โดยปัจจัยการทำกำไรก็มาจากการที่เปิดตัวโครงการใหม่ทั้งบ้านและคอนโด โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวในระดับลักซ์ชัวรี่ที่ลูกค้าชื่นชอบ จนมียอดโอนต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา, เศรษฐสิริ ดอนเมือง, นาราสิริ พหล-วัชรพล, บูก้าน กรุงเทพกรีฑาและบุราสิริ วัชรพล ในส่วนของคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ที่สามารถขายและรับรู้รายได้ได้ทันที ก็มีโครงการ XT พญาไท, XT ห้วยขวาง, ดีคอนโด พนา, โอกะ เฮ้าส์, เอดจ์ เซ็นทรัล พัทยา, เดอะ เบส เพชรบุรี-ทองหล่อ และเดอะ มูฟ บางนา
สิ่งสำคัญและเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจเติบโตได้ขนาดนี้ เพราะการตอบรับที่ดีในแต่ละแบรนด์จนลูกค้าเชื่อมั่น โดยเฉพาะการครองใจกลุ่มลูกค้าลักซ์ชัวรี่และซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ด้วยคุณภาพและบริการนั่นเองครับ ที่ผ่านมาเราก็เลยได้เห็นโครงการหรูของแสนสิริ Sold Out ไปได้ไม่ยาก
มาได้ขนาดนี้แล้วก็ต้องไปต่อ ปีนี้เค้าเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 46 โครงการ มูลค่ารวม 61,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขาย 52,000 ล้านบาท และเป้าหมายยอดโอนที่ 43,000 ล้านบาท โดยยังคงขยายพอร์ตบ้านหรู และรุกหัวเมืองท่องเที่ยวและจังหวัดใหญ่ รวมถึงการบริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขาย ให้กระจายไปในหลากหลายทำเล เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขันที่มากกว่า ผ่านการควบคุมระดับสินค้าเพื่อการขายในแต่ละระดับราคาให้อยู่ระดับที่เหมาะสมนั่นเองครับ
ทั้งหมดนี้พัฒนาภายใต้กลยุทธ์สำคัญที่จะขับเคลื่อนองค์กรควบคู่กับความพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ประกอบด้วย การรักษาระดับผลประกอบการให้เติบโตอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงให้ความสำคัญกับวินัยทางการเงิน
ส่วนโครงการเตรียมโอนเร็วๆ นี้ มีอีก 10 คอนโด ทั้ง เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์ ขอนแก่น, เดอะ เบส ไฮท์ – เชียงใหม่, เดอะไลน์ ไวบ์, ดีคอนโด แซนด์ หาดใหญ่, ดีคอนโด เวล ศรีราชา, ดีคอนโด รีฟ ภูเก็ต, เวย์ อยุธยา, ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต, ดีคอนโด แอร์ ลาดกระบัง และดีคอนโด ชายน์ รังสิตครับ
ภาพโครงการ BuGaan พระราม9 – เหม่งจ๋าย ที่ทำ One Day Sold Out ไปครับ
โครงการ Setthasiri วัชรพล-เทพรักษ์ บ้านสไตล์ Georgian ที่กำลังจะเปิด Pre-Sale 16-17 มี.ค. นี้
บุกเมืองท่องเที่ยวยอดฮิต ก็มี The Standard Residences หัวหิน ติดหาด ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติครับ