เมื่อผมเห็นโครงการนี้ก็ต้องบอกเลยว่า นี่คือสิ่งที่เป็นรูปธรรมในการสร้างบ้านสักหลังเพื่อที่จะตอบรับความต้องการที่แตกต่างกันให้ได้หลายรูปแบบในบ้านหลังเดียว ทั้งคนที่อยากจะอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่หลายเจเนอเรชั่นแต่ก็อยากมีพื้นที่เป็นของตัวเอง ทั้งคนที่อยากทำบ้านเป็น Home Office แต่ก็ไม่อยากเสียความเป็นส่วนตัว หรือถ้าจะไปให้สุดอย่างเช่น อยากมีพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงได้เสมอ วันดีคืนดีอยากทำออฟฟิศ วันไหนอยากปรับเป็นบ้านก็ต้องเปลี่ยนได้ ที่นี่ตอบโจทย์แบบนั้นได้ครับ และเค้าทำได้อย่างไรเราจะมาดูกัน
The Haute กาญจนา-สาทร วิลล่าหรู 5 ชั้น
The Haute กาญจนา – สาทร มีโครงสร้างเป็นอาคาร 5 ชั้น รองรับทั้งการใช้งานเชิงพาณิชย์และที่พักอาศัยอย่างถูกต้อง จากผืนที่ดินทั้งโครงการประมาณ 2 ไร่ครึ่ง แบ่งเป็นบ้านแต่ละหลังสร้างบนเนื้อที่ราว 60 ตร.ว. รวมทั้งหมดเพียง 10 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งเค้าท้าทายข้อจำกัดของที่ดินขนาดนี้ให้ได้พื้นที่ใช้สอยสูงถึง 556 ม. ด้วยการใช้พื้นที่แนวดิ่งสไตล์ Vertical Living สูง 5 ชั้น ข้อดีของการออกแบบโครงการที่มีจำนวนยูนิตน้อยมากนี้ คือ เค้าสามารถวางแผนและดีไซน์เพื่อรักษาภาพรวมของทุกหลังได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทิศทางลม แสงแดด รวมไปถึงมุมมองที่จะเห็นบ้านข้างๆ ทำยังไงถึงจะใช้ชีวิตได้โดยไม่เสียความเป็นส่วนตัว ในขณะที่ได้วิวสวยๆ กลับมาด้วยในเวลาเดียวกัน
คำตอบนั้นได้มาจากงานดีไซน์อย่างชาญฉลาด นั่นก็คือ Façade อาคาร และสวนแนวตั้งนั่นเอง
บ้านแต่ละหลังจะมีการตกแต่งด้วย Façade อาคารดีไซน์เป็นระแนงโลหะที่บางส่วนสามารถเปิดปิดได้ มีประโยชน์ทั้งในแง่ของการช่วงพรางสายตาในจุดที่จะปะทะกับอาคารฝั่งตรงข้ามตรงๆ และยังช่วยลดทอนแสงแดด ความร้อนให้เข้ามาภายในอาคารได้อย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกันก็เติมพื้นที่สีเขียวที่มักจะเป็นจุดด้อยของการอยู่อาคารสูง ให้อยู่ตามตำแหน่งระเบียงบนชั้นต่างๆ ของตัวบ้าน ซึ่งจะแตกต่างกันไปในบ้านแต่ละหลัง แต่เมื่อลูกบ้านยืนอยู่บนถนนตรงกลางโครงการก็จะพบว่า ต้นไม้ที่เค้าออกแบบไว้ทั้งซ้ายและขวาของบ้านทั้งสองฝั่งนั้นส่งเสริมกันและกัน ทำหน้าที่เป็นเหมือนสวนแนวตั้งให้บรรยากาศที่ดีในภาพรวมของโครงการอีกด้วยครับ
แล้วความยืดหยุ่นของการตอบโจทย์การปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้เสมอทั้งการทำเป็นออฟฟิศและเป็นที่พักอาศัย ก็เกิดขึ้นได้จากการออกแบบ Space ที่ครอบคลุมการใช้งานไว้แล้วล่วงหน้านั่นแหละครับ
แต่ละชั้นของอาคาร ได้รับการออกแบบพื้นที่ไว้อย่างดีพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานที่เตรียมไว้รองรับ ทำให้ทุกชั้นนั้นมีฟังก์ชั่นครบในตัวเอง จะทำเป็น Office ทั้ง floor หรือเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัยทั้ง floor ก็ได้ทั้งหมด ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วจะมี 1 Open Space กว้างๆ ขนาดใหญ่อยู่บริเวณส่วนด้านหน้า และจะมีอีกหนึ่งห้อง พร้อมห้องน้ำไว้แล้วบริเวณด้านหลัง เจ้าพื้นที่กว้างๆ นี่เองที่ทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ และมีงานระบบรองรับเพื่อทำห้องน้ำเพิ่มไว้ได้ด้วย จึงเป็นที่มาของการตอบคำถามตอนแรกที่ว่าจะสร้างบ้านที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายให้ได้ทั้งหมดในอาคารเดียวได้ยังไงนั่นเองครับ
ถ้าอยากมีทั้ง Residential & Office อยู่ด้วยกัน ชั้นล่างก็ทำเป็นออฟฟิศสัก 3 floors ส่วน 2 ชั้นบนวิวสวยกว่าก็ทำเป็นพื้นที่อยู่อาศัยสัก 2 Floors ถ้าอยากอยู่เป็นครอบครัวใหญ่ ก็แยกกันไปเลยทุก Floor รองรับ 5 ครอบครัวทำเอาตามสไตล์ที่ตัวเองต้องการได้ทั้งหมด หรือถ้าไม่สุด อยากทำทุก Floor เป็นออฟฟิศก็รองรับได้ถึง 5 บริษัทกันไปเลยครับ
อย่างบ้านตัวอย่าง (และบ้านมาตรฐาน) ที่เราจะพาชมนี้ เค้าออกแบบให้ ชั้น 1-3 เป็นออฟฟิศ ชั้น 4-5 เป็น Residential Area ที่ยังรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการที่ติดตั้งประตู Digital Door Lock ไว้ที่บริเวณทางขึ้นชั้น 4 ซึ่งแม้ทุกหลังจะติดตั้งลิฟต์บ้านมาให้เพื่อความสะดวกสบาย ก็มาพร้อม Private Access ล็อคการใช้งานแต่ละชั้นไว้ได้ด้วยเพื่อความเป็นส่วนตัวครับ นอกจากนี้ทุกหลังยังมีระบบ Home Automation และรองรับการติดตั้ง EV Charger พร้อมที่จอดรถในบ้านได้ถึง 6 คันครับ
โครงการตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 0010 ในระยะเพียงแค่ 5 นาทีจาก MRT หลักสอง คนใช้รถใช้ถนนถือว่าใกล้กับถนนใหญ่สายสำคัญของฝั่งธนหลายสายไม่ว่าจะ ถ.กาญจนาภิเษก, ถ.เพชรเกษม, ถ.กัลปพฤกษ์, ถ.พระราม 2 เชื่อมต่อเข้าสู่สาทร และย่านพระราม 3 ได้ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกรายล้อมทั้ง Community Mall และศูนย์การค้าอย่าง The Explace, The Mall บางแค, ซีคอนบางแค, Lotus, Home Pro ตลาดบางแค สถานศึกษา โรงพยาบาล และใกล้สำนักงานเขตบางแคเพียง 800 ม. ครับ
และสำหรับใครที่สนใจสามารถลงทะเบียนวันนี้เพื่อรับ Exclusive Offers สำหรับงาน Exclusive Day 26-27 พ.ย. นี้ มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท* ได้ทันที คลิกลงทะเบียนเลยที่ https://bit.ly/3P5s69K หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-821-5653 ครับ
#LivingSneakPeek #SneakReview #TheHauteกาญจนาสาทร #TheVerticalBizVilla
เอาละครับทุกคน ผมจะพาไปดูบ้านตัวอย่างสวยๆ จากโครงการ The Haute กาญจนา-สาทร กันครับ ว่าการออกแบบและพื้นที่ใช้สอยที่เค้าบอกว่า
เริ่มกันที่จุดเด่นกันก่อนในเรื่องของ Façade อาคารที่นอกจากจะสวยเด่นเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว และลดทอนความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวอาคารด้วย อยู่เคียงคู่กับพื้นที่สีเขียวในแนวตั้งซึ่งเค้าจะวางต้นไม้ขนาดใหญ่มาให้อยู่บนระเบียงส่วนตัวในชั้นต่างๆ ครับ
หน้าบ้านกว้างมาก สามารถจอดรถเรียงกันได้ถึง 4 คันบริเวณนี้ และจอดอีก 2 คันบริเวณด้านข้างตัวบ้านในแนวลึกครับ
โครงการทำระบบรองรับการติดตั้ง EV Charger มาให้แล้วเรียบร้อย รองรับการใช้งานเพื่ออนาคตจริง ๆ ครับ
เรามาลองดูตัวอย่างการจัด Layout ของบ้านตัวอย่างกันก่อนนะครับ ที่นี่เค้าทำชั้นล่างให้เสมือนโซน Lobby ของ Office ด้วยพื้นที่ Open Space กว้างๆ ก็สามารถรองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ หรือถ้าใครอยากจัดให้เป็นรูปแบบบ้าน ชั้น 1 ตรงนี้ก็เหมาะมาก ๆ ที่จะทำเป็น Guest Zone เวลาใครมีธุระมาติดต่อ หรือนำเอกสารมาให้เซ็น ก็สามารถทำได้ที่ชั้นนี้เลย ไม่รบกวนชั้นพักอาศัยบริเวณชั้น 2 ของเจ้าของบ้านครับ
พื้นที่ใช้สอยบริเวณด้านล่างก็เลือก Material ให้เข้ากับการใช้งาน เป็นกระเบื้องลายหินอ่อน โซนรับรองด้านหน้านี้รองรับได้หลายคนเลยครับ
บริเวณตรงกลางจะเป็นที่ตั้งของบันไดกลางของบ้าน และลิฟต์ให้เลือกใช้งานได้ตามความสะดวก โดยราวบันไดก็ทำสวยดีใช้เป็นกระจกที่ทำให้ดูโปร่งและ Modern
ด้านหลังยังมีพื้นที่อีกหนึ่งห้อง ที่ตกแต่งไว้เป็นห้องรับรองเช่นเดียวกัน โดยเค้าออกแบบให้เป็นช่องแสงทั้ง 2 ด้าน ทำให้ทั้งโซนด้านหน้าและด้านหลังของบ้านมีความโปร่งทั้งหมด
และแต่ละชั้นก็จะมีห้องน้ำในตัวเป็นมาตรฐานตกแต่งมาไว้ให้แล้วครับ
ลิฟต์ที่นี่เป็นแบบล็อคชั้น ควบคุมด้วยระบบคีย์การ์ด ไม่ต้องกังวลว่าถ้าทำ Office อยู่ในบ้านแล้วจะเสียความเป็นส่วนตัว นอกจากนั้นยังเพิ่มความรู้สึกปลอดภัยให้เจ้าของบ้านอีกด้วยครับ
ที่ชั้น 2 ของบ้านเปิดไว้เป็นพื้นที่โล่งๆ ซึ่งจะเห็นว่าจากช่องแสงหลักทางหน้าบ้าน ก็จะมีระเบียงส่วนตัวในชั้นนี้ ที่เค้าจะจัดวางต้นไม้เอาไว้ให้ด้วย ในวันที่อากาศดี เปิดให้ลมถ่ายเทดีมากเลยครับ เพราะเค้าออกแบบมาให้เป็นช่องนำลมเข้ามาสอดคล้องกับ Shape ของอาคาร บริเวณชั้นนี้ไม่ได้ตกแต่งอะไรไว้ แต่ถ้าใครที่อยากดัดแปลงห้องนี้เป็น Office Zone ก็สามารถทำเป็น Meeting Room หรือ Common Room ของพนักงานได้ด้วยนะครับ ทั้งโปร่งทั้งแสงธรรมชาติน่าจะช่วยเสริม Creativity ได้ดีนะ เดี๋ยวผมพาขึ้นไปดูอีกชั้นนึงให้เห็นภาพเพราะ Layout และฟังก์ชั่นนี้เหมือนกันครับ
ขึ้นมาอีกชั้นที่ชั้น 3 จะเห็นว่าพื้นที่นี่กว้างขวางมากๆ รองรับการนั่งทำงานได้หลายคนเลย ซึ่งทางโครงการบอกว่า สามารถรองรับพนักงานได้มากถึง 20 คนเลยครับ
สไตล์และฟังก์ชั่นก็แล้วแต่เจ้าของบ้านออกแบบครับ
จุดที่ผมอยากให้สังเกตคือพื้นที่สีเขียวครับ แม้ชั้นนี้จะไม่มีระเบียง แต่เราจะได้เห็นยอดไม้ที่สูงขึ้นมาจากระเบียงชั้น 2 และในขณะเดียวกันก็มองเห็นได้จากต้นไม้ของระเบียงบ้านฝั่งตรงข้ามที่เค้าออกแบบตำแหน่งไว้เหมาะเจาะพอดี ตั้งโซนรับรองไว้ตรงนี้ก็สวยเลย
เค้าลองจัดสรรเป็นฟังก์ชั่นโต๊ะทำงานแบบมาตรฐาน ก็นั่งกันได้สบายๆ อยู่นะ
จะทำมุมนั่งทำงานเป็นกลุ่มก็รองรับด้วยพื้นที่ที่กว้างขวางนี่แหละครับ
ฝั่งด้านหลังบ้านก็มีอีกห้องนึง จะเห็นว่าเมื่อจะขึ้นสู่โซน Residential Area บริเวณชั้น 4 เค้าก็ปรับมู้ดด้วยบันไดเป็นพื้นไม้ Hybrid Engineer ให้ความรู้สึกอบอุ่นมากขึ้น
อีกห้องนึงก็จัดเป็นสไตล์ห้อง Studio ทำให้ออฟฟิศในชั้นนี้มีครบเลย ทั้งโซนทำงาน ประชุม รับรองแขก และ Working Space แบบเฉพาะทาง หรือเดี๋ยวนี้ใครจะดัดแปลงเป็นห้อง Live – Streaming หรือห้องประชุมเล็ก ๆ ก็ทำได้เช่นกัน รูปแบบ Open Plan ทำให้มีอิสระในการตอบโจทย์ความเป็นตัวเองได้สบายครับ
ระหว่างทางขึ้นด้านบนก็จะคั่นด้วยประตูไม้และ Digital Door Lock ให้ความรู้สึกว่าถัดจากส่วนนี้ไปจะเข้าบ้านจริงๆ แล้ว
ขึ้นมาที่ชั้น 4 เค้าออกแบบเป็น Living Area ที่น่าอยู่มาก พอเป็นโซนพักผ่อนนี้ก็จัดระเบียงมาให้เต็มที่เลยทั้งโซนหน้าและด้านข้าง ช่องแสงก็โปร่งเต็มตา ในโซนนี้ก็มีทั้ง Living / Dining / Kitchen อยู่ด้วยกันแบบ Open Plan
อันนี้ก็อารมณ์ครัวฝรั่งพร้อมเคาน์เตอร์บาร์ให้นั่งกินอะไรเบาๆ ง่าย หรือถ้าใครอยากใช้ชั้นนี้เป็น Private Party Floor ของตัวเองก็ทำได้ เพราะทุกพื้นที่เชื่อมต่อกันหมด ทั้งโซนนั่งเล่น เตรียมอาหาร หรือทานข้าว วันไหนอยากให้ Chef’s table มาจัด Special Dinner ก็ลงตัวสวยงาม
อีกฝั่งตั้ง Dining Table ได้ถึงขนาด 6 ที่นั่ง พร้อมระเบียงส่วนตัวด้านข้าง
พอจะได้บรรยากาศนั่งทานข้าวอยู่ข้างต้นไม้เขียวๆ ทั้งๆ ที่อยู่บนอาคารสูง และได้ออกไปสูดอากาศอย่างเป็นส่วนตัว
โซนด้านหน้าจัดเป็นที่นั่งได้หลายมุมเลย พร้อมระเบียงบริเวณหน้าตัวบ้าน
มองออกไปก็จะเห็นบ้านฝั่งตรงข้ามซึ่งได้ Façade ระแนงช่วยทอนสายตาลงไปให้ไม่ประจันกันตรงๆ
ได้ระเบียงส่วนตัวบริเวณนี้ด้วยอีกหนึ่งตำแหน่งครับ
ตามไปดูอีกฝั่งนึงกันบ้าง
จะเห็นว่าเค้าสามารถปรับฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบเลย อย่างห้องนี้ก็กลายเป็นครัวไทยสมบูรณ์ทำอาหารได้สะดวก และสามารถเปิดหน้าต่างระบายอากาศได้กว้างๆ เต็มที่ หรือถ้าเราใช้เป็นห้องนอนสำหรับลูก ๆ ทั้งชั้นนี้ก็เปรียบเสมือนได้ Private Penthouse ไปเลยน่าจะฟิน
ขึ้นไปสู่ Top Floor กันครับ ชั้นนี้ได้ความเป็นส่วนตัวที่สุดแล้ว
ทั้งชั้นนี้ดีไซน์เป็นส่วนพักผ่อนคือห้องนอนทั้งหมด แต่ด้วยความกว้างก็มีได้หลายฟังก์ชั่นเช่นเคย
เริ่มจากห้องน้ำที่ทำมาในรูปแบบ His & Her (บ้านตัวอย่างตกแต่งดีไซน์ของอ่างล้างหน้าขึ้นมาเป็นพิเศษ) พร้อมกับกระจกขนาดใหญ่เต็มผนังเลย และลูกเล่นของการจัดวางต้นไม้ในระเบียงชั้น 4 ก็ส่งยอดขึ้นมาให้เชยชมที่ชั้นนี้ด้วยครับ
เห็นแล้วมันก็ชุ่มชื่น ถ้าเราอยู่โดยไม่มีพื้นที่สีเขียวก็คงแห้งเหี่ยวน่าดูเนอะ
โซนด้านหน้าบ้านนี้ทำเป็น Master Bedroom กว้างขวางโปร่งสบายมากๆ
กว้างถึงขั้นที่ว่าสามารถทำเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้สบายๆ
เช่นเคยครับ ชั้นนี้ก็มีห้องน้ำและพื้นที่ใช้สอยโซนด้านหลังด้วยเหมือนกัน
ห้องน้ำบนชั้นนี้ก็ดีไซน์ไม่เหมือนชั้นอื่นนิดหน่อย ให้มีพื้นที่แต่งหน้าเตรียมตัวประทินผิวในห้องน้ำพร้อมสรรพ แบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งไว้เรียบร้อย
อีกฝั่งนึงของห้องน้ำก็ทำเป็นอีกหนึ่งห้องนอนขนาดเล็กลงมาหน่อย แต่ก็ยังกว้างอยู่ดีครับ
ส่วนพื้นที่ Service ด้านหลังจะเป็นบันไดแบบนี้ทั้งหมดให้บรรดาช่างหรือแม่บ้านเดินขึ้นลงได้โดยไม่ต้องผ่านด้านในตัวบ้านเลย ทำให้เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยรู้สึกเป็นส่วนตัวและปลอดภัยมากขึ้น
และทั้งหมดนี้คือความน่าสนใจของโครงการ The Haute กาญจนา – สาทร ที่เราพามาชมกันนะครับ อย่าลืมว่าบ้านตัวอย่างนี้เป็นเพียงเป็นไอเดียในการออกแบบฟังก์ชั่นและ Layout บ้าน จุดเด่นจริงๆ ของที่นี่ก็คือความยืดหยุ่นในพื้นที่ที่รองรับชีวิตที่หลากหลาย เราจะจัดเป็นอะไรก็ได้ อย่างที่โครงการบอกเลยครับ ว่าเค้าต้องการให้บ้านหลังนี้เป็นที่ที่ Shaping all your lives จัดสรร ออกแบบ และครีเอทรูปแบบชีวิตได้อย่างอิสระและเต็มที่ รองรับทั้งชีวิตทำงาน และชีวิตครอบครัว โดยออกแบบเพื่อความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยเป็นพื้นฐานครับ
และสำหรับใครที่สนใจสามารถลงทะเบียนวันนี้เพื่อรับ Exclusive Offers สำหรับงาน Exclusive Day 26-27 พ.ย. นี้ มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท* ได้ทันที
คลิกลงทะเบียนเลยที่ https://bit.ly/3P5s69K หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-821-5653 คร้าบ