แอบดูคอนโด “CIELA Sripatum” คอนโดติดสถานีรถไฟฟ้า กับราคาเร้าใจ

#CIELASripatum #GrandUnity #SimplyMakesSense

CIELA Sripatum ตัวใหม่ของ GRAND UNITY ที่มาในคอนเซปต์เรียบง่าย ออกแบบเพื่อการใช้ชีวิต และมีดีไซน์ที่อยู่ได้นานครับ จะเห็นได้ว่าตัวโครงการอยู่ติดกับสถานีศรีปทุมเลย ซึ่งถือเป็นส่วนต่อขยายของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวซึ่งจะทำให้ลูกบ้านแบบเราๆ ต่อตรงแบบยิงยาวเข้าเมืองได้เลย ไม่ต้องอ้อมโลกเหมือนส่วนต่อขยายอื่นๆ เช่น สายสีน้ำเงิน

คอนโดตัวแรกที่ถือว่าติดรถไฟฟ้าของ GRAND UNITY ก็ต้องจัดเต็มหน่อย โดยจัดวาง Rooftop facilities ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ Lounge ไปไว้ชั้นบนสุดทำให้ได้พื้นที่ส่วนกลางที่สวยงามพร้อมรับวิวที่ชั้น 28 ไปด้วย สำหรับห้องตัวอย่างของที่นี่ที่จะเป็นยังไงตามไปชมกันเลยครับ

สำหรับห้องแรกที่เราพาชมคือห้อง 1Bed ขนาด 26 ตร.ม. Layout ค่อนข้างเป็นสัดส่วน โซน Living เชื่อมต่อกับห้องนอนและรับแสงตรงมี Built-in ตู้เสื้อผ้าและตู้รองเท้าไว้ให้เรียบร้อย ครัวและห้องน้ำแยกออกไปด้านนอกไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้น และเป็นครัวปิดสามารถทำอาหารไทยได้สบายเลยครับ

ส่วนหน้าเมื่อเข้าห้องมาเป็นเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นก่อนครับ

โซฟาได้รับการจัดวางชิดผนังทางเข้า และมีพื้นที่ด้านข้างเหลือสำหรับวางโต๊ะข้างได้ด้วย จริงๆ สำหรับคนอยู่เองโต๊ะตรงนี้สามารถทำเป็นส่วนนั่งทานข้าวได้ด้วยนะ คือต้องทำโซฟาชุดบิวท์อินให้หลายฟังก์ชั่นหน่อย จะได้ใช้งานได้ยืดหยุ่นสำหรับพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่มากครับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นที่วางทีวี โดยตู้ข้างๆ เป็นตู้ใส่รองเท้าซึ่งโครงการแถมมาให้ด้วยนะครับ เพดานที่นี่สูง 2.6 ม. ตู้ที่ได้ก็สูงจรดเพดานเลย แต่ใช้งานจริงด้านบนก็เป็นการบิวท์อินทึบเพื่อความสวยงาม อ้อ พวกสวิตช์คัทเอาท์ควบคุมไฟภายในห้องก็จะอยู่ในตู้นี้ด้วยครับ

ก็เรียกได้ว่ายังไงก็จำเป็นสำหรับตู้วางรองเท้านี้ ทำมาให้ก็จะช่วยให้การจัดเก็บเป็นระเบียบมากขึ้น นอกจากรองเท้าเราก็ใส่อะไรจุกจิกยัดเก็บไว้ได้ คนจะได้ไม่รู้ว่าห้องเรารก 55

ประตูด้านข้างทีวีนี้จะเชื่อมไปยังห้องครัวและห้องน้ำ รวมถึงระเบียงด้านหลัง ของจริงเป็นบานทึบนะครับ

ด้านบนประตูเป็นตำแหน่งวางแอร์ในห้องนั่งเล่นนะครับ ห้องนี้ได้แอร์แถมมาจากโครงการ 2 เครื่อง ทั้งในห้องนั่งเล่นและส่วนห้องนอนครับ

เข้ามาในส่วนของห้องนอนกันบ้าง สามารถจัดวางเตียงได้ขนาด 5 ฟุตตามมาตรฐานครับ ด้านข้างเป็นกระจกบานขนาดใหญ่ซึ่งที่เปิดได้จะเป็นบานกระทุ้งตำแหน่งด้านซ้าย

มุมของกระจกเปิดกว้างพอสมควร และมีเข้ามุมมาอีกนิดทำให้ห้องนอนรับแสงและวิวได้มากขึ้น

ตำแหน่งแอร์ก็จะคล้ายๆ กับห้องนั่งเล่นครับอยู่ปลายเตียงพอดี ตรงนี้โครงการบิวท์อินตู้เสื้อผ้ามาให้ด้วยนะครับ และใช้กระจกแบบนิรภัยที่เวลาแตกจะเป็นเม็ดกลมๆ แบบเม็ดข้าวโพด ทำให้ปลอดภัยถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น

 ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นกั้นเป็นสัดส่วนด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ซึ่งตรงนี้ก็เป็นกระจกนิรภัยเหมือนกัน เป็นแบบลามิเนตซึ่งเวลาแตกจะยังยึดติดอยู่ด้วยกันไม่ร่วงกระจายครับ เพราะเป็นการเอากระจกสองชั้นมายึดติดกันด้วยฟิล์ม พูดง่ายๆ คือ กระจกที่นำมาใช้ในห้องของโครงการนี้เป็นแบบนิรภัยทั้งหมด อาจจะใช้เทคนิคต่างกัน แต่ทำให้ชีวิตลูกบ้านปลอดภัยมากขึ้นแบบที่เราคงไม่รู้ถึงความสำคัญถ้าไม่เกิดเหตุฮะ

เวลาปิดกั้นเป็นสัดส่วนก็จะเป็นแบบนี้แต่ก็ยังโปร่งอยู่ครับ

ห้องน้ำที่นี่เป็นห้องน้ำแบบสำเร็จรูป แต่การตกแต่งทำให้เราดูไม่ออกเลยว่าตรงไหนที่เป็นวัสดุเดิมๆที่ไม่ได้ผ่านการปูกระเบื้องทับ
ใครดูออกบ้าง

ห้องน้ำมีเจาะช่องสำหรับชั้นวางของเอาไว้เรียบร้อย สุขภัณฑ์ทั้งห้องนี้รวมโถส้วมด้วยนะ เป็นของ HAFELE ทั้งหมดครับและตรงนี้ก็ได้กระจกนิรภัยกั้นอาบน้ำด้วย

กลับออกมาด้านนอกตรงนี้เป็นส่วนของครัวครับ โดยตู้ครัวทั้งบนและล่างเป็นบาน Soft close มีทั้งที่ดูดควันและตาไฟฟ้าฝังมาเรียบร้อยบน Top หินสังเคราะห์ พร้อมกรุกันเปื้อนบนผนังมาด้วยครับ

ก็คิดว่าเกินพอสำหรับอยู่ 1-2 คนในห้องขนาดนี้ เพราะพื้นที่ครัวมีที่เตรียมอาหารด้วย ปรกติถ้าห้องขนาดไม่ใหญ่ แทบจะไม่มีพื้นที่เหลือให้วางเตรียมอาหารเลย

ซิงค์มีที่ปิดมาด้วยก็สะดวกสำหรับหลังล้างจานแล้ววางให้สะเด็ดน้ำในตัว

ทุกอย่างที่เป็นอุปกรณ์ครัวก็เป็นของ HAFELE เช่นกันครับ

ช่วงพื้นครัวกับพื้นห้องจะแตกต่างกันครับ โดยพื้นครัวปูกระเบื้องโทนสีอ่อน ส่วนพื้นห้องจะเป็นไม้ลามิเนต

สุดท้ายจะเป็นพื้นที่สำหรับระเบียง โครงการนี้จะมีกริลบังพื้นที่ระเบียงทุกห้อง เพื่อให้ภาพรวมตึกดูสวยงามเรียบร้อย ตัวคอมเพรสเซอร์แอร์แขวนอยู่ด้านบนและหันออกนอกห้องไว้แล้วครับ

มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าไว้ตรงนี้ ก็คงไม่ต้องเอาขนาดใหญ่มากให้พอดีๆ ถ้าอยากได้ฝาบนก็เอาเครื่องไม่ใหญ่หน่อยก็ยังพอจะเปิดฝาให้ไม่ติดคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ แต่ถ้าเอาชัวร์ก็ฝาหน้าครับ

ห้องที่ 2 ที่เราจะไปชมกันต่อคือห้อง 1Bed Plus 31.5 ตร.ม. ขึ้นชื่อว่า Plus ก็หมายถึงพื้นที่อเนกประสงค์ที่เราจะเอาไว้ใช้งานอย่างหลากหลายตามแต่ใจ นั่นก็คือพื้นที่ห้องก่อนออกระเบียงนี่เอง Layout นี้ก็คล้ายๆ กับห้องแรกครับ แต่พื้นที่ครัวจะกระชับเข้ามาหน่อยไม่ได้เป็นแนวยาว แต่ได้ห้องอเนกประสงค์มาแทน

อะตามมาดูของจริงกันเลย

เมื่อเข้ามาในห้องก็จะเป็นส่วน Living เหมือนเดิมครับ แล้วก็ต่อเนื่องไปยังห้องนอน ตำแหน่งแอร์ห้องนี้ก็จะมาอยู่ใกล้กันมากขึ้น

ห้องนี้ก็เหมือนกับห้องที่แล้วครับ โครงการจัดตู้บิวท์อินไว้ด้านใกล้กับประตูเข้าออก

ซ่อนของได้สบายๆ

พื้นที่ห้องกั้นด้วยกระจกบานเลื่อนอลูมิเนียมสีเข้ม

ห้องนั่งเล่นสำหรับ Layout นี้ก็จะมีพื้นที่สำหรับจัดวางของได้มากขึ้น ครับ

ห้องนอนก็จัดวางเตียงไว้ชิดกับกระจกเพื่อนอนชมวิวกันได้ตามอัธยาศัย

และจัดตู้เสื้อผ้าไว้ฝั่งติดกับบานเลื่อนกั้นห้องครับเป็นหน้าบานกระจกสีเข้มทำให้ลดความทึบของตู้ลงไปได้ด้วย ในขณะที่ยังพอจะช่วยพรางความระเกะระกะของการหมกเสื้อผ้าในตู้ของเราเช่นกัน 55

ต่อไปเราจะเข้าไปยังห้องครัวกันต่อทางนี้ครับ จริงๆ การวางแอร์แบบนี้ก็ทำให้เซอร์วิสง่ายทั้ง 2 เครื่องนะครับ ไม่ติดตู้ และไม่ต้องปีนขึ้นหัวเตียงด้วย

ครัวจะอยู่ติดกับห้องน้ำ ได้แบบเหมือนกับห้องที่แล้วครับ แต่ลักษณะจะไม่เป็นแนวยาว

ซึ่งเจ้าตู้เย็นก็จะมาซ่อนแอบอยู่ตรงมุมตึกนี้พอดี๊ พอดี 555 เพราะงั้นเลือกตู้เย็นที่สูงๆ ได้ แต่อย่าอ้วนมากครับ

ส่วนพื้นที่สุดท้ายที่เป็นพื้นที่พิเศษสำหรับห้อง Plus ก็คือห้องที่อยู่ติดกับครัวนี่แหละครับ

 อันนี้ก็จัดไว้เป็นกึ่งๆ พื้นที่ทำงาน เราก็เอามาประยุกต์แล้วแต่ชอบได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน, Walk-in Closet, หรืออาจจะเป็นห้องนอนเล็กๆ อีกห้องหนึ่ง แบบห้องเลี้ยงลูกก็ยังพอได้

ห้องนี้ได้แอร์ 3 เครื่อง ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้อง Plus ก็จะมาแขวนเรียงกัน 3 เครื่องตรงระเบียงนี้ครับ

เอาละครับ ก็จบแล้วสำหรับการพาชมห้องตัวอย่างของ CIELA Sripatum ตามที่เกริ่นไว้ตอนแรก แอบดูเอา Floor plan มาให้ชมกันด้วย จะเห็นว่ามีห้องที่น่าสนใจคือห้อง A10 ที่ได้วิวสวยๆ ด้านหน้าทั้ง 2 ด้าน ที่น่าสนใจเลยครับ แต่ละชั้นมีห้องเดียว ถ้ายังไงลองไปดูของจริงกันได้ที่โครงการซึ่งจะเปิดพรีเซลล์ในวันที่ 10-11 มี.ค.นี้คร้าบบ

อย่าลืมลงทะเบียนรับส่วนลดกันด้วยนะคร้าบ >> https://goo.gl/4PPaxG