รีวิวคอนโด “เสนา คิทท์ สำโรง อินเตอร์เชนจ์” คอนโดใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย ราคาสบายกระเป๋า เริ่ม 1.39 ล้าน

คอนโด เสนา คิทท์ สำโรง อินเตอร์เชนจ์

ทุกวันนี้ชีวิตของคนวัยเริ่มทำงานมีต้นทุนที่ต้องจ่ายพอสมควรเลยครับ โดยเฉพาะเรื่องของที่อยู่อาศัย ถ้าอยากได้บ้านที่ยังพอซื้อได้ก็ต้องออกไปอยู่ชานเมืองไกลมากขึ้น หรือถ้าอยากอยู่คอนโดในระยะเดินไปรถไฟฟ้าได้อย่างต่ำๆ ก็ต้องมี 2 ล้าน ตัวเลือกในการหาที่อยู่สำหรับคนเพิ่งทำงานที่อยากได้ความสะดวกก็เลยต้องขยับไปตามส่วนต่อขยายของแนวรถไฟฟ้าออกไปมากขึ้น แต่ผมรู้สึกดีมากที่ในปี 2566 นี้ ยังมีคอนโดที่อยู่ใกล้กับสถานี Interchange ของรถไฟฟ้า 2 สาย แถมยังมาในราคาเริ่มแค่ล้านต้นๆ และก็มี Layout ห้องที่น่าสนใจด้วย นั่นก็คือโครงการที่เราจะพาไปดูกันวันนี้ “Sena Kith Samrong Interchange” ครับ

ทำเลและการเดินทาง

คอนโดเสนา คิทท์ สำโรง อินเตอร์เชนจ์ มีทางเข้าออก 2 ทาง ทางหลักอยู่บนถนนสุขุมวิท เรียกว่าแทบจะติด BTS สำโรงในระยะ 50 ม. อีกทางหนึ่งเข้าออกผ่าน ถ.เทพารักษ์ ซอย 4 ซึ่งระยะจากตัวอาคารออกไปสู่ถนนใหญ่ใกล้เคียงกันราว 400 ม. ทั้งคู่ นี่เป็นความสะดวกและยืดหยุ่นสำหรับคนอยู่อาศัยที่จะเลือกใช้ BTS สายสีเขียว สถานีสำโรง บน ถ.สุขุมวิท หรือ MRT สายสีเหลืองสถานีสำโรง บน ถ.เทพารักษ์ก็ได้ สายสีเขียวเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าต่อเดียวจากฝั่งสุขุมวิท ผ่าน ทองหล่อ-อโศก-สยาม ไปสู่ หมอชิต เชื่อมต่อ กรุงเทพฯ เหนือ ใต้ แบบต่อเดียว ส่วนสายสีเหลืองก็เป็นสถานีที่นำพาผู้คนที่เคยต้องเดินทางฝ่ารถติดบนถนนเส้นสำคัญอย่างศรีนครินทร์-ลาดพร้าว เชื่อมเข้ากับสำโรงแบบไร้รอยต่อ เป็นที่ตั้งของสถานีอินเตอร์เชนจ์ที่อยู่ติดกับทางเข้าออกหลักของโครงการนั่นเอง

สิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบที่ใกล้ที่สุด อยู่รอบๆ สถานี BTS สำโรง ทั้งอิมพีเรียล เวิลด์, บิ๊กซี มีตลาดโดยรอบทั้งตลาดเอี่ยมเจริญ และตลาดสำโรงพลาซ่าที่คึกคักตลอดทั้งวัน รวมไปถึงร้านอาหารต่างๆ ในซอยสุขุมวิท 113 ​ และจริงๆ แล้วบน ถ.ศรีนครินทร์เองก็มีห้างและคอมมูนิตี้มอลล์ที่น่าไปซึ่งเมื่อก่อนเดินทางยากหน่อย แต่พอมีรถไฟฟ้าสายสีเหลืองแล้วสบายเลย ทำให้มีตัวเลือกที่ไม่ต้องเข้าเมืองไปถึงสยาม ไม่ว่าจะ Jas Urban, พาราไดซ์ พาร์ค หรือซีคอนแสควร์ ส่วนใครจะใช้รถใช้ถนน ก็สามารถเชื่อมต่อถนนหลักของฝั่งนี้ได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็น ถ.สุขุมวิท, ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย, ถ.เทพารักษ์, ถ.ศรีนครินทร์ เชื่อมต่อซอยสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะ ซ.วัดด่าน – แบริ่ง – ลาซาล ไปจนถึง ถ.บางนา-ตราดครับ

ภาพรวมโครงการ

เสนาคิทท์ สำโรง อินเตอร์เชนจ์ เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร มีที่พักอาศัยกำลังดีที่ 490 ยูนิต ตัวโครงการมี DNA ของความเป็นเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ชัดเจนในเรื่องของความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเค้าวางคอนเซปต์ให้ที่นี่เป็นคอนโด Low-Carbon ด้วยวิธีคิดที่ว่าการจะรักษ์โลกเนี่ย มันต้องง่าย และให้ลูกบ้านได้มีส่วนร่วมด้วยการใช้ชีวิตปกติ เป็นการผสมผสานทั้งเทคโนโลยีและการออกแบบร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานสะอาดในพื้นที่ส่วนกลาง อย่าง Solor Rooftop และไฟส่องสว่างพลังงานแสงอาทิตย์, การออกแบบ Landscape ที่เน้นพรรณไม้ซึ่งช่วยดูดซับ CO2, การเลือกใช้วัสดุลดความร้อน เช่น กระจกลามิเนตและฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา, มีการติดตั้ง EV station ถึง 2 จุด แถมยังมี EV Shuttle Service คอยให้บริการเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้า ทำให้ลูกบ้านได้มีส่วนร่วมช่วยลดคาร์บอนได้ทุกวัน เสมือนช่วยปลูกต้นไม้กลับคืนแก่โลกได้ และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในพื้นที่ส่วนกลางอีกด้วยครับ

การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่ ก็สอดคล้องไปกับแนวคิดหลัก ที่เน้นเรื่องของพื้นที่สีเขียวท่ามกลางบรรยากาศการได้พักผ่อน โดยมีสวนเป็นจุดศูนย์กลางที่เชื่อมโยงทุกพื้นที่ และไหนๆ ก็เลือกใช้พืชที่ช่วยกรองและลดก๊าซ์คาร์บอนไดออกไซด์แล้ว ก็ออกแบบให้ลูกบ้านได้มานั่งเล่นนั่งทำงานได้ด้วย โดย Facilities อื่นๆ จะอยู่ในอาคารบริเวณชั้น Ground ทั้งหมด ได้แก่ Lobby, Co-working Space ซึ่งมีแยกกันให้ใช้ทั้ง 2 อาคาร และมี Fitness อยู่ที่อาคาร B

รูปแบบห้อง

ที่นี่มีห้องทั้งหมด 4 Layout ขนาดตั้งแต่ 23 – 34 ตร.ม. ซึ่งออกแบบมาให้เราเลือกให้พอดีกับความต้องการในแต่ละช่วงชีวิตครับ ได้แก่

  1. แบบ 1 Bedroom (Private Kitchen) ขนาด 23 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการและมีสัดส่วนมากที่สุด ส่วนใหญ่จะเป็นวิวด้านนอกโครงการ แม้ขนาดจะ Compact แต่จัดสรรฟังก์ชันเป็นสัดเป็นส่วน ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน ครัวติดระเบียงสามารถระบายอากาศได้สะดวก เหมาะสำหรับวัยเริ่มต้นทำงานอยู่คนเดียว ราคาสบายกระเป๋า
  2. แบบ 1 Bedroom (Walk-in Closet) ขนาด 23 ตร.ม. อันนี้เป็นห้องขนาดเริ่มต้นเหมือนกันแต่เป็นห้องแรร์ที่มีเพียงชั้นละ 1 ยูนิตและได้วิวด้านใน ห้องนี้จัดวางครัวแบบเปิด ทำให้พื้นที่ส่วนนั่งเล่นกว้างขึ้น ในห้องนอนจะได้พื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet ได้ด้วย และยังมีช่องแสงธรรมชาติไว้แต่งหน้าด้วย
  3. แบบ 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. เป็นห้องที่มี Layout เหมือนกับห้องเริ่มต้น แต่ได้พื้นที่ขยายมากขึ้น ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน
  4. แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้องที่มีหน้ากว้างที่สุดของโครงการ ได้ทั้งห้องนอนหลักขนาดใหญ่ พื้นที่ครัวปิดกว้างๆ อยู่ติดกับระเบียง และมีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับมาใช้เป็นห้องนอนเสริมได้อีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่อยู่กันเป็นครอบครัวเล็กๆ กำลังจะมีลูกน้อยก็ใช้งานได้กำลังดีครับ

ความน่าสนใจของโครงการนี้คือ ขายแบบ Fully Furnished ด้วยครับ มีเฟอร์นิเจอร์ให้ใช้งานครบครัน ทั้งโซฟา ชั้นวางทีวี โต๊ะกินข้าว เตียง ตู้เสื้อผ้า (แตกต่างกันไปตามขนาดห้อง) และที่สำคัญยังตั้งราคาเริ่มต้นเป็นมิตรต่อคนวัยเริ่มทำงานและคนที่มองหาคอนโดน่าลงทุนในทำเลใกล้รถไฟฟ้า ในราคาเพียง 1.39 ล้าน (เฉลี่ยราว 74,000 บาท/ตร.ม. ทั้งโครงการ) ผมว่าคอนโดในระยะใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้แทบจะหาราคาดีๆ แบบที่นี่ไม่ได้เลยนะ แน่นอนว่าอาจจะต้อง Trade-off กันกับการโครงการไม่ได้ใส่ Facilities บางอย่างที่เพิ่มต้นทุนค่าใช้จ่าย แต่สิ่งที่เลือกมาก็พอเพียงสำหรับการใช้ชีวิต และช่วยให้คนซื้อได้มีภาระการเงินสำหรับการหาที่อยู่อาศัยให้น้อยที่สุด แต่ใครที่สนใจนี่ต้องดู Calendar กันให้ดีๆ ครับ เพราะเค้าจัดราคานี้แบบฤกษ์ดี 9.9 งาน VIP DAY 9-10 ก.ย. นี้

  • ใครที่สนใจสามารถคลิกลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่นี่เลยครับ >>> https://bit.ly/3Eqc3Ag

#LivingSneakPeek #รีวิวคอนโด #SenaDevelopment #SenaKithSamrongInterchange #คอนโดLowCarbon #คอนโดสำโรง #คอนโดใกล้รถไฟฟ้า

เสนา คิทท์ สำโรง อินเตอร์เชนจ์

วันนี้เราพามาชมโครงการใหม่จาก Sena อย่าง “Sena Kith Samrong Interchange” คอนโดใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย ทั้ง BTS สายสีเขียว และ MRTA สายสีเหลืองสถานีสำโรง มาพร้อมห้องหลากหลายรูปแบบ กับเฟอร์นิเจอร์ที่เสนาออกแบบเองภายใต้ concept made from her ในราคาเริ่มต้น 1.39 ล้านครับ จะน่าสนใจแค่ไหน ไปชมกัน

ต้องบอกก่อนว่าที่นี่เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร รวม 490 ยูนิตครับ มีรูปแบบห้องหลากหลาย ขนาดตั้งแต่ 23-34 ตร.ม. ซึ่งวันนี้ก็มีห้องตัวอย่าง 2 แบบ 2 สไตล์มาให้ชมนะ

เริ่มที่รูปแบบแรก 1 Bedroom ขนาด 23 ตร.ม. ที่ผมบอกว่าเป็นยูนิตแรร์นี่เอง เป็นเลเอ้าท์ที่น่าสนใจดูกว้างกว่าตัวเลขห้องที่เห็น ตกแต่งหวานๆ เน้นสีเหลืองสดใส เสมือนห้องของสาวหวาน อยู่คนเดียวกำลังสบายๆครับ

เข้ามาเจอกับโซน Living มีโซฟาพร้อมชั้นเก็บของเพิ่ม ออกแบบมาจากความเข้าใจคนมีของเยอะครับข้างๆมีพื้นที่สำหรับโต๊ะที่บิวท์มาให้นางสาวหวานวางของตกแต่งห้อง ดอกไม้ น้ำหอม หรือครีม หยิบใช้ก่อนออก หรือจะเป็นโต๊ะทำงานก็ได้

ตรงข้ามกันเป็นพื้นที่สำหรับวางทีวี ซึ่งโต๊ะวางทีวีเค้าก็ให้มาครับ หน้าบานไม้สีอ่อนมินิมอล ถัดกันเป็นพื้นที่ห้องครัวซึ่งเป็นลักษณะครัวเปิด และห้องน้ำทางด้านหลัง ระยะตรงนี้ทำให้พื้นที่ Living Room กว้างขึ้นด้วย

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้ก็เป็นสีไม้โทนอ่อนแบบนี้ ห้องนี้จะเหมาะกับนางสาวหวานที่ไม่ค่อยชอบทำอาหารกินเองครับ อาจจะเน้นเดลิเวอรี่สะดวกรวดเร็ว

ห้องน้ำก็มากับกระเบื้องสีขาวสะอาดตาแบบนี้ เค้ากั้นโซนเปียกแห้งให้ดูเป็นไอเดียนะครับ ไม่ได้แถมส่วนนี้มาให้

เข้ามาดูที่ห้องนอน ก็กั้นบานเลื่อนกระจกให้เรียบร้อยเป็นสัดส่วนครับ อยู่ติดกับระเบียง บานเลื่อนนี้ทำหน้าที่เป็นช่องแสงธรรมชาติขนาดใหญ่กำลังดี ทำให้ห้องโปร่งขึ้น ตรงนี้เค้าก็ให้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาด้วย

นางสาวหวานได้มุมนั่งจัดดอกไม้สวยๆ ใส่ชุดมาเข้ากับห้องพอดิบพอดี

เข้ามามองอีกมุมแล้วก็เกิดความสงสัย ว่าเอ๊ะ นั่นห้องอะไรกัน

โซนนี้เป็นไฮไลท์ของห้องนี้ล่ะครับ เพราะนี่เป็นห้องแต่งตัวแบบ Walk-In Closet วางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วยังมีหน้าต่างให้นางสาวหวานแต่งหน้ากับแสงธรรมชาติสาดส่องได้ด้วย สาวๆต้องชอบล่ะ

ส่วนสุดท้าย ระเบียงของห้องรูปแบบนี้จะกว้างกว่าใครเค้าเลยนะ ยาวตลอดแนวห้องนอนครับ

มาที่อีกห้องนึง เป็นรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. คราวนี้จะเป็นครัวในที่อยู่ติดระเบียงกันบ้างครับ ตกแต่งห้องโทนสีฟ้าและเทา เหมาะกับชายหนุ่ม ห้องนี้อยู่ 2 คนก็ยังได้นะ

เข้ามาพบกับโซน Living เช่นเดียวกัน มีพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวสำหรับ 2 คนเพิ่มมาครับ เฟอร์นิเจอร์ที่เค้าให้นี่จะแต่งห้องโทนไหนก็เข้าไปหมดจริงๆ

ช่องเก็บของใต้โซฟาก็เป็นแบบนี้ครับ มี 3 ช่องเก็บได้กำลังดี

ฝั่งตรงข้ามกันก็เป็นชั้นวางทีวี ซึ่งมีระยะดูทีวีพอสมควร จะติดทีวีจอใหญ่กว่านี้ก็ยังได้ครับ เผื่อชายหนุ่มอยากดูหนังกับคุณผู้หญิงแบบเต็มตา

เฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่มมาอีกก็จะเป็นชั้นวางรองเท้าครับ แน่นอนว่าห้องใหญ่ขึ้น คนอยู่เพิ่มขึ้นต้องมีมากหน่อย หนุ่มๆ เดี๋ยวนี้ก็ต้องมี Sneakers หลายคู่ไม่แพ้คุณผู้หญิงเนาะ

ถัดเข้ามาที่ห้องนอน ค่อนข้างกว้างเลยล่ะ ห้องนี้เป็นบานเลื่อนกระจกกั้นเช่นกันครับ กินข้าวดูหนังเสร็จแล้วก็ม้วนตัวเข้านอนได้สบายๆ

ฐานเตียงก็มีลิ้นชักเก็บของให้ซ่อนเงินจากคุณแม่บ้าน เอ้ย! ให้เก็บของใช้ส่วนตัวได้เพิ่มอีก เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยนะ

ตู้เสื้อผ้าบานใหญ่กำลังดีฮะ เทียบเสื้อผ้าระหว่างห้องชายหนุ่มกับห้องนางสาวหวานนี่รู้เลยนะใครอุปกรณ์แต่งกายจะเยอะกว่ากัน

ถัดมาที่ห้องครัวกันบ้าง ก็อยู่ติดระเบียง ระบายอากาศได้ดีกว่าห้องที่แล้ว และมีห้องน้ำที่เข้าอยู่ในโซนเดียวกันครับ Layout นี้ พอจะเอื้อให้ติดบานเลื่อนเป็นครัวปิดไปได้อยู่นะ

ระเบียงก็ยกคอมเพรสเซอร์ไว้ด้านบนเรียบร้อยครับ วางเครื่องซักผ้าได้พอดี ใช้งานพื้นที่ได้คุ้มค่าครับ

แถมให้อีกหนึ่งรูปแบบครับ เป็น 1 Bedroom ขนาด 23 ตร.ม. ที่มี Private Kitchen โดยเลเอ้าท์จะคล้ายกับห้องตัวอย่างขนาด 26 ตร.ม. ที่พาชมไป แค่เล็กลงมานิดนึงครับ เหมาะกับคนที่อยู่คนเดียว และชอบทำอาหาร เพราะมีครัวติดระเบียงนั่นเอง ราคาเร้าใจเริ่มที่ 1.39 ล้านนะครับสำหรับห้องนี้

มาดูในเรื่องของทำเลกันต่อครับ ที่นี่จะเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากถ.สุขุมวิท และถ.เทพารักษ์ ซอย 4 ฮะ สำหรับการเดินทางไปสถานีรถไฟฟ้า สถานีสำโรงนี้เป็นจุด Interchange เชื่อม BTS สายสีเขียว และ MRTA สายสีเหลือง ชื่อเดียวกันทั้งคู่ ห่างจากตัวโครงการ 400 ม.

แต่ถ้านับจากทางเข้าฝั่ง ถ.สุขุมวิทก็แทบจะติดสถานีเลยครับ ซึ่งเดินก็สะดวกเพราะมี Skywalk ด้วย แล้วยังใกล้ อิมพีเรียล เวิลด์ สำโรง และบิ๊กซีสำโรง 2 ไปซื้อของกินของใช้ได้สบายครับ

มาดูภาพโครงการกันบ้าง อาคารจะเป็นรูปทรงตัว L มี 2 ตึกหันเข้าหากันแบบนี้ Façade ตกแต่งด้วยสีเทาตัดด้วยสีแดง ซึ่งที่นี่เป็นคอนโด Low Carbon เค้าเน้นการใช้พลังงานสะอาด อย่างการมี Solar Roof ในส่วนกลาง ใช้พลังงานแสงอาทิตย์, เน้นพื้นที่สีเขียวด้วยต้นไม้ที่คัดสรรมาโดยเฉพาะ และ EV Charger 2 จุด

สำหรับส่วนกลางเค้าก็จะเน้นที่คนนิยมใช้กันจริงอย่าง Lobby หรือ Co – working Space พื้นที่ให้นั่งทำงาน

รวมไปถึง Fitness, สวนพร้อมพื้นที่พักผ่อนรอบๆโครงการ ทำให้ที่นี่มีค่าส่วนกลางเพียง 30 ต้นๆ (คิดต่อตารางเมตร ต่อปี) เป็น Facilities ที่คนได้ใช้มากที่สุดและมีค่าบำรุงรักษาไม่เป็นภาระต่อลูกบ้าน

ทั้งหมดก็คือความน่าสนใจของโครงการ “เสนา คิทท์ สำโรง อินเตอร์เชนจ์” ที่ผมพาชมกันครับ เป็นคอนโดที่เน้นการอยู่อาศัยจริง มีรูปแบบห้องเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ และเข้ากับเทรนด์ปัจจุบันด้วยการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า 2 สาย ในราคาเริ่มเพียง 1.39 ล้านบาท อย่าลืมว่าราคานี้จัดที่โครงการเพียง 2 วันเท่านั้น ในงาน VIP DAY วันที่ 9-10 ก.ย. นี้นะครับ โครงการจะแล้วเสร็จภายใน Q1 ปี 2568 อีกไม่นานเกินรอครับ

 

 

 

ข่าวสารน่ารู้

“Well-Being and Sustainable Lifestyle” เทรนด์อสังหาฯ มาแรงในปี 2567 ที่คนส่วนใหญ่มองหา ชี้ต้องการพื้นที่บ้านรองรับ “การพักผ่อน – Work at Home” เน้นต้องประหยัดพลังงาน มีกิจกรรมเพื่อสุขภาพ มีนวัตกรรมสมาร์ทโฮม ก่อสร้างที่ ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ และลดการปล่อยคาร์บอน ด้าน “แสนสิริ” ปรับกลยุทธ์ใหม่ ครองใจลูกค้า กลับมาคว้ารางวัล The Most Powerful Brand 2023 จาก TERRABKK ไปครอง

“อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์” ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ปรับโฉม “สาขาพัทยา” ครั้งใหญ่รอบหลายปี ขานรับ EEC ภาคอสังหาฯ – ท่องเที่ยวบูม หนุนเศรษฐกิจในพื้นที่ขยายตัวชูศักยภาพผู้นำอาณาจักรสินค้าไลฟ์สไตล์เรื่องบ้านที่ใหญ่และครบครันที่สุดแห่งภาคตะวันออก