(1 กรกฎาคม 2565 : อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์) บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) สบช่องตอบรับการเติบโตของดีมานด์ตลาดคอนโดมิเนียมเมือง “หัวหิน” ล่าสุดเปิดตัวโครงการ “เวหา” (VEHHA) คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่บนทำเลศักยภาพสูงที่สุดในหัวหิน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Happiness Happens” มูลค่ารวม 2,290 ล้านบาท ชูจุดเด่น Single Corridor เห็นวิวทะเลแบบพาโนรามาทุกยูนิต อีกทั้งบริการโรงแรมเหนือระดับและสิทธิเข้าเล่นสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน ฟรี 5 ปี เป็นแห่งแรกของเมืองไทย พร้อม Fully Furnish แต่งครบจบทุกห้อง ด้วยราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท เพื่อรังสรรค์รูปแบบการใช้ชีวิตให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย และตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์อย่างมีความสุข สอดคล้องกับแนวคิด ‘More Than Just Living’ ของบริษัทฯ
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการ บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ของเมืองไทย เปิดเผยว่า “พราว เรียล เอสเตท เรามุ่งมั่นพัฒนาโครงการให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย เพื่อการใช้ชีวิตได้หลากหลายรูปแบบ โดยในส่วนของโครงการเวหา เป็นคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ที่สูงที่สุดในหัวหิน ติดโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน มูลค่าโครงการรวม 2,290 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแห่งที่สองที่พราวเป็นผู้พัฒนาต่อจาก “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม”
“โครงการเวหา ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Happiness Happens โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบ Single Corridor ทำให้มองเห็น วิวทะเลทุกยูนิตแบบพาโนรามา เรามีห้องให้เลือกถึง 7 แบบแต่ง Fully Furnish มีพื้นที่ส่วนกลางสูงถึง 2,647 ตร.ม. (ประมาณ 2 ไร่) ที่แทรกอยู่ระหว่างชั้นกว่า 10 ชั้น เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างหลากหลายลงตัว ตามแนวคิด “More Than Just Living” ซึ่งเป็นการผสานระหว่างการพักผ่อนและการบริการระดับรีสอร์ท ด้วยบริการเหนือระดับรวมถึงเซอร์วิสจากเครือโรงแรมระดับโลก คือ โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน พร้อมทั้งโปรแกรม “พราว พริวิเลจ” และสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากธุรกิจในเครือของพราวฯ และสิทธิเข้าเล่นสวนน้ำวานา นาวา ฟรี 5 ปี ซึ่งนับเป็นแห่งแรกในเมืองไทย และทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสุขให้ผู้อยู่อาศัยที่มากกว่าในราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท”
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในเมืองหัวหินยังมีโอกาสเติบโต ด้วยศักยภาพของเมืองที่มีเสน่ห์และมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน อีกทั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นแนวทางพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตทะเลฝั่งตะวันตกในโครงการ “Thailand Riviera” เพื่อยกระดับเมืองท่องเที่ยวชายทะเล สู่ระดับโลก ครอบคลุมตั้งแต่ จ.เพชรบุรี, จ.ประจวบคีรีขันธ์, จ.ชุมพร และ จ.ระนอง รวมถึงจาก Mega Project ของรัฐบาล อาทิ รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ สนามบิน และทางด่วนส่วนขยาย อีกทั้งแผนพัฒนาโครงข่ายการคมนาคม ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางโดยเครื่องบิน ปัจจุบันมีแผนขยายสนามบินเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และความร่วมมือกับ Phoenix Group เพื่อเตรียมพัฒนาสนามบินหัวหินสู่สนามบินนานาชาติหัวหิน โดยในเดือนกรกฎาคม 2565 จะมีการเพิ่มไฟล์ทบินตรงจากภูเก็ต และนำเส้นทางบินจากเชียงใหม่กับกัวลาลัมเปอร์กลับมาอีกครั้ง การเดินทางโดยรถยนต์ บนถนนพระราม 2 กำลังขยายเพิ่มเป็น 14 เลน ซึ่งตอนนี้เสร็จแล้ว 8 เลน และทางด่วนยกระดับคู่ขนานมอเตอร์เวย์นครปฐมและชะอำที่มีแผนเสร็จสิ้นในปี 2568 การเดินทางโดยรถไฟ มีแผนพัฒนารถไฟทางคู่และรถไฟไฮสปีดอย่างต่อเนื่องที่จะช่วยลดเวลาการเดินทางให้จากกรุงเทพฯ มาหัวหินใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีสัญญาณดีด้านการท่องเที่ยวและกำลังซื้อทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศโรงแรมและ การท่องเที่ยวในหัวหินได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากแคมเปญของรัฐบาลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในส่วนของตลาดที่พักอาศัยยอดขายส่วนใหญ่บ้านประเภท Resort Home ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ในด้านการท่องเที่ยวค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาเช่นกัน อีกทั้งยังพบดีมานด์ในกลุ่มลูกค้าชาวยุโรปที่ต้องการบ้านสำหรับช่วงเกษียณอายุโดยเฉพาะประเทศรัสเซีย
ด้านแผนการตลาด นางสาวพราวพุธ กล่าวว่า “เราวางกลุ่มเป้าหมายของ “เวหา” เป็นกลุ่มครอบครัวตั้งแต่คู่ที่เพิ่งแต่งงานไปจนถึงครอบครัวขนาดใหญ่ รวมถึงชาวต่างชาติที่เกษียณอายุการทำงานและอยากเข้ามาอยู่ในเมืองไทยในราคาที่จับต้องได้เฉลี่ยประมาณ 132,000 บาท/ตร.ม. ทั้งนี้อ้างอิงข้อมูลผลวิจัยจากไนท์แฟรงค์ฯ พบว่า ราคาเสนอขายเฉลี่ยคอนโดฯ วิวทะเลมีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่าห้องไม่ติดทะเล ปัจจุบันห้องไม่ติดวิวทะเลมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 70,700 บาท/ตร.ม. ห้องวิวทะเลราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 141,670 บาท/ตร.ม. และตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มที่พักอาศัยไม่มีวิวทะเลจะอยู่ที่ราคาต่ำกว่า 100,000 บาท/ตร.ม. กลุ่มที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ติดชายหาดมีราคาประมาณ 130,000 บาท/ตร.ม. หรือสูงกว่าและกลุ่ม Super Rare Item ที่หันหน้าเข้าหาวิวทะเลโดยตรงมีราคาเฉลี่ยสูงมากกว่า 275,000 บาท/ตร.ม. จึงมองว่าราคาขายของ “เวหา” มีความคุ้มค่าเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับทำเลที่ตั้ง”
“เบื้องต้นเราได้เริ่มทำการตลาดในฝั่งต่างประเทศไปบ้างแล้ว และกำลังเริ่มสร้างการรับรู้ในไทยผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยแบ่งสัดส่วนการทำงานตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศอยู่ที่ 20 : 80 ซึ่งค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายของเรา คาดว่าภายในสิ้นปี 2565 จะสามารถสร้างยอดขายจากโครงการนี้ได้ประมาณ 50%” นางสาวพราวพุธ กล่าว
โครงการเวหา (VEHHA) คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ที่สูงที่สุดบน Rare Area ในเมืองหัวหิน จำนวน 1 อาคาร สูง 31 ชั้น ทั้งหมด 364 ยูนิต พื้นที่ขนาด 5-1-9.5 ไร่ มูลค่า 2,290 ล้านบาท ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Happiness Happens’ ด้วยดีไซน์สไตล์ Contemporary Architecture ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน ผสานพื้นที่สีเขียวที่ให้กลิ่นอายความเป็นผืนป่า ขณะเดียวกันก็ยังคงมีความ Private ด้วย Floor Plan ที่โดดเด่นแบบ Single Corridor มองเห็นวิวทะเลทุกห้องแบบ พาโนรามาและสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน การตกแต่งภายในเน้นเลือกใช้ไม้พร้อมโทนสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ทั้งยังโปร่ง โล่ง สบาย กับความสูงของเพดานประมาณ 2.7 เมตร ในส่วนพื้นที่ทั่วไปของห้องแบบ Typical และประมาณ 6.10 เมตร ในส่วนพื้นที่ช่องเปิดของห้อง Duplex มีห้องพักให้เลือก 7 แบบ Fully Furnish แต่งครบ จบทุกห้อง ได้แก่ 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28-30 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 42-46 ตารางเมตร, 1 Bedroom Plus Corner พื้นที่ใช้สอย 44-45 ตารางเมตร, 2 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 56-109 ตารางเมตร, 2 Bedroom Jacuzzi พื้นที่ใช้สอย 103 ตารางเมตร, Penthouse พื้นที่ใช้สอย 148-153 ตารางเมตร และ Penthouse Duplex พื้นที่ใช้สอย 101-349 ตารางเมตร ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากกว่าทั้ง Family Zone, Relax Zone และ Retreat Zone รวมพื้นที่ส่วนกลางเกือบ 2 ไร่ (2,647 ตร.ม.) พร้อมสิทธิพิเศษเข้าสวนน้ำ วานา นาวา หัวหิน ฟรี 5 ปี และการบริการโรงแรมแบบเหนือระดับ รวมถึงโปรแกรม “พราว พริวิเลจ” กำหนดเริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/2565 คาดว่าแล้วเสร็จประมาณ ไตรมาส 2/2568