แอบดูคอนโด Rhythm Asoke 2 คอนโดพร้อมเข้าอยู่ ใกล้แยกพระราม 9

เอาละ เข้าไปชมห้องตัวอย่างด้วยกันเล้ยย

สวัสดีพวกเธอ เป้าหมายที่จะพาทุกคนไปแอบดูกันวันนี้นั่นก็คือคอนโด Rhythm Asoke 2 นี่เอง ห้องตัวอย่างที่ชมมีทั้งหมด 2 ห้อง เป็นห้อง Studio ทั้งคู่ในขนาด 22.2 และ 27 ตร.ม. ซึ่งจัดตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้จริง โดยไม่ได้บิวท์อินอะไรเพิ่มเต็ม ก็น่าจะทำให้เห็นภาพห้องจริงกันง่ายครับ ตามมาลองมาดูพร้อมๆ กันเลยว่าพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมาจะทำให้ห้องแตกต่างกันยังไงบ้าง

อะชะแว้บ แง้มห้องแรกก่อนห้องนี้เป็นห้องสตูดิโอขนาดประมาณ 22.2 ตร.ม. ครับ

เมื่อเข้ามาในห้องนี้จะพบกับส่วนครัวทางด้านหน้าและที่สำหรับวางตู้เย็นอยู่ถัดไปครับ

สำหรับครัวที่ได้นั้นมีการจัดไว้ครบทั้ง Hob, Hood และซิงค์จาก Franke หน้า Top เป็นหินสังเคราะห์และกรุกันเปื้อนบริเวณผนังเอาไว้เรียบร้อยครับ แต่สำหรับครัวตรงนี้ทำอาหารเบาๆ หรือสไตล์ครัวฝรั่งน่าจะเหมาะ

ฝั่งตรงข้ามของครัวเป็นช่องไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าซึ่งก็พอจะใส่ขนาดใหญ่กว่านี้ได้ ซึ่งถ้าเอาให้เหมาะกับห้องนี้ลองเลือกเครื่องซักผ้าที่มีระบบซักและอบในตัวด้วยจะได้ลดเวลาการตากผ้าในที่ร่มไปได้ครับ

ถัดจากที่วางเครื่องซักผ้าก็จะเป็นทางเข้าห้องน้ำฮะ

มีอ่างล้างหน้าทรงกลมขนาดกะทัดรัดพร้อมสุขภัณฑ์จาก KOHLER

ห้องน้ำได้กระจกนิรภัย และ Rain shower ด้วย และมีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำไว้บริเวณมุมให้ใช้งานได้

ออกมาจากห้องน้ำก็จะเป็นส่วนของที่วางโซฟา และเตียงขนาด 5 ฟุต ซึ่งก็ได้ฟูกรวมไปด้วยนะครับ เรียกได้ว่าเข้าอยู่ได้เลย ส่วนของช่องแสงตรงนี้มีทั้งหน้าต่างที่เป็นบานกระทุ้งและส่วนของระเบียงซึ่งเป็นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์นะครับ

ตำแหน่งวางแอร์ของห้องนี้จะอยู่ด้านข้างเตียงซึ่งก็จะทำให้ลมเย็นเข้ามากำลังดี ส่วนบริเวณสำหรับวางโซฟา ถ้าอยากเอาไว้ทำงานแอบดูว่าก็เปลี่ยนเป็นโต๊ะก็สะดวกดีเหมือนกัน ไว้กินข้าวได้ด้วย

บริเวณปลายเตียงเป็นที่วางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอื่นๆ ที่ได้มาทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นวางทีวีและตู้เสื้อผ้าครับ โทนสีก็เป็นเทาและลายไม้

กลับไปดูตรงระเบียงสักนิด จริงๆ สำหรับโครงการนี้จะไม่ได้มีระเบียงไว้ตากผ้าเหมือนโครงการอื่นๆ แต่จะเป็นระเบียงเล็กๆ ไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ พร้อมกริลบังตา

จริงๆ ข้อดีก็ทำให้ภาพรวมตึกเมื่อมองด้านนอกจะสวยงามเสมอ ไม่มีอะไรระเกะระกะ แต่สำหรับคนอยู่เองที่จะคุ้นชินกับการตามผ้าที่ระเบียงก็ปรับตัวหน่อย ควรมีเครื่องอบผ้านะฮะ จริงๆ แล้วก็ยังพอวางซ้อนกับตำแหน่งเครื่องซักผ้าได้ หรือจะซื้อแบบ 2-in-1 ก็แล้วแต่จิตศรัทธา

ส่วนตู้เสื้อผ้านี่อลังการกว่าขนาดห้องมาก 55 เรียกได้ว่าใส่เกินพอกันเลยทีเดียว

เสร็จจากห้องแรกเราจะเดินไปต่อที่ห้องที่สอง ซึ่งเป็น Studio ขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด ตอนเดินออกมาโถงทางเดินนี่ก็จะเห็นช่องแสงขนาดใหญ่บริเวณสุดทางทุกด้าน ก็ทำให้แต่ละชั้นดูไม่มืด และจำนวนยูนิตที่ไม่มากก็ทำให้ค่อนข้างเป็นส่วนตัวครับ

ยืนตรงนี้จะเห็นว่าแสงธรรมชาติส่องเข้ามาจากทุกด้านเลย

เข้ามาห้องที่ 2 เป็นห้อง Studio ขนาด 27 ตร.ม. ครับ ห้องนี้ Layout ก็จะคล้ายๆ กัน เปิดมาจะพบกับส่วนของครัวก่อนซึ่งวางไว้ชิดผนังทางเข้าด้านหน้า

แต่พื้นที่ที่ใหญ่ขึ้นก็ทำให้เราได้โต๊ะกินข้าวซึ่งวางไว้ขนาด 2 ที่นั่งกำลังสบายๆ เพิ่มมาก่อนจะเป็นพื้นที่วางโซฟาครับ

ถัดไปก็เป็นส่วนของเตียงนอนที่วางไว้ใกล้ฝั่งหน้าต่างเช่นเคย

ที่ปลายเตียงก็จะเป็นส่วนของชั้นวางทีวี และโต๊ะเครื่องแป้งซึ่งห้องนี้ได้แบบขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมเก้าอี้พนักพิง อ้อเกือบลืมบอกไปโครงการแถมผ้าม่าน 2 ชั้นพร้อมรางมาให้ด้วย

และตำแหน่งของแอร์ก็จะย้ายจากด้านข้างมาอยู่ปลายเตียงแทน แต่พอด้านล่างเป็นทีวีก็ควรระมัดระวังเรื่องน้ำหยดนิดนึง ดูแลแอร์ให้อยู่ในสภาพดีก็จะไม่มีปัญหาฮะ

มองกลับไปด้านหน้าห้องก็จะเห็นว่าการวางเฟอร์เรียงในแนวลึกแบบนี้ครับ จริงๆ ถ้าเราตกแต่งผนังห้องด้วย Wallpaper หรือทำบางส่วนให้เป็นกระจกก็จะทำให้ห้องดูมีอะไรมากขึ้น แต่อันนี้เป็นภาพที่ทำให้เห็นว่าห้องจริง เราได้ของจริงแบบนี้แหละ

กลับมาดูในส่วนสุดท้ายบริเวณด้านหน้า ซึ่งห้องน้ำจะอยู่บริเวณนี้ครับ

บริเวณก่อนทางเข้าห้องน้ำก็เป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า / อบผ้า ซึ่งเครื่องอบควรมีอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ชีวิตดีขึ้นโดยไม่ต้องง้อระเบียงอีกต่อไป

ห้องน้ำ Layout มาตรฐานเหมือนห้องแรกครับ

แต่ในส่วนบริเวณอาบน้ำจะไดช่องสำหรับวางของขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก ก็เป็นพื้นที่บริเวณเสาพอดี

ทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมการพาชมห้องตัวอย่างแบบเฟอร์นิเจอร์จริงทั้ง 2 ห้อง ซึ่งใครที่สนใจก็เลือกได้ทั้ง 2 แบบ 2 สไตล์เลยครับ บางห้อง (ห้อง Studio 22.2 ตร.ม. ราคาโปร 3.5 ล้านบาท) ได้เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งทีวี, ไมโครเวฟ, เครื่องซักผ้า และตู้เย็นด้วย ถ้ายังไงมาเช็คกับน้องเซลล์ที่โครงการอีกที

วิวจากห้องฝั่งนี้หันหน้าไปทางแยกพระราม 9 ก็ถือว่ามีระยะห่างของตึกให้พอเห็นวิวได้ครับ

ก่อนออกจากห้องจะบอกว่าได้ดิจิตอล Door Lock ของ Yale ด้วยคับ

สุดท้ายกดลิฟต์ไปชั้น 8 เพื่อชมพื้นที่ส่วนกลางด้วยกัน เริ่มจากสระว่ายน้ำระบบเกลือซึ่งแยกพื้นที่สระเด็กมาให้

พร้อมบ่อแช่ออนเซ็นส่วนตัว อยากจะลงไปเทสต์ระบบด้วยตัวเองก็ไม่ได้ 55

ห้องน้ำมีซาวน่าแยกชายหญิง ตกแต่งได้สวยดีครับ

สุดท้ายที่เห็นห้องกระจกบริเวณที่นั่งริมสระเป็นฟิตเนสครับ

มีทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio และ Weight training ก็ขนาดเหมาะกับจำนวนห้องถือว่าใช้ได้หมด

ส่วนด้านล่างเป็นที่ตั้งของล็อบบี้และ Mail box ซึ่งตกแต่งด้วยหินอ่อนสีเข้ม

และที่ขาดไม่ได้เป็น Signature ของ AP ก็คือเครื่องกระตุ้นหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ ซึ่งเครื่องนี้พอเกิดเหตุที่ต้องใช้ขึ้นมา คนก็จะเข้าใจถึงความสำคัญของมันเอง