พูดถึงชื่อแสนสิริ หลายคนคงนึกภาพโครงการบ้าน และคอนโดที่ดีไซน์สวยสดงดงาม โดยเฉพาะบรรดา Luxury Projects ที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ด้วยสไตล์ที่แตกต่าง และความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งเปรียบเสมือนลายเซ็นต์ของแสนสิริที่แฝงไว้ในทุกๆ โครงการของเค้า แต่ก็นั่นแหละครับ สิ่งที่ทำให้คนที่เป็นผู้นำไม่หยุดอยู่กับที่จนโดนคนอื่นแซงไปก็คือ การไม่พอใจอยู่แค่ในสิ่งที่ตัวเองทำดีแล้ว และทุกวันนี้เราในฐานะหนึ่งในประชาคมโลกมีภารกิจร่วมกันก็คือ การลดโลกร้อน เพื่อโลกในวันนี้และเด็กในเจเนอเรชั่นต่อไป ได้มีโลกใบที่สวยงามน่าอยู่ดังเดิม
แสนสิริในฐานะผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ตั้งพันธกิจให้ทั้งองค์กรมุ่งไปด้วยกันสู่การเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593 (RACE TO NET ZERO MISSION) ฟังถึงตรงนี้แล้วนั่นหมายความว่า ที่อยู่อาศัย หรือผมขอเรียกแทนง่ายๆ ว่า บ้าน ที่เปรียบเสมือนสินค้าหลัก ซึ่งควรจะต้องมีทั้งคุณภาพที่ดี บริการที่ไว้ใจได้ และยังต้องสวยเพื่อสร้างความแตกต่างนั้นคงไม่พอ แต่ต้อง “ยั่งยืน” ด้วย สิ่งนี้ไม่ได้ทำเพื่อให้ตัวเองไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำให้โลก “รอด” ด้วย
จริงๆ สิ่งที่แสนสิริทำเพื่อสร้างความยั่งยืนนั้นมีหลายอย่างนะครับ หลักๆ แบ่งเป็น 3 ด้านคือ Waste Management, Energy และ Green โดยเรื่องที่เอามาเล่าให้ฟังวันนี้อยู่ในพันธกิจด้าน Waste Management เป็นสิ่งที่ผมชอบ เพราะเค้าทำด้วยความเก๋แบบแสนสิริ ผ่านโปรเจกต์ที่ชื่อว่า “Upcycling Upstyling” ด้วยความร่วมมือกับทาง GC มาเป็นปีที่ 2 ด้วยการนำเอาขยะที่ได้รับการคัดแยกเป็นอย่างดีที่ต้นทาง มาชุบชีวิตใหม่ เพิ่มมูลค่าเป็นสินค้า Lifestyle Product ต่างๆ และสิ่งนี้ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานวัสดุเหล่านั้นให้ใช้งานได้อีกรอบ เราอาจจะคุ้นเคยกับบรรดาของใช้อย่างเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ แล้วถ้าเราเป็นคนสร้างบ้านล่ะ เราจะทำอะไรดี..
ปีแรกแสนสิริทำถุงโอนให้กับลูกบ้านมาก่อนโดยร่วมมือกับแบรนด์ Pipatchara ปีนี้จะทำอีกทีก็ต้องมีสไตล์และเล่นใหญ่กว่าเดิม ปิ๊งไอเดียเป็นการทำ Outdoor Furniture ไปเลย ซึ่งมันก็ท้าทายด้วย 2 โจทย์ใหญ่ๆ นะครับ หนึ่ง คือเรื่องของอายุการใช้งาน และ สอง ต้องผสมกลมกลืนกับดีไซน์ของโครงการด้วย เราเข้าใจดีว่าการนำ Waste มาชุบชีวิตรอบที่สอง อายุการใช้งานมันก็คงไม่เท่ากับรอบแรก โจทย์นี้จึงต้องการวัตถุดิบที่ยังแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้จริง ซึ่งก็ได้ทาง GC นำขยะขวดพลาสติกมาผลิตเป็นเส้นใยถักทอคุณภาพดี ส่วนโจทย์เรื่องของงานดีไซน์ ก็ได้ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่มีสไตล์โดดเด่นเฉพาะตัว “คุณฟ้า จักษุเวช” จากแบรนด์ Fah Chak มาร่วมออกแบบด้วย คุณฟ้าผู้ซึ่งไม่ชอบทำอะไรตามเทรนด์ และมีลายเซ็นต์ของงานดีไซน์ที่ประกอบด้วยสิ่งที่ Contrast กันแต่เข้ากันได้ เคยฝากฝีมือการออกแบบยูนิฟอร์มพนักงานโรงแรมเครือ The Standard ของไทยมาแล้ว ไม่ใช่คนอื่นคนไกล
นี่ถือเป็นครั้งแรกของทั้งทาง GC และ Fah Chak ที่จะออกแบบและผลิต Outdoor Furniture จากขวดพลาสติก และจะกลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่มาช่วยเติมเต็มที่โครงการ เศรษฐสิริ ดอนเมือง ประกอบด้วย เตียงนอนริมสระ (Lounger) หมอน ร่ม และกระเป๋า Hamper ในชื่อ “The Mirage Collection” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของโครงการสไตล์ Georgian ที่มีทั้งความอ่อนช้อน และความสมมาตร แต่งแต้มด้วยเส้นสายรวมถึงสีสันที่โดดเด่นของสระน้ำบริเวณ Clubhouse จากที่ผมได้พูดคุยกับคุณฟ้า การออกแบบเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้งแบบนี้ Fabric คลุมเก้าอี้ต้องหนา ทนน้ำทนฝน และกันเชื้อรา ซึ่งเส้นใยที่มาจากพลาสติกนี้ได้คุณสมบัติที่ตอบโจทย์ แต่ก็หินเอาเรื่องในขั้นตอนของการทักถอ แต่ผมก็ชอบที่เค้าดีไซน์ออกมาได้อ่อนช้อยสวยงาม จนลืมไปเลยว่าเคยเป็นพลาสติกมาก่อน
เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นสวยเด้งด้วยสีสันสดใส พอวางกระเป๋า Hamper ลงด้วยอีกใบก็เข้ากันไปหมดพอดิบพอดี ช่วยขับงานดีไซน์ในส่วน Clubhouse ให้เด่นชัดน่าใช้งาน งานเฟอร์นิเจอร์ทั้งเซ็ตนี้ จำนวน 1 ชุด จะช่วยต่อชีวิตขยะขวด PET ได้ราว 275 ขวด คิดเป็นการช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีก 4.74 กิโลกรัม ผมประทับใจนะที่ตัวดีไซเนอร์เองก็ยังคิดต่อไปเผื่ออีกว่า หลังจากเก้าอี้หมดอายุการใช้งานแล้ว ก็ยังเอาไปทำเป็นกระเป๋า Beach Bag ได้อีก ต่อชีวิตก่อนจะเป็น Waste ไปได้อีกทอด
ผมว่านี่แหละ การทำเรื่อง Sustainability ที่ดีไม่ใช่แค่การทำเพียงคนเดียว แต่ต้องเกิดจากความร่วมมือของทุกคนที่เชื่อเรื่องนี้เหมือนกันมันถึงจะสำเร็จและยั่งยืน ขอชื่นชมแสนสิริที่สร้างสรรค์ผลงานรักษ์โลก และสิ่งแวดล้อมนี้ขึ้นมา ซึ่งจะช่วยจุดประกายสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่อยากสร้างโลกที่ดีขึ้นเหมือนกันได้ไม่มากก็น้อยครับ