แอสปาย รัตนาธิเบศร์ 2… ส่วนกลางและห้องโฉมใหม่ ที่ไฉไลกว่าเดิม

แอสปาย รัตนาธิเบศร์ 2

วันนี้คนฝั่งธนฯ ขอมาเปลี่ยนเป็นมาชาวฝั่งนนท์สักวัน เพราะจะพาไปแอบดูคอนโดพร้อมอยู่ย่านรัตนาธิเบศร์ ซึ่งถ้าใครได้ผ่านไปแถวนั้น ก็คงจะพอคุ้นหูคุ้นตากันมาบ้าง แต่ถึงจะเป็นหน้าเก่าแต่งานนี้ต้องเล่าใหม่ เพราะโครงการเค้าได้มีการปรับปรุง แบบยกเครื่อง พร้อมตกแต่งใหม่ให้ดูไฉไลกว่าเก่ามากๆ เพื่อให้สมกับเป็นปีของ “ALL NEW ASPIRE” แถมยังมีพื้นที่ใช้สอยสุดกิ๊บเก๋เพิ่มมาให้ลูกบ้านได้ใช้ประโยชน์กันอีกด้วย กับโครงการที่มีชื่อว่า “แอสปาย รัตนาธิเบศร์ 2” โครงการน้องที่คลอดตามโครงการพี่อย่าง “แอสปาย รัตนาธิเบศร์1” ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันนี่เอง ถ้าจะพูดถึง “รัตนาธิเบศร์” หลายคนก็คงจะนึกถึง Big C รัตนาธิเบศร์ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ เอสพลานาด รัตนาธิเบศร์ เลยไปอีกหน่อยก็ ศูนย์ราชการนนทบุรี แยกแครายที่รถแสนจะติ๊ดติด แบบที่ใครจะผ่านแยกนี้ต้องเตรียมเข้าห้องน้ำหรือกะเวลาให้ดี ไม่งั้นมีเฮ จากแยกแครายก็ไปได้ทั้งปากเกร็ด นครอินทร์ หรือตรงไปเส้นงามวงศ์วานต่อได้อีก รถสาธารณะก็มีผ่านค่อนข้างเยอะ พอมาตอนนี้รถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการแล้ว ก็เลยยิ่งสะดวกไปกันใหญ่ มีทางเลือกรถสาธารณะที่ไว้ใจได้ ยกระดับการใช้ชีวิตแถบนี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิมจริงๆ

โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่และใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีม่วง คืออยู่ตรงกลางของ 2 สถานี คือ สถานีบางกระสอ ประมาณ 200 เมตร และสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ประมาณ 300 เมตร จะเลือกไปสถานีไหนก็ใกล้ๆ กันครับ มีพื้นที่กว้างขวางรวม 9 ไร่กว่า เป็นคอนโดแบบ High Rise สูง 25 ชั้น และอาคารจอดรถ 8 ชั้นอีกหนึ่งอาคาร รวม 1,428 ยูนิต ส่วนกลางเค้ายกธรรมชาติมาให้ลูกบ้านแบบใกล้ชิด โดยมี “Extra Large Oasis” หรือพื้นที่สีเขียวที่มีมากกว่า 4 ไร่ (ใหญ่ที่สุดในย่านรัตนาธิเบศร์) ทั้งยังมีเลนจักรยาน, Jogging Track เผื่อใครไม่อยากไปเล่น Fitness ตามห้างก็มาสูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายที่บ้านได้เลย, สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ยาว 25 เมตร, Indoor Fitness รับวิวสวยได้แบบ 180 องศา, Private Lobby ที่เงียบ โปร่ง โล่งสบาย และเป็นส่วนตัว พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง พื้นที่ส่วนกลางบางส่วนเค้าปรับปรุงใหม่ให้สวยงาม โดยเฉพาะพื้นที่โถงทางเดินระหว่างอาคาร เค้าก็เพิ่มที่นั่งให้ลูกบ้านได้ออกมาใช้ชีวิตนอกห้องกันได้ด้วย ซึ่งที่แอบดูไปเดินมาด้านล่างก็มีลมพัดตลอดนั่งได้สบายๆ ครับสำหรับ Type ห้องที่นี่ มี 2 แบบ ให้ดูง่ายๆ คือ 1 Bedroom ขนาด 24.50 – 30.5 ตร.ม. และ 2 Bedroom ขนาด  45.50 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องนอนที่สองเป็นแบบมินิออกจะไปทางห้องอเนกประสงค์แบบ 1 Bedroom Plus ครับ และวันนี้เราจะพาไปแอบดูห้องตัวอย่างและพื้นที่ส่วนกลางไปพร้อมๆกัน ทั้ง 2 แบบ ซึ่งโครงการเค้าตกแต่งตามคอนเซปต์ รสชาติไอศกรีม 2 แบบ เริ่มจาก 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. (ราคา 2.1 ลบ.) ห้องนี้ถูกตกแต่งให้มีความหวานอมเปรี้ยวนิดๆ แบบ “Strawberry Cheese Cake” ที่มีความหวานของสีชมพู และความละมุนจากดอกไม้ที่ถูกประดับไว้ สมกับวัยรุ่นแบบเรา ฮ่าๆ และห้อง 2 Bedroom ขนาด 45.5 ตร.ม. (ราคา 3.2 ลบ.) ห้องนี้ตกแต่งสไตล์ “Mint Choc Chip” ที่ให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น และสุขุมมากขึ้น กับการตกแต่งด้วยสีเขียวเข้มและอ่อน พร้อมคลุมโทนของห้องเอาไว้ได้อย่างลงตัว

ก่อนจะกลับเราจะพาไปชมส่วนกลางที่ปรับโฉมใหม่ว่าสวยหรูดูแพงขึ้นแค่ไหน และที่สำคัญมี Co-working Space ที่เรียกว่า Aspire Café ด้านหน้าโครงการให้ใช้ด้วย ไม่ใช่เฉพาะแต่ลูกบ้าน Aspire เท่านั้น แต่คนที่ผ่านไปใครมาแถวนั้นสามารถเข้ามานั่งคุยงาน หรือพบปะสังสรรค์ได้หมด จะได้ลองมาสัมผัสบรรยากาศความเป็น Aspire กันดูจริงๆ ว่าเป็นยังไงบ้างครับ และ เรียกได้ว่าทาง AP เค้ากดปุ่ม “Refresh” มาให้สดใหม่น่าดู แถมช่วงนี้โครงการจัดกิจกรรมพร้อมโปรโมชั่นพิเศษในวันที่ 21-22 ก.ค. ที่ Aspire Café และที่โครงการ ทั้งฟรีเฟอร์นิเจอร์ ฟรีค่าใช่จ่ายวันโอน และรับเงินคืนสูงสุด 300,000 บาท รวมไปถึงลูกบ้าน AP ถ้าแนะนำเพื่อนจองซื้อในงานได้สิทธิรับค่าแนะนำด้วย ถ้าไม่อยากพลาดอย่าลืมคลิกลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษที่นี่คร้าบ >>> https://goo.gl/k6fJKv

เอาละ ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูห้องจริงกันเลยครับ!

มาเริ่มกันที่ห้องแรกคือห้องแบบ 1 Bed ขนาด 30 ตร.ม. ดูหวานละมุนจริงๆด้วย

ห้องขนาด 30 ตร.ม. จะมีอยู่ 2 Type คือ B1 กับ B2 นะครับ ความแตกต่างก็แค่สลับฝั่งกันระหว่างห้องนอนกับห้องครัวเท่านั้น ส่วนระยะความสูงเพดานของห้องนี้อยู่ที่ 2.5 เมตรครับ

เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น จัดวางโซฟาสำหรับสองที่นั่งเข้าไป ก็ยังพอมีที่ให้วางโคมไฟตั้งพื้นได้ด้วย เผื่อวันไหนมี Movie Time พอได้นอนดูหนังเคลิ้มๆ หรี่ไฟ ซบไหล่คุณแฟน แถมด้านข้างยังสามารถวางชั้นหนังสือหรือชั้นวางของไว้ชิดกำแพงได้ หรือจะติดชั้นไว้บนผนังเลย ก็ดูสวยเก๋ แถมประหยัดเนื้อที่ไปอีกแบบครับ

ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นที่ตั้งทีวี ซึ่งโต๊ะตัวนี้ทางโครงการเค้าให้มาด้วยครับ หรือจะแขวนทีวีติดผนังไว้ก็ได้ เพราะตู้รองเท้าแบบที่เห็นในภาพจะไม่ได้นะครับ ตรงนี้จะเป็นกำแพงฉาบเรียบทาสีปรกติ แต่ยังไงก็มีพื้นที่พอให้วางชั้นวางรองเท้า หรือตู้เก็บรองเท้าเล็กๆได้อยู่ครับบริเวณนี้

ประตูห้องนอนจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบนี้เลย ติดม่านเข้าไปก็ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้นครั

ถัดไปก็จะเป็นห้องครัวที่อยู่ติดกับห้องนอนเลย แต่ครัวนี้เป็นครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนไว้ให้เช่นกันครับ

สำหรับด้านในห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต เข้าไปได้เลย โดยจัดวางเตียงไว้ชิดหน้าต่างแล้ววางโต๊ะเครื่องแป้งไว้ด้านข้างหัวเตียงแบบนี้ ตอนกลางคืนก็จะสามารถเปิดม่าน เปิดหน้าต่าง รับลม ชมวิว ได้แบบเพลินๆ

ด้านข้างอาจจะมีพื้นที่ไม่พอสำหรับโต๊ะหัวเตียง ก็ใช้โคมไฟแบบแขวนเพดานเอาได้ครับ ดูมีสไตล์ดีด้วยนะ

ตู้เสื้อผ้านี้ทางโครงการได้บิวท์อินมาให้เรียบร้อยแบบนี้เลย ดูไม่เกะกะ กินพื้นที่ห้องจนเกินไปด้วย

พาออกมาดูห้องครัวกันต่อ ห้องครัวจะอยู่ตรงข้ามกับห้องน้ำเลยครับ มี Gap เล็กๆพอให้วางตู้เก็บของได้แบบไม่เกะกะทางเดิน จะทำเป็นชั้นวางหนังสือรวมสูตรอาหารคาว-หวาน สำหรับคุณพ่อบ้านแม่บ้าน หรือจะเอาไว้เป็นตู้โชว์รูปคู่น่ารักๆ เหรียญทองตอนไปวิ่งมาราธอน หรือเอาไว้เก็บนิยายก็ได้ทั้งนั้น

สำหรับห้องครัวนี้จะอยู่ติดกับระเบียง มีประตูกระจกบานเลื่อนทั้งตรงทางเข้า และตรงระเบียง ทำให้ช่วยในเรื่องของการระบายอากาศได้อย่างเต็มที่เลยครับ แถมครัวปิดแบบนี้ช่วยลดกลิ่นที่จะเข้าไปถึงห้องอื่นๆด้วย

ในห้องครัวถูกจัดสรรพื้นที่สำหรับทานข้าวไว้ให้ตรงนี้เลย ถ้าเป็นโต๊ะบาร์แบบในภาพ คนตัวใหญ่ๆอาจจะนั่งไม่สบายหน่อย แต่จะเหมาะมาก ถ้าชวนเพื่อนมานั่ง Drink Drank Drunk กันตรงนี้ หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะทานข้าวเล็กๆ จัดที่นั่งสำหรับสองที่ ก็ทำได้อยู่ครับ

เคาน์เตอร์ครัวนี้ทางโครงการเค้าให้นะครับ และก็เดินท่อสำหรับระบายอากาศเอาไว้ เหลือแค่เอาฮูดมาติดเพิ่มก็จะใช้ได้ ด้านล่างสามารถใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า (สูงสุด 8 โล) ได้เลย

พอไม่ได้วางเครื่องซักผ้าที่ระเบียงก็จะมีพื้นที่ให้ใช้งานอย่างอื่นได้อีกครับ

ห้องน้ำก็จะได้ตามนี้เลยครับ มาพร้อมฉากกั้นเปียกแห้ง

สำหรับห้องนี้พอใส่สีชมพู หรือตกแต่งด้วยดอกไม้เข้าไป ก็ช่วยเพิ่มสีสัน ความสดใส ช่วยสร้างบรรยากาศดีๆ ให้กับคนอยู่ได้อีกมากเลยนะครับ ทั้งห้องนอนที่มาพร้อมกระจกบานใหญ่ แบบพร้อมรับวิวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน กับตู้เสื้อผ้าที่ถูกกลืนไปกับผนังแบบช่วยประหยัดเนื้อที่ให้ห้องได้อีกมาก ห้องนอนและห้องครัวถูกปิดด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ที่ช่วยทำให้ห้องดูเป็นสัดส่วนขึ้น ห้องนี้เลยได้เป็น ไอติมรสสตอเบอร์รี่ชีสเค้ก ที่ทั้งหวานละมุนและเพลิดเพลินแบบกำลังดี

มาต่อกันที่ห้อง 2 Bed ขนาด 45.5 ตร.ม. กันบ้าง

ห้องนี้โต๊ะทานข้าวก็จะอยู่บริเวณเดียวกับห้องนั่งเล่นเลย การจัดพื้นที่แบบนี้ก็ดูจะช่วยให้ครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์กันมากยิ่งขึ้นนะครับ ทั้งคนที่ทานข้าว คนที่อยู่ห้องนั่งเล่น จะพูดคุยนั่งเล่นกันตรงนี้ในส่วน Living ได้ด้วยกันสบายๆ

เข้ามาในห้อง ด้านข้างสามารถวางตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่ได้เลย ซึ่งเป็นพื้นที่ก่อนเข้าครัวที่กว้างขวางและสว่างด้วยกระจกบานข้างขนาดใหญ่

เข้ามาเริ่มกันกันที่ห้องครัวก่อน

ครัวนี้ค่อนข้างกว้างทีเดียวครับ เคาน์เตอร์ครัวพร้อมตู้ด้านบนทางโครงการเค้าให้หมดแบบนี้เลย ครัวปิด ติดประตูกระจกบานเลื่อนมาให้ แถมด้านข้างยังเป็นกระจก เปิดรับแสงให้เข้ามา หรือจะเอาไว้ระบายอากาศก็ได้ด้วย ครัวนี้สะดวก ใช้งานได้เยอะครับ พื้นที่วางเครื่องซักผ้าก็จะอยู่ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวนี่แหละ

โต๊ะทานข้าวถูกจัดให้อยู่ด้านนอก ที่นั่งสำหรับ 4 คนนั่งกันสบายๆ หรือลุงป้าน้าอามาเยี่ยม แทรกเก้าอี้เพิ่มอีก 2 ตัวก็ยังได้

ถัดมาเป็นห้องนั่งเล่นที่สามารถวางโซฟายาวๆ แบบนอนยืดขาได้สบายๆ แต่จุดตั้งทีวีก็จะอยู่ริมหน่อย แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่พอดีไม่ไกลจนเกินไป

ห้องนั่งเล่นติดระเบียง วันไหนอากาศดีก็คงจะแทบไม่ต้องเปิดแอร์ เปิดพัดลม รับลม รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟได้ด้วยนะ

ส่วนห้องน้ำนั้นสามารถ Access เข้าได้ทั้งจากด้านนอกและในห้องนอนนะครับ จะได้ไม่ต้องเข้าไปรบกวนคนที่กำลังหลับฝันดีอยู่เพื่อขอเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำก็จะเหมือนแบบ 1Bedroom มีฉากกั้นส่วนเปียก แห้งไว้ให้แล้ว ส่วนสุขภัณฑ์ก็จะได้เป็นของ Cotto ทั้งหมด

ว่าแล้วก็แง้มไปดูในห้องนอนกันต่อเลย

ห้องนี้ก็จะดูโปร่ง โล่งสบายดีครับ ถูกตกแต่งด้วยสีเขียวมินท์ ให้ความรู้สึกเย็นสบาย และเรียบง่าย ริมหน้าต่างจะเป็นกระจกบานใหญ่ มีพื้นที่ให้เดินด้านข้างเตียงเล็กน้อย ส่วนอีกฝั่งสามารถวางโต๊ะหัวเตียงและโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก

ส่วนตู้เสื้อผ้าห้องนี้ก็บิวท์อินมาให้แล้วเช่นกัน ปลายเตียงใช้เป็นทีวีติดผนัง นอนดูซีรีย์เกาหลี เปิดแอร์เย็นฉ่ำ เปิดม่านรับวิว Feeling นี้ฟินสุดๆครับ ขอบอก

ตามมาแอบดูห้องถัดไปกันต่อ ห้องนี้ถ้าใช้เป็นห้องทำงานก็ดูจะเหมาะและเป็นส่วนตัวเอามากๆ

เปิดแอร์ ปิดประตู เปิดม่าน เปิดเพลง Mozart คิดงานได้ถึงเช้าเลยครับแบบนี้

บวกกับความพอดีของชั้นหนังสือที่เข้ามุม และตู้เสื้อผ้าเล็กๆที่ซ่อนอยู่ตรงนั้น เอ๊ะ! ทำไมมีตู้เสื้อผ้าในห้องทำงานได้

ก็เพราะจริงๆแล้วห้องนี้ยังสามารถทำเป็นห้องนอนได้ ด้วยการใส่เตียง 3.5 ฟุตเข้าไป วางชิดติดริมผนัง ก็จะได้ห้องนอนขนาดเล็กเหมือนกับโรงแรมที่ญี่ปุ่นเลย แต่ต้องเป็น 3.5 ฟุตแบบฟิตๆ ไม่เย่นเย้อแบบมีหัวเตียงใหญ่อะไรแบบนี้

ห้องนี้ก็จะได้รสชาติไอติม มินท์เย็นชื่นใจ ที่มาในสไตล์เขียวคลุมโทน ให้ทั้งความรู้สึก Calm และสดชื่นในเวลาเดียวกันเลยครับ

ยังไม่หมดแค่นี้ มาต่อกันที่ส่วนกลางกันบ้างดีกว่า เริ่มจาก ล็อบบี้ ที่ดูโอ่อ่า สบายๆ เพราะเพดานแบบ Double Volume ทางโครงการก็ปรับนิด แต่งหน่อยด้วยการเล่นสี เพิ่มของตกแต่งเล็กน้อย เท่านี้ก็ดูลงตัว

ต่อด้วยพื้นที่ทางเดินด้านนอกที่ได้รับการตกแต่งจากกระเบื้องลายหินและกระจกเงาทอง ดูดีขึ้นมากจริงๆครับ
ส่วนมุมนั่งเล่นพักผ่อนตรงนี้ก็ขอบอกเลยว่าดูดีมาก ทั้งดีไซน์ที่เพิ่มขึ้น การเล่นสี และเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ ทำให้บริเวณนี้ดูน่านั่งมาก และที่สำคัญโครงการนี้ตั้งอยู่ในทิศทางลมพอดี ไม่ว่าจะฤดูไหน เค้าก็รับประกันว่าลม Flow ตลอดทั้งวันแน่นอน อันนี้ขอยืนยันอีกเสียงครับ สระผมเสร็จหมาดๆเดินไปนี่แห้งเลย

พื้นที่โดยรอบด้านนอกก็ยังคงความเขียวขจีไว้เช่นเคย ด้วยพื้นที่สีเขียวของโครงการที่มีมากกว่า 4 ไร่ ทำให้ลูกบ้านได้ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์กันได้ตลอด ทั้งยังมีเลนสำหรับจักรยาน และ Jogging Track ไว้ให้มาออกกำลังกายกันได้ทุกวัน

สุดท้าย ท้ายสุด ตามมาแอบดู Co-working Space หรือที่เรียกว่า Aspire Café กันดีกว่าครับ ที่ตรงนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าของโครงการนะครับ ใครจะมาใช้บริการก็ต้องเดินออกมาหน้าโครงการก่อน ส่วนค่าบริการก็ฟรีคร้าบบบ

ที่นี่คือ Co-working Space ของทางโครงการ ที่ให้ลูกบ้านได้มานั่งทำงาน นั่ง Chit Chat กัน จะรอเพื่อน รอแฟน ก็มานั่งกันในนี้ได้ รวมไปถึงบุคคลภายนอกก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ด้วยนะ ไม่ใช่แค่ลูกบ้านแอสปายอย่างเดียว ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอะไรแต่ตอนนี้มีให้ใช้ก็ใช้กันไปก่อนแล้วกัน วะฮ่าๆ

ส่วนชา กาแฟ น้ำอัดลม ขนม มาม่าต่างๆ ก็ Self-Service ครับ ลุกขึ้นไปกดบริการตัวเองได้เลย

จะมานั่งรอเพื่อน รอแฟน หรือรอใครบางคน พื้นที่ตรงนี้ก็พอจะอำนวยความสะดวกได้ดีทีเดียวเลยครับ
และทั้งหมดนี้ก็คือการพาแอบดูห้องตัวอย่างแอสปาย รัตนาธิเบศร์ 2 โฉมใหม่ทั้งข้างนอกข้างในที่เห็นแล้วก็ต้องบอกว่าไฉไลกว่าเดิมจริงๆ และตอนนี้เค้ามีโปรโมชั่นฟรีเฟอร์ด้วย เอาเป็นว่าใครที่กำลังเล็งตัวเลือกในย่านรัตนาธิเบศร์นี้อยู่มาดูที่นี่ก่อนก็แล้วกันครับ

ติดตามเราได้ที่ : facebook

ติดต่อสอบถาม : Contact