แอบดูคอนโด Supreme Legend ร่มรื่น อบอุ่น เหมือนคุณอยู่บ้าน เริ่ม 16.58 ล้าน

วันนี้เราจะพาไปดูคอนโดที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน บนทำเลใกล้สาทร ที่นี่ละลานตาด้วยไม้นานาพันธุ์ที่สร้างความร่มรื่น ออกแบบให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้หลาย Generation จุดเด่นอยู่ที่ความโอ่โถงกว้างขวาง ขนาดเริ่มต้นที่ 121 ตร.ม. ซึ่งในตอนนี้ เค้าจัดโปรโมชั่น 5 ยูนิตพิเศษ ที่มาพร้อมการตกแต่งบิวท์อินสวยงามให้เสร็จสรรพ ในราคาต่อ ตร.ม. ไม่ถึง 130,000 บาท จะเป็นยังไงวันนี้เราจะพาไปชมครับ

ทำเลที่ตั้ง

Supreme Legend เป็นคอนโดพร้อมเข้าอยู่ ซึ่งความสนุกของการชมโครงการแบบ “Ready to Move” ก็คือ การไม่ต้องใช้จินตนาการอะไรมาก ไม่ต้องยืนฟังพนักงานเค้าเล่าจากภาพบนจอ หรือดูแค่ผ่านโมเดล แต่เราสามารถปล่อยใจสบายๆ ค่อยๆ ลัดเลาะเดินชม เข้าไปซึมซับบรรยากาศจริงด้วยประสาทสัมผัสทั้งหมดของเราเอง คอนโดนี้อยู่บนซอยอมรครับ เป็นซอยที่เชื่อมระหว่างถนน 3 เส้น คือ ถ.นางลิ้นจี่ ถ.เย็นอากาศ และถ.พระราม 3 เวลาขับรถเข้ามาในโซนนี้ก็จะได้อารมณ์ความสงบในซอย โดยที่เกือบจะลืมไปเลยว่า เราเพิ่งหลีกหนีความวุ่นวายจากสาทรเข้ามาไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง (พิกัดโครงการ https://goo.gl/maps/QjCmm3MqpjRgUMCs6)

โซนนี้มีทั้งบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ อยู่กันเป็นชุมชนคึกคัก โดยเฉพาะถนนนางลิ้นจี่ ถนนจันทน์ และเย็นอากาศ มีร้านอาหารหลากหลาย ทั้งคลาสสิค ร่วมสมัย ไปจนถึงคาเฟ่ที่มีสไตล์เฉพาะตัวให้เลือกจนตาลาย มีที่ช้อปปิ้งที่สะดวกใกล้บ้านอย่าง Market Place นางลิ้นจี่ ซึ่งผมคิดว่าวิถีคนต่อจากนี้ก็คงจะไม่ได้พยายามจะไปห้างใหญ่ที่มีคนพลุกพล่านกันมากนัก มีทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต และ HomePro ให้ซื้อของใช้ มีร้านอาหารพร้อมที่จอดรถก็พอแล้วครับ แถวนี้ยังมี รร.นานาชาติสำหรับเด็กเล็ก และรายล้อมไปด้วยสนามแบด 4-5 คอร์ด ดูแล้วคงหาข้ออ้างไม่ออกกำลังกายไม่ได้แล้วแหละ ฮ่าๆ

ภาพรวมโครงการ

ความประทับใจแรกของการชมที่นี่ก็คือ “ความร่มรื่น” ในโครงการมีต้นไม้น้อยใหญ่เยอะมาก ไล่ตั้งแต่ด้านนอกที่เป็นรั้วไม้เลื้อยเขียวชอุ่มชุ่มทั้งแผง อยู่คู่เคียงกับต้นไม้ใหญ่ในแนวเดียวกับรั้วที่เค้าบรรจงรักษาไว้ ถัดเข้าไปอีกชั้นยังเป็นแนวไม้ยืนต้นสูงไล่ระดับขึ้นมา เดินมาถึงด้านในใจกลางโครงการก็ยังมีต้นไม้ขนาดใหญ่สูงโปร่งยืนตระหง่านเป็นพระเอกของสวนชั้นล่าง ที่ได้รับการเชิดชูความสวยเด่นด้วย Landscape ประดับประดาล้อมรอบ ที่ตรงนี้เราสามารถเดินไปรอบๆ โคนต้นไม้ หรือใช้เวลานั่งเล่นใต้ร่มเงาได้ด้วย ด้านข้างยังมี Water Feature เป็นบ่อน้ำสไตล์โมเดิร์นที่เลี้ยงไม้น้ำ และปลาคาร์ฟสีสันสวยงามแหวกว่ายให้ได้ชม

ความรู้สึกถัดมาก็คือ “ความสงบและเป็นส่วนตัว” บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ครึ่งนี้ เป็นที่ตั้งของอาคารสูง 7 ชั้น 2 อาคาร ซึ่งมียูนิตพักอาศัยเพียงแค่ 71 ยูนิตเท่านั้น (ที่จอดรถมากถึง 127 คัน) ที่เห็นว่าตัวเลขน้อยเพียงเท่านี้ เพราะเค้าเน้นห้องขนาดใหญ่ทั้งหมดครับ เพื่อให้เห็นภาพ ขนาดเริ่มต้นก็ไปถึง 121 ตร.ม. แล้ว ระเบียงก็พื้นที่มาก วางกระถางปลูกต้นไม้ได้เหลือเฟือ นี่จึงเป็นโครงการที่แต่ละคนมีพื้นที่ของตัวเองอยู่ได้สบายๆ กว้างขวาง และเป็นส่วนตัว

เมื่อบรรยากาศความร่มรื่นคือจุดเด่น บรรดา Facilities ในโครงการก็ได้รับการออกแบบให้คนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้ที่ใช้กระจกใสล้อมรอบ เปิดสายตาให้ชมต้นไม้น้อยใหญ่เหมือนไม่มีอะไรมากั้น สระว่ายน้ำที่อยู่บริเวณชั้น 2 ที่มีทั้งสระเด็ก Jacuzzi สตีม ซาวน่า ก็มีพื้นที่ Outdoor ให้นั่งเล่น ชมวิวทิวไม้ มีห้องฟิตเนสที่หันหน้าเข้าสู่สวน มีห้อง Multipurpose ที่เปิดรับลมได้ อ้อ แล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการพาคุณปู่คุณย่ามาอยู่ด้วย เพราะตั้งแต่ที่จอดรถจะมีทางลาด รวมถึงลิฟต์เพื่อให้รถเข็นสามารถเดินทางมาถึงบริเวณชั้น 2 นี้ได้สะดวกเลยครับ

รูปแบบห้อง

ที่นี่มีห้อง 3 Type ที่เป็นห้องแบบหน้ากว้างทั้งหมด จุดเด่นคือ จะมีพื้นที่ห้องนั่งเล่นขนาดโอ่โถง มีพื้นที่ครัวเป็นสัดเป็นส่วน เข้าออกสะดวก และส่วนพักผ่อนจะแยกไปอยู่คนละด้านเพื่อความสงบและเป็นส่วนตัว ทั้ง 3 รูปแบบคือ

  • แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 121-157 ตร.ม.
  • แบบ 3 ห้องนอน ขนาด 301 ตร.ม.
  • แบบ Duplex 3 ห้องนอน ขนาด 214 ตร.ม. (SOLD OUT)

วันนี้เราจะเน้นไปที่ห้องแบบแรก ซึ่งโครงการนำเอา 5 ยูนิต (เริ่มที่ขนาด 129.5 ตร.ม.) มาตกแต่งบิวท์อินด้วยราคาพิเศษที่ 16.58 ล้านบาท จะเป็นยังไงตามไปชมภาพบรรยากาศโครงการและห้องด้านในกันได้เลยครับ

สำหรับแฟนเพจที่สนใจโครงการ ก็ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่นี่เช่นเคยครับ >> http://bit.ly/2p4o1Ji

คอนโด Supreme Legend

ใครที่กำลังมองหาโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่สบาย

ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน

ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่น ร่มรื่น

รวมไปถึงพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางกว่าคอนโดทั่วไป….

ตามมาชมพร้อมกับเราได้เลยครับ

เมื่อเข้ามาด้านในโครงการ ภาพจำยังชัดเจนเหมือเดิมทุกอย่าง…

ตอนที่ผมมาถ่ายรายการที่นี่คราวก่อน บรรยากาศอันร่มรื่น ความเขียวขจีของต้นไม้ใบหญ้า ก็ดูสวยสะดุดตา เหมือนโดนดูดเข้าไปใกล้ธรรมชาติ แบบที่ไม่น่าเชื่อว่านี่คือคอนโดใจกรุงเทพฯ แบบเดียวกันนี้เลย

ต้นไม้เจ้าคุณปู่ ที่ตั้งอยู่มาหลายสิบปี ก็ยังมีสภาพดี คอยให้ร่มเงา และมอบออกซิเจนให้คนที่นี่ได้สดชื่นเหมือนอย่างเคยๆ

มุมต่างๆ รอบโครงการ ก็ยังร่มรื่น และมีไอเย็นให้สัมผัสกัน

เสียงนกร้อง ผีเสื้อที่บินโฉบไปมา ฝูงปลาที่แหวกว่าย สะท้อนความเป็นอยู่ของสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ ภายในโครงการแห่งนี้อยู่ตลอดเวลาเลยครับ

โครงการนี้มีทั้งหมด 2 อาคาร บรรยากาศภายในล็อบบี้ด้านล่างทำออกมาคล้ายคลึงกัน คือมีกระจกบานใหญ่อยู่รอบทิศทาง ทำให้มุมมองในทุกๆ ด้านถูกเปิดกว้าง ใครได้ลงมาใช้เวลาในล็อบบี้ก็เหมือนได้นั่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมอยู่ตลอดเวลาเลย

และด้วยจำนวนยูนิตทีน้อยมากๆ ความเป็นส่วนตัวและความสงบจึงเป็นสิ่งที่มาคู่กันอยู่เสมอครับ

ก่อนจะขึ้นไปชมห้องตัวอย่างสวยๆ ผมขอพาขึ้นมารับลมกันอีกสักเล็กน้อย…

พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่ อยู่บริเวณชั้น 2 จะออกกำลังกายสักหน่อยก็เดินขึ้นบันไดมาได้ หรือถ้ามีผู้สูงวัยก็ไม่มีปัญหานะครับ เพราะโครงการออกแบบด้วยหลัก Universal Design ให้ทุกเจนสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่ลืมความสะดวกสบายของผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นการทำทางสโลป ทั้งทางขึ้นลิฟต์และลานจอดรถ ตัวลิฟต์ก็ตั้งใจทำให้กว้างสำหรับรถเข็นเข้าได้เลยครับ

อีกหนึ่งมุมสบายๆ ในโครงการ ที่มีทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ ทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่, มีจากุซซี่, ห้องฟิตเนส, ห้อง Multipurpose Room หรือห้องประชุม, สตีม และซาวน่า

ห้อง Multipurpose Room สามารถกั้นแบ่งเป็นห้องประชุม หรือเปิดประตูรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่เลยครับ เหมาะกับการใช้ชีวิตช่วงเวลานี้มาก

มีห้องสตีม ซาวน่า เตรียมพร้อมให้ได้ใช้งานกัน

พร้อมตู้ Locker เก็บของ

ห้องออกกำลังกายหันหน้าสู่วิวสระและสวนสวย จะเห็นได้ว่าโทนการตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางเค้าคงไว้ซึ่งความอบอุ่น ให้ความรู้สึก Homey อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ เพดาน หรือพื้นห้อง ใช้โทนสีน้ำตาลให้เข้ากับธรรมชาติด้านนอก ผนังลายหินอ่อนต่างๆ ชวนให้รู้สึกเหมือนออกกำลังกายอยู่ที่บ้านตัวเองดีๆ นี่แหละครับ

จากนั้นเราก็เข้ามาชมห้องตัวอย่างใหม่ของที่นี่กันครับ มาคราวนี้ห้องยังกว้างขวางและอยู่สบายเหมือนเดิม แต่มีความพิเศษและความคุ้มค่าเพิ่มเติมเข้ามาให้มากขึ้น จะเป็นยังไง ตามไปดูกันต่อเลยครับ…

สำหรับห้องนี้มีขนาด 129.5 ตร.ม. เป็นแบบ 2 ห้องนอน โดยแบ่งแยกส่วนพักผ่อนที่เป็นห้องนอน กับส่วนทำกิจกรรมต่างๆ อย่างห้องนั่งเล่นแยกฝั่งซ้ายขวากันครับ

เปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอเหมือนพื้นที่โถงทางเข้า หรือที่ตามบ้านฝรั่งเค้าเรียก Mudroom นั่นแหละครับ คือจะเป็นพื้นที่ให้เจ้าของบ้านได้เก็บข้าวของ แขวนเสื้อคลุม วางกระเป๋า รองเท้า ร่ม แขวนหมวก นั่งสวมรองเท้าเป็นต้น ซึ่งถ้าเป็นคอนโดนส่วนใหญ่ก็จะหาที่วางแบบนี้ค่อนข้างยาก ด้วยพื้นที่ที่จำกัด

แต่ในส่วนนี้เค้าทำมาให้ใช้ประโยชน์นั้นได้เต็มๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นตู้เก็บรองเท้า ชั้นวางของ จุดแขวนเสื้อคลุมต่างๆ ซึ่งตู้ที่เค้าบิวท์อินมาให้ในรอบนี้มันใหญ่จุใจเปิดได้ทุกบานตลอดแนวเลย

มีช่องระบายอากาศสำหรับตู้เก็บรองเท้าไว้ให้ ช่วยลดกลิ่นอับได้

ที่นั่งสำหรับใส่รองเท้าบางทีกลับจำเป็นอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างเราๆ พออายุเริ่มมากขึ้นจะก้มจะเงยก็ไม่คล่องตัวเหมือนแต่ก่อนนะครับ พอมีแล้วก็ต้องนั่งไม่รู้ทำไม ฮ่าๆ มันก้มใส่รองเท้าสบายขึ้น เอาไว้นั่งเล่นโทรศัพท์รอเวลาคุณผู้หญิงเค้าเสริมสวย (นานหน่อย) หรือเวลามีแขกมาเยี่ยม ตรงนี้ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกได้ขึ้นเยอะเลย

เข้ามาดูฝั่งซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นแบบกว้างๆ กว้างพอให้ทำเป็นออฟฟิศย่อมๆ ได้เลยนะเนี่ย

ห้องด้านในเป็นครัวปิด มิดชิด มีชุดครัวติดตั้งให้เรียบร้อยทั้งซ้ายและขวา ท็อปเป็นหินสังเคราะห์มาพร้อมผนังที่เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย ตู้เก็บของ ลิ้นชักจานชามให้มาเยอะเต็มพื้นที่เลยครับ เรียกได้ว่าอยู่บ้านนี้ไม่มีอดตาย จะทำอาหารมื้อไหนก็ได้แบบเต็มที่

สามารถเปิดประตูเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้มากขึ้น ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้ให้เอาไว้ทำเป็นส่วน Laundry มีช่องแสงและลมพัดเข้ามาได้ แต่ด้วยข้อจำกัดของการอยู่คอนโด ตรงนี้อาจไม่ได้รับแดดเต็มที่เหมือนตากผ้าไว้นอกบ้าน แต่ก็สามารถใช้งานได้ไม่ต่างจากคอนโดที่อื่นครับ…และยังมีหม้อน้ำร้อนจาก Stiebel Eltron ที่โครงการติดตั้งไว้ให้เรียบร้อย เอาไว้ใช้งานน้ำร้อนน้ำเย็นได้ตามสะดวกครับ

ตัวแอร์เป็นแบบ VRF ฝังฝ้าเรียบร้อย ความสูงของห้องอยู่ที่ 2.65 เมตร พื้นเป็นไม้เอ็นจีเนียร์หน้าไม้โอ๊ค ให้ความรู้สึกอบอุ่นดีครับ

ความพิเศษของห้องตัวอย่างใหม่ในครั้งนี้อย่างที่บอกไปคือ เค้าให้ชุดเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินทั้งหมดเลย ดังนั้นชั้นวางของ ตู้บิวท์อินต่างๆ เราจะได้ตามนี้เลยครับ แต่เผื่อว่าใครยังไม่ถูกใจโทนสี หรือการตกแต่งก็สามารถเลือก Theme ที่เหมาะกับตัวเองได้ จะมี 3 แบบให้เลือกคือ Earth Tone, Colorful เปลี่ยนเป็นGrow Greenค่ะ และ Smoke Gray แบบในห้องตัวอย่างนี้ครับ

มุมทานข้าวอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับห้องนั่งเล่น เป็นพื้นที่เปิดโล่งกว้างๆ สามารถจัดวางโต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่ได้ตามจำนวนสมาชิกในบ้านเลย แถมยังเดินไปมาได้สบาย

อย่างชั้นวางของก็บิวท์อินไว้ให้เรียบร้อย เรารับห้องไปแบบนี้ได้เลย

มุมนี้หาวิธีการจัดชั้นสวยๆ ช่วยขับให้ห้องอยู่ดี มีสไตล์มากขึ้นได้แน่นอนครับ

ฝั่งชั้นวางทีวีบิวท์อินให้ยาวเต็มพื้นที่ แถมระยะดูทีวียังเหลือใช้ขนาดนี้ ผมว่า OLED TV ไซส์ใหญ่ที่สุดต้องมาแล้วล่ะ

ห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งประตูเป็นกระจกบานสไลด์สีเขียวตัดแสง

พื้นที่ด้านนอกกว้างขวาง สามารถใช้งานได้จริงเลยครับ จะวางต้นไม้ ไทรใบสัก ยางอินเดีย สวยๆ ตามน้องญาญ่า หรือจะจัดวางชุดโต๊ะกาแฟเล็กๆ สำหรับสองที่นั่ง เอาไว้เป็นมุมรับลม ฟังเสียงนกร้องยามเช้าก็ลงตัวดีครับ

ตรงนี้วางโซฟาขนาดใหญ่แบบเข้ามุมก็ลงตัวพอดี เป็นมุมพักผ่อนที่ไม่อยากลุกเลย

ข้อดีของห้องที่มีพื้นที่โล่งเยอะ ทำให้เราสามารถเลือกของตกแต่งชิ้นใหญ่ในสไตล์ที่เป็นเราได้สบายเลยครับ

ถัดเข้ามาดูในมุมที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นอย่างฝั่งห้องนอนกันบ้าง

ด้านนอกจะมีห้องน้ำขนาดใหญ่หนึ่งห้อง ที่มีส่วน Shower ไว้ให้เรียบร้อย เป็นห้องน้ำให้แขกมาใช้ได้สะดวกโดยไม่ต้องรบกวนเจ้าของบ้าน

ด้านหลังกระจกจะเป็นตู้เก็บของซ่อนไว้อยู่ เปิดหยิบใช้งานได้ง่ายๆ ไม่ต้องตั้งข้าวของเครื่องใช้ไว้บนอ่างล้างมือให้รกด้วยครับ

สำหรับห้องนอนห้องนี้อยู่ติดกับห้องน้ำเมื่อสักครู่ สามารถเดินเข้าออกใช้ง่ายได้ใกล้ๆ ครับ

มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ติดตั้งมาให้พร้อมแล้ว  พร้อมการตกแต่งหัวนอนให้มีสไตล์มากขึ้น ถ้าไม่เน้นโต๊ะข้างตัวเตียง ก็จัดเตียงขนาด King Size ได้เลยพื้นที่เพียงพอครับ

เค้าทำตู้ไว้ตลอดแนวผนังฝั่งประตูห้องเลยครับ ใช้งานได้งานเพราะมีระยะยืนสบายๆ

รวมไปถึงผนังด้านข้างที่โครงการทำเป็นชั้นวางไว้ให้ (มีทั้งฝั่งข้างหัวเตียงและฝั่งปลายเตียง) ให้ได้ปรับเป็นมุมทำงาน มุมอ่านหนังสือ เก็บข้าวของเครื่องใช้ หรือตั้งรูปโชว์สวยๆ ช่วยให้ห้องดูน่าอยู่ขึ้นครับ

ถัดเข้ามาด้านในอีกห้อง เป็น Master Bedroom แม้โครงการจะลองจัดวางเตียง King Size ไว้เป็นตัวอย่าง ก็ยังมีพื้นที่สองข้างเตียงเหลือพอให้ลงโต๊ะหัวเตียง วางตู้ วางโคมไฟสวยๆ ได้

พื้นที่ปลายเตียงจะตั้งโต๊ะทำงานตัวยาวแบบนี้ หรือจะบิวท์อินชั้นวางทีวี ไม่ก็ปล่อยพื้นที่โล่งๆ แล้วเนรมิตให้เป็นโรงหนังส่วนตัว ฉายโปรเจกต์เตอร์เข้ากำแพงก็ทำได้แบบฟินๆ เลยนะครับ

ในห้องนอน Master นี้มีระเบียงให้ด้วย สามารถเปิดประตูให้ลม Flow เข้ามาในห้องได้ทุกเมื่อเลย (ยกเว้นช่วงมี PM2.5 เยอะๆ ก็ชมผ่านกระจกไปก่อนนะ)

ห้องนี้เค้าบิวท์ตู้เสื้อผ้ามาให้เพียบพร้อม จัดไปเลยครับกับมุม Walk-in Closet ก่อนเข้าสู่ห้องน้ำในตัวห้อง 

ตู้เสื้อผ้าทำเป็นรูปตัว L เพื่อให้ได้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า ด้านในทำลิ้นชักและราวแขวนไว้ให้พร้อม เลือกจัดวางได้ตามการใช้งานเลย

ส่วนห้องน้ำด้านในก็ใหญ่ไม่แพ้กัน และมีฉากกั้นส่วนเปียก ส่วนแห้งไว้ให้เรียบร้อย ก๊อกน้ำเป็นของ GROHE และสุขภัณฑ์จาก TOTO ครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับกับโครงการ Supreme Legend ที่ผมพาทุกคนมาชมกัน ทั้งบรรยากาศอันร่มรื่น และห้องตัวอย่างที่รอบนี้ให้ชุดบิวท์อินมาครบทั้งห้องแบบนี้ มันน่าอยู่ ชวนให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน บนทำเลใกล้ใจกลางเมืองกันมั้ยครับ โครงการที่นำพาธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่อาศัย อยู่สบาย แล้วให้ความรู้สึกไม่ต่างจากบ้าน ก็ไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆ นะครับ ทั้งความสะดวกสบายในเรื่องการเดินทาง รองรับการอยู่อาศัยของคนทุกวัย การออกแบบพื้นที่ใช้สอยในห้องให้เป็นศูนย์รวมของครอบครัว เป็นเหมือนที่พักทั้งกายใจ ให้เราใช้เวลากับคนที่รักได้อย่างลงตัว สงบ เป็นส่วนตัว นี่คือจุดที่ทำให้ Supreme Legend เป็นโครงการที่น่าอยู่ และน่าสนใจให้ได้ลองเข้าไปชมกันครับ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 02-679-8128 และ [email protected]