นิยามที่ยิ่งใหญ่ของ “ความสุข” ภายในบ้านครอบครัวที่ถูกนำเสนอผ่านการออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่มีหลากหลายเจเนอเรชัน แต่งเติมบรรยากาศและความสวยงามผ่านการใส่รายละเอียดการออกแบบด้วยดีไซน์คอนเซปท์ “Mediterranean Revival” ที่สะท้อน ความละเมียดละไมบนตัวบ้าน ตลอดจนกลุ่มอาคาร Clubhouse และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
- สิงห์ เอสเตท สานต่อความสำเร็จพอร์ตบ้านเดี่ยว สริน (S’RIN) บนเซกเมนต์ Premium Luxury ในทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก จาก สริน ราชพฤกษ์-สาย 1 สู่ สริน พรานนก – กาญจนา
- โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เข้าใจผู้อยู่อาศัยอย่างลึกซึ้ง ได้รับแรงบรรดาลใจในการออกแบบจากดีไซน์ Mediterranean Revival ของบ้านแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่โปร่งโล่ง นำแสงและลมเข้าบ้านกับการผสานฟังก์ชันทั้งส่วนกลางและส่วนตัวที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตสำหรับสมาชิกทุกเจนเนอเรชัน
- Prime Location รุกทำเลเด่น กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก เป็นโครงการที่เปิดตัวพร้อมๆ กับการเปิดใช้ถนน ถนนพระเทพฯ ตัดใหม่ (พรานนก – พุทธมณฑลสาย 4) อย่างเป็นทางการ ถนนศักยภาพสายล่าสุด ที่จะสร้างมูลค่าให้กับที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้ และยังเป็นการรองรับการขยายเมืองและย่านไลฟ์สไตล์ แห่งใหม่ล่าสุด
กรุงเทพ, ประเทศไทย – 30 กันยายน 2567 – บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (SET:S)
บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากลอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ “Entrusted and Value Enricher, มุ่งสร้างคุณค่า และการเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยยึดมั่นในการพัฒนาที่อยู่อาศัยภายใต้จุดยืน “Mastering the Luxury” ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อคุณค่าแห่งการอยู่อาศัย สานต่อความสำเร็จจาก แบรนด์ สริน (S’RIN) ที่มาพร้อมแนวคิดหลัก “Infinite Living” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากโครงการ สริน ราชพฤกษ์-สาย 1 สู่โครงการ “สริน พรานนก-กาญจนา” โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Premium Luxury บนถนนพระเทพตัดใหม่ สะท้อนผ่านสถาปัตยกรรมสไตล์ Mediterranean Revival และได้ผสมผสานกับรสนิยมแบบฉบับสิงห์ เอสเตท ที่ออกแบบบ้านด้วยความประณีต ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ตามคอนเซปท์ “Craft to Last” เติมเต็มคำว่า “บ้าน” ให้ลึกซึ้งกว่า ที่เป็น พร้อมโอบรับการเติบโตของสมาชิกทุกคนในครอบครัวอย่างไม่สิ้นสุด บนทำเลศักยภาพ กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก
นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร การพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ “S” กล่าวว่า “จากจุดเริ่มต้นในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในตลาดกลุ่มลักชูรี ตั้งแต่แบรนด์บ้านเดี่ยวระดับอัลตราลักชูรี Santiburi the Residences ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง จนถึงโครงการระดับพรีเมียมลักชูรี อย่าง สริน ราชพฤกษ์-สาย 1 ที่เราได้รับความไว้วางใจ ด้วยยอดการจองเกินกว่า ที่ตั้งเป้าหมายไว้ แม้จะเป็นครั้งแรกที่สิงห์ เอสเตทเข้ามาพัฒนาโครงการในกรุงเทพโซนตะวันตกก็ตาม
การสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด ส่งผลให้แบรนด์ สริน มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อผสานกับความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อความต้องการของการอยู่อาศัยในที่อยู่อาศัยระดับลักชูรี เราจึงสามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกบ้านได้อย่างลงตัว โดยสิงห์ เอสเตท มีแผนในการต่อยอดการพัฒนาโครงการในเซกเมนต์ ลักชูรีอย่างต่อเนื่อง บนจุดยืน “Mastering the Luxury” จึงเป็นที่มาของการเปิดโครงการ “สริน พรานนก-กาญจนาภิเษก” ที่ไม่เพียงโดดเด่นในด้านของดีไซน์เท่านั้น แต่แนวคิดเบื้องหลังของการพัฒนาโครงการยังมีความน่าสนใจมากมาย ทั้งในแง่ของสุนทรียภาพของการอยู่อาศัยที่สร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมพลังขับเคลื่อนชีวิต ตลอดจนศิลปะการเชื่อมโยงทุกความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว” นิยาม “บ้าน” ให้ลึกซึ้งกว่าที่เป็น ใช้เวลาในชีวิตให้ “สุข” กว่าที่เคย ที่ “สริน พรานนก-กาญจนา” จากแกนความคิดหลักของแบรนด์ สริน อันได้แก่ “Infinite Living” บ้านเป็นพื้นที่รองรับทุกความต้องการในชีวิต เพื่อการเติบโตอย่างไม่สิ้นสุด ได้ส่งต่อแนวความคิดการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์นี้ สู่โครงการ สริน พรานนก-กาญจนา ซึ่งได้นิยามใหม่ให้บ้านไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พัฒนาพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านให้รองรับกิจกรรม
ที่ทำร่วมกันของสมาชิกในบ้าน มาประยุกต์รวมกับแนวคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรม “Mediterranean Revival” โดยนำเอากลิ่นอายของสถาปัตยกรรมฯมาใช้ในโครงการ เป็นการสร้างบรรยากาศที่สวยงาม อบอุ่น และ ผ่อนคลาย ทำให้ สริน พรานนก-กาญจนา เป็น “บ้าน” ที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกหลายเจเนอเรชัน ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทุกคนในครอบครัว ตลอดจนความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุตามแนวคิด “Crafted to Last” อันเป็นเอกลักษณ์ของสไตล์การออกแบบที่สง่างาม ตามแบบฉบับของสิงห์ เอสเตท การขยายพอร์ตโฟลิโอในโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก: กลยุทธ์การเติบโตอย่างชาญฉลาด
การเลือกทำเลโครงการ สริน พรานนก-กาญจนา ในโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของสิงห์ เอสเตท ในการขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ เนื่องจากโซนกรุงเทพฯ ตะวันตกกำลังเป็นที่จับตามองในวงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียดพบว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่นี้ส่วนใหญ่
เป็นผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจที่มีกำลังซื้อสูง มีครอบครัวขยายหรือครอบครัวใหญ่ ต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ขนาดของบ้าน และพื้นที่ใช้สอยอย่างสมบูรณ์ สามารถรองรับความต้องการของสมาชิกในครอบครัวที่มีหลายหลายเจเนอเรชัน สริน พรานนก-กาญจนาถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการนี้อย่างตรงจุด ผสมผสานระหว่างความสง่างามและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน บนที่ดินขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อกับธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวนวัตกรรมทางความคิดเชิงการออกแบบ และ เทคโนโลยีเพื่อที่อยู่อาศัย
- สริน พรานนก – กาญจนา ออกแบบ และก่อสร้างพื้นที่ให้สามารถปรับเปลี่ยน ดัดแปลงได้ตามการใช้งานของทุกคนในครอบครัวทั้งในปัจจุบัน และ อนาคต
- มีพื้นสีเขียวขนาดใหญ่ภายในบริเวณบ้าน เพื่อรองรับการพักผ่อน หรือ ดัดแปลงให้ตรงกับความต้องการในการใช้พื้นที่
- โครงการ สริน พรานนก-กาญจนา คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ภายใต้การนำระบบ S-Air ซึ่งเป็นคอนเซปท์การจัดการคุณภาพอากาศภายในบ้าน โครงการมีการติดตั้งระบบแลกเปลี่ยนอากาศ และสร้างการไหลเวียนของอากาศภายในทุกหลัง
- เพื่อคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โครงการมีการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) ขนาด 5 KW พร้อมการเตรียมจุดติดตั้ง EV Charger 1 จุด
“การเปิดตัวโครงการ สริน พรานนก-กาญจนา เป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความตั้งใจในการขยายธุรกิจที่อยู่อาศัยของ สิงห์ เอสเตท และยังแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในการใช้ชีวิตของลูกค้าในระดับลักชูรี ที่เป็นเป้าหมายทางธุรกิจขององค์กร ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาโครงการฯ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกทำเล การออกแบบ การให้บริการหลังการขาย ให้สมกับจุดยืนของกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย “Mastering the Luxury” นายณัฐวุฒิ กล่าวสรุป
สริน พรานนก-กาญจนา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวบนที่ดิน 56 ไร่ จำนวน 81 หลัง ขนาดที่ดิน 125-287 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอยให้เลือกถึง 3 ขนาดราคาเริ่มต้นที่ 45 ล้านบาท