ฟินน์ อโศก คอนโดโลว์ไรส์ใหม่ใจกลาง CBD
ตอบทุกโจทย์การใช้ชีวิต ใกล้ชิดธรรมชาติมูลค่ากว่า 1,800 ล้าน
ฟินน์ ดิเวลลอปเม้นท์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ลุยตลาดนิชพรีเมียมรับปีใหม่ เอาใจคนเมืองที่รักธรรมชาติ ด้วยการตอบโจทย์การใช้ชีวิตครบ 360 องศา ในโลเคชั่นที่ใช่ คุ้มค่าเกินราคา เปิดตัว ฟินน์ อโศก (FYNN Asoke) ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 10 คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์สไตล์โมเดิร์น ทรอปิคอล บนทำเลทองผืนใหญ่ใจกลางอโศก แวดล้อมด้วยสวนสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผสมผสานการใช้ชีวิตคนเมือง และสโลว์ไลฟ์ได้อย่างลงตัว ตกแต่งพร้อมอยู่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 4.5 ล้านบาท หรือ 185,000 บาทต่อตารางเมตร
นายพงศธร จอม สาลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟินน์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ประกาศแผนดำเนินธุรกิจปี 2562 เตรียมรุกอสังหาฯ เต็มสูบ หลังประสบความสำเร็จกับการเปิดตัวคอนโดโลว์ไรส์ 2 แห่ง ภายใต้แบรนด์ ‘ฟินน์’ พร้อมชูไฮไลท์โครงการใหม่ล่าสุด ‘ฟินน์ อโศก’ มูลค่าโครงการกว่า 1,800 ล้านบาท ตึกคู่สุดหรูแบบ Affordable Luxury บนทำเลทองเกือบสองไร่ บนสุขุมวิทซอย 10 ห่างจาก BTS อโศก เพียง 550 เมตร พร้อมต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่า 60 ปีแผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาอย่างงดงามใจกลางโครงการ คำตอบที่ใช่สำหรับไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง ไม่เพียงแต่พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก แต่ยังตอบโจทย์ชีวิตที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น และใส่ใจสุขภาพ รักในการออกกำลังกายกลางแจ้ง เพราะสามารถเดินเชื่อมต่อไปยังสวนเบญจกิตติ ด้วยระยะทางเพียง 200 เมตร และเส้นทางเดินรอบทะเลสาบซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาพื้นที่เป็นสวนป่าเบญจกิตติ สวนที่ใหญ่ที่สุดใจกลางกรุงเทพมหานคร ด้วยพื้นที่ถึง 450 ไร่ ในราคาเริ่มต้นเพียง 4.5 ล้านบาทเท่านั้น อีกทั้งยังมีรูปแบบห้องให้เลือกมากถึง 6 ประเภท คาดได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และสามารถปิดการขายได้ภายในครึ่งปีแรก
สำหรับสองโครงการแรก คือ ‘ฟินน์ อารีย์’ มูลค่าโครงการกว่า 350 ล้านบาท ปัจจุบันปิดการขาย และโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดแล้ว และโครงการที่สอง ‘ฟินน์ สุขุมวิท31’ มูลค่าโครงการกว่า 800 ล้านบาท สามารถปิดการขายแล้วกว่า 90% โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จ และทำการโอนกรรมสิทธิ์ภายในไตรมาสที่ 4 ปีนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อีก 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการประเภทคอนโดมิเนียมและโรงแรม
นายไพทยา บัญชากิติคุณ Partner บริษัท อะตอม ดีไซน์ ผู้ออกแบบโครงการ ฟินน์ อโศก กล่าวว่า ได้ออกแบบในแนวคิดโมเดิร์น ทรอปิคอล ฟื้นฟูสมดุลย์ของการใช้ชีวิตใจกลางเมือง ด้วยการเชื่อมหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจที่หนาแน่นที่สุดเข้ากับความร่มรื่นของธรรมชาติ แรงบันดาลใจในการออกแบบ ฟินน์ อโศก เปรียบดั่งโอเอซิสแห่งความสงบร่มรื่นใจกลางความเร่งรีบของย่านธุรกิจ CBD โดดเด่นที่เส้นโค้งเว้าของอาคารรับวิวสวนสวยได้ทุกห้อง ตัวอาคารโอบล้อมต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่า 60 ปี ที่แผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาอย่างงดงาม และสร้างบรรยากาศการหลอมรวมกับพื้นที่สีเขียวอย่างน่าประทับใจ
ฟินน์ อโศก เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ตกแต่งพร้อมอยู่สูง 8 ชั้น 2 อาคาร ห้องชุดรวมทั้งหมด 263 ห้อง โดยแบ่งเป็น อาคาร A จำนวน 144 ห้อง และอาคาร B จำนวน 119 ห้อง พิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ และสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งภายในและภายนอกอาคารอย่างครบครัน อาทิ ห้องรับรองแขก พื้นที่ทำงานรวม ห้องฟิตเนส ห้องขี่จักรยานจำลอง ห้องโยคะ ห้องดูหนัง ศาลาจามจุรี สระว่ายน้ำความยาว 25 เมตร สระเด็กและถ้ำจำลอง และไฮไลท์สิ่งอำนวยความสะดวกบนชั้นดาดฟ้า พื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร อาทิ สวน และทางออกกำลังกาย แปลงปลูกผัก ระเบียงชมพระอาทิตย์ตก ฟอเรส เลานจ์ ครัวกลางแจ้ง เตาบาร์บีคิว เป็นต้น ด้านรูปแบบห้องพัก ประกอบด้วย 6 ประเภท ได้แก่ 1 ห้องนอน ขนาด 24-49 ตารางเมตร, 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 40-62 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 48-57 ตารางเมตร, 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 46-68 ตารางเมตร, 3 ห้องนอน ขนาด 104 ตารางเมตร และห้องดูเพล็กซ์ขนาด 120 ตารางเมตร
นางสาวอลิวัสสา พัฒนถาบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัทซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าสำหรับภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะโซนสุขุมวิท ต่อ CBD อื่นๆ ปลายปีที่ผ่านมา เทียบกับปี 2562 และ ทำเลทอง คอนโด Demand vs Supply โซนสุขมวิทยังคงเป็นทำเลที่นิยมของตลาดที่อยู่อาศัย และตลาดเช่า เนื่องจากใกล้เส้นรถไฟฟ้า และราคาของคอนโดมิเนียมในสุขุมวิทปัจจุบันสูงมาก หลายๆโครงการเปิดตัวที่ราคากว่า 250,000 บาทต่อตารางเมตร จากที่มีโครงการเปิดใหม่หลายแห่งในเส้นสุขุมวิท โดยเฉพาะโซนสถานีบีทีเอสพร้อมพงษ์ และทองหล่อ ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในทำเลเดียวกันจำนวนมาก ผู้บริโภคจึงจำเป็นต้องหาทำเลที่มี Supply น้อยลง และอยู่ในราคาที่จับต้องได้เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาในการตัดสินใจเลือกซื้อ
สำหรับตลาดที่อยู่อาศัย ที่จะมาแรงในปี 2562 คืออสังหาริมทรัพย์แนวราบ ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม โดยเน้นไปในโซน mid-town และชานเมืองมากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในใจกลางเมือง ทำให้ทำเลใน CBD ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมระดับซุเปอร์ลักชัวรี่ และ Branded Residence ซึ่งมีราคาสูง แนวโน้มของอสังหาฯ ปี 2562 นั้น ราคา ทำเล และรูปแบบของโครงการ คือสิ่งที่ผู้พัฒนาจะต้องปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค คอนโดมิเนียมประเภท Low-rise จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยในเมือง และราคาไม่สูงมากนัก ด้านราคาที่ดินยังคงสูงขึ้น โดยเฉพาะตามเส้นรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ ที่กำลังก่อสร้าง และอาจมีโอกาสเห็นการซื้อขายที่ดินราคาเกินสามล้านบาทต่อตารางวาในทำเลเดิม คือ ใจกลางลุมพินี เนื่องจากมีที่ดินแบบ Freehold เหลือไม่มากแล้ว
สำหรับพฤติกรรมของผู้บริโภค ผู้บริโภคมีตัวเลือกในตลาดมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการเปรียบเทียบ ผู้บริโภคมองคอนโดมิเนียมมากกว่าการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น แต่ต้องเป็นการลงทุนที่ดีด้วย เน้นเรื่องมูลค่าเพิ่มในอนาคต ซึ่งต่างจากเดิมที่จะมองแยกสองด้าน คือ มองว่าคอนโดมิเนี่ยมที่จะซื้อนั้นเหมาะกับอยู่เอง หรือ มองว่าจะซื้อเพื่อปล่อยเช่าหรือขายต่อ ผลตอบแทนจะเป็นอย่างไร ทางด้านผู้พัฒนาอสังหาฯ ก็ต้องปรับเปลี่ยนมาขายไลฟ์สไตล์มากขึ้น เพื่อชูความแตกต่างของแต่ละโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการที่มากขึ้นของผู้บริโภค