รีวิว “Supalai Sense Srinakarin” คอนโดใหม่ดีไซน์ละมุน อุ่นใจใกล้ห้างซีคอนฯ ได้ห้องพักนอนชิลข้างสระว่ายน้ำส่วนตัว เดินทางสะดวกชัวร์ด้วยรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เริ่ม 1.42 ล้าน

Supalai Sense Srinakarin

วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับคอนโดใหม่ล่าสุดจากศุภาลัยในทำเลที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดย่านหนึ่งของศรีนครินทร์กันครับ ที่ผ่านมาศุภาลัยก็มีทั้งโครงการตึกสูงที่เน้นวิวสวยๆ กับโครงการตึกเตี้ยไม่เกิน 8 ชั้นที่ให้บรรยากาศแบบส่วนตัวมากขึ้น ซึ่งจุดขายของโครงการสไตล์ Low Rise โดยทั่วไป เค้าก็ตั้งเป้าว่าอยากจะให้มันได้บรรยากาศแบบรีสอร์ทนี่แหละครับ แม้แต่ชื่อโครงการก็ยังมีชื่อ City Resort พัฒนามาหลายโปรเจค แต่มาจนถึงช่วงเวลาสิ้นปี 2566 นี้ นี่คือโครงการที่ให้บรรยากาศฟีล Vacation สไตล์ Resort ที่สุดเท่าที่ศุภาลัยเคยทำมา มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ปรับใหม่เพื่อ Lifestyle ปัจจุบัน และยังมั่นใจด้วยการรับประกันที่มากกว่าเดิม ภายใต้ชื่อใหม่ที่ใช้เป็นครั้งแรกและอาจจะเป็นใช้ที่นี่ที่เดียวกับ “Supalai Sense Srinakarin” ครับ

ทำเลและการเดินทาง

ย่านนี้มีองค์ประกอบที่ทำให้เหมาะสำหรับอยู่อาศัยหลายประการ คือ เดินทางสะดวก, ใกล้แหล่งงาน และที่สำคัญคือมีความอุดมสมบูรณ์

ในเรื่องของการเดินทาง โครงการอยู่ในซอยศรีนครินทร์ 42 (ซอยย่อยสุภาพงษ์ 3 แยก และก็เข้าได้จากซอยศรีนครินทร์ 40 ด้วย ระยะจากถนนใหญ่เพียง 510 ม. ใกล้รถไฟฟ้ายสีเหลืองสถานีสวนหลวง ร.9 ราว 700 ม. พร้อมรถ Shuttle Service รับ-ส่ง ที่สถานี และอยู่ตรงข้ามกันกับซีคอนสแควร์ศรีนครินทร์ครับ เรื่องถนนหนทาง เส้นศรีนครินทร์นี้เชื่อมต่อคู่ขนานไปกับ ถ.สุขุมวิท และซอยย่อยนำพาลัดเลาะระหว่างกันได้หมดตั้งแต่อ่อนนุช – ปุณณวิถี – อุดมสุข ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าต้องบอกว่าเหมือนฟ้าเปิดสำหรับคนที่ท้อกับการจราจรที่หนาแน่นทั้ง ถ.ลาดพร้าวและศรีนครินทร์ด้วยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเส้นเดียวเชื่อมต่อกับสีอื่นได้ถึงสี่สาย

ฝั่งสุขุมวิทเป็นทั้งแหล่งธุรกิจและแหล่งงานเพียบ โดยเฉพาะการเติบโตของย่านปุณณวิถีที่เป็นเสมือน Creator Hub ที่มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตของ Digital Nomad ในอนาคต ฝั่งศรีนครินทร์ เรื่องกินเที่ยวไลฟ์สไตล์หายห่วง ด้วยห้างใหญ่ทั้งซีคอนสแควร์, Paradise Park, Makro ละแวกใกล้เคียงมีถึง 6 ตลาด โดยเฉพาะตลาดรถไฟศรีนครินทร์ ใกล้กับสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของชาวกรุง “สวนหลวง ร.9” เรียกได้ว่า เช้าออกไปวิ่งออกกำลังกาย – สายไปทำงาน – ก่อนกลับบ้านแวะห้าง – ในวันว่างเดินตลาดรถไฟ ครบ จบ เพียบ

ภาพรวมโครงการ

ผมคิดว่าหลายคน คงมีนิยามของการได้ “พักผ่อน” ใกล้เคียงกัน นึกจะพัก นอกจากจะนึกถึงคิทแคท เราก็จะนึกถึงเวลาได้ไปเที่ยว ได้อยู่ในที่ที่บรรยากาศดี ดีไซน์สวย หลีกหนีความวุ่นวายจากผู้คน พร้อมกับได้ตั้งสเตตัส On Vacation แล้วหยุดพักกายใจไปความความสุนทรีย์ส่วนตัว ที่นี่เค้าออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะครับ เริ่มจากนี่เป็นโครงการ Low Rise ที่มียูนิตน้อยกว่าปกติที่ศุภาลัยทำ มีดีไซน์โค้งมน เน้นความโอบล้อมของพื้นที่ภายใน เน้นสีสันสไตล์ Earth Tone ตัดด้วยสีส้มเพิ่มความสดชื่น และเป็นครั้งแรกที่ศุภาลัยทำห้อง Pool Access เดินลงสระว่ายน้ำส่วนตัวได้เลย

ศุภาลัย เซนส์ ศรีนครินทร์ เป็นคอนโด Low Rise สูง 7-8 ชั้น แบ่งกัน 3 อาคารบนพื้นที่เกือบ 4 ไร่ รวม 477 ยูนิต เอาเรื่องของดีไซน์ก่อน ที่นี่แตกต่างจากโครงการตึกเตี้ยที่เค้าทำมาพอสมควรเลย เริ่มตั้งแต่ซุ้มทางเข้าโครงการที่ให้อารมณ์เหมือน Main Gate ก่อนเข้าหมู่บ้าน ดีไซน์เน้นเรื่องเส้นโค้ง ให้เข้ามาแล้วได้ความรู้สึกปลอดภัยด้วยการโอบล้อมพื้นที่ภายใน พื้นที่สีเขียวมีทั่วโครงการเหมือนเดิมเพิ่มเติมด้วยสวนแนวตั้ง และภายในอาคาร

ผมชอบความใส่ใจของที่นี่เรื่องนึงก็คือ เมื่อเค้าได้พื้นที่อยู่ภายในซอย มันหลีกเลี่ยงเพื่อนบ้านข้างเคียงที่อยู่มาก่อนได้ยากครับ ซึ่งในทิศที่อยู่ใกล้กับอาคารที่สภาพเก่ากว่า ศุภาลัยเลือกที่จะออกแบบให้ฝั่งนั้นเป็นอาคารแบบ “Single-loaded Corridor” หรือมีห้องแค่ฝั่งวิวสวยๆ ด้านในฝั่งเดียวไปเลย (อาคาร A) ทำให้อาคารนี้ทั้งยูนิตน้อยกว่าเพื่อนคือมีเพียง 57 ยูนิต (อาคาร B และ C มีอย่างละ 210 ยูนิต) ทั้งระยะเพดานสูงกว่า และพอมีพื้นที่เหลือเลยยังได้โบนัสพิเศษด้วยการออกแบบให้มีสระว่ายน้ำอยู่บนชั้น 2 อาคารนี้ และห้องที่อยู่บนชั้นเดียวกันก็จะกลายเป็นห้องสุดแรร์ที่ได้ Pool Access เพียง 7 ยูนิต ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า Sold Out ก่อนเพื่อนแน่นอน

พื้นที่ส่วนกลางก็ออกแบบได้สวยงามนะ ผมชอบ Lobby ต้อนรับในอาคาร A ที่แม้จะเป็นคอนโด Low Rise แต่ดีไซน์ได้เป็น Double Volume เพิ่มความสูงโปร่งด้วยกระจกและต้นไม้ตกแต่งขนาดใหญ่อยู่ด้านในให้การต้อนรับหลังกลับบ้านอย่างสดชื่น มีสระว่ายน้ำ สระเด็ก & Jacuzzi ที่ออกแบบมาคู่กันกับพื้นที่สีเขียวเพิ่มความสดชื่นพร้อมพื้นที่นั่งพักผ่อน, Fitness, Co-working Space มีสวนให้ใช้ทั้งชั้นล่าง, ชั้น 3 และส่วน Rooftop เหมาะทั้งมาเดินเล่นและนั่งชิลล์ (ภาพสวยๆ ผมมีให้ดูด้านใน) มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อชีวิตในยุคนี้ไว้แล้วตั้งแต่เริ่มพัฒนาครับ ไม่ว่าจะเป็น EV Charger, โซน Food Drop ให้รับส่งอาหารแบบไม่ต้องเดินออกนอกอาคาร, Vending Machine และการออกแบบ Drop Store เพื่อรองรับการบริหารจัดการพัสดุที่ไม่ต้องมาวางให้เกะกะสายตาหน้านิติ แต่จะเป็นเสมือนคลังสินค้าภายในที่จะแจกจ่ายถึงมือผู้รับแต่ละอาคาร แบบไม่กลัว โปรประจำเดือน 11.11 12.12 ของสารพัดแอปช้อปออนไลน์อีกต่อไป ส่วนที่จอดรถจะอยู่ชั้นล่างทั้งหมดรองรับ 40% ครับ ยังไม่รวมจอดซ้อนคัน

อ้อ แล้วที่เป็นจุดพิเศษของโครงการนี้ก็คือ เค้ามีพื้นที่ Personal Storage ส่วนตัวให้ลูกบ้านซื้อเพิ่มด้วยนะครับ จะเป็นพื้นที่ขนาด 4 – 5.5 ตร.ม. ใกล้โถงลิฟต์แบ่งขายชั้นละ 2 ยูนิต เอาไว้เก็บของอะไรได้ตามใจ ใครที่ทำธุรกิจออนไลน์เหมาะมาก ซึ่งพื้นที่นี้จะอยู่ในโฉนดของเราด้วยครับ เจ๋งเนอะ

รูปแบบห้องและราคา

โครงการนี้มีห้องหลากหลาย Layout ยืดหยุ่นตามความต้องการของคนหลากสไตล์ครับ ตั้งแต่

  • 1 Bedroom ห้องเริ่มต้น ขนาด 25 – 26 ตร.ม. เป็นห้องที่กั้นแยกส่วนครัวเป็นสัดส่วนอยู่ด้านหน้า และพื้นที่ด้านในแบบ Open Plan มีทั้งส่วนห้องนอน และโซนพักผ่อนอยู่รวมกัน พร้อมกับมุมนั่งทำงานส่วนตัวให้ชมวิวหน้ากระจก
  • 1 Bedroom ห้องใหญ่ ขนาด 33 -34.5 ตร.ม. เป็นห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยการกั้นห้องนอนเป็นผนังทึบ ได้พื้นที่ Living Area กว้างเหลือกินเหลือใช้ และครัวเป็นครัวปิดอยู่ติดระเบียงครับ มีให้เลือกทั้งที่อยากให้ห้องน้ำอยู่ด้านนอกหรืออยู่ในห้องนอน ข้อสังเกตคือห้อง 1Bedroom ทั้ง 2 type แรกนี้ มีเสาอยู่ในห้องแค่จุดเดียวหรือไม่มีเลย ทำให้พื้นที่ใช้สอยเต็มอิ่มมาก
  • 1 Bedroom ขนาด 41 ตร.ม. พร้อม Walk-in Closet ใหญ่เหมือนมีแคทวอร์คส่วนตัว วางโต๊ะกินข้าวได้ถึง 4 ที่นั่ง ด้วยการจัดวางครัวแบบครัวเปิดครับ
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 40.5 ตร.ม. ห้องนี้ได้ห้องครัวใหญ่พิเศษแบบที่ว่าใหญ่กว่าห้องน้ำซะอีก รวมทั้งได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาให้ใช้งาน
  • 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45.5 – 48 ตร.ม. ได้ห้องนอนและห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ รูปแบบครัวเปิด และ Me Corner ให้นั่งเล่นนั่งทำงานพร้อมชมวิวติดกระจก ส่วนนั่งเล่นก็ได้ชมวิวติดระเบียงส่วนตัว
  • 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 53 ตร.ม. ห้องใหญ่ที่สุดของโครงการ มีห้องน้ำให้ในตัวสำหรับ Master Bedroom และพื้นที่กว้างขวางทุกฟังก์ชั่นครับ

และขอทิ้งท้ายด้วยยูนิตพิเศษ หนึ่งเดียวที่ได้เอกสิทธิ์ Pool Access คือรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.5 ตร.ม. เป็นห้องที่มีระเบียงขนาดใหญ่ ทั้งส่วนนั่งเล่นและห้องนอนมีมุมชมวิวทั้งคู่ ในห้องนอนจัดวางตู้เสื้อผ้าได้ขนาดใหญ่ถึง 2 ฝั่ง ซึ่งส่วนบันไดที่ลงสระว่ายน้ำเป็นพื้นที่ส่วนกลางนะครับไม่ได้คิดอยู่ในโฉนด เราได้พื้นที่ใช้สอยเต็มๆ ตามตัวเลขขนาดครับ

ห้องที่นี่เค้าปรับมาใหม่ออกแบบให้ห้องน้ำอยู่นอกห้องนอนเกือบหมดครับ ส่วนครัวแม้จะเห็นบางห้องเป็นสไตล์ครัวเปิดเค้าก็ใส่ใจวัสดุปูพื้นที่แตกต่างกันในโซนใช้งานด้วยนะ คือ ทำเป็นกระเบื้องไว้ให้ตามแนวครัวเพื่อช่วยลดความเสี่ยงเรื่องความชื้น เค้าขายแบบ Fully-Fitted คือตกแต่งครัวมาให้ แถมเตาและเครื่องดูดควันมาให้แล้วด้วย ผนังมีวอลเปเปอร์ ห้องน้ำใช้สุขภัณฑ์สีดำด้านดูมีสไตล์ ทั้งหมดนี้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.42 ล้าน (เฉลี่ยเริ่ม 57,xxx บาท/ตร.ม.) ความน่าสนใจคงได้เห็นกันแล้ว ส่วนเรื่องความคุ้มค่า น่าประทับใจเหมือนเดิม

และนี่ก็คือโครงการทิ้งทวนส่งท้ายปีจากศุภาลัย ที่ผมมองว่าเปิดตัวได้เหมาะพอดิบพอดี ทั้งการเดินทางที่สะดวกสบาย อยู่ในถิ่นที่อุดมสมบูรณ์ตลอดปี ให้การผ่อนคลายแบบเวเคชั่นรับรู้ผ่านทุก Sense ของคุณที่ “Supalai Sense Srinakarin”

Supalai Sense Srinakarin

เอาละครับ มาชมโครงการ “Supalai Sense Srinakarin” คอนโดสไตล์ Modern Tropical ด้วยบรรยากาศรีสอร์ท เพื่อให้ทุก Vacation เป็นของคุณได้ทุกวันเมื่อกลับบ้าน ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีสวนหลวง ร.9 700 ม. พร้อมเพลิดเพลินกับส่วนกลางครบครันบรรยากาศร่มรื่น ในราคาเริ่ม 1.42 ล้านเท่านั้นครับ

ผมอยากให้เห็นดีไซน์กันก่อน ดูทางเข้าสิ นึกว่าทางเข้าหมู่บ้าน ที่นี่เน้น Earth tone สีขาวครีม, สีเทา ตัดด้วยบันไดสีส้ม เป็นดีไซน์อาคารตึกเตี้ยที่ผมว่าแตกต่างจากโครงการอื่นของเค้านะ เน้นเส้นสายโค้งมนให้ความรู้สึกโอบล้อมผ่อนคลาย มี Landscape แบบ ‘Natural Cascade’ เน้นพื้นที่สีเขียวแทรกไปตามจุดต่างๆของโครงการ ให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ตามคอนเซ็ปต์ Sense Of Staycation ครับ

และนี่ก็คือห้องสุดแรร์ Pool Access ที่อยู่อาคาร A ครับ มีแค่ 7 ยูนิตเท่านั้น มากับเพดานสูง 2.7 ม. โปร่งสบาย เหมือนได้พักผ่อนทุกวัน เอาล่ะขอพาทุกคนไปดูห้องตัวอย่างเต็มๆ ที่สำนักงานขายก่อนกลับมาดูภาพที่เหลือของโครงการอีกที

จะมาดูห้องตัวอย่างไม่ต้องไปที่ไซต์นะครับ เดี๋ยวหาไม่เจอ เค้าตั้งมาอยู่ในห้างซีคอนสแควร์เลย อยู่ชั้น 3 ฝั่งเดียวกับพวกบรรดาธนาคาร และสถาบันติวเตอร์ต่างๆ อยู่ติดกับ Wall Street English ครับ ตกแต่งสวยมาก

ที่นี่มีห้องตัวอย่าง 2 รูปแบบ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย

เริ่มที่ห้องรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 33 ตร.ม. ห้องนี้เน้นพื้นที่โซน Living ให้ได้ใช้ชีวิตทั้งวันกันได้สบายๆ มาพร้อมครัวปิดติดระเบียง

เข้ามาก็เจอกับโซน Living ขนาดใหญ่แบบนี้ครับ วางโซฟาขนาดยาว ไว้นอนเหยียดแข้งเหยียดขาสะดวก จริงๆจะวางเป็นโซฟารูปตัว L ก็ยังได้ ตกแต่งในสไตล์ Tropical เช่นกัน เอาให้เหมือนอยู่รีสอร์ทกันไปเลย

ข้างๆ โซฟายังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะกินข้าวสำหรับ 2 คนได้ ตรงนี้แล้วแต่เราดีไซน์หาเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวให้เข้าเซ็ต ผมว่ายังวางโต๊ะใหญ่กว่านี้ได้อีกนะ ตำแหน่งวางก็อยู่ถัดกันก่อนจะเข้าสู่พื้นที่ครัว Flow ในการทำกับข้าวเอามานั่งกินสะดวกดี

ห้องนี้ได้ครัวปิดติดระเบียง เค้าให้เคาน์เตอร์หน้าบานสีขาวมินิมอล มาพร้อมเตาและที่ดูดควันจาก Hafele ใครอยากลับฝีมือเอาไปท้ากับเชฟกระทะเหล็ก ก็สามารถทำได้หลากหลายเมนูแบบไม่ต้องกังวลกลิ่นควัน เพราะเปิดระบายอากาศได้ตลอดครับ ตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าอยู่ในนี้ด้วย ใช้ระเบียงได้เต็มพื้นที่

กลับมาตรงห้องนั่งเล่น ฝั่งตรงข้ามโซฟาเป็นที่ตั้งของทีวีครับ ประตู 2 บานนี้ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ฝั่งขวามือเป็นห้องนอนที่ได้ความเป็นส่วนตัวด้วยผนังทึบ ตำแหน่งแอร์อยู่ตรงนี้เซอร์วิสง่ายนะไม่ต้องกังวลว่าจะโดนน้ำหยดใส่ทีวี

ขอเข้าไปประตูซ้ายก่อน ในห้องน้ำตกแต่งมาให้แบบนี้เลย กระเบื้องแผ่นใหญ่สีเทาเข้มตัดกับสีอ่อน เข้ากับอุปกรณ์สุขภัณฑ์ต่างๆ ที่สีดำด้าน เท่ทั้งชุด มีฉากกั้นมาให้เรียบร้อย พร้อมช่องวางอุปกรณ์ในห้องน้ำ ได้เครื่องทำน้ำอุ่นแถมให้ด้วยนะ

มาดูกันในส่วนสุดท้ายคือห้องนอน เมื่อเข้ามาข้างๆ ประตูมีพื้นที่ให้บิวท์อินตู้เสื้อผ้าได้ครับ ในห้องตัวอย่างนี้ทำดีไซน์กลมกลืนไปกับผนังดี มีพื้นที่ใช้งานทั้งบนและล่าง

ด้านในจัดวางเตียงได้ขนาดใหญ่เลย อยู่ติดกับกระจกเรียงต่อกัน 3 เฟรม ได้ช่องแสงกว้างๆ จุดแข็งของศุภาลัยก็เรื่อง Space นี่แหละ เดินได้สะดวกหมุน Full Turn ได้ตรงปลายเตียง ด้านข้างมีพื้นที่วางโต๊ะเครื่องแป้งแล้วหนึ่ง อีกฝั่งยังวางโต๊ะข้างพร้อมโคมไฟน่ารักๆแบบนี้ได้อีก น่ารักถูกใจสาวๆ

ว่าแล้วน้องอายก็รับบริฟ สวมบทบาทเป็นสาวรักการอ่านหนึ่งชอต ได้รูปสวยกลับบ้าน

มากันอีกห้องครับ เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ รูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 25 ตร.ม. ครับ ห้องนี้จะเน้นโซน Living อยู่รวมกับห้องนอนแบบ Open Plan เหมาะกับการอยู่คนเดียวแบบส่วนตัวในพื้นที่โปร่งสบาย

เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ครัวรอต้อนรับเราทุกวัน ณ ตรงทางเข้า เป็นเคาน์เตอร์ครัวกะทัดรัด ใช้พื้นที่ไม่มาก เพราะเค้าให้น้ำหนักกับส่วนที่เราใช้เวลาเยอะที่สุดด้านในครับ

เข้ามาจะเจอกับพื้นที่ครัวรอต้อนรับเราทุกวัน ณ ตรงทางเข้า เป็นเคาน์เตอร์ครัวกะทัดรัด ใช้พื้นที่ไม่มาก เพราะเค้าให้น้ำหนักกับส่วนที่เราใช้เวลาเยอะที่สุดด้านในครับ

ด้านในเป็น Living Area มุมทำงาน และส่วนพักผ่อนอยู่ร่วมกันครับ ผมว่าทุกฟังก์ชันมีสเปซสำหรับใช้งานได้สบายหมดเลยนะ ไล่เรียงกันไปจากทั้งโซฟา ที่นอน และโต๊ะทำงาน แต่จัดวางแบบนี้ผมอาจจะไปไม่ถึงทำงาน ดูหนังดูซีรี่ส์เสร็จแล้วก็กระโดดขึ้นเตียงนอนเลย ฮ่าๆ

วางเตียงขนาดควีนไซส์ดูเหมาะเจาะกับพื้นที่ ตำแหน่งแอร์อยู่ตรงนี้เย็นทั่วกันหมดไม่ว่านั่งตรงไหน

ตรงหน้าต่างมาพร้อมบานกระทุ้งระบายอากาศ เป็นมุมส่วนตัวสำหรับวางโต๊ะทำงาน, โต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะเป็นเดย์เบดไว้นอนอ่านหนังสือชิลล์ๆ ก็ได้ เป็นพื้นที่รับแสงธรรมชาติและชมวิวที่เหมาะมากสำหรับคนทำงาน

ตำแหน่งปลายเตียงนี่เป็นพื้นที่สำหรับบิวท์อินตู้เสื้อผ้าครับ ใครมีระเบียบมีสไตล์หน่อยก็ทำเปลือยๆ แบบนี้ แต่ถ้าของเยอะ อยากได้ที่ซุกก็ทำแบบบานปิดก็ได้ ยังมีพื้นที่พอสำหรับตู้ขนาดใหญ่นะ

มุมกระจกจัดวางไว้สวยๆ แบบนี้ก็เสร็จน้องอายสิครับ ได้รูปสวยกลับบ้านรูปที่สอง

ข้างๆ กันกับตู้เสื้อผ้าเป็นพื้นที่ระเบียงครับ เค้าก็เอาคอมเพรสเซอร์แอร์ขึ้นไปไว้ข้างบนเรียบร้อย ออกมาสูดอากาศชมวิวได้สบาย แต่พอดีเราอยู่ในห้าง ชมภาพสวยๆ แทนไปก่อน

และก็จบไปแล้วครับกับห้องตัวอย่างทั้ง 2 รูปแบบที่ตั้งอยู่กลางห้าง เวลาได้มาดูห้องตัวอย่าง ก็ทำให้เราได้เห็น Potential ของห้อง ส่วนของเราจะดีไซน์ยังไงก็เอาให้ถูกใจตามสไตล์เรา เหมือนคำที่เค้าว่า Home Is Where The Heart Is จริงๆ

ต่อไปผมจะพาไปชมภาพสวยๆ จากส่วนกลางในโครงการกันต่อครับ ทั้งหมดอยู่ที่อาคาร A ครับ เริ่มจาก Lobby ต้อนรับ สวยเลยนะ เล่นพื้นที่ Double Volume เป็นกระจกใสเพิ่มความสูงโปร่งจนลืมไปว่านี่เป็นอาคาร Low Rise พร้อมต้นไม้ตกแต่งขนาดใหญ่สูง 5 เมตรกว่า

ที่นี่เรียกว่าพื้นที่สีเขียวจากภายนอกสู่ภายในอยู่ครบทุกพื้นที่ครับ ดีไซน์ของเซ็ตโซฟา ที่นั่งเน้นเส้นสายโค้งมนไปจนกระทั่งงาน Lighting ด้านบนเลย

ด้านบนของ Lobby มี Co-Working Space รองรับการทำงาน ใครอยู่ห้องแล้วคิดงานไม่ออก มานั่งที่ส่วนกลางชมธรรมชาติผ่านกระจกบานใหญ่ เปลี่ยนบรรยากาศครับ

ยังมี Fitness ให้ออกกำลังกายกับกระจกโค้งมนโอบล้อม ดูโปร่งสบาย รู้สึกว่างานดีไซน์ก็ทำให้น่ามาออกกำลังกายเหมือนกันนะเนี่ย ได้ทั้งเหงื่อ ได้ทั้งรูป ฮ่าๆ

มาที่สระว่ายน้ำที่ยกระดับขึ้นมาอยู่ชั้น 2 จะเห็นว่าพื้นที่สีเขียวเค้ามีทั้งแนวราบและแนวตั้ง แนวนี้เต็มไปด้วยต้นไม้ มีมุม Pocket Garden ซ่อนอยู่ให้บรรยากาศปลีกตัวมานั่งชมนกชมไม้ด้วย

ที่ชั้น 3 บนซุ้มทางเข้าโครงการ เค้าก็ทำเป็น Garden พร้อมพื้นที่พักผ่อนครับ บันไดสีส้มนี่ก็คือ Jogging Track วิ่งแบบ Trail Running ช่วยลดไขมันได้ดียิ่งขึ้นครับ ส่วนผมขอนั่งดูอยู่เงียบๆ แล้วกัน

ตรงบันได Jogging Track เมื่อกี้ก็สามารถวิ่งขึ้นมาสู่ Rooftop Garden ได้นั่นเองครับ ข้างบนก็มีพื้นที่ Amphitheatre และ Pavilion ให้นั่งกินลมชมวิวที่ด้านบน ตอนเย็นๆ ต้องลมดีแน่เลยนะ วิ่งจนได้เหงื่อแล้วมาพักให้หายเหนื่อยตรงนี้เลย

ตัวโครงการสามารถเข้าออกได้ 2 ซอยด้วยกันครับ จะเข้าออกที่ซ.ศรีนครินทร์ 42 ก็จะออกมาเจอรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีสวนหลวง ร.9 ซึ่งเค้ามี Shuttle Service รับส่งด้วยนะ หรือจะเข้าออกได้ที่ซ.ศรีนครินทร์ 40 ที่อยู่ตรงข้ามกับซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์เลยครับ หิวๆหรืออยากซื้อของใช้ก็ออกไปไม่ไกล

ใครอยากเข้ามาชมห้องตัวอย่าง หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปได้ที่ห้างซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ ชั้น 3 โซนโลตัสได้ครับ ดีไซน์ในเซลล์แกลอรี่นี่ก็จะทำให้ได้สัมผัสถึงมู้ดภายในโครงการได้เป็นอย่างดี

ทั้งหมดนี้ก็คือความน่าสนใจของโครงการ “Supalai Sense Srinakarin” ที่พวกเรา Living Sneak Peek เก็บภาพมาให้ชมครับ เป็นคอนโดที่บรรยากาศเหมาะกับการพักผ่อนและเป็นสไตล์ใหม่ที่ศุภาลัยทำออกมาได้สวย มีห้องหลายรูปแบบให้เลือกตามการใช้ชีวิต อยู่ในทำเลที่อิ่มท้องได้ทุกวัน ช้อปปิ้งได้ทุกคืน ตื่นเช้าไปออกกำลังกายง่าย เดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้า ในราคาสุดคุ้ม เริ่ม 1.42 ล้านบาทคร้าบ