นอกจากสินค้า และบริการซึ่งเป็นตัวสะท้อนความเชื่อ ความคิด และหัวใจของแบรนด์ได้โดยตรงแล้ว สำนักงานใหญ่นี่แหละครับที่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จะแสดงถึงตัวตน Passion และความทะเยอทะยานของแบรนด์ที่จะสร้างไว้ให้โลกรับรู้ได้ด้วย สำหรับคนที่หลงใหลในโลโก้ใบพัดสีฟ้าของ “BMW” วันนี้เรามีเรื่องราวที่เป็นแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบ Headquarter ของแบรนด์ยานยนต์ระดับโลกที่อยู่ยั้งยืนยงมากว่า 50 ปี มาฝากกันด้วยครับ
อาคารสำนักงานใหญ่ของ BMW
อาคารสำนักงานใหญ่ของ BMW อยู่ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี มีใครเคยไปมาบ้างรึยังครับ? ที่นี่เป็นอาคารที่มีความเก่าแก่เกือบ 50 ปี แต่ก็ยังคงดูโดดเด่นสะดุดตา ด้วยวิชั่นการออกแบบมาตั้งแต่สมัยเริ่มต้นก่อสร้างในปี 1970 ซึ่ง ณ เวลานั้นธุรกิจของ BMW เติบโตอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นในการขยายทั้งโรงงานผลิต และก่อสร้างพื้นที่อาคารสำนักงานเพื่อรองรับคนทำงานด้วย โดยมีโจทย์การออกแบบสำนักงานใหญ่ที่จะต้องมี Façade ที่สะดุดตาเพื่อสร้างความโดดเด่นให้เป็นที่จดจำ และรูปแบบอาคารจะต้องสามารถปรับให้เข้ากับยุคสมัยได้ตลอดเวลา พร้อมทั้งยังต้องคำนึงถึงความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมโดดรอบ ซึ่งในตอนนั้นมีทั้งชุมชม พื้นที่โรงงาน และหมู่บ้านโอลิมปิกที่กำลังก่อสร้างอยู่ด้วย
งานดีไซน์เริ่มจากการเชิญสุดยอดสถาปนิกชื่อดังมานำเสนอผลงาน จนสุดท้ายการออกแบบของ คาร์ล ชวันเซอร์ ได้รับการคัดเลือก ด้วยโครงสร้างอาคารหลักทรงกระบอกแนวตั้ง 4 มุมเรียงติดกัน ใช้เทคนิคพิเศษเป็นการก่อสร้างแบบแขวน เพราะรูปทรงกระบอกที่เราเห็นนั้นไม่ได้ตั้งอยู่บนฐานครับ แต่แขวนอยู่บนแกนกลางของอาคารโดยก่อสร้างจากบนลงล่าง พื้นอิสระของแต่ละชั้นจะประกอบจากด้านล่าง และได้รับการยกขึ้นไปต่อเติมเป็นอาคารด้วยระบบไฮดรอลิก จนได้เป็นอาคารสูง 99.50 ม. มีทั้งหมด 22 ชั้น ได้รับการจัดสรรผังอาคารเป็นรูปใบ Clover แบ่งเป็นสี่ส่วน แยกไปในแต่ละวงกลม สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานในสำนักงานสมัยใหม่ที่มีความยืดหยุ่นในการจัดวางพื้นที่ และเปิดใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่ 18 พฤษภาคม ค.ศ.1973 เป็นต้นมา
ทุกวันนี้ยังมีพนักงาน BMW ทำงานอยู่ที่นี่กว่า 1,500 คนครับ รูปลักษณ์ที่ออกแบบมากว่า 5 ทศวรรษก็ยังคงโดดเด่นจากการออกแบบที่ไร้กาลเวลา สะท้อนแนวคิดและวัฒนธรรมองค์กร ที่มุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์อย่างไม่หยุดยั้งที่แฝงอยู่ใน DNA ของทีมงานทุกคนจวบจนปัจจุบัน ที่ผ่านมาอาคารนี้เคยนำมาจัดกิจกรรมพิเศษมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแปลงโฉมให้เป็นแบตเตอรี่ไฟฟ้าเมื่อปี 2017 ให้เข้ากับคอนเซปต์การขับเคลื่อนแห่งอนาคต และล่าสุดก็ใช้เป็นเวทีการแสดงของนักเต้นแนวดิ่งบนความสูงกว่า 100 ม. เป็นสัญลักษณ์ของหัวใจที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่ขับเคลื่อนที่ขับเคลื่อนไปสู่โลกที่น่าอยู่ของคนรุ่นหลัง ใครที่สนใจผมแนบลิงค์ให้ชมด้านล่างครับ
เป็นสำนักงานที่มีรูปลักษณ์แปลกตาดีจริงๆ ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากทาง BMW Group ประเทศไทยด้วยครับ
#LivingSneakPeek #BMW