ในช่วงเวลาที่ห่างหายจากการไปญี่ปุ่น สำหรับผมการได้ไปกินโอมากาเสะดีๆ สักมื้อ เปรียบเสมือน Therapy ที่พอจะช่วยชดเชยความคิดถึงไปได้บ้างครับ ก่อนหน้านี้ผมเคยกินร้าน Sushi Misaki แต่เชฟเจ้าของร้านคนเดิมได้ย้ายไป Amsterdam แล้ว ก็เลยคิดว่าต้องลองที่นี่แหละ “Sushi Masato” ร้านซูชิ 1 ดาวมิชลินร้านเดียวในไทย ที่มีกิตติศัพท์ว่าจองยากมากกก และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ครับ รอบนี้ที่ผมได้มาก็เพราะเป็น Waiting List ที่เทพีแห่งโชคเข้าข้างเท่านั้นเอง
ร้านนี้อยู่ในซอยสวัสดี 1 ซึ่งเป็นซอยแรกจากปากทางสุขุมวิท 31 แม้จะเป็นตรอกเล็กๆ แต่ยอมรับว่าตอนแรกหาร้านไม่เจอ หน้าร้านสงบเรียบง่ายแต่เหมือนได้วาร์ปไปอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยจริง เฉกเช่นกับบรรยากาศภายในชั้น 1 ที่มีทั้งหมด 10 ที่นั่ง วันนี้ผมเหมือนโชคดี 2 ชั้นเพราะได้นั่งหน้าเชฟมาซาโตะพอดี ได้เห็นการทำงาน การจัดระเบียบอุปกรณ์บน Station ที่ประณีต การปั้นแต่ละคำดูเพลินตา และดูแล้วแกก็มีความเป็น Perfectionist ที่กะปริมาณข้าวปั้นแต่ละคำได้อย่างแม่นยำ
ผมเป็นคนที่ไม่ได้ชอบการทำซูชิที่แฟนซีมาก แต่อยากสัมผัสธรรมชาติของวัตถุดิบมันมากกว่า ซึ่งที่นี่ตอบโจทย์ในสิ่งที่ผมต้องการได้อย่างสมบูรณ์ และก็ไม่ใช่วัตถุดิบธรรมดาๆ ที่จะทำแบบนี้ได้เพราะต้องสดและมีคุณภาพจริงๆ ผมไล่เรียงซูชิที่ได้กินเท่าที่จำได้ประมาณนี้ครับ Katsuo no Tataki, Ika Ankimo นุ่มเนียนสุดๆ, Shirako Tempura อันนี้ก็ครีมมี่ไม่มีกลิ่นใดๆ, Tako, Sanma, Kinki, Amaki, Otora, Mehikari, Namero Iwashi, Shima Ebi, Bafun Uni, Anago
แต่ละคำไล่เรียงรสชาติเนื้อสัมผัส และความอร่อยได้อย่างเพลิดเพลิน ที่ไม่น่าเชื่อคือคุณภรรยาที่ชีวิตนี้ยี้ Uni มาตลอดกลับบอกว่าชอบคำนี้ที่สุด ซึ่งผมก็เห็นด้วยว่าเท่าที่เคยกินมาของที่นี่อร่อยที่สุดเลยครับ เต็มไปด้วยความหวานสดชื่นจากทะเลแบบไม่มีกลิ่นอื่นใด และปลาหลายคำในนี้มันให้รสชาติ และสัมผัสที่ดีมาก พิเศษจริงๆ อ้อเกือบลืมไป ของหวานปิดท้ายก็เป็นฟินาเล่ที่ดีเช่นกัน
อีกสิ่งที่ช่วยเพิ่มความอูมามิระหว่างทางก็คือหัวไชเท้าดองขนาดเต็มคำที่หวานอมเปรี้ยวกรอบอร่อย และขิงดองที่ผมกินคั่นได้ไม่มีเบื่อ ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอาหาร แต่เป็นคนชอบกินที่สนุกกับการกินของอร่อยคนนึง แบบที่ถ้าไม่อร่อยจริง จะไม่ได้เห็นผมลงแบบนี้ และสามารถพูดได้เต็มปากว่า ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบซูชิเป็นชีวิตจิตใจ ต้องมาลอง Sushi Masato ให้ได้สักครั้งแม้จะจองยากเย็นแสนเข็ญก็ตาม ซึ่งร้านนี้เค้าจะเปิดให้จองคิวของ “เดือนถัดไป” ทุกๆ วันที่ 15 ของเดือนครับ ผมเคยจำวันผิดรอบนึงดันมาจองเที่ยงคืนของวันที่ 16 แค่เพียงวันเดียวคิวของเชฟมาซาโตะก็เต็มแล้วครับ ยอมใจจริงๆ
สนนราคา มี Standard 4,000++ และ Premium 6,000++ ซึ่งของผมที่ได้หลุดคิวมาเป็นมื้อเที่ยงที่เป็น Standard ครับ ซึ่งถ้าเทียบกับร้านระดับเดียวกันที่ราคาสูงกว่านี้ ผมว่า Standard นี่คุณภาพต่อราคาคุ้มค่ามากครับ