The Base Ratchada 19
สวัสดีน้องหมาน้องแมว คอนโดใหม่เลี้ยงสัตว์ได้มาแล้ว กับ “The Base Ratchada 19” ขับรถลัดเลาะสบายได้หลายสาย ใกล้รถไฟฟ้าสถานีรัชดาภิเษก แค่ 5 นาที
ปีนี้เป็นปีแห่งการ Refresh ของคอนโดแบรนด์ “The Base” จากแสนสิริที่แท้จริงครับ จากคอนโดที่เป็นจุดเริ่มต้นของคนทำงานที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย อยู่สบาย เดินทางสะดวก ในปีนี้บอกได้เลยว่าเห็น เดอะ เบส โครงการใหม่ที่ไหน ที่นั่นคือคอนโดที่เราสามารถอยู่กับสัตว์เลี้ยงแสนรักได้แล้วครับ เพราะความเป็น Pet Parents นี่ก็เป็นอีกวิถีชีวิตที่กำลังมาแรงของยุคนี้เหมือนกัน และไม่ใช่แค่คอนโดสเปคเดิมที่อนุญาตให้เลี้ยงได้ แต่เดอะ เบส โฉมใหม่ปรับมาแล้ว ไม่ว่าจะการเพิ่มความหนาผนัง 2 ชั้น และฟังก์ชันประตู Drop Door Seal เพื่อลดเสียงรบกวน การใช้พื้น SPC เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและความชื้น รวมถึงการเพิ่มความถี่ของซี่ราวกันตกบริเวณระเบียงเพื่อความปลอดภัยของเจ้าตัวเล็ก เรียกว่าจัดให้เพื่อการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขของเราและสัตว์เลี้ยงครับ
รอบนี้ผมก็ไม่พลาดจะพาน้องวิ้งกี้และทุกคนมาดูโครงการในทำเลที่อุดมสมบูรณ์และเดินทางได้หลากหลายอีกแห่งหนึ่งในซอยโชคชัยร่วมมิตร ซึ่งหลายคนก็อาจเรียกว่าซอยรัชดา 19 หรือซอยวิภาวดีรังสิต 16 ด้วยเพราะความยืดหยุ่นในการเดินทางทะลุเชื่อมต่อกับถนนสำคัญทั้งวิภาวดีรังสิต, รัชดาภิเษก จะลัดเลาะไปออกลาดพร้าวก็ยังได้ แถมยังมีรถไฟฟ้า MRT สถานีรัชดาภิเษกอยู่ปาก ซ.19 ด้วย จะไปจตุจักร เซ็นทรัลลาดพร้าว หรือยูเนี่ยน มอลล์ก็คล่องตัว จะไป Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองก็สถานีเดียว และการใช้ชีวิตอยู่ในซอยนี้ก็มีร้านค้าร้านอาหาร คลินิกสัตว์ และร้าน Pet Shop อยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ ใครทำงานการบินไทย, PTT, SCG, Bangkok Airways, AIA, ไทยประกันชีวิต อยู่ตรงนี้ก็สะดวกมากไปทำงาน เดินทางกลับบ้านวิ่งเป็น Loop เล็กๆ แป๊บเดียวก็ถึงกัน
ภาพรวมโครงการ
เดอะ เบส รัชดา 19 เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร พร้อมกับอีก 1 Clubhouse (3 ชั้น) รวม 614 ยูนิต (ที่จอดรถ 50% รวมซ้อนคัน) แต่ละอาคารเป็นทรงตัว L อยู่ล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ด้านใน แบ่งเป็นอาคาร A B C โดยอาคาร B เป็นอาคารเดียวที่อนุญาตให้เลี้ยงน้องได้ครับ ซึ่งจะมีข้อกำหนดเรื่องน้ำหนักและจำนวนตามขนาดของห้อง และจะมีค่าใช้จ่ายในการจัดการเพิ่มขึ้นกว่าอาคารอื่น ซึ่งก็เป็นไปตามหลักในการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยเดอะเบสรุ่นใหม่นี้ มีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่สวยและหลากหลายขึ้นนะครับ รวมพื้นที่ส่วนกลางกว่า 2,900 ตร.ม.
ผมชอบสวนลอยฟ้าไล่ระดับบริเวณคลับเฮาส์ซึ่งมีพื้นที่สีเขียวสอดแทรกไปทุกส่วน ภายในยังประกอบด้วยสระว่ายน้ำยาว 25 เมตรขนาดฮาล์ฟโอลิมปิก, ฟิตเนส, Creative Hub ที่รองรับการนั่งทำงาน นั่งประชุม หรือทำงานเป็นกลุ่มได้, Social Lounge เป็นมุมพักผ่อนมีบาร์เก๋ๆพบปะสังสรรค์, มี Playroom สำหรับคนชอบนั่งในห้องแอร์เย็นๆ เล่นเกมแทงสนุ๊กกับเพื่อนๆ ส่วนอาคาร A ยังมี Welcome Lobby สูงโปร่งแบบ Double Volume คอยต้อนรับกลับบ้าน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ Pet Playground ที่ไม่ใช่เป็นแค่สนามหญ้า แต่ยังรอบรับการออกกำลังกาย เล่นสนุกของน้องหมาได้ด้วย อยู่ในโซนอาคาร B ที่เป็นอาคาร Pet Friendly พอดี พาน้องลงมาเดินเล่นได้ทุกวัน
ห้องที่นี่จะเน้นห้องขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับวัยเพิ่งเริ่มทำงาน มีขนาดตั้งแต่ 23 – 35.25 ตร.ม. ครับ แบ่งเป็น 4 รูปแบบ
- ห้องขนาดเริ่มต้น 23.25 – 24.75 ตร.ม. ห้องนี้จัด Layout ด้วยการวางครัวปิดไว้ด้านหน้า ส่วนด้านในห้องจะทำแบบ Open Plan รวมพื้นที่ห้องนอน กับห้องนั่งเล่นไว้ด้วยกัน
- ห้อง 1 Bedroom ขนาด 25 – 27.25 ตร.ม. ส่วนใหญ่ห้องนี้จัดกั้นห้องนอนเป็นสัดเป็นส่วนเพิ่มขึ้นด้วยกระจกบานเลื่อน พร้อมย้ายตำแหน่งครัวไปด้านในอยู่ติดกับระเบียง แต่ก็มีบาง Layout ที่จัดวางออกมาแบบห้องเริ่มต้นแต่ได้พื้นที่ที่ใหญ่อยู่สบายมากขึ้น
- ห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.25 – 33 ตร.ม. ห้องนี้จะได้ห้องนอนที่เป็นส่วนตัวด้วยผนังทึบ ได้ครัวปิดกั้นแยกออกจากห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับระเบียง พร้อมกับได้ห้องน้ำที่เข้าได้ 2 ทางแบบ Double Access นี่ดูแล้วเป็นห้อง 30 ตร.ม. หน้ากว้าง ที่จัดออกมาได้ลงตัวที่สุดของเดอะ เบส และก็ไม่แปลกใจที่เค้าจะทำห้องนี้เป็น Show Unit ไว้เพียงหนึ่งเดียวครับ
- ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 35.25 ตร.ม. นี่เป็นห้องใหญ่ที่สุด ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนขนาดมินิได้อีก 1 ห้อง โดยส่วนใหญ่แล้วจะมี Layout เป็น Open Plan ที่เป็นพื้นที่ Living Area แบบครัวเปิดเพื่อการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าครับ และก็จะมีห้องมุมที่สวยๆ เป็นห้องหน้ากว้างที่สุดของโครงการให้เลือกด้วยเหมือนกัน
สำหรับราคาที่นี่เริ่มต้นที่ 2.49 ล้านบาท* หรือเฉลี่ยประมาณ 106,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งใครที่สนใจคอนโดใหม่ในทำเลที่ผมเองก็ไม่คิดว่าเค้าจะหาพื้นที่เปิดได้ เพราะไม่มีโครงการใหม่มานานแล้วก็ต้องเตรียมตัวกันหน่อยครับ เพราะย่านรัชดาก็มีความต้องการเช่าห้องอยู่จากคนทำงานในย่านนี้พอสมควรเลย เนื่องจากรายล้อมด้วยออฟฟิศใหญ่ๆ และเดินทางสะดวกด้วยถนนเส้นหลักที่เชื่อมต่อถึงกันหลายเส้นทาง จากที่ลองดูข้อมูลโครงการใกล้เคียงกันมีเรตปล่อยเช่าอยู่ราว 16,000 – 20,000 บาท แล้วแต่ขนาดห้อง แต่โครงการนั้นเปิดมาเป็นสิบปีแล้ว ถ้าที่นี่ทำได้อยู่สัก 17,500 บาท ก็จะได้ yield ประมาณ 6%/ปี ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนเช่นกันครับ
เค้าจะเปิดห้องตัวอย่างให้ชมครั้งแรก 15-16 ก.พ. นี้นะครับ ซึ่งที่ตั้งของสำนักงานขายจะอยู่ในโครงการ Serene Community Mall ประมาณช่วงกลางซอยรัชดา 19 นะครับ อยู่เยื้องๆ กับ Office ของ Buriram United สังเกตเห็นป้ายโครงการเด่นเป็นสง่า เห็นร้าน Pet Shop อยู่ด้านบนนี่ก็เลี้ยวเข้าไปชมได้เลย ส่วนที่ตั้งโครงการจะอยู่ถัดออกไปแถวๆ ซ.วิภาวดี 16-14 ซึ่งตอนนี้ยังเห็นเป็นตึกแถวอยู่ รอเค้าเคลียร์เปิดเส้นทางอีกที แต่ไม่ต้องห่วงเพราะตอนนี้ EIA ผ่านเรียบร้อยครับ
ทิ้งท้ายกันสักนิดคนที่มาในวันงานก็จะได้โปรโมชั่นเพียบเพิ่มเติมอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสูงสุดถึง 150,000 บาท*, ฟรีเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า, รับ Dyson Purifier หรือ Pet Welcome set ฟรี (เฉพาะ 70 ห้องแรก) บริการตรวจสุขภาพน้องหมาน้องแมวไม่มีค่าใช้จ่ายจาก รพ.สัตว์ทองหล่อ และบริการฉีดวัคซีนราคาเฉพาะในงาน พูดง่ายๆ ก็คือ เราพาสัตว์เลี้ยงเจ้านายตัวจริงของเราไปดูคอนโดพร้อมร่วมกิจกรรมได้เลยครับ ผมแปะพิกัดสำนักงานขายไว้ให้ตามด้านล่างนะครับ
- Sales Gallery ชั้น 1 @ Serene Community Mall Ratchada 19
- สนใจสอบถามเพิ่มเติม https://siri.ly/2PSfTm2
- ADD LINE OA: https://siri.ly/nHnyVD2 หรือโทร. 1685
ส่วนตอนนี้ขอเชิญไปชมภาพแรกจากโครงการและห้องตัวอย่างได้เลยครับ
วันนี้มาพับกบ พบกับน้องวิ้งกี้อีกแล้วครับ คราวนี้น้องวิ้งกี้จะพาทุกคนมาชมโครงการในย่านรัชดา ย่านที่มีสีสันตลอดเวลา ณ “The base Ratchada 19” คอนโด Pet Friendly ที่เดินทางสะดวกด้วย MRT รัชดาภิเษก แถมเชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง กับห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่ม 2.49 ล้าน*
นี่คือคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร กับอีก 1 Clubhouse มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 614 ยูนิต ซึ่งเค้าก็มีทั้งตึกที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ และตึกสำหรับคนที่ไม่เลี้ยงสัตว์แยกออกจากกันเรียบร้อยครับ เป็นคอนโดที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ในยุคที่ Pet Parents กำลังมาแรงเลยล่ะ
น้องวิ้งกี้เห็นห้องสวยอดใจไม่ไหว อ้อนให้ช่วยเปย์ให้สักหน่อย อยากอยู่แถวนี้
เจ้าของบ้านตัวจริงอยู่นี่แล้วค่า พร้อมแล้วไปชมโครงการกันเลย หนูจะพาทัวร์
อย่างที่บอกว่าเค้ากำลังจะเปิด Sales Gallery ให้เข้าชมห้องตัวอย่างแล้วนะครับ ในวันที่ 15-16 ก.พ. 68 ใครมีเจ้าสี่ขาเป็นสมาชิกในครอบครัวอยู่แล้ว ก็ลากรถเข็นพากันไปชมได้เลย อยู่ที่ Serene Community Mall ในซอยรัชดา 19 หรือ วิภาวดีรังสิต 16 ครับ
ด้านในสำนักงานขายก็กว้างขวาง แอร์เย็นฉ่ำ ตกแต่งด้วยบรรยากาศคล้ายคลึงกับ Lobby ของโครงการจริงนี่แหละ
รูปแบบห้องที่นี่จะเน้น 1 Bedroom เป็นส่วนใหญ่ มีขนาดตั้งแต่ 23-34.35 ตร.ม. ถ้าหนูวิ้งกี้อยากจะถือกระเป๋ามาซื้อ เราก็ต้องซื้อห้องในตึก Pet Friendly นะลูก ซึ่งห้องในตึกนี้เค้าจะเพิ่มผนังกันเสียงรบกวนหนา 2 ชั้น และพื้น SPC ทนรอยขีดข่วนทนความชื้น มี Drop Door Seal ลดเสียงเล็ดลอด รวมถึงเพิ่มซี่ความถี่ของระเบียงมาให้ด้วยครับ วันนี้ก็มีห้องตัวอย่างมาให้ดู 1 ห้องสวยๆ ไปชมกัน
ห้องวันนี้คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.25 ตร.ม. เป็นขนาดที่อยู่กันแบบพ่อแม่กับลูกขนปุยมีหนวดได้สบายๆ กำลังอบอุ่นเลยครับ
เข้ามาเราก็จะเจอโซนห้องครัว วางข้าวของ เก็บบรรดาอุปกรณ์น้องหมาน้องแมว ล้างไม้ล้างมือกันก่อนได้ ทุกห้องมี Digital Door Lock 5 ระบบติดตั้งมาให้แล้วครับ
สำหรับช่วงวันเปิดตัวนี่เค้าให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามาทั้งตู้เย็น ไมโครเวฟ และเครื่องซักผ้าฝาหน้า 8 กก. แบบนี้เลยด้วยครับ ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัว เตา และเครื่องดูดควันก็บิวต์มาเรียบร้อย สีสันเข้ากันได้ดี บานเลื่อนกระจกกั้นครัวนี้ก็เปิดได้ทั้ง 2 ฝั่งนะ
ฝั่งตรงข้ามเค้าก็บิวต์ตู้เก็บรองเท้า พร้อมเก็บของมาให้ วางกระเป๋า เก็บข้าวของลูกได้อีกจุดฮะ ข้างๆ ก็มีประตูห้องน้ำ เข้าจากครัวได้ 1 จุด ไว้ผมพาดูในห้องน้ำทีหลังแล้วกัน
ขอพามาดูโซน Living กันก่อนครับ ข้างกับครัวก็มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 2 คนได้พอดี ส่วนถาดคุณลูก จะวางใกล้กันทานอาหารพร้อมหน้าก็ได้ครับ
น้องวิ้งกี้ขอกินจานเดียวกับคุณพี่สาวเลยได้มั้ย จะได้ไม่ต้องล้างจานหลายใบ
ห้องนั่งเล่นก็จะอยู่ติดระเบียง มีแสงธรรมชาติสาดส่องได้ตลอดวัน นอกจากเค้าจะให้โซฟา และโต๊ะกาแฟแบบนี้แล้ว ยังให้ Smart TV ขนาด 43 นิ้วมาด้วยครับ เรียกว่าครบ ไม่ต้องหาซื้อเองเลย
วิ้งกี้แชะ แชะ หน่อยลูกก
พอวางเครื่องซักผ้าในครัวไปแล้ว ระเบียงก็ใช้งานได้เต็มที่ ปลูกต้นไม้ดอกไม้เพิ่มสีสันได้หลายต้น เช้ามาก็เปิดระเบียงรดน้ำ จิบชารับลมได้ครับ หรือปลูกต้นไม้ลดฝุ่นในห้องก็น่าสนใจ และก็ระเบียงก็สามารถให้ลูกเดินเล่นได้เพราะเค้าทำซี่ถี่มากขึ้นเพื่อรองรับความปลอดภัยมาให้ด้วย
ไปดูฝั่งโซนพักผ่อนกันต่อ ห้องนี้ได้ความเป็นส่วนตัวด้วยประตูบานทึบครับ
ในห้องนอนก็ให้ฐานเตียง 5 ฟุต โต๊ะข้างเตียง พร้อมโต๊ะแบบติดผนังและเก้าอี้ทำงานมาให้ด้วยนะ หน้าต่างก็บานใหญ่กำลังดี นั่งตรงนี้แสงสวยเหมาะทั้งทำงาน และแต่งหน้าสำหรับคุณผู้หญิงทั้งหลายครับ
เจอช็อตนี้เข้าไป คุณพ่อก็ใจละลายเลยครับ มีห้องให้วิ่งเล่นก็จะสดใสแบบนี้ ส่วนคุณพี่ก็นั่งทำงานไปได้เลย
อีกฝั่งนึงก็ได้ตู้เสื้อผ้า ไว้เก็บเสื้อผ้าลูกสาวได้จุใจ ทุกวันนี้เลิกเอฟเสื้อผ้าตัวเองแล้วครับ มีแต่ของลูกสาว มีตั้งแต่สไตล์ทองกวาวไปจนติดแกลม 555 มีประตูเข้าห้องน้ำจากห้องนอนได้อีก 1 จุด ผมชอบนะ สะดวกกับทั้ง 2 ฝั่งเลย เป็นห้องที่เดอะเบสวาง Layout ได้ลงตัวมาก
น้องวิ้งกี้ Approve ชุดนี้ค่าพี่
ห้องน้ำก็ตกแต่งสีขาวครีมสะอาดตา เค้ามีเครื่องทำน้ำอุ่นและฝักบัวพร้อม Rain Shower ไว้ให้ แล้วก็ทำช่องวางของมาให้หยิบจับสะดวกครับ
นี่ก็คือความอบอุ่นภายในห้องส่วนตัวของเราครับ มีพื้นที่ให้ใช้เวลาร่วมกันได้ทุกวัน มันก็เป็นสุขในหัวใจ
ต่อไปมาชม Facilities ภายในโครงการกันต่อเลยฮะ ที่เห็นใจกลางโครงการดูร่มรื่นนี่ก็คือ Clubhouse 3 ชั้น พื้นที่รวบรวมกิจกรรมมาให้เราทำแบบไม่ต้องไปไกล ชั้นบนสุดก็จะมีสระว่ายน้ำ และมุมพักผ่อนต่างๆ เสมือน Oasis ส่วนตัว นี่คือมุมสวนไล่ระดับที่ผมชอบมากในโครงการนี้
อีกฝั่งมี Lively Yard ให้นั่งชมความสวยงามของต้นไม้ รับลมธรรมชาติ หรือจะมาทำคอนเทนต์ ถ่ายคลิป Tiktok ก็สวยสดชื่นน่าดู ตัวอาคารมีโค้งมีเคิร์ฟ ดูละมุนมากก
เข้ามาพักกันต่อภายใน Lobby สูงโปร่ง มีกระจกให้ชมวิวภายนอกได้เต็มตา นั่งเพลินๆ รอเพื่อนมารับขึ้นห้องสบายๆ
สายทำงาน อยากมานั่งเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ มาที่ Creative Hub ของเค้าได้เลย มีที่นั่งหลากหลายแบบให้เลือก
ทำงานอ่านหนังสือเสร็จแล้วก็มาคลายเครียดปล่อยจอยกันต่อที่ Playroom ได้ มีโต๊ะพูล มุมนั่งเล่น จอทีวีให้ดูหนังฟังเพลงกับเพื่อนๆ หรือพกบอร์ดเกมมาเล่นก็ได้
หรือจะมาสังสรรค์ในบาร์เก๋ๆ พบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ที่ Social Lounge ก็ได้เลย
สาย Healthy ชวนคนรักมาออกกำลังกายให้หุ่นเฟิร์ม ร่างกายแข็งแรงไม่ต้องออกไปต่อสู้กับ PM 2.5 ได้ที่ห้อง Fitness อุปกรณ์ครบครัน
เราคลายเครียดแล้ว ก็อย่าลืมพาลูกมาเล่นกันครับ ส่วนกลางโซนสุดท้ายเพื่อเจ้าเด็กอย่าง Pet Playground ให้พาลูกๆ ขนฟู มาพบเจอเพื่อนใหม่ ถึงหนูๆ จะ Introvert แต่เท้าแตะหญ้าเมื่อไหร่ หนูๆ ก็สุขใจเลยล่ะ โซนนี้อยู่ด้านหลังอาคาร B ซึ่งเป็นอาคาร Pet Friendly โดยเฉพาะครับ
โครงการตั้งอยู่ในซอยรัชดา 19 จุดเชื่อมต่อได้ทั้งย่าน ลาดพร้าว รังสิต และพระราม 9 จากโครงการสามารถทะลุออกได้หลายซอย ผมมักเรียกติดปากซอยนี้ว่าซ.โชคชัยร่วมมิตร ปากซอย 2 ออกสู่รัชดา 19 และวิภาวดี 16 ก็ได้ แถมยังทะลุไปได้ทั้งทางลาดพร้าวอีกหลายซอย คนขับรถนี่มีตัวเลือกลัดเลาะเยอะมากครับ ส่วนใครใช้ขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า เค้ามี Shuttle Service รับส่ง MRT สายสีน้ำเงิน สถานีรัชดาภิเษก ส่วนแหล่งไลฟ์สไตล์ใกล้เคียง ก็มี เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนียนมอลล์ และเดอะสตรีท รัชดา ให้เลือกไปเดินเล่นกันได้สะดวกครับ
นี่ก็คือโครงการที่จะมาเป็นตัวเลือกให้คนรักสัตว์ ที่อยากจะมีลูกสี่ขามาเติมเต็มชีวิต หรือมีอยู่แล้ว อยากจะขยับขยายที่อยู่ก็ดี แถมอยู่ในทำเลที่เลือกเดินทางได้หลากหลายเส้นทาง พร้อมส่วนกลางให้ได้สนุกสนานทุกวัน กับห้องแต่งครบ ที่ “เดอะ เบส รัชดา 19” ซึ่ง 15-16 ก.พ. นี้ เค้าจำเปิดให้ชมห้องตัวอย่างครั้งแรก พร้อมโปรและส่วนลดเพียบ ในราคาเริ่ม 2.49 ล้าน* ไปชมกันได้ สำนักงานขายอยู่ที่ Serene Community คร้าบ