บางครั้งการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยก็ให้อารมณ์เหมือนการการเลือกงานศิลปะชิ้นหนึ่งนะครับ เพราะมากกว่าการเลือกซื้อด้วยเหตุและผล บางครั้งเราก็ใช้อารมณ์ความรู้สึกด้วย เมื่อได้พบเจอผลงานที่ถูกใจ ก็ตกลงปลงใจได้ไม่ยาก บางสิ่งที่คล้ายกันของงานศิลปะและที่อยู่อาศัยก็คือทั้งสองมีมูลค่าในตัวเอง สามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต และยังทำให้เรา “มีความสุข” เมื่อได้อยู่กับมันอีกด้วย
วันนี้เป็นอีกวันที่ผมได้ไปชม Sales Gallery ของโครงการใหม่จาก Habitat Group ในซีรีย์ “Walden” ซึ่งเป็นชื่อของโครงการ Low Rise ที่เค้าเลือกพิกัดทำเลใจกลางเมือง ความพิเศษคือเค้าเปิดตัวโครงการในทำเลอย่างทองหล่อ พร้อมกัน 2 โครงการ ก็เลยจัดทำ Sales Gallery ไว้รวมกันซะเลย ตั้งอยู่ในซอยทองหล่อ 5 นะครับ ห้องตัวอย่างที่นี่ก็เลยมีถึง 4 ห้อง ผมก็เลยได้เดินชมเพลินๆ เหมือนไปดู Art Gallery และยังเอาใจด้วยการให้ลูกค้าสามารถเลือกสีสันของวัสดุตกแต่งได้ด้วย คือ เค้าจัด Set โทนสีเข้มและโทนสีอ่อนไว้ให้เลือก การที่เราสามารถ Customize เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ได้ ก็ดูน่าประทับใจอยู่ไม่น้อยครับ
Walden ทองหล่อ 8 และ Walden ทองหล่อ 13 ชื่อก็ตามตำแหน่งที่ตั้งใน “ทองหล่อ” สุดยอดทำเลที่ทุกคนคุ้นเคยนี่แหละครับ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของหลากหลายไลฟ์สไตล์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แถมยังอยู่ในแหล่งธุรกิจสำคัญ จึงไม่แปลกที่บรรดา Developer ต่างก็พยายามพัฒนาโครงการพิเศษมาลงในทำเลนี้อยู่เสมอ รอบนี้ผู้พัฒนาโครงการได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์จากญี่ปุ่นทั้ง List Group และ JRE Development บริษัทลูกของ Jalux ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทในเครือสายการบินที่สุดพรีเมียมที่เราคุ้นเคยอย่าง Japan Airline และโรงแรมชื่อดังอย่างเครือ Niko Hotel ครับ
ทำให้เราได้เห็นการพัฒนาทั้งด้าน Design และ Service ที่ตอบโจทย์ผู้เช่าได้อยู่อย่างสะดวกสบายด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Laundry, Room Cleaning and Maintenance, ระบบทีวีญี่ปุ่น, ทีมงานที่พูดได้ทั้งญี่ปุ่น อังกฤษ และไทย ที่จะคอยให้บริการเพื่อให้การอยู่อาศัยราบรื่น
Walden ทองหล่อ 8 >> เริ่ม 7.9 ล้าน (เฉลี่ยประมาณ 235,000 บาท/ตร.ม.)
โครงการนี้เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น ได้ความสงบเพราะอยู่ในซอยตัน แถมใกล้ Community Mall อย่าง Eight Thonglor ที่อยู่ปากซอยเพียง 250 เมตร และไม่ไกลจาก BTS เติมเต็มความเป็นส่วนตัวด้วยที่อยู่อาศัยเพียง 117 ยูนิต โดยรูปแบบห้องเริ่มที่ 1 Bed ขนาด 32 ตร.ม., 1Bed Plus ขนาด 40-47 ตร.ม., 2Bed ขนาด 45-58 ตร.ม. และ 2Bed Deluxe ขนาด 59-71 ตร.ม. พร้อมห้อง Type หลักของโครงการที่ออกแบบมาพิเศษแบบ Interlocking นั้นคือ 1 Bedroom Plus ทำให้ได้ความสูงของเพดานแบบ Unique High Ceiling ที่มีระยะสูงสุดอยู่ที่ 3.45 ม. ในพื้นที่ของห้องอเนกประสงค์ (ในพื้นที่ส่วนอื่น 2.6 ม.) จะทำเป็นห้องทำงานก็ได้ มุมพักผ่อนก็ดี ซึ่งเรียกว่าเป็นการเปิดมุมมองการอยู่อาศัยให้กว้างขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้พื้นที่ สำหรับที่จอดรถที่นี่มี 61% เป็นแบบ Robot Parking ที่อยู่ชั้นใต้ดิน ข้อดีคือจอดรถสะดวกขึ้นเพราะมีระบบแขนกลนำเข้าไปเก็บในช่องจอดให้เอง
เรามาชมสิ่งอำนวยความสะดวกที่โครงการให้กันบ้างครับ ถึงแม้ว่าโครงการจะมียูนิตจำนวนน้อย แต่ก็จัด Facilities มาให้ครบครันมากๆ ในส่วนพื้นที่ชั้นล่างๆ ออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว ก่อนเข้ามาในอาคารจะมีต้นไม้และสายน้ำเป็นตัวกลางให้ความรู้สึกหลุดพ้นจากความวุ่นวายภายนอก Gym ที่อยู่ชั้นใต้ดินแต่ก็ออกแบบให้แสงและลมสามารถลอดเข้าได้ โดยการออกแบบตัวอาคารให้มีพื้นที่สำหรับอากาศหมุนเวียนได้ตลอดเวลา แต่ที่เป็นไฮไลต์ก็คือชั้น Rooftop ที่จัด Landscape ได้สวยและรื่นรมย์เต็มพื้นที่ มีทั้ง Lap Pool, Jacuzzi, Pool Terrace, Floating Walkway, Sunken Seat, Onzen Hot Tub, Kids Pool, Playground, Family Sharing Space, Outdoor Pantry, Observation Deck, Floating Pool, Pavilions รวมถึงการเติมเต็มพื้นที่สีเขียวลงไปอีก เพื่อให้ลูกบ้านได้สัมผัสกับธรรมชาติใกล้ชิดขึ้น ทั้งหมดนี้ก็เพื่อส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีสภาวะ Well-Being ที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ
Walden ทองหล่อ 13 >> เริ่ม 6.9 ล้าน (เฉลี่ยประมาณ 185,000 บาท/ตร.ม.)
ที่นี่ก็เป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น เช่นเดียวกันครับ ทำเลมีความแตกต่างไปนิดนึงเพราะเป็นทางสัญจรที่ใช้ลัดเลาะสำหรับฝั่งสุขุมวิทเลขคี่ ทำเลนี้จะยิ่งเจาะจงชาวญี่ปุ่นมากไปอีก มีทั้ง Serviced Apartment, Community Mall สไตล์ญี่ปุ่น และที่สำคัญใกล้กับโรงพยาบาลสมิติเวช ที่ได้มาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาลที่ญี่ปุ่นเลย ดูจะจูงใจผู้เช่าตาม Target เค้าได้ดีนะ โครงการนี้มีจำนวน 122 ยูนิตครับ ประกอบด้วย 1 Bed ขนาด 36-50 ตร.ม., 1Bed Plus ขนาด 41-46 ตร.ม. และ 2 Bed ขนาด 51-68 ตร.ม.
การออกแบบของโครงการนี้ เป็นสไตล์ Japanese Tropical ผสมกลมกลืนความเป็นไทย โดยทำ façade อาคารเป็นลายไม้ให้ความรู้สึกนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ อาคารนี้ก็มีทีเด็ดอยู่ที่ Facilities ชั้น Rooftop เช่นกันนะ เพราะเค้าทำเป็นลักษณะเหมือนเป็นน้ำตกไล่ระดับสวยงามจริงๆ ครับ สิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่ประกอบด้วย Outdoor Lobby, Pool Terrace, พื้นที่สีเขียวรอบอาคาร, สระว่ายน้ำแบ่งเป็น Jacuzzi Seat, SunBed , Shallow Pool และ Kids Pool, Onsen, Fitness, Counter BBQ, Green Amphitheater, Massage walk, Stepped Lawn และ Playground ส่วนที่จอดรถที่นี่ก็เป็นแบบ Robot Parking เช่นกันครับ
สิ่งที่ทั้ง 2 โครงการเหมือนกันก็คือ ทุกห้องจะมาพร้อมกับ Bathtub วัสดุที่เลือกใช้ก็เป็นแบรนด์ระดับ Premium มาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในโครงการทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัว Gorenje, สุขภัณฑ์จาก Villeroy & Boch ฯลฯ ซึ่งเรียกได้ว่าเกินคุ้มมากๆ เพราะได้ Spec หรูในราคาห้องที่มี ตร.ม. ละไม่ถึง 200,000 ในทำเลทองหล่อ ซึ่งถ้าพูดให้เห็นภาพชัดขึ้น ก็คือ โครงการอื่นๆ ราคาต่อตร.ม.อยู่ที่ราวสองแสนกว่าไปทะลุสามแสนกว่าต่อตร.ม. และส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ Fully Fitted หรือมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานบางอย่าง แต่ที่นี่ให้แบบเฟอร์นิเจอร์ครบชุดแถมแบรนด์ที่จัดมาให้นั้นเป็นระดับ World Class อีกด้วย ที่นี่จึงคุ้มค่ามากๆ
และที่สำคัญยังมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ครบชุดแบบ Fully Furnished แถมยังสามารถเลือกโทนสีของวัสดุที่ใช้ตกแต่งห้องได้อีก แถม Design และ Facilities ที่จัดมาให้นี้ ก็ดูสมราคากับการเป็น Luxury Low Rise ในย่านนี้จริงๆ ครับ รายละเอียดโครงการมีอีกเยอะ โดยเฉพาะใครสนใจที่จะซื้อเพื่อการลงทุน ก็เข้าไปชมห้องตัวอย่างทั้ง 2 โครงการที่ Sales Gallery ซอยทองหล่อ 5 นะครับ
สำหรับผู้ที่สนใจ โครงการเตรียมจัดงาน Exclusive Pre-Launch อีกครั้ง ในวันที่ 23 – 24 พ.ย.นี้ ที่ Sales Gallery ซอยทองหล่อ 5 เช่นกันฮะ และที่สำคัญก่อนไป อย่าลืมคลิกลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษจากโครงการที่นี่กันก่อน >> https://bit.ly/2niZ13y แล้วตามผมเข้าไปภาพห้องตัวอย่างที่ผมได้เก็บมาฝากพร้อมๆ กันได้เลยคร้าบบบบ
ชมภาพพรีวิวโครงการครับ >> https://bit.ly/2qNWFeB
อย่างที่บอกไปใครอยากชมห้องตัวอย่างไม่ต้องขับรถไปที่ไซต์ทั้งซอย 8 และ 13 นะฮะ ถ้าไปคงไม่เจอน้องเซลล์คนงาม แต่เห็นแค่รั้วล้อม เพราะ Sales Gallery เค้าตั้งอยู่ในทองหล่อ 5 ครับ
สำหรับห้องตัวอย่างห้องแรกที่ผมจะพาเพื่อนๆ มาชม จะเป็นห้องตัวอย่างของโครงการ Walden ทองหล่อ 8 Type 1 Bedroom Plus ขนาด 42 ตร.ม.
ระบบ Digital Door Lock ที่โครงการเลือกใช้คือยี่ห้อ Yale ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม จะเปิดด้วยรหัส กุญแจ หรือคีย์การ์ดก็สะดวก
ห้องตกแต่งสไตล์ Modern Luxury ห้องนี้เค้าแต่งด้วย Dark Tone ครับ ที่นี่เราจะได้แบบ Fully furnished ส่วนแรกของห้องจะเป็นพื้นที่ครัว และบริเวณรับประทานอาหารอยู่ด้วยกัน พื้นที่ใช้นี่ก็เลือกลายได้ด้วยนะครับ
ด้านขวามือของ Counter จะได้ตู้เย็น Built-in ของ Gorenje พร้อมตู้เก็บของและมีช่องวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้ามาให้เราเรียบร้อยแล้วครับ
มาดูอุปกรณ์ครัวที่เราจะได้กันบ้างนะครับ สำหรับอ่างล้างจะเป็นของ Blanco เครื่องดูดควันจะเป็นของ Teka และเตาไฟฟ้าขนาดสองหัวของ Bertazzoni จากอิตาลีครับ
Microwave จะเป็นของ Bertazzoni เช่นกันครับ เรียบเนียบพอดีกับช่องที่ออกแบบมาไว้ด้านล่าง
ด้วยความลึกของพื้นที่ครัว โครงการเลยจัดชุดโต๊ะทานข้าวโชว์กันไปเลยว่า เนี่ยแหละครัวที่ใช้งานได้จริงอย่างน้อย โต๊ะทานข้าวต้องมี 4 คนที่นั่งนะฮะ
สำหรับเครื่องเครื่องปรับอากาศจะได้แบบ Concealed Type พร้อม ระบบ Home Automation และ Motion sensor ควบคุมการเปิดไฟและแอร์มาให้ด้วยครับ
ถัดมาส่วน Common Area ที่สามารถเชื่อมทุกส่วนของห้องเข้าด้วยกันได้นั่นคือส่วน Living ซึ่งส่วนนี้เองทางโครงการออกแบบให้เราสามารถเปิด ปิดบานเลื่อนกั้นห้องนอนได้แบบกว้างๆ อย่างนี้เลย วันไหนอยู่คนเดียวอยากใช้ชีวิตแบบอิสระ โปร่งโล่งก็เปิดที่กั้นออกได้เลยฮะ
ถ้าเรามองจากมุมนี้จะเห็นตำแหน่งแอร์ทางด้านบนซึ่งก็สวยงามดีเหมือนโรงแรม พื้นที่ส่วนนี้ก็จะอยู่ติดกับห้อง Plus จุดขายของห้อง Layout นี้ครับ
ส่วนนี้นี่เองที่เค้าออกแบบเป็นพิเศษ ให้มีระยะเพดานสูงสุดอยู่ที่ 3.45 เมตร ด้วยการยกเพดานขึ้นไปในตำแหน่งของ Planter สำหรับปลูกต้นไม้ของห้องด้านบน ก็เป็นการออกแบบที่ชาญฉลาดของเค้านะ ทำให้เมื่อมองจากภายนอก เราจะเห็นหน้าต่างบานขนาดใหญ่สลับกันไปทั้งแนวอาคาร
สำหรับห้อง Plus โครงการแต่งเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมวาง Daybed ไว้พักผ่อน ซึ่งขนาดห้องก็ค่อนข้างสะดวกสบายในการใช้งาน จะทำห้องทำงานก็ได้โต๊ะใหญ่ จะทำเป็นห้องแต่งหน้าสำหรับสาวๆ ก็มีพื้นที่เหลือเฟือ หรือจะปรับเพิ่มเป็นส่วน Living ก็ยิ่งทำให้ได้ส่วนพักผ่อนเพิ่มเติมที่กว้างขึ้นไปอีกครับ
ความกว้างของห้องนอน เราสามารถวางเตียง King Size ได้แบบสบายๆ เลยฮะ ส่วนระเบียงห้องเราจะเห็นว่ามีทั้งพื้นที่ ที่เป็นระเบียง และตำแหน่งปลูกต้นไม้ที่ผมพูดถึง ซึ่งส่วนนี้จะเหมาะมากสำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว เพราะเจ้าแนวต้นไม้เขียวๆ ในคอนโดที่หาได้ยากนี้แหละจะช่วยสร้างบรรยากาศการพักผ่อนให้เราได้ดีทีเดียวเลยครับ
ประตูกระจกที่นี่มีการบุผ้าทอเพื่อเพิ่มความส่วนตัวในการแบ่งกั้นระหว่างส่วน Living กับส่วนห้องนอนไว้ด้านใน ทำให้เราไม่ต้องไปหาม่านบังสายตามาติดตั้งเพิ่มเติมครับ
ระหว่างหัวเตียงกับตู้เสื้อผ้ายังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะหัวเตียงนะฮะ
ห้องน้ำในโครงการก็เพิ่มความโปร่งด้วยผนังกระจกแบบนี้ กลายเป็น Sexy Bathroom
ภายในออกแบบได้หรูหราด้วยหินอ่อน และที่สำคัญได้ Bathtub ด้วยนะ แถมชุดฝักบัวก็มีทั้งแบบ Hand Shower และ Rain Shower, โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet , มีกระจกนิรภัยกั้นส่วนเปียกแห้งชัดเจน และแบรนด์ที่นำมาใช้ในนี้ก็มีทั้ง Toto และ Villeroy & Boch ครับ
ตรงมุมเพิ่มความสะดวกด้วยการเจาะช่องสำหรับวางของไว้ได้ถึงสามชั้นแน่ะ
ส่วนด้านล่างของอ่างล้างมือก็ทำเป็นชั้นวางของให้ด้วยเช่นกันครับ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเปิดห้องตัวอย่างของโครงการ Walden ทองหล่อ 13 Type 2 Bedroom ขนาด 66 ตร.ม. กันต่อเลยครับ
สำหรับ Type นี้จะเป็นห้องมุมที่มีหน้ากว้างมาก ซึ่งเปิดมาส่วนแรกเราจะเจอกับส่วนครัวเปิดเป็นอันดับแรก ซึ่งมีขนาดพื้นที่ให้ใช้งานกันได้สบายๆ และก็จะได้ตู้เย็น Built in ของ Gorenje ซ่อนไว้สวยๆ มีช่องวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าให้ พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เป็น Spec เดียวกับห้องตัวอย่างที่แล้วครับ
สิ่งที่ผมชอบก็คือ ครัวที่มีพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารกว้างๆ นี่แหละ
โครงการนี้ได้ Digital Door Lock ของยี่ห้อง Yale เช่นกันครับ
มาถึงส่วน Common area ที่น่าสนใจของห้องนี้ ด้วยความที่เป็นห้องมุม ก็จะได้กระจกเข้ามุมขนาดใหญ่ ที่เราจะเปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มตา วันนี้รูดม่านไว้หน่อยเพราะว่าแสงเข้ามาอย่างเจิดจ้าเหลือเกิน ฮ่าๆ
ในพื้นที่เดียวกัน โครงการได้จัดโต๊ะทานข้าวขนาด 4 ที่นั่งไว้ให้ แต่ด้วยขนาดพื้นที่ ใส่เพิ่มไปอีกสองที่นั่งก็ยังได้สบายๆ นะ
สำหรับทางเดินนี้ก็จะนำไปสู่โซนสงบเงียบเป็นส่วนตัวอย่างห้องนอน ซึ่งจะเห็นความแตกต่างของการปูพื้นของโครงการนี้ที่ต่างกับ Walden ทองหล่อ 8 เพราะมาในสไตล์ Herringbone
มาชมกันที่ห้องนอนที่สองก่อนครับ พื้นที่นี่วางเตียง 5 ฟุตได้นะครับ แต่ถ้าเราไม่ใช้เป็นห้องนอน เราก็สามารถปรับใช้งานตามห้องตัวอย่าง เป็นกึ่งๆ ห้องทำงานและพักผ่อนได้ในตัว ห้องนี้เป็นห้องเดียวที่ไม่ได้กระจกเข้ามุมนะครับ แต่ดูจากขนาดกระจกที่ให้มานี่ก็คงไม่รู้จะ Complain อะไรแล้วล่ะ
ด้านหน้าของห้องนอนที่สองนี้จะเป็นห้องน้ำแบบ Double access ใช้งานได้ทั้งจากในห้องนอนนี้หรือจะเข้าจากทางเดินด้านนอกก็ได้
ห้องน้ำได้อุปกรณ์เหมือนกันยกเว้น Bathtub ที่มีเฉพาะห้องน้ำในห้องนอน Master ครับ
มาถึงห้องสุดท้ายกับ Master Bedroom ขนาดใหญ่
มาถึงห้องสุดท้ายกับ Master Bedroom ขนาดใหญ่
มุมห้องอีกฝั่งโครงการได้ Built in ตู้กระจกรูปทรงตัว L แบบนี้ไว้ให้ ซึ่งถือว่าสะดวกดีครับ เพราะตำแหน่งตู้วางอยู่หน้าห้องน้ำพอดีครับ
ส่วนห้องน้ำใน Master Bedroom เรียกว่ากว้างขวางเลยฮะ โดยเฉพาะเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่มาเต็มไม่ได้เป็นแค่อ่างลอยๆ การตกแต่งด้วยหินอ่อนที่ใช้ก็ทำให้ห้องดูมีสเน่ห์เฉพาะตัว
เป็นไงบ้างครับกับห้องตัวอย่าง 2 โครงการใหม่ที่ผมพามาชมกันวันนี้ จริงๆ แล้วห้องตัวอย่างเค้ามีให้ชมถึงโครงการละ 2 ห้องเลยนะครับ และแต่ละห้องก็แต่งได้สวยงามเดินชมได้อย่างมีอรรถรสกันเลย ใครที่สนใจก็ลองเค้าไปชมห้องเหล่านี้ที่สำนักงานขายกันได้ครับ แล้วโครงการหน้าเราจะพาไปชมที่ไหน ก็ติดตามกันได้ที่นี่ กับ Living Sneak Peek – แอบดูคอนโด ครับ