกกลุ่ม แบรนด์หลากหลายเพื่อเจาะ Unique Interest ของลูกค้าแบบลงลึก

  • กลุ่ม Family และ Mom & Kids – ร้านอาหารดีที่สุดในย่าน เพิ่มแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ สินค้าแบรนด์กีฬา, Home & Living พร้อมด้วยสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่แบบ Full-Scale Playground, Pet-Friendly สร้างคอมมูนิตี้คนรักสัตว์ และร้านกาแฟสไตล์ญี่ปุ่นและมัทฉะซอฟท์ครีมชื่อดัง
  • กลุ่ม Wealth – เจาะกลุ่ม High Spender จัดกิจกรรม Supercar Meeting ทุกสัปดาห์ และสามารถ Targeting กลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงของศูนย์การค้าเซ็นทรัลในสาขาอื่นๆ ทั่วประเทศมาต่อยอดทำ CRM Marketing ได้อย่างตรงจุด
  • กลุ่ม Sports Lifestyle – ทำให้โครงการกลายเป็น Sport Destination มีกลุ่มคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา เล่น Skateboard ดังนั้นเราจึงเติมเต็มด้วยแบรนด์ใหม่ๆ อาทิ Rev-Runner ร้านรองเท้าวิ่ง และอุปกรณ์วิ่งโดยเฉพาะ, Columbia อุปกรณ์แคมป์ปิ้ง, จักรยาน, กอล์ฟ, วิ่ง และลาน Skate park และ Gokarts