การจะสร้างคอนโดหรูสักแห่งไม่ว่า Luxury, Super Luxury, Ultimate Luxury หรือจะไล่คลาส เพิ่มราคากันไปสักแค่ไหน ถ้าไม่ได้ทำด้วยวิธีคิดและความเชื่อที่ใช่ มันก็คืออิฐหินปูนทรายที่ก่อร่างบนที่ดินที่มีราคา แต่สำหรับ SCOPE นี้ เค้าทำด้วยความเชื่อที่ว่าต้องสร้างสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการใช้ชีวิต และที่สำคัญมันต้องยั่งยืนอยู่ได้จริงๆ โครงการนี้จึงนอกจากจะมีสเปคที่สุดยอด เค้าได้ออกแบบระบบหลังบ้านที่จะรันทุกอย่างให้ได้ประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมตลอดเวลาไปพร้อมๆ กัน
พื้นที่ส่วนกลางในแต่ละที่ที่เราได้เข้าไปดู เค้าให้สเปซที่สุดในทางที่จะทำได้โดยไม่คำนึงถึงพื้นที่ขาย ดีเทลแต่ละอย่างนั้นไปในโทนของ “Quiet Luxury” ที่เน้นความเรียบ สงบ แต่เบื้องหลังของการได้มาซึ่งเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น ของตกแต่งแต่ละอย่างต้องไปควานหามาทั่วโลก วัสดุที่เลือกใช้นั้นเน้นการสร้างความพึงพอใจในการใช้งาน นอกจาก Lighting ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เราจะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของ Aromatic Scent ที่เลือกมาเฉพาะสำหรับโครงการนี้ รวมทั้ง Handwash ที่หอมละมุนจนอยากจะล้างมือตลอดเวลา
ส่วนที่ผมชอบมากๆ คือ การใส่ใจในเรื่องการออกแบบ Facilities ที่ให้ความสุขสำหรับทุกคนในครอบครัวแบบจริงๆ โรงหนังส่วนตัวขนาดใหญ่พร้อมเบาะปรับนอนที่ใช้ระบบ Dolby Atmos กระหึ่มแบบไม่ต้องไปดูที่ไหน (เครื่องเสียงนี่ก็กว่าสิบล้านแล้วครับ), ห้องซ้อมดนตรีที่มาแบบ Full Band เลือกใช้รุ่นท็อป และคำนึงถึงหลักอะคูสติก พร้อมอัดเสียงได้เลย, ห้องสำหรับเจ้าตัวน้อยที่สเปซใหญ่อลังการที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นในคอนโด มาพร้อมกับฟังก์ชันครบถ้วน เสมือนมี Kidzania ส่วนตัว, มี Cigar Lounge, สระ Thermal Pool, Onsen ส่วนตัว, Private Dining Room และอื่นๆ อีกมากมาย
กิจกรรมเหล่านี้จะเกิดขึ้น และใช้งานได้อย่างไม่ติดขัดไม่ได้เลย ถ้าไม่มีระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่ง เค้ามีโซน Back of the House ที่สุดยอดมากด้วยห้องครัวแบบ Full Scale เหมือนในภัตตาคาร, มี Maid Dorm ที่เป็นส่วนห้องพักสำหรับแม่บ้านและพี่เลี้ยงเด็กที่สะอาดสะอ้าน, มีส่วน Storage โซนให้ลูกบ้านได้ใช้งานไม่ว่าจะห้องเก็บของแยกเป็นล็อกพร้อมเปิดแอร์ตลอดเวลา ห้องเก็บไวน์ ห้อง Garment Room สำหรับเก็บเสื้อผ้าฤดูหนาว ห้อง Pet Grooming พร้อมส่วนรับฝากในตอนกลางวัน โซนเหล่านี้จะมีค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้ระบบสามารถรันได้อย่างยั่งยืน
ที่นี่ใช้ระบบ Auto Parking 100% เพราะเค้าคิดมาแล้วว่าเค้าจะไม่ยอมประณีประนอมให้กับความสวยงามของอาคาร และเมื่อคิดว่าจะใช้ระบบนี้แล้วเค้าก็เลยมีบริการ Valet Parking เพื่อไม่ยอมให้ลูกบ้านได้รับความลำบากที่จะต้องจอดหรือรอรถด้วย เรียกว่าคิดมาคู่กันเลยเพื่อให้ได้ประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีที่สุด แต่ถ้าใครอยากจะจอดเองก็ทำได้เหมือนกัน ก็เลยออกแบบส่วนช่องจอดได้อลังการ สวยงามมาก (มีในรูปสุดท้ายให้ชมครับ)
ส่วนเรื่องห้องพักอาศัย ที่นี่มีเพดานสูง 3.5 ม. ทุกยูนิต มีห้องให้เลือกตั้งแต่ 83 – 433 ตร.ม. รวม 133 ยูนิต บนความสูงทั้งหมด 34 ชั้น ที่นี่มีบริการ Maid ทำความสะอาดด้วย และเป็นคอนโด Pet Friendly มีค่าส่วนกลางอยู่ที่ 150 บาท/เดือน ครับ
ทั้งหมดนี้ผมขอเน้นว่านี่เป็นแค่ส่วนเดียว ที่เราสะท้อนแนวคิดของคอนโด SCOPE หลังสวน มาให้ได้ฟังกัน เพราะกลัวจะยาวไป การที่สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นมาได้ผมเชื่อว่าเพราะผู้บริหารและทีมงาน ทำงานกับแบบลงมือในรายละเอียดกันถึงที่สุด (มีผู้บริหารที่ไหนจะรู้ถึงขั้นสุขภาพของปลาที่เลี้ยงในบ่อนประจำอาคาร) นี่เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดของผมจริงๆ ที่ได้มาชมโครงการระดับนี้ ต้องขอบคุณทั้งเพื่อนที่น่ารัก คุณเอ็ม จากคอนโดอินไซต์ซึ่งเป็นลูกบ้านที่นี่ด้วย คุณยงยุทธ และทีมงานจาก SCOPE ที่ให้โอกาสได้มาเยี่ยมชมครับ
พูดได้เต็มปากเลยว่า ถ้าอยากได้คอนโดที่เหนือกว่าคอนโดทั่วไปแบบจับต้องได้ในทุกมิติ และชอบดีไซน์นิ่งๆ แบบนี้ คุณต้องลองมาชม SCOPE หลังสวนสักครั้ง ไม่ผิดหวัง และจำไม่ลืมแน่นอนครับ
#LivingSneakPeek #SneakPreview#SCOPELANGSUAN #คอนโดหลังสวน #คอนโดเพลินจิต