ถ้าจะให้พูดถึงทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ ทั้งสาธารณูปโภคและบริโภค นอกจากพื้นที่กลางใจเมือง และ CBD ต่างๆ แล้ว วันนี้แว่นจะพาไปชมย่าน “รามคำแหง” ด้วยครับ อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่า แถบนี้มีคนอาศัยอยู่ค่อนข้างมากและอยู่กันมานานแบบไม่ได้คิดจะย้ายไปที่อื่น เพราะรู้สึกว่าตรงนี้มันคุ้นเคย อยู่จนรู้สึกว่านี่แหละถิ่นเรา เพราะมีทั้ง สถาบันการศึกษา แหล่งช้อปปิ้ง โรงพยาบาล หอพัก อพาร์ทเมนต์ ร้านอาหารการกินเต็มไปหมด เสียอย่างเดียว คือ การเดินทางต้องใช้ถนนรามคำแหงซึ่งขึ้นชื่อถึงความติดเป็นหลัก เพราะงั้นลูกพ่อขุนหรือใครที่อยู่นอกพื้นที่แล้วจะมาแถวราม ก็จะใช้ทางเลือกอีกแบบคือเรือแสบแสบที่วิ่งไวสุด ไปเข้าคลาสเช้าได้สบายๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไป มี Airport link เข้ามาในระยะใกล้ๆ แถมในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านเส้นนี้อีก คือ MRT สายสีส้ม ทำให้ทำเลแถบนี้สมบูรณ์ขึ้นอีกมาก วันนี้แว่นเลยขอพาทุกคนไปรู้จักกับอีกหนึ่งการพัฒนาในพื้นที่รามคำแหงกัน นั่นก็คือโครงการใหม่จากศุภาลัยที่มีชื่อตรงกับทำเลเป๊ะๆ ว่า ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง คร้าบ
ภาพรวมโครงการ
ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง เป็นโครงการคอนโดมิเนียม High Rise ที่ยกขบวนกันมาทั้งหมด 3 อาคาร ด้วยกัน คือ Tower A สูง 33 ชั้น Tower B สูง 35 ชั้น และ Tower C สูง 27 ชั้น (ถ้าเรียงจากฝั่งถนนรามคำแหงจะเจอกับ Tower A B และ C ตามลำดับ) รวมทั้งหมด 2,073 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 15 ไร่ และยังมีพื้นที่สีเขียวให้อีกกว่า 4 ไร่ เลยทีเดียวครับ ความพิเศษคือนอกจากจะอยู่ติดถนนใหญ่รามคำแหงแล้วพื้นที่ของโครงการยังยาวไปจรดถนนหัวหมากด้วย (ซอยรามคำแหง 24/2 เดิมที่หายไปก็กลายเป็นโครงการนี้แหละฮะ) ซึ่งการที่โครงการไหนจะสามารถทำพื้นที่ทะลุได้ทั้ง 2 ถนนแบบนี้ ในทำเลรามคำแหง ต้องยกมือกราบแนบอกเลยทีเดียว เพราะลูกบ้านจะเข้าออกได้ 2 ทาง โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วนก็หลบถนนรามคำแหงมาใช้ถนนหัวหมากซึ่งการจราจรเบาบางกว่าเข้าออกโครงการได้อย่างยืดหยุ่น แถมยังอยู่ใกล้กับสนามราชมังคลาฯอีก มีสนามบอลอยู่ข้างบ้านแบบนี้ ไม่มีพลาดแมตซ์สำคัญแน่นอน และเนื่องจากโครงการนี้เค้าเป็น “ACTIVE CONDOMINIUM” พื้นที่ออกกำลังกายก็ต้องจัดเต็มกันหน่อยกับ “Sport Facilities” แถมยังมีร้านค้าอีกตั้ง 25 ร้าน จะโทรศัพท์บอกเพื่อนว่า “แกๆ เย็นนี้มาเดินเล่นคอมมิวนิตี้มอลล์ใต้คอนโดฉันกันมะ” ก็ดูจะเลิศไม่เบาเนอะ
การเดินทาง
สำหรับการเดินทางนั้นก็แทบไม่ต้องพูดถึง หลายคนคงจะทราบกันดีว่าย่านรามคำแหงนี้มีให้ครบทุกแขนง ตั้งแต่วินมอเตอร์ไซค์ไปจนถึงรถไฟฟ้า เริ่มจากความง่ายของการเรียกหาพี่วิน ขอแค่เธอมองมาฉันจะพาไปส่ง รถแท็กซี่ที่โบกเท่าไหร่ก็ไม่จอด เอ้ย! ไม่ใช่สิ ต้องโบกเมื่อไหร่ก็จอด รถเมล์ รถสองแถวพาแอ๋วไปเรียนรามก็มีเต็มถนน หรือจะเป็นเรือแสนแสบที่สนนราคาอยู่ที่ 10-20 บาทเท่านั้น และสำหรับใครที่ไม่รีบมากก็ไปขึ้น Airport Link ได้ ถึงจะเสียบ่อยแต่ก็ไม่ปล่อยให้เดียวดาย (เพราะมีคนสายเป็นเพื่อน) ส่วนใครที่ใช้รถก็สามารถเชื่อมต่อถนนได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็นเส้นลาดพร้าว พระราม9 หัวหมาก รามคำแหง ศรีนครินทร์ หรือถนนสายสำคัญเส้นใหม่อย่างกรุงเทพกรีฑา หากลงทางด่วนศรีนครินทร์ ขับผ่านมาทางเดอะไนน์พระราม 9 ก็สามารถเข้าโครงการจากทางด้านหลังได้เลย หากในอนาคต MRT สายสีส้มเปิดให้บริการเมื่อไหร่ โครงการนี้ก็จะมีรถไฟฟ้า MRT สถานีราชมังคลาฯ อยู่ด้านหน้าแบบ 0 เมตรเลยทีเดียว ซึ่งโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2022 ส่วนรถไฟฟ้าก็คาดว่าจะเป็นปี 2023 รออีกแป๊บเดียวก็ได้ใช้แล้วครับ
ทำเลโดยรอบ
“ทำเล” ถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของโครงการนี้เลย คือมีทั้งห้างสรรพสินค้าอย่าง เดอะมอลล์รามฯ บิ๊กซีรามฯ เดอะมอลล์บางกะปิ เดอะไนน์พระราม9 หรือจะเดินเล่นชิลๆ หาหมึกย่างกินก็มีตลาดกกท.อยู่ใกล้ๆ เดินไปแค่ 400 เมตร ของกินหน้าราม ในราม หลังราม ก็มีเพียบ ขยับไปหน่อยก็มีตะวันนา ไนท์ บาซาร์ ส่วนสถาบันการศึกษาที่ใกล้ๆ นอกจากม.รามฯ สาธิตรามฯ ที่มีเด็กนักเรียนนักศึกษาอยู่มากมายแล้ว ก็ยังมี ABAC (หัวหมาก) โรงเรียนเทพลีลา อีกด้วย และโครงการยังอยู่ห่างจากรพ.รามคำแหงอีกประมาณ 1 กม. นอกจากจะเต็มอิ่มกับของกินของใช้แล้ว ยังแน่นไปด้วยสาธารณูปโภคบริโภคที่รายล้อมครบครันครับ
สิ่งอำนวยความสะดวก
ทางเข้าด้านหน้าอาคารจะมีพื้นที่ร้านค้าอยู่ด้วยกันทั้งหมด 10 ร้าน ด้านในอาคารรวมกัน 5 ร้าน และด้านหลังอีก 10 ร้านค้า คึกคักกันสุดๆไปเลยครับ อัพเดทสุดๆสำหรับคนอยู่อาคาร C ที่แม้จะไกลรถไฟฟ้าที่สุดแต่ยิ้มกว้างได้เลยเพราะเค้าจับมือกับ TOPS Market ซึ่งจะมาเปิดพรีเมียมซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่บนพื้นที่ 1,200 ตร.ม. ฝั่งด้านหลังเลยฮะ
ส่วนโครงการถึงจะมีสนามกีฬาอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะยอมน้อยหน้า ส่วนกลางที่นี่เค้าจัดหนักจัดเต็ม ทำมาเอาใจคนรักสุขภาพกับ Sport Facilities ที่มีทั้ง Jogging Track, Basketball Court, Infinity Edge Swimming Pool ที่เป็นสระน้ำเกลือ ที่รายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวให้ผ่อนคลายกันสุดๆ, Private kids pool สระเด็กสไตล์เรือโจรสลัด มาพร้อมสไลด์เดอร์ให้คุณหนูๆ โดดน้ำกันให้สะใจ, Fitness & Aerobic, Suana, Roof Garden , Meeting Room, Sky Lounge, Co-Working & Co-Living Space, Game Room, Social Club, เข้าออกโครงการด้วยระบบ Access Control, กล้อง CCTV และระบบลิฟต์ล็อคชั้น ส่วนกลางจะกระจายอยู่ตามตึกนะครับ ไม่ได้รวมทั้งหมดอยู่ในตึกเดียว โดยเฉพาะพื้นที่ Rooftop มีส่วนกลางสวยๆ ให้ใช้ครบทุกตึกไม่น้อยหน้ากัน ซึ่งลูกบ้านทุกคนก็สามารถใช้ส่วนกลางได้ทุกตึกเลยครับ ครบครันแบบนี้บ่นว่าไม่มีเวลาไปออกกำลังกายไม่ได้แล้วครับ
ก่อนไปชมห้องตัวอย่าง
ห้องพักอาศัยที่นี่จะมีทั้งแบบ Studio ขนาด 28-30 ตร.ม., 1 Bedroom ขนาด 35-42 ตร.ม., 1 Bedroom Plus ขนาด 42-44 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด 59-67 ตร.ม. ครับ โดยมีการออกแบบให้เน้นเรื่องของการประหยัดพลังงาน โดยมีการใช้หลอดไฟ LED ทั้งอาคาร หน้าต่าง ซึ่งเป็นผลดีต่อการจัดการค่าส่วนกลางในระยะยาว กรอบบานเลื่อนต่างๆ ใช้วัสดุ UPVC ติดภายนอก เพื่อช่วยลดเสียงและลดความร้อนที่จะเข้ามาในห้อง สำหรับสิ่งที่จะได้จากทางโครงการก็จะมี เครื่องปรับอากาศ, วอลเปเปอร์, ชุดครัวบิวท์อิน, เครื่องทำน้ำอุ่น และฉากกั้นอาบน้ำที่เป็นกระจกนิรภัย ซึ่งหากใครไม่ต้องการรับไว้ ก็เปลี่ยนมาเป็นส่วนลดแทนก็ได้ครับ รอบ Online Booking ครั้งแรกของศุภาลัยนี่ Sold Out ในชั้นที่เอามาเปิดไปแล้วนะ เพราะงั้นใครที่สนใจก็เตรียมตัวให้ดี Presale วันที่ 28-30 กันยายนนี้ที่โครงการ กับราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาทครับ
#Sneakroom #แอบดูห้องตัวอย่าง
มาลองดูห้องแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 43 ตร.ม. กันก่อนนะครับ สำหรับห้องนี้จะมีส่วนของห้
ทางขวามือนี้จะเป็นชุดครัวบ
ด้านข้างสามารถจัดวางโต๊ะกิ
บริเวณครัวจะได้เป็นพื้นกระ
อีกฝั่งสามารถจัดวางชั้นรอง
ถัดเข้ามาจะเป็นห้องนั่งเล่
ส่วนผนังจะได้เป็นวอลเปเปอร
ห้องถัดไปเป็นห้อง Plus ที่สามารถทำเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องนอน หรือห้องแต่งตัวก็ยังได้
ภายในสามารถใส่เตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้อยู่นะครับ ติดแอร์มาให้พร้อม แว่นว่าห้องนี้เหมาะจะหลับ เอ้ย! เหมาะจะทำงานเป็นที่สุด
ประตูบานเลื่อนก็จะได้แบบนี
เข้าไปดูด้านในห้องนอนกันบ้
ห้องนอนสามารถใส่เตียงขนาด 5 ฟุตได้ โดยที่ยังเหลือพื้นที่ด้านข
ส่วนพื้นที่ปลายเตียงก็ยังพ
ส่วนตรงนี้ก็จะเป็นโซนแต่งส
ส่วนห้องน้ำอันนี้จะอยู่ภาย
ส่วนธรณีประตูตรงนี้จะเป็นห
ต่อไปเราจะมาดูห้องแบบ 2 Bedrooms หรือ Family Suite ขนาดใหญ่ที่สุดคือ 67 ตร.ม. กันบ้าง ซึ่งห้อง Type นี้จะเป็นห้องมุม Only นะครับ
เข้ามาด้านในเราก็จะเจอกับห
ห้องนี้จะเป็นครัวปิด สามารถ Cooking โชว์ฝีมือกันได้ตามสะดวก
ด้านในจัดที่สำหรับวางเครื่
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวก็จะได้แ
ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ห้อง
ชั้นวางทีวีจัดมาให้เรียบร้
สำหรับห้องนี้ก็จะมีห้องน้ำ
สำหรับพื้นที่ระเบียงก็จะเป
แอบเข้าไปดูห้อง Master Bedroom กันต่อเลยนะครับ สำหรับห้องนี้ก็จะกว้างขึ้น
ส่วนมุมนี้เค้าจัดวาง Day Bed เป็นไอเดียเอาไว้ ถือว่าเป็นมุมเล่นเอ็มวีที่
ในส่วนของตู้เสื้อผ้าก็ยังค
จัดวางโต๊ะเครื่องแป้งไว้มุ
ส่วนปลายเตียงนี่เดินกันชิล
อ่ะ ออกมาดูอีกหนึ่งห้องนอนกันบ
โดยทีด้านข้างสามารถจัดให้เ
แถมยังมีกระจกอยู่ด้านข้าง ให้มองดาว มองฟ้า เผื่อสมองแล่น จะได้คิดงานออกกันด้วย
ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ด้านข้างแ
ส่วนห้องน้ำทั้งด้านในด้านน
เป็นยังไงกันบ้างครับกับโคร
ติดตามเราได้ที่ : facebook
ติดต่อสอบถาม : Contact