ใช้ชีวิตใกล้สาทรแบบสงบและเป็นส่วนตัว ที่ “LIFE Sathorn Narathiwas 22”

LIFE Sathorn Narathiwas 22

นี่อาจจะเป็นคอนโดที่เปิดตัวได้จังหวะพอดี ไม่ว่าจะการกลับมาเป็นอาคารตึกเตี้ยแบบที่มีความสงบและเป็นส่วนตัว การอยู่บนพื้นที่ในซอยนราธิวาส 22 ที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อสาทร – สีลม – พระราม 4 ได้สะดวก โครงการนี้ยังเป็นผลงานการปรับดีไซน์ครั้งใหม่ประจำปี 2025 ของ AP Thailand ที่ทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องน่าสนใจมากกว่าเดิม และนี่ก็คือคอนโดใหม่ “LIFE Sathorn – Narathiwas 22” ที่เราจะพาทุกคนไปดูในวันนี้กันครับ

​ทำเลและการเดินทาง

​ถ้าพูดถึง CBD ของกรุงเทพฯ สาทร-สีลม คือย่านดั้งเดิมของธุรกิจขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะภาคการเงินการธนาคาร สำนักงานกฎหมาย รวมไปถึงบริษัทข้ามชาติ มีทั้งโรงพยาบาล โรงแรม สถานทูต เพียบพร้อมด้วยระบบการคมนาคม ที่นี่จึงเป็นจุดศูนย์รวมออฟฟิศขนาดใหญ่ ที่นำพาผู้คนหมุนเวียนเข้ามาทำงานไม่รู้จบ คนเยอะแค่ไหนดูได้จากการจราจรที่หนาแน่นคับคั่งตลอด แต่ท่ามกลางคลื่นมหาชนยังมีเส้นนราธิวาสและถนนจันทร์ที่ทำให้ชีวิตได้แตะเบรคลงมาบ้าง ให้ความรู้สึกแบบได้กลับมาบ้าน มีของกินใกล้ตัว และนั่นก็หมายรวมถึงซอยนราธิวาส 22 ที่ตั้งของโครงการ Life สาทร – นราธิวาส 22 ด้วยครับ

​ซอยนี้แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่เท่าซอย 24 ที่อยู่ติดกัน แต่นั่นก็มาพร้อมกับความสงบที่มากขึ้นด้วยครับ ที่ตั้งโครงการคือที่ตั้งเดิมของโรงเรียนทวีวัฒนา หน้าปากซอยมีร้านกาแฟเล็กๆ ชื่อ Café 1009 ถัดเข้ามานิดนึงก็เป็นที่ตั้งของ Croissant Factory ร้านเดียวกับที่ทองหล่อนั่นแหละ แต่สาขานี้ไม่มีที่นั่ง รสชาติอร่อยถูกใจผมเหมือนกัน ความคึกคักเดียวในซอยนี้ก็คือ รร.เซนต์ยอแซฟยานนาวาที่ตั้งอยู่ตรงข้ามโครงการ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รถติดมากมายเหมือนซอย 24 ที่มีทั้ง โรงแรมชาเทรียม รร.นานาชาติ Aster และ Double Trees รวมทั้งบรรดาร้านอาหารทั้งเวียดนาม จีน ญี่ปุ่นที่อยู่เรียงรายกันไปในเวิ้งโครงการ NaraPlace ที่ดูมีแต่ของน่าอร่อยทั้งนั้น ผมได้แวะชิม Bistro L’Artisan ร้านเล็กๆ บรรยากาศน่ารักเหมือนได้วาร์ปอยู่ร้านเบเกอรี่โฮมเมดในยุโรปเพราะลูกค้ามีแต่ต่างชาติทั้งนั้นเลย เรียกว่าแค่อยู่ข้างๆ ซอยนี้เราก็สบายละครับ

​นี่ยังไม่นับในรัศมีที่กว้างขึ้น เราสามารถหาของกินเพียบได้ในโซน ถนนจันทน์ ช้อปปิ้งได้จากเซ็นทรัล และ The Up บน ถ.พระราม 3 มี Makro x Lotus’s Mall, Market Place นางลิ้นจี่ ใกล้โรงพยาบาลในโซนสาทร และเดินทางไปทำงานได้ง่ายทั้งสาทร สีลม พระราม 4 ซึ่งถ้าชีวิตที่อยู่ท่ามกลางความรีบเร่งในเมืองมันมากพอแล้ว การได้พักหัวใจในคอนโดที่เป็น Low Rise เน้นความร่มรื่นและธรรมชาติ มันก็ดูบาลานซ์ชีวิตได้ดีนะครับ

​ภาพรวมโครงการ

LIFE สาทร – นราธิวาส 22 ตั้งอยู่บนพื้นที่เกือบ 4 ไร่ เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร เป็นตึกรูปตัว L จัดวางเหลื่อมกันเปิดพื้นที่โล่งตรงกลางสร้างเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักที่เสมือนเป็น Oasis ของโครงการ มีจำนวนยูนิตไม่มากที่ 416 ห้อง (ที่จอดรถ 151 คันไม่รวมซ้อนคัน) เส้นสายของงานดีไซน์หลักของโครงการจะให้ความรู้สึกมีอะไรซ่อนอยู่ในความเรียบง่ายซึ่งร้อยเรียงอยู่กับธรรมชาติ อย่าง Facilities ที่นี่จะมีความเป็นโซนของตัวเอง ผู้อยู่ก็เลือกใช้งานได้ในมุมแตกต่างกัน แต่ทุกจุดจะอยู่ข้างเคียงกับสระว่ายน้ำ และพื้นที่สวนสีเขียว ซึ่งทำให้เราได้อยู่ในมุมส่วนตัวโดยมีธรรมชาติโอบล้อมเอาไว้ครับ

Facilities ที่นี่ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ซึ่งนอกจากจะเป็น Lap Pool ยาวๆ แล้ว ยังมีส่วนที่เป็น Hydro Hibernation Spa เพื่อความผ่อนคลาย, The Saloon พื้นที่ต้อนรับแบบ Double Volume ที่สามารถมานั่งพักผ่อน ทำงานได้ตามอัธยาศัย, Botanical Gym ฟิตเนสที่เปิดรับสวนสีเขียวอย่างใกล้ชิด, Forest Glasshouse เป็นพื้นที่ Co-working Space ให้นั่งทำงานด้วยแสงธรรมชาติเต็มตาพร้อมมุมส่วนตัวและ Meeting Room ให้ใช้งาน ทั้งหมดนี้ก็จะอยู่ท่ามกลางสวนแบบ Bio Diversity บนพื้นที่ชั้น 1 ใจกลางโครงการทั้งหมดครับ ผมว่างาน Interior ของ Facilities ต่างๆ เหล่านี้ทำออกมาได้สวยเหมือนกับ LIFE ที่เป็นอาคารสูงเลยนะ แต่มันจะได้ Sense ที่อบอุ่นใกล้กับต้นไม้ใบหญ้ามากกว่า เหมาะกับการฮีลใจของคนวัยทำงาน ซึ่งก็สอดคล้องกับเทรนด์ที่คนมองหาคอนโดติดเมืองในบรรยากาศสงบ ไม่วุ่นวายครับ

​รูปแบบห้องและราคา

จุดเด่นอีกอย่างนึงของโครงการก็คือการปรับพื้นที่ภายในใหม่ที่เรียกว่า Modular Flow Design ครับ วิธีการที่เค้าคิดเรื่องนี้มันก็จะเกี่ยวข้องกับพื้นที่ 2 แกน ทั้งพื้นที่ในแนวนอนและพื้นที่ในแนวตั้ง ปรับนิดนึงก็ให้ความต่างแล้วครับ ผมว่าเค้าพยายามที่จะทำให้ห้องมีสเปซที่รองรับกับฟังก์ชันมากขึ้นนะ ถ้าให้นึกภาพก็คือเมื่อก่อนถ้าพูดถึงมุมทำงาน ก็อาจจะเป็นการวางโต๊ะแปะอยู่กำแพงฝั่งใดฝั่งนึง แต่ห้องที่ทำมาใหม่รอบนี้ มุมทำงานก็จะเป็นพื้นที่ยื่นออกไปให้เราจัดวาง Station ที่จะ Focus การทำงานได้เลย หรือการเคลื่อนสเปซในด้านกว้างก็จะทำให้มีพื้นที่ทางเดินในห้องมากขึ้น หรือแม้แต่การลดพื้นที่ที่เราไม่ค่อยใช้อย่างระเบียง และจัดวางมาอยู่กึ่งกลางห้องก็ช่วยเติมพื้นที่อื่นในห้องที่เราใช้งานบ่อยๆ แทนครับ

ผมขอเล่ารูปแบบห้องที่แบ่งตามพื้นที่ดังนี้ครับ

  • ​แบบ 1 Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. เป็นรูปแบบครัวปิดอยู่ติดกับระเบียง แบ่งกั้นพื้นที่ภายในห้องเป็นสัดเป็นส่วน
  • พอห้องใหญ่ขึ้นเป็น 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. อันนี้จะมีให้เลือกหลาย Layout ครับ ทั้งแบบที่คล้ายห้อง 26 ตร.ม. แต่ได้พื้นที่กว้างขึ้น รวมถึงห้องรูปแบบใหม่ที่เป็นการปรับพื้นที่อย่างที่ผมเล่าไปด้านบน เกิดเป็นห้องที่มีฟังก์ชันต่างกัน แบบนึงได้โซนทานข้าวส่วนตัว อีกแบบได้มุมทำงานส่วนตัว
  • แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. ห้องนี้เป็นห้องที่เค้าปรับระเบียงให้มาอยู่ตรงกลาง เพิ่มพื้นที่มุมทำงานในห้องนอนครับ
  • แบบ 2 Bedroom ขนาด 52 ตร.ม. เป็นรูปแบบห้องหน้ากว้างที่สุดในโครงการ เค้าทำมา 2 Layout ให้เลือกระหว่างเข้ามาแล้วเจอห้องนั่งเล่นก่อนหรือเจอครัวก่อน แต่เป็นครัวปิดทั้งคู่ มี 2 ห้องน้ำในตัว ต่างกันตรงพื้นที่ในห้องนอน Master ที่ว่าจะเน้นตู้เสื้อผ้าหรืออยากมีมุมทำงานครับ

​และนั่นก็คือรายละเอียดเบื้องต้นที่ผมสรุปมาเพื่อให้เห็นภาพโครงการนี้ครับ ห้องที่นี่ขายแบบ Fully Fitted ตกแต่งครัวและห้องน้ำมาให้ไว้แล้ว ราคาเฉลี่ยอยู่ประมาณ 130,000 บาท/ตร.ม. หรือเริ่ม 3.8 ล้าน* สำหรับห้อง 1 Bedroom ขนาด 30 ตร.ม. ครับ ถ้าโจทย์ของคุณคืออยากได้คอนโดใกล้ที่ทำงานแถวสาทร – สีลม ไม่อยากได้ตึกสูง และชอบโซนพักอาศัยที่สงบและเป็นส่วนตัว ลองเข้ามาดูโครงการนี้กันได้นะครับ แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ต้องไปที่ Site นะ เพราะสำนักงานขายเค้าอยู่ แถวๆ ระหว่าง ซ.นราธิวาส 15-17 ใกล้กับคาเฟ่ DSYF ครับ ผมแปะพิกัดไว้ให้ตรงนี้นะ https://maps.app.goo.gl/Rn3JrUyHYUvob1BE8 ​ จะได้ไม่หลง

​ส่วนใครที่สนใจก็ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท ได้ที่นี่เลยครับ https://apth.ly/bomu

ผมเอาภาพโครงการมาให้ดูก่อนนะ เป็นคอนโด 8 ชั้น 2 อาคาร มีเพียง 416 ห้อง เน้นความเป็นส่วนตัว สงบร่มรื่น ให้ชีวิตคนเมืองได้พักกายพักใจ

ภายในสำนักงานขาย ตกแต่งตามบรรยากาศของส่วนกลางไว้ให้เราได้เห็น Mood โครงการครับ

ความพิเศษคือเค้าเป็นห้องดีไซน์ใหม่จากแนวคิด Modular Flow Design ที่ขยับมิติห้องอย่างการขยับปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เกิดฟังก์ชันใหม่ ในขนาดห้องเท่าเดิม เพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานครับ

ที่นี่มีห้องตั้งแต่ 1 Bedroom ขนาด 26-30 ตร.ม., ห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. ไปจนห้อง 2 Bedroom 52 ตร.ม. ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มี Layout แตกต่างกันตามดีไซน์ใหม่ที่เค้าขยับนี่แหละครับ ซึ่งที่โครงการมีห้องตัวอย่างให้ดู 2 รูปแบบนะ

ขอเริ่มที่รูปแบบใหญ่กว่าอย่าง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม. ห้องนี้เค้าปรับตำแหน่งระเบียง จากที่เคยอยู่แนวขนานกับห้องอเนกประสงค์ ปรับให้ Compact ลงหน่อย แล้วก็ย้ายไปไว้ตรงกลางระหว่างห้องนอนกับห้องอเนกประสงค์ ซึ่งทำให้เกิดสเปซใช้งานใหม่ในห้องนอนครับ เดี๋ยวค่อยๆ ไปดูด้วยกัน

เข้ามาเราเจอพื้นที่ของครัว ที่เค้าทำเคาน์เตอร์หน้าบานสีไม้อ่อนสวยๆ มาให้เรียบร้อย พร้อม Hob และ Hood ดูดควันจาก Teka ส่วนเครื่องซักผ้าก็วางไว้ใต้อ่างล่างจานได้ ส่วนตัวใครที่ไม่ได้เน้นทำครัวอยู่แล้ว พื้นที่เท่านี้ก็พอ เน้นส่วน Living Area ก็จะได้ใช้มากกว่า เค้ากั้นระหว่างห้องด้วยบานเลื่อน 3 ตอนที่เปิดกว้างได้สะดวกสบายครับ

อีกข้อดีของห้องนี้คือห้องน้ำเข้าออกได้จาก 2 จุด จากห้องครัวและห้องนอน การวางตำแหน่งดีก็ทำให้ใช้ชีวิตสะดวกขึ้นเยอะเลย

ส่วนด้านในเค้าก็จัดวาง Flow การใช้งานเรียงกันไปทั้งโต๊ะกินข้าวและมุมนั่งเล่น ซึ่งถ้าจะนั่งดูซีรีย์ให้สะดวกก็ปรับหันเข้าทีวีแทนครับ ห้องนี้ได้เพดานสูง 2.5 ม. นะ

ห้องอเนกประสงค์อยู่ด้านในสุดครับ ทุกตอนของห้องจะเป็นบานเลื่อนใสหมดเลยเพื่อช่วยเรื่องแสงสว่างและความโปร่งภายในห้อง

พอปรับขนาดและตำแหน่งของระเบียงแล้วเราจะมีพื้นที่ห้องพลัสเยอะขึ้นเลยล่ะ ทีนี้ก็ได้มีตัวเลือกเพิ่มเติมว่าอยากปรับเป็นห้องอะไร ไม่ว่าจะห้องทำงานแบบที่เค้าแต่งเป็นไอเดีย จะห้อง Gaming สตูดิโอส่วนตัว หรืออะไรก็ตามที่เราให้ความหมายกับมันในชีวิตก็ปรับได้ตามต้องการครับ เพียงแต่ตัวกระจกห้องจะไม่ได้เป็นแบบที่เห็นนะ เป็นข้อจำกัดของพื้นที่ที่เค้าทำห้องตัวอย่าง ของจริงจะไม่ได้เต็มบานพื้นจรดฝ้าแบบนี้ครับ มีช่วงปูนด้านล่างนิดหน่อย

มองออกไปจะเห็นระเบียงซึ่งคั่นอยู่ระหว่างห้องอเนกประสงค์กับห้องนอน พอไม่ได้ใช้วางเครื่องซักผ้าแล้ว ไม่ต้องพื้นที่มากก็เข้าใจได้

ไปดูโซนพักผ่อนที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นกัน

เปิดประตูบานทึบเข้ามาเป็นห้องนอน วางเตียง จัดทำตู้เสื้อผ้าได้ครบครับ และที่เห็นเป็นผนังที่เค้าแขวนรูปก็คือพื้นที่ของระเบียงที่มันมาอยู่ตรงกลางนั่นแหละ ตรงนี้เราก็จะมีสเปซเหลือที่มุมฝั่งซ้ายนั่นเอง

นี่คือ Corner ส่วนตัวในห้องนอนที่เพิ่มขึ้นมา จะจัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือจะทำโต๊ะเครื่องแป้งก็เหมาะสม อยู่ติดกับหน้าต่างรับกับแสงธรรมชาติพอดีเชียว นี่แหละครับคือผลที่ได้จากการเพิ่มพื้นที่เพื่อรับกับฟังก์ชันโดยเฉพาะ

อีกฝั่งนึงก็เป็นตำแหน่งห้องน้ำ ที่อยู่ติดกับตู้เสื้อผ้านั่นเองครับ

ห้องน้ำนี้ก็ตามมาตรฐาน LIFE นะ ได้กระจกบานใหญ่ ฉากกั้นอาบน้ำ พร้อมสุขภัณฑ์จาก Kohler และ Englefield ผมสังเกตเห็นมุมเก็บของที่เค้าเจาะไว้มันอยู่ตำแหน่งหลัง Hand Shower ก็ดูจะไม่มีน้ำแช่ขังอยู่ในช่องเวลาอาบดีนะครับ

ครบแล้วสำหรับห้องแรก เดี๋ยวเราตามไปดูอีกห้องกันต่อ

ห้องสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด รูปแบบ 1 Bedroom

พื้นที่ใช้สอย 30 ตร.ม. น่าสนใจไม่แพ้กัน ได้มีมุมทำงานเพิ่มมาด้วยในส่วนของ Living Area ครับ

ห้องนี้เข้ามาเจอครัวก่อนเลย ถัดไปคือห้องนั่งเล่น และค่อยเข้าสู่ห้องนอน กั้นเป็นสัดส่วน 3 ตอนคล้ายห้องแรกครับ

ส่วนครัวห้องนี้มีตำแหน่งวางตู้เย็นเป็นมุมเข้าไปวางได้พอดี๊พอดี เป็นผลจากการออกแบบห้องแบบ Interlock ระหว่างห้องที่อยู่ติดกันครับทำให้ห้องได้มุมใช้งานคนละแบบ ส่วนห้องน้ำนี้เข้าได้จากด้านหน้าเลยนะ

จะให้ดูสีของเฟรมบานเลื่อนกระจกก็เป็นสีครีมดูสวยหรู รางของบานเลื่อนเค้าก็ทำซ่อนแบบราบเรียบ เดินไม่มีสะดุดครับ

มาดูโซน Living & Dining ตรงกลางห้องกันสักหน่อย

ห้องนี้จัดวางแบบเอาใจคนติดการหาอะไรดูตอนกินข้าวมากกก 555 ทุกวันนี้ก่อนจะหยิบช้อน ต้องหยิบรีโมทมาเปิดหาหนังหรือซีรี่ส์ดู บางวันกดหาจนข้าวหายร้อน ยังหาอะไรดูไม่ได้ ก็จัดตำแหน่งหันหน้าเข้าทีวีให้ซะเลย

และที่พิเศษของห้องนี้ คือ Working Corner นี่เลยครับ เป็นมุมที่เหมาะกับการใช้สมาธิ เป็นพื้นที่ส่วนตัวแถมหันหลังให้ทีวีเลย ฮ่าๆ ถ้าสังเกตดีๆ มุมนี้ก็คือหลังตู้เย็นที่เห็นเมื่อครู่นี้นั่นเอง พื้นที่ที่ขยับมันมีความหมาย ใช้ได้คุ้มค่า

และโซนสุดท้ายคือห้องนอน พร้อมพื้นที่ระเบียงเข้าออกได้ตรงนี้ครับ

ตำแหน่งแอร์พอดีเลยไม่ต้องกลัวไม่เย็น แล้วผนังตรงนี้ก็ยังติดทีวีได้ด้วยนะ เห็นการใช้งานพื้นที่เล็กน้อยให้คุ้มค่าแล้วนึกถึงความเป็นญี่ปุ่น ส่วนสเปซก่อนออกไประเบียงก็ทำเป็นตู้เสื้อผ้าได้ครับ

มาดู Floor Plan กันสักเล็กน้อย เค้ามี 2 อาคาร

วางในรูปตัวแอลสลับฝั่งกัน อาคาร A ด้านล่าง อาคาร B

ด้านบน ทิศเหนือจะเยื้องไปทางซ้าย ซึ่งเป็นฝั่งที่ติดถนนซอยนราธิวาสฯ 22 ฉะนั้นอาคาร B ด้านนอกจะเป็นห้องทิศตะวันออกหันไปทางถนนนราธิวาสฯ คลองช่องนนทรี ส่วนอาคาร A ฝั่งด้านนอกจะเป็นห้องทิศตะวันตกหันไปทางสาธุประดิษฐ์ เลือกได้ชอบ Sun Rise หรือ Sun Set ครับ จากที่เห็นนี่สัดส่วนห้องรูปแบบ 1 Bedroom 30 ตร.ม. จะเยอะที่สุด ซึ่งจากการออกแบบผังห้องแบบ Interlock เชื่อมต่อกัน ก็ทำให้เกิดฟังก์ชันใหม่ๆ

ชม Facilities กันต่อครับ คอนเซ็ปต์ที่นี่ก็จะเน้นความผ่อนคลาย ให้คนเมืองพักชาร์จพลังได้ทุกวันไม่ต้องไปไหนไกล ใจกลางโครงการเค้ามีส่วนกลางเป็น Club House เสมือน Glass House

ใจกลางโครงการเค้ามีส่วนกลางเป็น Club House เสมือน Glass House ที่แยกออกมาจากตัวอาคารพักอาศัยเพิ่มความสงบ ด้านบนก็มีพื้นที่สวนสีเขียวอีกหนึ่งระดับ ส่วน Outdoor มีสระว่ายน้ำ 2 รูปแบบทั้งว่ายออกกำลังกาย หรือจะแช่น้ำในสระ Hydro Hibernation Spa ให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ท่ามกลางสวนที่มีพืชพรรณหลากหลายคอยฮีลจิตใจ

นั่งพักผ่อนหรือทำงานใน Glass House ก็ยังมองเห็นสวนและสระน้ำสีฟ้าผ่านกระจกบานใหญ่เต็มพื้นที่เปิดแบบพาโนรามา

ที่นั่งจัดมาให้หลายจุด หลากรูปแบบให้เลือกนั่งกันครับ ทั้งมุมส่วนตัว และโต๊ะยาวที่มีต้นไม้สีเขียวให้พักสายตา

พื้นที่ส่วนกลางแต่ละโซนจัดวางอยู่แบบ Independent ต่อกันครับ โดยมีสวนสีเขียวเป็นสิ่งเชื่อมโยงกันเอาไว้ไม่ว่ามุมไหนก็จะได้วิวตรงกลางให้ชื่นชม

อาคาร B ก็ไม่น้อยหน้า มี Gym พร้อมวิวสวนเช่นกันครับ นี่ก็น่าจะเป็นอีกสิ่งนึงที่ช่วยเลือกห้องได้นะว่าจะอยู่ตึกไหน ก็เลือกเอาว่าเราจะใช้ Facilities อะไรมากกว่ากัน สายฟิตน่าจะอยากได้ห้องบนอาคาร B นี่ล่ะนะ มาออกกำลังกายสะดวก

มาดูที่ตั้งของโครงการกันครับ อยู่ในซอยนราธิวาสฯ 22 หรือที่เรียกอีกชื่อว่าซอยสาธุประดิษฐ์ 15 เพราะถนนสองฝั่งเชื่อมถึงกันได้นั่นเอง ก่อนหน้านี้ที่ไซต์เคยเป็นโรงเรียนทวีวัฒนามาก่อน อยู่ห่างจากหน้าปากซอยประมาณ 300 ม.

ตรงข้ามเป็นโรงเรียน Saint Joseph ยานนาวาครับ

บรรยากาศซอยไม่มีรถพลุ่กพล่านในตอนกลางวัน ซึ่งก็พอมีร้านอาหาร ร้านกาแฟใกล้ๆ เดินนิดเดียว

ร้านครัวซองค์อย่าง Croissant Factory สาขานี้ให้ซื้อกลับบ้านหรือ สั่งเดลิเวอรี่ได้ และเค้ามีอีกที่คือสาขาทองหล่อ ที่สามารถนั่งทานในร้านได้ แป้งกรอบนอกนุ่มใน อร่อยใช้ได้เลย

ที่ปากซอยยังมีร้านกาแฟ Café 1009 บรรยากาศโฮมมี่อีกที่ เจ้าของน่ารักเป็นกันเองดีครับ

และมีร้านอาหารเกาหลี Chosun Bangkok ให้ฝากท้องอยู่ข้างกัน

รวมถึงมี BRT สถานีถนนจันทน์ เยื้องปากซอยนิดหน่อยครับ

ถนนนราธิวาสราชนครินทร์นี่ช่วงซัมเมอร์ส๊วยสวยมีคลองช่องนนทรีล้อมรอบด้วยดอกไม้บานสีสดใส

ผมลองไปดูสีสันของอีกซอยที่อยู่ถัดกันอย่างซอยนราธิวาสฯ 24 (ซ.วัดโพธิ์แมน) หรือซอยสาธุประดิษฐ์ 19 ในนี้มี Nara Place ของกินเพียบเลย

ที่นี่มีอาหารต่างชาติเยอะมากก อาหารจีน อินเดีย เลบานอน รวมถึงเวียดนาม ไม่กี่คูหาเที่ยวไปหลายประเทศแล้วเนี่ย

ร้านอาหารญี่ปุ่นของโปรดผมก็มี นี่คือ amairo by ISAO

ร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมียมที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดีในสไตล์ซูชิบาร์

วันนี้ผมแวะมาทานร้านอาหารฝรั่งเศส ร้าน Bistro L’Artisan มีหลากหลายเมนู แปลกใหม่ดีครับ รสชาติใช้ได้เลย บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศ เพราะมีแต่ลูกค้าชาวต่างชาติทั้งนั้น Vibe ดีมากๆ ครับ

ในซอยนี้เป็นที่ตั้งของ Chatrium Residence ด้วย เลยมีร้านค้าร้านอาหารเยอะทีเดียว

มี 7-11 คลินิกและร้านซักรีดด้วย

เสียงเจื้อยแจ้วตอนกลางวันก็มาจากโรงเรียนนานาชาติในซอยนี้มีถึง 2 แห่งเลยครับ

ขยับออกมาสักนิดบริเวณหัวมุมแยกรัชดา-นราธิวาสฯ ก็มีคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง The Up Rama 3 มีร้านค้า อาหารคาวหวาน ซุปเปอร์มาร์เก็ตครบครัน

ร้านอาหารเพียบครับ

แวะเติมพลังด้วยน้ำหวาน ชาองุ่นเจี้ยนชานี่ของโปรดผมเลย

ร้านกาแฟก็มี Double Slash นะ คนเพียบ

อยากทานอาหารจานเด็ดร้านไหนเลือกได้เลย

Villa Market นี่ผมชอบมาเดินดูสินค้าจากต่างประเทศบรรดาขนมของนอกหายากที่นี่มี แล้วก็มี KFC ของโปรดสั่งทุกวันอังคาร เพราะชอบโปร

ส่วนชั้นใต้ดินเค้ามีสถาบันสอนเด็กนักเรียน รวมถึงร้านสุกี้ด้วย ช่วงปิดเทอมคุณพ่อคุณแม่ก็พาน้องๆ มาที่นี่กันคึกคักครับ

นอกจากนี้ใกล้ๆ ในระแวกนี้ ก็ยังมีห้างใหญ่ทั้ง เซ็นทรัลพระราม 3, แม็กโคร โลตัส สาทร หรือจะไปตรงช่องนนทรี ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกใน Empire Tower และตึกมหานคร Landmark ของย่านนี้ครับ

และนี่ก็คือความน่าสนใจของ “LIFE สาทร – นราธิวาสฯ 22” ที่เราพาชมกันไปทั้งสำนักงานขายและทำเลนะครับ เป็นโครงการที่มาเติมความสงบให้ชีวิตคนเมืองในทำเลที่ไม่ค่อยมีโครงการใหม่เปิดเท่าไหร่

เหมือนเป็น Hidden Gem ที่อยู่ใกล้ CBD ดั้งเดิมอย่างสาทร ที่ชีวิตของคนทำงานนั้นผูกกับที่นี่แบบแยกไม่ออก ใครที่สนใจสามารถนัดเข้าชมโครงการได้เลยครับ เริ่ม 3.8 ล้านบาท*

ห้องดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า Modular Flow Design ปรับสเปซเพิ่มฟังก์ชันใหม่เข้ามาในพื้นที่เท่าเดิมครับ

ทำให้ในห้องนอนมีพื้นที่จัดทำโซนทำงานติดกับหน้าต่างแบบนี้ล่ะ

อีกห้องก็ปรับโซน Living & Dining ให้มี Working Corner เพิ่มเติม

แวะไปชมกันได้ครับ

Facilities ทำมาเพื่อคนชอบความสงบ อยู่กับธรรมชาติ