จัดห้องอย่างไร ให้เป็นสุข

สวัสดีปีใหม่กันอีกครั้ง เวลาผ่านไปไวจริงๆ นะครับ เพิ่งรู้สึกว่าเค้ายกเลิกวันสงกรานต์ไปเมื่อไม่นานนี้เอง เเป๊บๆ กำลังจะวนมาอีกเเล้ว เเละด้วยสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ ทำให้การจะออกจากบ้านในเเต่ละทีต้องคิดเเล้วคิดอีก

วันนี้ผมเลยรวมเอาเทคนิคที่ได้จากหนังสือ “108 เวทมนต์แห่งการจัดบ้าน” ของคนโด มาริเอะ เจ้าของทฤษฎีการจัดบ้านผู้โด่งดัง ซึ่งมีเคล็ดลับดีๆ มากมาย ในการจัดบ้านให้ง่าย เเละประหยัดเวลามากขึ้น ใครทีถือโอกาสวันปีใหม่อยากลองทำอะไรใหม่ๆ ก็ลองใช้ช่วงเวลาที่ได้อยู่บ้านยาวๆ ในช่วงนี้ จัดบ้านสร้างมุมสวยๆ มุมใหม่ให้กับบ้านที่เรารักกันดูนะครับ

#LivingSneakPeek #SneakLife #MarieKondo

ใครที่ยังไม่รู้ว่าควรเริ่มจัดห้องจากไหนก่อนลองใช้วิธีนี้ดูครับ

แบ่งเป็นหมวดหมู่ก่อน เเล้วเรียงลำดับโดยเริ่มจาก

1. หมวดเสื้อผ้า
2. หนังสือ
3. เอกสาร
4. ของจิปาถะ
5. ของที่มีคุณค่าทางจิตใจ

ถ้าใช้วิธีนี้เเล้วจะทำให้การจัดห้องเร็วขึ้นมากครับ เพราะหลายครั้งที่พยายามจะจัดของ เเล้วดันไปเจอรูปเก่าชวนคิดถึง ก็ต้องหยุดชะงัก ถ่ายรูปส่งไปให้เพื่อนดูบ้าง บางคนนั่งร้องไห้บ้าง แบบนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมต้องจัดของที่มีคุณค่าทางจิตใจไว้เป็นลำดับสุดท้ายไงครับ

การเก็บรองเท้าให้เริ่มจากรวบรวมเอารองเท้าทั้งหมดที่มีในบ้านมาวางกองรวมกันไว้บนหนังสือพิมพ์ เอาทุกคู่จริงๆ นะครับ ทั้งที่วางกองๆ อยู่หน้าบ้าน รวมไปถึงที่เก็บไว้ในตู้ด้วย

จากนั้นให้แยกตามหมวดหมู่การใช้งาน เช่น รองเท้าแตะ รองเท้าทำงาน รองเท้าบู๊ต รองเท้าผ้าใบ จะได้รู้ว่าส่วนใหญ่แล้วรองเท้าของเราอยู่ในหมวดไหนมากที่สุด

เสร็จแล้วหยิบขึ้นมาถือไว้ทีละคู่ ถามตัวเองว่าใส่คู่นี้แล้วรู้สึกยังไง? ถ้าใส่ไม่พอดี หรือใส่แล้วกัดเจ็บ ก็ถือโอกาสนี้ทิ้งไปเลยครับ

อันนี้ก็เป็นตัวอย่างการจัดวางแยกประเภทให้หยิบใช้งานง่าย แต่ก็ไม่ได้มีสูตรสำเร็จหรอกนะครับ เพียงแต่พวกของหนักก็ควรเอาไว้ข้างล่างเพื่อจะทำให้ตู้มั่นคงกว่า ส่วนคู่เบาๆ ก็จะหยิบจับได้อย่างง่ายดายมากขึ้น

เมื่อพับเสื้อผ้าเรียบร้อยนำเข้าไปเก็บในลิ้นชักให้เป็นหมวดหมู่ได้เลย โดยให้จัดเก็บแบบไล่ระดับสี เริ่มจากสีอ่อนสุดไว้ด้านหน้า เเล้วค่อยไล่ไปหาสีเข้ม แบบนี้จะทำให้หาเสื้อผ้าง่ายขึ้นแถมยังรู้ได้ทันทีเลยว่า เสื้อผ้าที่เราใส่ส่วนใหญ่เป็นสีโทนไหน

เก็บของที่มีน้ำหนักเบาไว้ด้านบนนะครับ ช่องล่างๆ ค่อยใส่ของหนัก อย่างเสื้อตัวหนาๆ ที่เอาไว้ใส่หน้าหนาวก็ไว้ข้างล่าง เสื้อยืดก็ไว้ชั้นบนๆ เอาครับ

ถ้าอยากจะจัดชั้นหนังสือให้เรียบร้อย สิ่งสำคัญมากในขั้นตอนแรกคือ เอาลงมาให้หมด อย่าให้มีหนังสือเหลืออยู่บนชั้นแม้แต่เล่มเดียว จากนั้นให้หยิบมาพิจารณาทีละเล่มว่าเล่มไหนควรได้ไปต่อ เพราะการทิ้งหนังสือไว้ซ้อนกันนานๆ มองผ่านๆ ก็จะไม่ค่อยอิน ไม่รู้เลยว่ามันน่าสนใจยังไง และถ้าไม่อยากเสียเวลาจนกลายเป็นงานช้าง ก็ไม่ต้องไล่เปิดอ่านเนื้อหาด้านในจนเพลิน แต่ถ้ามีหนังสือเยอะมากจริงๆ ก็ให้เอาออกมาแยกหมวดหมู่กันไว้ตามภาพ ก็จะช่วยให้จัดหนังสือได้ง่ายขึ้นครับ

หลักการง่ายๆ ของวิธีนี้คือ “ทิ้งให้เกลี้ยง” ครับ ใช่ว่าต้องกวาดทุกอย่างทิ้งลงขยะนะ แต่ให้ตั้งใจแต่แรกเลยว่าจะทิ้งจริงๆ เนื่องจากเอกสารแผ่นนึงเนี่ย มันกินพื้นที่น้อยมาก เราเลยชอบเผลอเก็บเอกสารมากมายเอาไว้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นควรมีวัตถุประสงค์ชัดเจนต่อการเก็บด้วยการแบ่งเป็น “กำลังใช้งานอยู่” ต้องเก็บไว้ช่วงเวลาหนึ่ง” และ “ต้องเก็บไว้ตลอดไป” ถ้าอยู่ในซอง หรือในแฟ้มก็หยิบออกมาให้หมดนะครับ เชื่อเถอะ เราจะเจอใบปลิวแผ่นพับอะไรที่ไม่จำเป็นอีกเพียบเลย

เคล็ดลับสุดท้ายคือการจัดเก็บเครื่องเขียน โดยให้เริ่มจาก “ของที่ใช้แล้วไม่ลดจำนวนลง” อย่างเช่น กรรไกร ไม้บรรทัด ปากกา แบ่งเก็บให้เป็นสัดส่วนครับ จะเอากล่องมาใช้แบ่งพื้นที่ในลิ้นชัก หรือเอามาใส่พวกของชิ้นเล็กๆ ก็ได้

สำหรับปากกาถ้ามีเยอะจัด ก็ลองหยิบมาไล่เขียนดูก่อน อันไหนที่ใช้ไม่ได้แล้วทิ้งได้เลยครับ อันไหนเขียนไม่ดี คัดออกให้หมด

ส่วนของที่ใช้แล้วค่อยๆ ลดหายไปเช่น ยางลบ หรือลูกแม็ก ก็แยกออกมาอีกที่ ทำให้เวลาใช้งานไปเรื่อยๆ จะเป็นระเบียบไม่ปะปนกันจนดูมีแต่ของเยอะเต็มไปหมดตลอดเวลา

และที่สำคัญควรเก็บอุปกรณ์ทุกชิ้นไว้ในแนวตั้ง จะได้หยิบง่าย และช่วยประหยัดเนื้อที่ได้ครับ

หวังว่าเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ จะช่วยเพิ่มมุมสวยๆ ในบ้านให้น่าอยู่ต้อนรับปี 2021 นี้ได้นะครับ