เปิดตัว “สโคป หลังสวน” – โครงการแรกในไทย
- จับมือร่วมกับ ‘เคพีเอฟ’ – บริษัทที่ออกแบบโครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในนิวยอร์ค ตึกที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้ ตึกที่สูงที่สุดในฮ่องกง และตึก World Financial Centre ตึกไอคอนนิคที่โดดเด่นในเซี่ยงไฮ้
- คอนโดมิเนียมระดับอินเตอร์เนชั่นแนลพรีเมี่ยม ความสูง 34 ชั้น ห้องชุดพักอาศัยสุดหรูเพียง 158 ห้อง ตั้งอยู่บนที่ดินที่แพงที่สุดบนถนนหลังสวน เพียง 170 เมตรจากรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีชิดลม
- เปิดห้องตัวอย่าง ณ โครงการบนถนนหลังสวน 17 กรกฎาคม 2562 นี้
เปิดตัวผลงานแรกในประเทศไทย ของ “โทมัส ยูล-ฮันเซน” ดีไซเนอร์ชาวเดนมาร์ก ผู้ออกแบบภายในโครงการคอนโดมิเนียมที่แพงที่สุดของนิวยอร์ควันนี้ กับการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมที่พักอาศัย “สโคป หลังสวน” ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินฟรีโฮลด์ผืนที่แพงที่สุดที่มีการซื้อขายกันในประเทศไทยเมื่อปี 2561ที่ราคา 3.1 ล้านบาทต่อตารางวา ซึ่งห้องตัวอย่าง “สโคป หลังสวน” เตรียมเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2562 ณ บริเวณโครงการบนถนนหลังสวน
โทมัส ยูล-ฮันเซน เป็นผู้ออกแบบภายในให้กับอาคาร ONE57 ที่มีชื่อเล่นว่า “The Billionaire Building” ซึ่งเป็นอาคารที่มีห้องชุดพักอาศัยราคาแพงที่สุดของนิวยอร์คนับถึงเดือนมกราคม 2562 ด้วยยอดการขายที่พักอาศัยอยู่ที่ราคา 3,140 ล้านบาท (100.5 ล้านเหรียญสหรัฐ) และอาคารนี้ยังถือเป็นอาคารที่พักอาศัยที่สูงที่สุดในมหานครนิวยอร์คเมื่อตอนเปิดตัวเมื่อปี 2557 อีกด้วย
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งคร่ำหวอดในวงการมาอย่างยาวนาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด กล่าวว่า “เราเป็นผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ที่มาฉีกแบบแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเดิมที่เคยมีมา มุ่งเน้นออกแบบและก่อสร้างที่อยู่อาศัยคุณภาพพรีเมี่ยมมาตรฐานระดับสากลโดยเฉพาะ และเรามุ่งหมายที่จะทำโครงการให้กับกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีดีไซน์และคุณภาพการก่อสร้างในมาตรฐานระดับเดียวกันกับที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพดีที่สุดในนิวยอร์คหรือลอนดอน ดังนั้น เราจึงร่วมมือทำงานกับเหล่าพาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุดในโลก”
“สโคป หลังสวน เป็นโครงการที่สร้างมาตรฐานใหม่ เป็นโครงการที่ผสานมาตรฐานสูงสุดระดับสากล การออกแบบที่เป็นเลิศระดับโลก และสุดยอดของหนึ่งในทำเลที่ดีที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ บนถนนหลังสวนเข้าไว้ด้วยกัน
โดย สโคป หลังสวน ประกอบไปด้วยห้องชุดพักอาศัย จำนวน 158 ยูนิต และห้องชุดพาณิชย์จำนวน 1 ยูนิต ในอาคารความสูง 34 ชั้น สามารถเข้าถึงรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีชิดลมด้วยระยะทาง 170 เมตรเท่านั้น และมีมูลค่าการลงทุนกว่า 7,800 ล้านบาท”
นายยงยุทธกล่าวว่า บริษัทได้ทุ่มเงินลงทุนไปที่เรื่องของการออกแบบเป็นจำนวนสูงมากเป็นประวัติการณ์สำหรับอาคารที่พักอาศัยขนาดนี้ในกรุงเทพมหานคร ด้วยเหตุที่ว่า “เรารู้ว่าความสะดวกสบายขั้นสูงสุด ประโยชน์ใช้สอย และรสนิยมที่เป็นเลิศของที่อยู่อาศัย จะต้องถูกออกแบบอย่างถูกต้องเหมาะสมตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นและในทุกมิติของบ้าน แม้แต่รายละเอียดที่เล็กที่สุด เพราะถ้าการออกแบบก่อสร้างทั้งหมดถูกต้องลงตัว บ้านแห่งนี้จะเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าในระยะยาวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคต”
นายยงยุทธกล่าวอีกว่า “เรายังได้ร่วมงานกับบริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ก็คือ ‘คอห์น เพเดอร์เซน ฟ็อกซ์’ (เคพีเอฟ) เข้ามาช่วยดูแลให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดในส่วนงานออกแบบอาคาร ซึ่งบรรดาอาคารที่เคพีเอฟเป็นผู้ออกแบบทั่วโลกได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองต่างๆ ซึ่งนี่จะช่วยให้สโคป หลังสวนกลายเป็นอาคารที่พักอาศัยที่โดดเด่นในกรุงเทพ”
‘คอห์น เพเดอร์เซน ฟ็อกซ์’ (เคพีเอฟ) เป็นบริษัทออกแบบจากนิวยอร์คที่เป็นผู้ออกแบบอาคาร World Financial Centre ตึกไอคอนนิคที่โดดเด่นในเซี่ยงไฮ้ อาคาร nternational Commerce Centre ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดและโดดเด่นที่สุดในฮ่องกง อาคาร Lotte World Tower ตึกที่สูงที่สุดของเกาหลีใต้ที่มีความสูงถึง 123 ชั้น รวมไปถึง Hudson Yards ในนิวยอร์ค ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
นายยงยุทธกล่าวว่า “สโคป หลังสวน ตั้งอยู่ในทำเลที่ดินฟรีโฮลด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ และเป็นจุดรวมความเป็นที่สุดของทำเลเข้าไว้ด้วยกันจากการเป็นทำเลใจกลางเมืองที่ยอดเยี่ยม แหล่งช้อปปิ้งและแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และถนนเพลินจิต ซึ่งเป็นถนนที่มีธุรกิจค้าปลีกสายสำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ ต่างก็อยู่ใกล้ในระยะเดินเพียง 2 นาที ยังสามารถเดินจากสโคป หลังสวนไปเซ็นทรัล ชิดลม เซ็นทรัล เอ็มบาสซี เกษรวิลเลจ เซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอน และสยามเซ็นเตอร์ได้สะดวกสบาย มีสกายวอล์คที่มีหลังคาเกือบตลอดระยะทาง สามารถเข้าถึงระบบรถไฟฟ้าบีทีเอสด้วยการเดินเพียง 2 นาที ระยะเดิน 170 เมตร และอยู่ใกล้สวนสาธารณะใหญ่ของกรุงเทพฯ คือสวนลุมพินี ซึ่งอยู่สุดถนนหลังสวน สามารถวิ่งเหยาะๆ เป็นเส้นทางตรงไปได้โดยสะดวก”
โครงการสโคป หลังสวน มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงต้นปี พ.ศ. 2566 โดยราคาขายเริ่มต้นที่ประมาณ 38 ล้านบาท ไปจนถึง 250 ล้านบาท ประกอบไปด้วยห้องชุดพักอาศัยแบบ 1 ห้องนอน ขนาดประมาณ 83 ตารางเมตร แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 153 ตารางเมตรไปจนถึง 162 ตารางเมตร และแบบเพนท์เฮาส์ ขนาด 419 ตารางเมตร ไปจนถึง 443 ตารางเมตร โดยทุกยูนิตมอบเพดานห้องที่สูงถึง 3.5 เมตร และห้องชุดแบบเพนท์เฮาส์เพดานสูงถึง 4 เมตร มาพร้อมกระจกหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานทุกห้อง และลิฟต์ล็อบบี้ส่วนตัว
สโคป หลังสวน ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือระดับ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างครบครันทุกไลฟ์สไตล์และทุกเจเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็นห้องฉายภาพยนตร์ที่มีระบบภาพเสียงที่ทันสมัย ห้องประชุม ห้องสำหรับแชร์พื้นที่ทำงานร่วมกัน สกายเลานจ์ ห้องดนตรี ห้องเก็บของส่วนบุคคล ห้องกิจกรรมสำหรับเด็ก โรงยิม ฟิตเนส ออนเซ็น ซาวน่า ห้องโยคะ และสระว่ายน้ำควบคุมอุณหภูมิ นอกจากนี้ ยังมีบริการระดับ 5 ดาว ที่รวมไปถึงแม่บ้านทำความสะอาด พนักงานต้อนรับ การดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และบริการช่วยจอดรถ โดยมีพื้นที่จอดรถรวมทั้งสิ้นกว่า 231 คัน
นายยงยุทธกล่าวว่า “สโคป หลังสวนคือโครงการที่มุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานของการพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทยให้สูงยิ่งขึ้นอีกระดับ นี่จะเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่ได้คุณภาพมากที่สุดของไทย ด้วยความเรียบง่ายที่โอ่โถงสะอาดตา ประโยชน์ใช้สอย รสนิยมที่ดีระดับสากล และการใส่ใจในทุกรายละเอียดอย่างสูงสุด”
ติดตามเราได้ที่ : facebook
ติดต่อสอบถาม : Contact