The Origin รัชดา-ลาดพร้าว
The Origin : สวัสดีครับ ผมเป็นคอนโดน้องใหม่จาก “Origin Property” เพิ่งคลอดออกมาในปี 62 นี้เองครับ คุณพ่อคุณแม่บอกว่าผมน่าจะถูกใจลูกค้าเจนใหม่ อย่างวัยเพิ่งเริ่มทำงาน หรือต้องการซื้อคอนโดมิเนียมไว้เป็นทรัพย์สินแรก เพราะผมมีหน้าตาและฟังก์ชั่นที่ถูกใจ แถมอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า ในราคาที่จับต้องได้… เริ่มต้นที่ราวๆ 1-2 ล้านบาทเองครับ
ผม: โถพ่อหนุ่ม แล้วตกลงจะไปอยู่ทำเลไหนดีครับ
The Origin: ผมไม่ได้มาตัวคนเดียวนะ มีหลายพี่น้องที่กำลังคลอดตามกันมาอีกเรื่อยๆ นะครับ กระจายตัวกันไปอยู่ใน 6 ทำเลด้วยกัน ก็ทั้ง สุขุมวิท พหลโยธิน ลาดพร้าว รามอินทรา รัชดา และรามคำแหงที่เพิ่งเปิดพรีเซลไปพร้อมยอดขายพุ่งฉลุยด้วยครับ (ยกมือป้องปากด้วยเสียงกระซิบ)
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นบทสนทนาของผมกับเพื่อนมโนในครั้งนี้ครับ ฮ่าๆ เห็นว่าน่าสนใจเลยอยากพาชาว Living Sneak Peek มาทำความรู้จักกับ The Origin โครงการต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้นในย่านบนถนนรัชดาแห่งนี้ กับโครงการที่มีชื่อว่า “The Origin Ratchada-Ladprao” (ดิ ออริจิ้น รัชดา-ลาดพร้าว) โครงการ Low Rise ใกล้รถไฟฟ้า Interchange 2 สายน้ำเงิน สายสีเหลือง เพียง 25 เมตรครับ
เอาหล่ะครับ (เสียงรัวกลอง) ไหนๆ ก็เกริ่นกันมาสะขนาดนี้แล้ว (เสียงรัวกลองค่อยๆ ดังขึ้นๆ) ก็จะรอช้าอยู่ใย เราไปแอบดูโครงการ “The Origin Ratchada-Ladprao” กันดีกว่าคร้าบบ !!
โครงการ THE ORIGIN ตั้งอยู่ที่ลาดพร้าว 23
การเดินทางมาที่นี่ คือ ถ้าวิ่งมาทางเส้นลาดพร้าวตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแยกรัชดา-ลาดพร้าว ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแรกเลยครับ ตอนนี้ถ้าใครอยากแวะเข้าไปชมห้องตัวอย่าง เข้าซอยไปไม่ถึงร้อยเมตรก็จะเจอ Sales Gallery อยู่ทางซ้ายมือแล้ว แต่ตัวโครงการจริงๆ ถ้านับจากปากซอยก็จะอยู่ถัดเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตรครับ (กลางค่ำกลางคืนโบกพี่วินได้ครับ ปากซอยมีตลอด) เพราะซอยนี้ขับรถผ่านกี่ทีก็เห็นผู้คนยืนรอพี่วิน รอที่รักมารับกัน อยู่ปากซอยคิวยาวไปถึงสะพานลอยตลอด ด้วยความที่ซอยนี้สามารถลัดเลาะออกไปได้ทั้งถนนรัชดาฯ, เสนาฯ, ลาดพร้าว-วังหิน ซึ่งเป็นแหล่งรวมของอร่อยย่านลาดพร้าวก็ว่าได้ แถมตรงนี้ยังมีสะพานลอยที่สามารถเดินข้ามแยกเพื่อไปขึ้น MRT สถานีลาดพร้าวในระยะ 450 เมตรได้อีก แต่ที่สะดวกที่สุดก็คือในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีรัชดามาตั้งอยู่แค่ระยะปลายจมูก (ห่างประมาณ 25 เมตร) กลายเป็นจุด Interchange ให้เปลี่ยนไปสายสีน้ำเงินได้ด้วยครับ ส่วนการใช้รถใช้ถนนเส้นนี้ก็สะดวก
โครงการอยู่เลยแยกรัชดา-ลาดพร้าวเข้ามานิดเดียว ใครที่มีกิจธุระอยากวิ่งเส้นไหน ก็คิดรอไว้เลย เพราะแยกนี้สามารถเลือกวิ่งไปออกถนนเส้นหลักๆ ได้อีกหลายเส้นทาง ทั้งไปรามฯ หัวหมาก บางกะปิ รัชโยธิน ห้าแยกลาดพร้าว หรือพระราม 9 ซึ่งทำเลแถวนี้หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่ามีสิ่งอำนวยสะดวกค่อนข้างครบ ทั้งสวนลุมไนท์รัชดา เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ ม.ราชภัฎจันทรเกษม ศาลอาญา หรือรพ.เปาโล ฯลฯ
คอนโดมิเนียมแบบ Low Rise
ที่นี่เป็น คอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 8 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยด้วยกันทั้งหมด 208 ยูนิต (+1ร้านค้า) คืออยู่กันได้สบายๆ ไม่วุ่นวายกับจำนวนคน ส่วนที่จอดรถเค้าให้มาทั้งแบบธรรมดาและ Auto Parking รวมกันคิดเป็น 61% (รวมซ้อนคัน) เมื่อเทียบกับโครงการทั่วไปในระยะใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้ถือว่าไม่น้อยเลยครับ แบบห้องที่นี่เค้ามีหลาย Layout ให้เลือก เริ่มตั้งแต่ 1Bed ขนาด 24.5-33 ตร.ม., 1Bed Plus ขนาด 32-36 ตร.ม. และ 2 Bed ขนาด 50-54.5 ตร.ม. แถมยังมี 1 Bed Smart Walk in Closet ขนาด 26.5 – 27.5 ตร.ม. ที่เพิ่งเริ่มมีในแบรนด์ The Origin เท่านั้น สรุปง่ายๆ แบบนี้ครับ
- อยู่คนเดียวแต่ของเก็บเยอะ เลือก 1 Bedroom แบบ Smart Walk in Closet อันนี้เป็น Layout ใหม่ล่าสุด มีครัวปิดอยู่ทางเข้า ส่วนห้องนอนและโซฟาอยู่เชื่อมกันเป็นแนวยาวติดกับหน้าต่างบานใหญ่ และด้านในได้ Smart Walk-in closet ยาวพร้อมตู้บิวท์อินเก็บของตลอดแนว ต้องมาดูเอาเองเพราะมันใหญ่จุใจ โครงการจัดทำมาให้แล้วเรียบร้อยคับ
- อยู่คนเดียวอยากได้ห้อง Layout มาตรฐาน เปิดไปเจอส่วน Living ก่อนแล้วค่อยไปเจอห้องนอน ก็จิ้ม 1 Bedroom ปกติ ได้ครัวปิดติดกับระเบียง ระบายอากาศได้ง่าย ส่วนห้องนอนและตู้เสื้อผ้าได้ขนาดมาตรฐาน
- อยากได้ห้องใหญ่เผื่ออนาคต จิ้มไป 1 Bed Plus มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ให้อยู่ติดระเบียง จะเอาไปทำห้องทำงาน อ่านหนังสือ หรืองานอดิเรกก็ตามถนัด แถมห้อง Type นี้เป็นต้นไปยังได้กระจก Smart Mirror ในห้องน้ำด้วยแหละ
- ส่วนใครครอบครัวขยายอยากได้ห้องรองรับ ก็จัด 2 Bed ไปเลย ได้ครัวปิด และแยกห้องนอนเป็นสัดเป็นส่วนพร้อม 2 ห้องน้ำด้วยครับ
ส่วนกลางแบบจัดเต็ม
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางและบริการต่างๆ ที่เค้ามีให้ก็ไม่น้อยหน้ามีทั้งหมด 4 ชั้น เริ่มจากชั้น 1 มี Visitor Lobby Hall, 24 hours Co-Working Space, Self Storage และ Mail Box & Smart Locker ขึ้นมาที่ชั้น 2 มี Lounge, ฟิตเนส และสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ส่วนที่ชั้น 3 มีทั้ง Meeting Room, 24 hours Co-Working Space พร้อม Office Supply, ห้องสมุด, ห้อง Multi-function studio ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น สตูดิโอถ่ายรูปสินค้า และสุดท้ายที่ Parking Building มี Rooftop Garden และ Yoga Area นอกจากนี้โครงการยังจัดระบบ Home Automation ที่สามารถเชื่อมต่อง่ายๆ ผ่าน Application “Origin Connect” ตัวช่วยที่จะเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายต่อการอยู่อาศัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบไฟ แอร์ หรือ Smart Mirror … ใช่ครับ โครงการนี้ให้กระจกวิเศษดูหนังฟังเพลง เล่นอินเตอร์เนตได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส รวมถึงประตูแบบ Digital Door Lock และ 1 Year Hotel Service On demand* บริการทำความสะอาดห้องเดือนละ 1 ครั้ง ตลอด 1 ปีด้วยครับ ใครที่ดูแลห้องสำหรับปล่อยเช่าก็สะดวกมากขึ้นนะ เป็นความสบายที่จะเกิดขึ้นภายใต้แบรนด์ The Origin ด้วยบริการดีๆ ที่เข้าใจในตัว GEN Z อย่างแท้จริง และทำให้การใช้ชีวิตของมนุษย์คอนโดเป็นเรื่องที่ “ง่ายขึ้น” ครับ
ตอนนี้ใครที่สนใจก็เข้าไปดูห้องตัวอย่างกันได้แล้วเค้ามีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 27 ตารางเมตร 2 แบบ ซึ่งเป็น Layout ที่แตกต่างกัน ในรูปแบบ Smart Walk-in Closet กับ Layout มาตรฐาน กับอีกห้องเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตารางเมตรครับ มาถึงตรงนี้คงอยากจะรู้เรื่องราคาแล้ว เริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท หรือเป็นราคาเฉลี่ย(ทั้งโครงการ)อยู่ที่ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม. ครับ
เอาล่ะ ปิดท้ายด้วยกำหนดการ เค้าจะเปิดจองรอบพิเศษ VVIP ทั้ง The Origin ลาดพร้าว และ The Origin รัชดา-ลาดพร้าว พร้อมกัน (ดูห้องได้ที่สำนักงานขายเดียวกันนั่นแหละ) ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ สิ่งสำคัญคือ **เฉพาะผู้ที่มี “Gift Voucher” เท่านั้น ถึงจะได้เข้าจอง และรับราคาพิเศษส่วนลดสูงสุดถึง 300,000.-* บาทครับ ดังนั้นอย่าลืมไปรับ Gift Voucher ล่วงหน้าที่ >> Sales Gallery พิกัด https://bit.ly/2SCZrNm กันทุกคนน้า
ถ้าพลาดรอบ exclusive ก็ไปรอจองรอบทั่วไปเลยในวันที่ 31 ส.ค. นี้ครับ
แฟนเพจ Living Sneak Peek ที่สนใจก็คลิกเข้าไปลงทะเบียนรับข้อมูลโดยตรงจากโครงการได้ที่นี่ >> https://bit.ly/2Z3E7TO
คลิกเเล้วก็ตามเข้าไปดูห้องตัวอย่างพร้อมๆ กันเลยคร้าบบบ
#TheOrigin #จัดจ้านย่านรัชดาลาดพร้าว #สู้ๆนะ
#LivingSneakPeek
เริ่มแรกเริ่มกับห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 27 ตารางเมตร ซึ่ง Layout นี้ค่อนข้างมีความลงตัวทีเดียวครับ จะมีส่วนของห้องนั่งเล่นรอร
โครงการนี้เค้าให้แบบ Fully Fitted นะครับ ดังนั้นเมื่อซื้อห้องแล้วเร
หลังจากออกไปเดิน Shopping ที่เซ็นลาดฯ ยูเนี่ยน กลับคอนโดมาเหนื่อยๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องมานั่งเร่งแอร์เบอร์แรง รอให้ลมเย็นๆ เป่าหน้า เป่ารักแร้ที่กำลังหมาดได้ที่ เพราะเค้ามีระบบ Home Automation ที่จะมาช่วยสั่งการปิดไฟ เปิดแอร์ล่วงหน้าได้ง่ายๆ ผ่านแอพ Origin Connect ครับ ซึ่งก็ยังสามารถใช้งานด้านอื่นๆ ได้ด้วย อย่างบริการแม่บ้าน เเจ้งซ่อม หรือแจ้งปัญหาต่างๆ เป็นต้น (เปิดให้โหลดแล้วนะ ลูกบ้านออริจิ้นโหลดกันยัง)
ชั้นวางทีวีที่โครงการบิวท์
ระหว่างที่รอละครมาก็เข้ามา
อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อ
ห้องครัวที่ได้เป็นครัวปิดน
เมื่อห้องน้ำอยู่ตรงข้ามกับ
หลังจากดูละครจบไปพร้อมๆ กับไอศกรีมควอทใหญ่ หนังท้องตึงได้ที่หนังตาก็ห
ตู้เสื้อผ้าเค้าเตรียมมาให้
เนื่องจากตู้เสื้อผ้าที่เค้
ดังนั้นห้อง 1 Bedroom ขนาด 27 ตารางเมตรนี้ ก็น่าจะเหมาะกับใครที่ชอบคว
มาต่อกันที่ห้องขนาดเดียวกั
ชุดครัวมีเตาไฟฟ้าและฮูทดูด
ตู้ชุดนี้ก็ได้เช่นกัน เนี่ย แค่นี้ก็เริ่มภารกิจเก็บของ
อย่างที่บอกว่าห้องนั่งเล่น
พื้นที่ยาวๆ แบบนี้ ก็เลือกเฟอร์นิเจอร์ตามการใ
ตรงหัวเตียงมีปลั๊กสำหรับเส
อยู่ห้อง 1 Bed ใครว่า Walk-In Closet ต้องเล็กๆ แคบๆ พื้นที่ตรงนี้ Smart Walk in Closet เค้ายกให้หมดเลยครับ ทั้งตู้ ทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง รวมไปถึงBeauty Mirror กระจกไฟสวยๆ บานนี้ด้วย ตู้เสื้อผ้าขนาดมหึมา จัดของเก็บได้จุใจเลย ช่องปลั๊กก็เตรียมมาแบบไว้ท
มีช่องให้ใส่โลชั่น สเปรย์ น้ำหอม และสารพัดเครื่องประทินผิวท
ยิ่งถ้าติดกระจกบานใหญ่แบบส
ห้องสุดท้ายเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตารางเมตรครับ
เราจะได้ตู้ด้านหน้าที่เค้า
ของทุกอย่างเราก็จะได้ตามเด
ห้องนี้อยู่ติดกับระเบียง ทำให้สามารถเปิดประตูรับลมไ
ห้องนั่งเล่นขนาดกำลังดี ถ้าบ้านไหนอยากให้ห้องโล่งๆ ก็เลือกโต๊ะกาแฟตัวเล็กลงมาหน่อย หรือลองปรับโซฟาเล็กลงนิด ก็สามารถวางโต๊ะทานข้าวเล็กๆ ได้อยู่นะครับ ส่วนชั้นวางของถ้ายังเก็บได้ไม่จุใจ ก็บิวท์ชั้นเพิ่มตรงผนังทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวาได้อีกนะ
Type นี้ถูกใจสายคลีน หรือแม่บ้านกระทะเหล็กเค้าแหละ เพราะได้เนื้อที่ครัวสวยๆ เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ทรงเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L ล้างซ้าย หั่นขวา ตู้เก็บเครื่องปรุง อุปกรณ์ Bakery อยู่ด้านบน และตรงนี้เป็นตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าด้วยครับ
ห้องน้ำเป็น Double Access เข้าได้ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน แบบนี้ก็ง่ายต่อการใช้งานทั้งคนหลับ และคนนอนดึกครับ
นี่ความเก๋อยู่ตรงนี้ สำหรับห้องขนาด 34 ตารางเมตรขึ้นไปจะได้กระจก Smart Mirror นะครับ แค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส จิ้มเลือกเลย จะดู Netflix ละครช่อง 3 ย้อนหลัง ท่อง Facebook ก็ใช้งานได้หมดเค้าตามมาหาถึงในห้องน้ำแล้ว ปลั๊กใช้งานตรงนี้ก็มีช่อง USB ให้ด้วย ถูกใจชาวโซเชียลแน่นอน
หรือจะตามไปดู Living Sneak Peek Channel ด้วยกันก็ได้คร้าบ เทสต์ดูแล้ว เข้าได้ ฮ่าๆ
ต่อมาในห้องนอน พื้นที่ปลายเตียงเหลือเยอะพ
ถ้าใครต้องการความเป็นส่วนต
ก่อนจะจากกัน พาดูส่วนกลางสักเล็กน้อยครับ โดยส่วนกลางจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 3 โดยชั้น 1 ก็จะเป็น Lobby, มี Co-working space, self-storage เป็นต้น สระว่ายน้ำ ฟิตเนสและเลาจน์จะอยู่ชั้น 2 และชั้น 3 ก็จะเป็นห้องสมุด ห้องประชุม แถมมีห้อง Studio สำหรับถ่ายภาพมาให้ด้วยนะ เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบขายของออนไลน์เลยครับแบบนี้ บริเวณชั้น 2 นอกจากจะเป็นสระว่ายน้ำแล้วก็ยังสามารถเดินเชื่อมไปยังพื้นที่สวน ซึ่งเป็นส่วน Roof Top ของอาคารจอดรถระบบ Auto Parking ด้วยครับ ดังนั้นก็ไม่ต้องกลัวว่าอยู่ในเมืองขนาดนี้จะไม่มีต้นไม้สีเขียวๆ ให้ชื่นชมครับ
โครงการนี้ก็เรียกว่าจัดทุกอย่างมาให้ครบครัน ทำให้การเริ่มต้นชีวิตในครอบครัวแยกนั้นเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับวัยเพิ่งทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะโครงการจัดเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักมาให้พอสมควร มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ และมีระบบ Application ที่ช่วยจัดการความยุ่งยากให้เราไปแล้วหนึ่งเปลาะ ทั้งยังเดินทางสะดวกเพราะใกล้รถไฟฟ้านิดเดียว ในราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท ใครที่ทำงานเส้นรัชดา หรือลาดพร้าวตอนต้น อยากได้คอนโดใหม่ในราคาจับต้องได้ ลองเข้ามาดูโครงการนี้กันก่อนตัดสินใจนะครับ