ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก รายงานว่า ศูนย์อาหารหรือฟู้ดคอร์ทได้กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการห้างสรรพสินค้าในการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า และเป็นหนึ่งในแม่เหล็กที่ดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการ
เป็นเรื่องปกติที่จะเห็นภาพศูนย์อาหารเต็มไปด้วยพนักงานออฟฟิศในช่วงพักกลางวัน จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นนักเรียนนักศึกษาที่ใช้เวลาในศูนย์อาหารหลังเลิกเรียน ซึ่งศูนย์อาหารมักขายอาหารที่ทำได้อย่างรวดเร็วและราคาไม่แพง
จึงเป็นจุดหมายที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้บริโภคที่มองหาตัวเลือกที่มีราคาย่อมเยา นอกเหนือไปจากร้านอาหารในห้างสรรพสินค้า ธุรกิจบริการจัดส่งอาหารที่เติบโตขึ้นทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปสั่งอาหารทางออนไลน์มากขึ้น และเข้าไปรับประทานอาหารที่ร้านน้อยลง
นางสาวจริยา ถ้ำตรงกิจกุล หัวหน้าแผนกพื้นที่ค้าปลีก ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวว่า “ในขณะที่ผู้ประกอบการศูนย์อาหารทั่วไปสามารถรักษาระดับลูกค้าไว้ได้ด้วยการปรับปรุงบรรยากาศและการบริการให้ดีขึ้น แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้มุ่งสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างด้วยการปล่อยเช่าพื้นที่ศูนย์อาหารให้กับร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ เพื่อดึงดูดลูกค้า”
ชื่อเสียงของกรุงเทพฯ ในฐานะหนึ่งในเมืองสตรีทฟู้ดชั้นนำของโลกเป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับ โดยยูโรมอนิเตอร์รายงานว่ามูลค่าตลาดอาหารสตรีทฟู้ดโดยรวมในประเทศไทยอยู่ที่ 276,000 ล้านบาทในปี 2560 และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 340,000 ล้านบาทภายในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.3% ต่อปี
แม้ตลาดอาหารสตรีทฟู้ดในไทยจะเติบโต แต่ร้านอาหารเหล่านี้มักขาดการบริหารแบบมืออาชีพและอาจประสบปัญหาในการเข้าถึงลูกค้าเนื่องจากที่ตั้งร้านอาจอยู่ในทำเลที่เป็นรองและมีเวลาเปิดปิดร้านที่ไม่เหมือนกัน
แผนกวิจัย ซีบีอาร์อีรายงานว่าการรวบรวมร้านอาหารสตรีทฟู้ดให้มาอยู่ในรูปแบบศูนย์อาหารจึงอาจทำให้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยเจ้าของโครงการค้าปลีกสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้มากขึ้น ขณะที่ร้านอาหารสตรีทฟู้ดก็สามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาวได้
ในปี 2557 เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดตัว “อีทไทย (Eathai)” ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ ศูนย์อาหารระดับบนที่มีร้านอาหารไทย 56 ร้าน ตั้งแต่ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงไปจนถึงร้านอาหารสตรีทฟู้ดจากทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ ต่อมาในปี 2561 เซ็นทรัลพัฒนาได้เปิดตัว “ฟู้ดเวิลด์ (foodwOrld)” ที่เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเมนูอาหารไทยที่เป็นเอกลักษณ์กว่า 600 รายการทั้งจากร้านอาหารที่มีชื่อเสียงและร้านอาหารสตรีทฟู้ด
ด้านกลุ่มเดอะมอลล์ได้เปิดตัว “กูรเม่ต์ อีทส์ (Gourmet Eats)” ที่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน โดยมีร้านอาหารที่ติดอันดับในมิชลิน ไกด์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 และในเดือนกันยายน 2562 สามย่านมิตรทาวน์ได้ร่วมมือกับเอ็ม บี เค เปิดให้บริการศูนย์อาหารสามย่านมิตรทาวน์ ที่มีร้านอาหารสตรีทฟู้ดที่มีชื่อเสียงกว่า 17 ร้าน
นอกจากนี้ แอม ไชน่าทาวน์ (I’m Chinatown) โครงการค้าปลีกที่เพิ่งเปิดใหม่และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมิกซ์ยูสที่พัฒนาโดย บริษัท แกรนด์ ยูนิแลนด์ จำกัด ยังได้นำอาหารสตรีทฟู้ดที่มีชื่อเสียงจากร้านทั่วกรุงเทพฯ โดยเฉพาะจากย่านเยาวราชเข้ามาเปิดที่บริเวณชั้น G และชั้น 2 เพื่อดึงดูดคนลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนมกราคม 2563
ในยุคหลังโควิด-19 ที่มาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยจะต้องสูงขึ้นนั้น เป็นที่น่าจับตามองว่าผู้ประกอบการศูนย์อาหารจะปรับตัวอย่างไร แผนกวิจัย ซีบีอาร์อีคาดการณ์ว่าการออกแบบผังที่นั่งใหม่ การสร้างบรรยากาศใหม่ การจัดพื้นที่ส่วนตัวสำหรับลูกค้าแบบกลุ่ม และการติดตั้งฉากกั้นพลาสติกอาจไม่เพียงพอไม่ใช่คำตอบในระยะยาว ศูนย์อาหารจะต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดค้าปลีกและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป