แอบดูคอนโด IDEO MOBI RANGNAM คอนโดใหม่พร้อมอยู่ บนทำเลที่ถูกลืมอย่าง “รางน้ำ”

แอบดูคอนโด IDEO MOBI RANGNAM คอนโดใหม่พร้อมอยู่ บนทำเลที่ถูกลืมอย่าง “รางน้ำ”

เวลาที่เราจะมองหาที่อยู่อาศัยสักที่ สิ่งพื้นฐานที่นึกก่อนก็คือทำเลนั้นจะต้อง “น่าอยู่” จริงมั้ยครับ คำจำกัดความของความน่าอยู่นี่อาจจะมีบริบทแตกต่างกันไปบ้าง แต่หลักๆ นั้นก็คงไม่หนีไปจาก การเดินทางสะดวก สาธารณูปโภคพื้นฐานครบครัน ใกล้ที่ทำงานหรือที่เรียนก็ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ชีวิตในช่วงอายุไหน แต่ในหลายครั้งแสงสีกับความคึกคักที่เป็นตัวแทนความเจริญและอุดมสมบูรณ์ที่รายล้อม ก็มักมาพร้อมกับความวุ่นวายจนอาจจะหาความสงบได้ยากเช่นกัน คำตอบของความสมดุลตรงกลางนี้ก็คือ “ย่านที่อยู่ติดกัน” นั่นเองครับ

เมื่อพูดถึงอนุสาวรีย์หลายคนคงจะนึกภาพของศูนย์กลางการเดินทางที่นำพาผู้คนหลั่งไหลเข้ามา พื้นที่โดยรอบจึงมีทั้งศูนย์การค้า ธุรกิจน้อยใหญ่ ร้านอาหารละลานตา และโรงพยาบาลมากมาย (รพ.ราชวิถี, รพ.เวชศาสตร์เขตร้อน, รพ.พระมงกุฎเกล้า) อนุสาวรีย์นี้คือจุดศูนย์รวมของถนนหนทางที่แยกไปสู่ถนนสำคัญใจกลางเมืองหลายสาย ทางด่วนที่วิ่งผ่านใจกลางเมือง และรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลักสายแรกที่ใช้กันมาเนิ่นนาน แต่ในอีกมุมนึงอนุสาวรีย์ก็ยังมีความวุ่นวายและแทบจะไม่เงียบเลย ย่านที่อยู่ติดกันอย่าง “ถนนรางน้ำ” จึงเป็นตัวเลือกที่อยู่อาศัยที่น่าอยู่มากแห่งหนึ่ง เพราะได้ความสะดวกสบายครบ แต่ได้ความสงบต่างจากกันมากครับ และที่นี่ก็เป็นที่ตั้งของคอนโด “IDEO MOBI RANGNAM” ที่เราจะพาชมในวันนี้ครับ

ทำเลและการเดินทาง

ปัจจัยที่ทำให้เห็นถึงความนิยมในการอยู่อาศัยในถนนรางน้ำ หรือซอยรางน้ำนี้ ที่ดูได้ง่ายๆ เลยคือ มีที่พักอยู่เต็มไปหมดในซอยย่อยทั้งซ้ายขวา ไม่ว่าจะเป็นอพาร์ตเมนต์ หอพัก โรงแรม และคอนโด แต่ที่ยิ่งเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ก็ด้วยการที่มีห้างสรรพสินค้า (Century Plaza) อยู่หน้าปากซอย มี King Power อยู่ถัดเข้ามา แถมตลอด 2 ข้างทางนั้นมีร้านอาหารทั้งที่เป็น คาเฟ่ ธนาคาร ร้านยา คลินิค สปา ร้านนวด และเชื่อมั้ยครับว่าถนนเส้นนี้ในความยาวราวๆ 700 ม.* นี้มีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 อยู่ถึง 6 สาขา! จนอดสงสัยไม่ได้ว่ามันต้องมีทราฟฟิคมากขนาดไหนถึงอยู่กันได้ทั้งหมดแบบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ถนนรางน้ำพิเศษสำหรับการอยู่อาศัยมากขึ้นก็คือ มีสวนสาธารณะอย่าง สวนสันติภาพ ซึ่งหาได้ยากในกทม. อยู่ในนี้ด้วยครับ จึงเป็นจุดที่เรามองว่ารางน้ำเป็น “ย่านที่อยู่ติดกับอนุสาวรีย์” ที่น่าอยู่มากครับ

เรื่องการเดินทางนี่ก็ถือว่าสะดวกนะครับ ถนนรางน้ำเป็นถนนที่เชื่อมระหว่าง ถนนพญาไท และถนนราชปรารภ แต่เพิ่มความคล่องตัวในการหลบหลีกการจราจรก็คือ ซอยย่อยที่จะทำให้มีทางเลือกไปสู่ถนนสำคัญใกล้เคียงอย่างถนนราชวิถี และถนนศรีอยุธยา ในขณะที่การเดินทางไปขึ้นทางด่วนศรีรัชฯ นั้นก็อยู่ในรัศมีราวๆ 150 ม.* จากอนุสาวรีย์เท่านั้นเอง ส่วนการใช้ขนส่งสาธารณะที่สะดวกที่สุดในปัจจุบันอย่าง รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวก็มีสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิอยู่ปากซอยฝั่งถนนพญาไทครับ (จากโครงการประมาณ 630 ม.) และมี Airport Link สถานีราชปรารภให้ใช้งาน (ประมาณ 600 ม.*)ครับ

ภาพรวมโครงการ

IDEO MOBI RANGNAM ตั้งอยู่ตรงข้ามซอยร่วมจิตบนถนนรางน้ำ เป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น รวมห้องพักอาศัย 366 ยูนิต มีที่จอดรถประมาณ 46% (169 ช่องจอด) พร้อมเข้าอยู่ ซึ่งบรรยากาศที่เราเข้าไปชมนั้นก็รู้สึกว่าเป็นคอนโดที่สงบ ไม่พลุกพล่าน และก็เป็นส่วนตัวดีครับ ดูจากการออกแบบก็ใช้การดีไซน์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวของตระกูล IDEO MOBI นั่นก็คือความเป็น Futuristic นี่ก็เห็นได้จากสีสัน ลวดลายหลักของตัวอาคาร เฟอร์นิเจอร์ และกราฟฟิคตกแต่งผนัง Lobby ซึ่งได้อารมณ์เหมือนภาษาที่ใช้สื่อสารกับผู้มาจากต่างดาวอยู่เหมือนกันครับ ฮ่าๆ

โครงการนี้เป็นโครงการแรกๆ ของทาง Ananda Development ที่มีการนำระบบ Solar Fresh Air มาใช้ด้วยครับ Concept ของสิ่งนี้ก็คือ การมีระบบระบายอากาศที่จะนำอากาศจากภายนอกให้มาหมุนเวียนภายในห้องในเวลาที่เราไม่อยู่นั่นเองครับ ก็จะทำให้ช่วยลดอุณหภูมิ และความอบอ้าวลงไปได้ ที่สำคัญก็คือ ระบบนี้ไม่ได้ใช้ค่าไฟของเราด้วย เพราะเค้าใช้ Solar Cell มาทำงานแทนนั่นเองครับ

สิ่งอำนวยความสะดวก

เริ่มจากที่ชั้นล่างเป็นบริเวณของล็อบบี้ และ Mail room ครับ และในชั้นบนๆ โครงการก็มีสวนเล็กๆ ให้พักสายตาระหว่างชั้นด้วยที่บริเวณชั้น 21, 24 และ 26 โดย Facilities หลักของโครงการถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่ง 2 ชั้น Top Floor เพื่อให้ได้ระดับชมวิวที่ดีที่สุดของโครงการ ซึ่งก็เป็นข้อดีของการอยู่ที่นี่ครับ ได้แก่

  • ชั้น 30 ที่ตั้งของสระว่ายน้ำแบบ 360 องศา ที่สามารถว่ายได้รอบเลย ตั้งแต่ชมพระอาทิตย์ขึ้นไปจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน พร้อม Jacuzzi Corner ที่ได้มุมชมวิวสวนมักกะสันแบบส่วนตัว

  • ชั้น 31 ชั้นนี้เป็นที่ตั้งของ Sky Lounge ที่เป็นทั้ง Co-working Space และ Lounge สำหรับพบปะพูดคุย กับอีกส่วนคือ ฟิตเนสที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ออกกำลังกายหลายหลาย ทั้ง 2 พื้นที่นี้ก็ได้วิวทั้งวิวเมือง และสวนมักกะสันให้ชมกันสบายตาครับ แล้วถ้าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศในความสูงระดับนี้ก็ยังสามารถเดินไปอีกชั้นนึงที่ Rooftop ให้ออกไปสูดอากาศบริเวณ Sky Garden ได้ด้วยครับ

รูปแบบห้อง

โครงการมีห้องให้เลือกทั้งแบบ Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 27.90-65.95 ตร.ม. ซึ่งจุดเด่นของที่นี่คือมีการนำรูปแบบ Interlock หรือการออกแบบโดยคำนึงและผสานพื้นที่กับห้องที่อยู่ติดกัน ทำให้แต่ละห้องมีพื้นที่บางส่วนเพิ่มมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือบางห้องก็จะได้ Walk-in Closet เพิ่มขึ้นมาด้วยครับ

จุดขายของโครงการที่แตกต่างจากคอนโดใกล้เคียงคือ ขายแบบ Fully Furnished เราจะได้เซ็ทเฟอร์นิเจอร์ที่เข้าชุดกันหมดและออกแบบมาเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะทานข้าว เก้าอี้ โต๊ะทำงาน ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า โซฟา รวมไปถึงฐานเตียงสีเทาสวยงาม ซึ่งล่าสุดตอนนี้โครงการมีการปรับ Layout ใหม่เพิ่มเติมมาอีก คือการจัดสัดส่วนและกั้นห้องจาก Layout แบบ Studio ให้เป็น 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. ทำให้ห้องเป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีกครับ

ราคา

โครงการ IDEO MOBI RANGNAM มีราคาเริ่มต้น 4.89 ล้านบาท* (สำหรับห้องขนาด 30 ตร.ม.) ซึ่งราคาเฉลี่ยทั้งโครงการตอนนี้อยู่ที่ราวๆ 150,000 – 160,000 บาท/ตร.ม. ครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับกับคอนโดพร้อมอยู่ในทำเลรางน้ำ ที่เราเอามาให้ชมกันในวันนี้ ใครที่กำลังมองหาตัวเลือกที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้อนุสาวรีย์ หรือทำงานในละแวกนี้ โครงการพร้อมอยู่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะครับในการที่เราจะได้เห็นบรรยากาศจริง ซึ่งก็จะเป็นสิ่งที่ทำให้สัมผัสได้ว่า โครงการได้รับการดูแลดีแค่ไหนครับ

แฟนเพจ Living Sneak Peek ที่สนใจ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่นี่เช่นเคยครับ https://anan.ly/36c8Wu7

#LivingSneakPeek #แอบดูคอนโด
#IDEOMOBIRANGNAM #ไอดีโอโมบิรางน้ำ #AnandaDevelopment
#คอนโดพร้อมอยู่

ตัวอาคารสวยเด่นเป็นสง่าอยู่ในซอยสมกับเป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบให้ดูเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของอนันดา

พื้นที่ส่วนกลางถูกยกขึ้นไปอยู่ชั้นบนสุดทำให้ลูกบ้านสามารถมองเห็นวิวเมืองสวยๆ ได้แบบเปิดโล่ง

ถ้าอยากรู้แล้วว่าโครงการจะน่าอยู่แค่ไหน ตามไปอ่านกันต่อได้เลย

ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายกันให้เรียบร้อย เปิดประตูเข้ามาด้านในจะพบกับ Grand Lobby ที่ค่อนข้างเท่ไม่เบาเลยครับ ทั้งโทนสีและลวดลาย สลับกับเก้าอี้ในมุมต่างๆ ที่มีดีไซน์สวยงาม ล็อบบี้ที่นี่ถูกออกแบบสไตล์ Modern ผสมกับความเป็น Futuristic มีการนำกราฟฟิคเข้ามาร่วมด้วย ทำให้ดูมีความทันสมัย เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง

ล็อบบี้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งซ้ายขวาซึ่งก็จะช่วยลดความจอแจในกรณีที่มีลูกบ้าน แขกของลูกบ้านอยู่ในเวลาเดียวกันเยอะๆ นะครับ และยังช่วยให้มีมุมนั่งคุยธุระที่เป็นส่วนตัวขึ้นอีกด้วย

ทางเดินเข้าลิฟต์ทำเป็นกระจกตลอดทาง ทำให้บริเวณนี้ดูกว้างขึ้นเยอะ

ห้องน้ำด้านล่างตกแต่งด้วยภาพศิลป์สวยๆ

และส่วนของ Mail room แยกเข้าไปด้านในแบบนี้ครับ

กดลิฟต์ขึ้นไปดูห้องตัวอย่างกันก่อนเลย ชั้นพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 9 ไปจนถึงชั้น 29 ส่วนชั้น 30,31 เป็นสองชั้นบนสุดที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง

ห้องนี้เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.9 ตารางเมตรครับ ซึ่งโครงการขายแบบ Fully Furnished ทำให้เราไม่ต้องไปวุ่นวายหาซื้อของเข้าบ้านเอง โครงการมีอุปกรณ์มาตรฐานและเฟอร์นิเจอร์เตรียมไว้ให้ครบ และมีการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เริ่มจากประตูเข้าห้องเป็นระบบ Digital Door Lock ของซัมซุง สะดวกสบายและมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้ครับ

ฟังก์ชั่นการใช้งานถูกแบ่งเป็นสองส่วน คือโซน Living และห้องนอน โดยมีประตูบานสไลด์กั้นแบ่งไว้ แต่ของจริงไม่ได้บานกระจกนะครับ เค้าจะให้มาเป็นแบบทึบ เนื่องจากบางครั้งเมื่อเรานอนเราก็ต้องการความเป็นส่วนตัว คงไม่มีใครอยากนอนพลิกตัวไปมาโดยที่มีคนมองเห็นเราอยู่ตลอด ฮ่าๆ เขินแย่เลยครับ โครงการเค้าเลยทำแบบทึบมาให้เลย ลูกบ้านจะได้ไม่ต้องไปคอยหาฟิล์มมาติดให้ยุ่งยาก แต่ถ้าอยากให้ห้องดูโล่งขึ้นก็เพียงแค่เลื่อนเปิดบานประตูให้สุดห้องก็จะเชื่อมต่อกันได้แบบกว้างๆ แล้วครับ

ในส่วนของห้องนั่งเล่นก็กว้างไม่น้อย สามารถจัดเป็นมุมทานข้าวได้ด้วยในตัว ซึ่งสิ่งที่ห้องนี้มีให้นั่นก็คือ ชุดครัว พร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน โต๊ะทานอาหารพร้อมเก้าอี้นั่ง 2 ที่ โซฟา โต๊ะกลางตามที่เห็นภาพเลยครับ วอลเปเปอร์ไม่ได้นะ จะได้เป็นผนังฉาบเรียบทาสี และความสูงเพดานอยู่ที่ 2.7 เมตร

เตาไฟฟ้าเป็นของ FRANKE เคาน์เตอร์ครัวเตรียมช่องใส่เครื่องซักผ้าไว้ให้เรียบร้อย

โต๊ะทานข้าวเป็นลักษณะโต๊ะบาร์ ซึ่งนั่งแบบนี้ก็เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบนะครับ อย่างห้องผมก็ใช้โต๊ะทานข้าวแบบนี้เหมือนกัน เวลาเพื่อนมาแจมด้วยที ก็ลุกนั่ง หยิบขนมกินกันสนุกสนาน สะดวกและประหยัดเนื้อที่ดีครับ

โต๊ะกาแฟ และโซฟาเป็นโทนเข้ม ตามนี้เลย

ห้องนี้ได้แอร์ทั้งหมด 2 ตัว คือในห้องนั่งเล่นและห้องนอน ด้านบนมีช่องเหมือนเป็นช่องระบายอากาศ ใครแวะไปดูห้องตัวอย่างลองสังเกตดูครับ ตรงนี้คือระบบ Solar Fresh Air ที่โครงการนำมาใช้ คือเป็นการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาช่วยเรื่องระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้อง ซึ่งก็จะช่วยให้อุณหภูมิในห้องลดลง เวลาเปิดแอร์ แอร์ก็จะไม่ต้องทำงานหนักไม่ทำให้กินไฟห้องเรามากด้วยครับ

และได้ชั้นวางทีวีตัวนี้ด้วยครับ ด้านล่างสามารถเปิดออกเก็บของได้

ห้องน้ำเป็นแบบ Double Access คือสามารถเข้าใช้งานได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนั่งเล่นและคนที่อยู่ในห้องนอนก็เข้าได้ครับ ซึ่งก็จะหน้าตาดูดีแบบที่เห็นเลย กระเบื้องเป็นลายหินอ่อนมาพร้อมฉากกั้นเปียกแห้งและมี Rain Shower อยู่ด้านบนให้ด้วย รวมไปถึงโถสุขภัณฑ์เค้าให้แบบ Washlet ด้วยครับ

มีปลั๊กให้คุณสาวๆ ไดร์ผมหนีบผมหน้ากระจกได้

ด้วยความที่โครงการออกแบบมาเป็น Interlock Design ทุกพื้นที่ใช้สอยภายในห้องจะถูกขยับขยายให้กว้างขวางขึ้นเพราะแชร์ข้อดีกับพื้นที่ของห้องที่อยู่ติดกัน ทำให้บาง Layout มี Walk-in Closet ในตัวเลยครับ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นจุดเชื่อมต่อจากห้องนอนเข้าไปสู่ห้องน้ำ โครงการติดตั้งตู้เสื้อผ้าเข้าที่เรียบร้อย พร้อมประตูบานเลื่อนแบบกระจกเต็มบาน ทำให้แต่งตัวแต่งหน้ากันได้อย่างเป็นส่วนตัว และส่องสวยหล่อกันได้ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย

ในส่วนของห้องนอนโครงการจะมีโต๊ะทำงาน เก้าอี้ และชั้นวางทีวีคล้ายกับตัวในห้องนั่งเล่น ซึ่งมุมนี้ก็ Set มาแล้วว่าให้เป็นมุมทำงาน เพราะพื้นที่บริเวณปลายเตียงค่อนข้างเหลือเยอะ พอให้ได้ใช้งานได้อย่างลงตั

มีโต๊ะหัวเตียงมาให้หนึ่งฝั่ง เผื่อใครอยากเอาไว้วางโคมไฟอ่านหนังสือ หรือวางหนังสือเล่มโปรดที่เอาไว้อ่านก่อนนอน

ไม่หมดแค่นี้ เพราะในเมื่อยังเหลือพื้นที่ให้ได้ใช้งานอยู่ โครงการเลยทำเป็น Daybed ให้ ไว้ให้เป็นมุมนั่งพัก เปลี่ยนบรรยากาศมองฟ้า มองวิวเมืองด้านนอกได้ หรือเวลาญาติพี่น้องมาเยี่ยม ก็มีที่ให้ได้นั่งเล่นพูดคุยกันเพิ่มอีกครับ

สำหรับพื้นที่ระเบียงเปิดออกได้จากทางห้องนอน ตรงนี้ก็จะเป็นจุดที่แสงจะเข้ามาในห้องได้

มีกริวบังคอมเพรสเซอร์แอร์ให้ห้องดูเรียบร้อย ตรงนี้พื้นที่ระเบียงอาจจะมีจำกัดหน่อยเพราะถูกนำมาจัดสรรให้ห้องนอนมีพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการออกไปดูวิวรับลม ก็สามารถทำได้เลยครับ

สำหรับห้องนี้จะอยู่เองคนเดียวก็สบาย แถมยังได้ห้องแต่งตัวแบบส่วนตัวอีกด้วย เฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้งานในส่วนต่างๆ โครงการให้มาครบ หรือใครมีคู่ ก็อยู่กันได้อย่างไม่อึดอัด ไม่ว่าจะช่วงเวลาที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือใช้เวลาร่วมกัน เพราะการแบ่งพื้นที่ในห้องมีความเป็นสัดส่วน และด้วยความเป็นห้องหน้ากว้าง จึงทำให้มีความโล่ง อยู่สบาย ใช้งานได้จริงทุกพื้นที่ครับ สำหรับห้องนี้มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5ล้านปลาย ๆ ใครที่สนใจโครงการก็แวะมาชมตัวอย่างการแต่งห้องจริงก่อนตัดสินใจได้นะครับ

ด้วยความที่ออกแบบแต่ละชั้นให้เป็น Single Corridor ทำให้ทุกยูนิตไม่ต้องเปิดประตูออกมาเจอหน้ากันให้เคอะเขิน ได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นอีกครับ

จากนั้นแวะมาดูห้อง Rareitem ลับ ขนาด 35 ตารางเมตร เป็น 1 ห้องนอนที่เอาใจคนชอบห้องแบบเปิดกว้าง และอยู่สบายได้มากขึ้น จะเป็นยังไงตามไปดูกันครับ

เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ห้องครัว ที่สามารถจัดวางโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ได้สองที่นั่ง ซึ่งก็ยังสามารถขยับขยาย เพิ่มที่นั่งได้หากมีเพื่อนหรือครอบครัวมาร่วมทานอาหารด้วย โดยการใช้งานตรงนี้ก็สะดวกสบายเหมือนห้องแรก เพราะครัวกับส่วนทานข้าวอยู่ใกล้กัน เก็บล้างสะดวก

กินอิ่มแล้วก็ต้องนอนหลับ ถัดเข้ามาในส่วนห้องนั่งเล่นที่สามารถเชื่อมต่อห้องนอนได้อย่างไม่มีสะดุด เพราะสามารถเปิดประตูบานเลื่อนได้จนสุด ทำให้กลายเป็นห้องใหญ่ห้องเดียวกว้างๆ ใช้ชีวิตได้อย่างสบาย และเมื่อถึงเวลาพักผ่อนก็สามารถเลื่อนกั้นเพื่อแบ่งแยกการใช้งาน ไม่ต้องรบกวนกันด้วยครับ

มุมที่เราชอบมากก็คือโซนห้องนอนนี่แหละ

เนื่องจาก Layout นี้ไม่มีระเบียง พื้นที่ในห้องนอนก็จะเหลือเฟือ สามารถตั้งเป็นโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ได้ แถมยังมีพื้นที่เดินเข้าออกได้อย่างสะดวกสบาย หรือจะเพิ่มขนาดเตียงให้เป็น King Size ก็ยังเดินได้รอบครับ

ด้านข้างเป็นบานกระจกยาวตลอดแนว ทำให้มีแสงธรรมชาติส่องเข้าถึงห้องได้อย่างเต็มที่

ในส่วนของตู้เสื้อผ้าจะได้มาทั้งสองฝั่งซ้ายขวาเลย แบ่งกันไป 2 ตู้เพียงพอแน่นอน พื้นที่ตรงนี้อยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ทำให้เวลาแต่งหน้าทำผม แต่งตัวก็จะสะดวกขึ้นครับ

ไฮไลท์ของเราวันนี้คือ ห้องซีรีย์ใหม่ที่ทางโครงการเค้าปรับรูปแบบให้ตอบโจทย์ความต้องการ และการใช้งานของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น สำหรับคนที่มีงบจำกัดก็ยังสามารถอยู่ห้องแบบ 1 ห้องนอนได้อย่างสบาย พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานครบ

ห้องนี้มีขนาด 30 ตารางเมตร จะมีพื้นที่ครัวสำหรับทำอาหารแบบง่ายๆ พอเป็น 1Bed แล้ว ก็ช่วยลดเรื่องกลิ่นเข้าไปห้องนอนได้ดีขึ้นครับ

ห้องน้ำใช้กระเบื้องลายหินอ่อนสวยงามน่าใช้ทีเดียวครับ สุขภัณฑ์ทั้งหมดก็จะได้ตามนี้เลย มี Rain Shower พร้อม โถสุขภัณฑ์แบบ Washlet ให้ได้ใช้งาน

ห้องตัวอย่างทำให้ดูว่าเราสามารถปรับในส่วนของพื้นที่ห้องนั่งเล่นเป็นห้องทำงานได้ แต่ของจริงบริเวณตู้จะเป็นที่วางโซฟา พร้อมมีโต๊ะกลางให้นะครับ

ห้องนี้ก็ยังได้ Daybed เช่นเดียวกันครับ พื้นที่ตรงนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งมุมพักผ่อนที่ช่วยให้เราได้เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งจิบชา ชมวิว หรือจะเอนกายพักผ่อนนอนกลางวันก็สบายๆ

ประตูบานเลื่อนที่เพิ่มมาใหม่นี้ ช่วยให้ห้องแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น เอื้อประโยชน์ต่อการใช้งานในชีวิตจริงได้ และก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้นในย่านนี้ กับห้อง 1Bed ในราคายังไม่ถึง 5 ล้านครับ

ห้องนี้ได้ Walk-in Closet อยู่ด้านในห้องนอน ตู้เสื้อผ้าทรง L ช่วยให้เก็บเสื้อผ้าได้จุๆ

ใครที่สนใจก็เข้าไปชมห้องจริงกันได้ครับ

พาขึ้นมาดูส่วนกลางกันต่อที่ชั้น 31 ชั้นนี้ล้อมรอบด้วยกระจก เปิดรับวิวได้เต็มตาในทุกมุมเลย

แม้แต่ในห้องน้ำ ก็ยังใจดีแถมวิวให้ไปด้วยครับ

บนชั้นนี้จะมี Cloud Connection Club และ Airspace Fitness Gym คือแบ่งเป็นพื้นที่ไว้ให้ลูกบ้านได้มานั่งทำงาน นั่งเล่น นั่งพูดคุยกันในห้องแอร์เย็นๆ ดูวิวเมืองแบบ 180 องศา

มองเห็นวิวสวนมักกะสันได้ชัดๆ จากตรงนี้เลย

ถัดมาที่ห้องฟิตเนส อีกหนึ่งมุมที่น่าใช้งาน เพราะนอกจะได้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพแล้ว ยังได้กระจกโดยรอบทำให้มีทิวทัศน์วิวเมืองสวยๆ ให้ดูตั้งแต่เช้าจรดเย็นบนชั้นสูงๆ อย่างชั้น 31 นี้ครับ

จากนั้นเดินลงบันไดวนมา 1 ชั้น บันไดนี้ก็กว้างเดินสบายดีเหมือนกันแฮะ

สระว่ายน้ำชั้น 30 นี้ เป็น 360 Dramatic Pool สารมารถว่ายได้รอบอาคารแบบครบทั่วทุกพื้นที่ ใครชอบแช่น้ำมุมไหน อยากเห็นวิวตึกใบหยก หรือวิวสวนมักกะสันก็ว่ายไปดูได้เลย รวมความยาวรอบสระทั้งสิ้น 75 เมตร และมีมุมให้แช่ Jacuzzi อยู่ด้วย

แถมภาพวิวสวยๆ จากชั้น Sky Garden หรือดาดฟ้าชั้นบนสุด ตรงนี้เป็นที่ให้ขึ้นมาให้ลมกระทบหน้าได้แบบเต็มๆ มีสวนสีเขียวให้พักสายตาและวิวเมืองสวยๆ จะมาตอนเช้า หรือดูพระอาทิตย์ตกดินก็ฟินไม่แพ้กันครับ

ก่อนจะกลับพาลงมาเดินสำรวจทำเลกันต่ออีกสักหน่อย อย่างที่บอกว่าถ้าจะเดินออกไปต้นซอยเพื่อขึ้น BTS ก็ประมาณ 6 ร้อยกว่าเมตร ใครไม่อยากเดินก็สามารถขึ้นรถ Shuttle ของโครงการได้เลยครับ เค้ามีบริการรับส่งเป็นรอบๆ ให้

ถนนด้านหน้าโครงการ

ซอยนี้ไม่รู้จะอุดมสมบูรณ์ไปไหน ทั้งมีห้างให้ช้อปปิ้งดูหนังกันตั้งแต่ต้นซอย ตลอดทางก็มีทั้งร้านกาแฟ คาเฟ่นั่งชิล ร้านกินดื่มยามค่ำคืน เซเว่นที่อยู่เรียงราย ยังไม่ซื้อเซเว่นแรกเปลี่ยนใจเข้าไปซื้ออีกที่ก็ยังทันไม่ต้องเดินย้อนไปให้เมื่อย มี Lotus Express อยู่ใกล้ๆ มีวินมอเตอร์ไซค์เตรียมรับส่งผู้คนในซอยนี้ เรียกได้ว่า ใครบ้านอยู่ที่นี่ไม่มีอดเลยครับ

เพื่อขยับไปใกล้ธรรมชาติมากขึ้น สามารถเดินออกจากโครงการมาไม่ไกลก็จะเจอกับสวนสันสิภาพ อีกหนึ่งสวนสาธารณะในเมือง ที่ร่มรื่น สามารถออกมาวิ่งเปลี่ยนบรรยากาศกันได้แบบผ่อนคลายครับ

และแน่นอนว่าพูดถึงซอยรางน้ำต้องคิดถึง King Power แหล่งช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษี แถมช่วงนี้ยังเข้าได้แบบแบบไม่ต้องมีตั๋วบินก็เข้าไปซื้อของดีราคาถูกได้ด้วย แถมด้านในนี้ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกกินอีกเพียบเลยครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับกับโครงการ “IDEO MOBI RANGNAM” โครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่จากอนันดา ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของทำเลทั้งอยู่ใกล้ BTS สายสีเขียวและสีส้ม (ในอนาคต) สะดวกสบายทั้งการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งโรงพยาบาลและห้างสรรพสินค้า การออกแบบห้องแบบ Interlock ที่ช่วยให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานได้แบบคุ้มค่าในทุกพื้นที่ พร้อม Fully Furnished ให้ของมาครบทั้งห้อง พื้นที่ส่วนกลางแบบครบครันที่ถูกยกไปไว้ชั้นบนสุด เพื่อให้ได้วิวสวยทั้งเมืองและสวนแบบเต็มตา มีการนำเอาระบบ Solar Fresh Air มาใช้ภายในห้องเพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้ดี ซึ่งการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในพื้นที่ส่วนกลางได้ด้วย และที่สำคัญคือความเป็นส่วนตัวด้วยยูนิตเพียง 366 ยูนิต ออกแบบแบบ Single Corridor และความสงบภายในโครงการที่อยู่ท่ามกลางความเจริญรอบด้าน ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งโครงการพักอาศัยที่น่าสนใจ และสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสะดวกสบาย ตามสไตล์การใช้ชีวิตของคุณเองครับ

โครงการนี้ราคาเริ่มต้น 4.89 ล้านบาท* สามารถคลิ๊กเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษกันที่นี่ >> https://anan.ly/36c8Wu7

เข้าไปชมของจริงกันที่โครงการก่อนนะ แล้วจะตัดสินใจได้ไม่ยากครั