“Reference Kaset District” คอนโดตรงข้าม ม.เกษตร กับห้อง VertiSpace สูงโปร่ง 4.8 ม. ทุกยูนิต พร้อมเฟอร์นิเจอร์สุดน่ารัก

Reference Kaset District คอนโดตรงข้าม ม.เกษตร

มา ม.เกษตรฯ หลายปีคิดมานานว่าคงไม่มีที่ทำคอนโดใหม่ติดถนนแล้วละมั้ง แต่นั่นแหละครับคิดปุ๊บก็เจอป้าย “Reference Kaset District” ปั๊บ เค้าเก่งในการหาทำเลซะเหลือเกิน และวันนี้แหละผมจะพาไปรู้จักดีไซน์คอนโดละมุนสำหรับคนรุ่นใหม่จาก SC ASSET ที่มาพร้อมกับความสูงโปร่งถึง 4.8 ม. อยู่ได้สบายทั้งด้านบน และด้านล่าง ที่เค้าเรียกว่า VertiSpace ทุกห้องครับ

เปิดโครงการตรงนี้ไม่พูดถึง ม.เกษตรศาสตร์ ก็ไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นพื้นฐานการเติบโตของกรุงเทพตอนเหนือที่ดีเลยครับ นอกจากการเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำ ที่นี่ยังมีจำนวนนิสิตเยอะมากร่วมๆ 70,000 คน เรียกว่าติด Top 3 นี่ยังไม่นับบุคลากรต่างๆ นะ รอบมหาวิทยาลัยถึงได้คึกคักมาก ทั้งเรื่องอาหารการกิน รวมถึงที่พักต่างๆ ทั้งอพาร์ทเม้นต์ และคอนโดที่มีหนาแน่นไปหมด ที่สำคัญมหาวิทยาลัยก็ยังเติบโตไปข้างหน้าไม่หยุด อย่างในปีที่ผ่านมาก็ได้ต้อนรับนิสิตแพทย์เป็นปีแรก พร้อมกับจะมีโรงพยาบาลจำนวน 400 เตียงพร้อมสวนในคอนเซปต์ Medical Park ในรั้วมหาวิทยาลัยด้วย เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เราจะมีบัณฑิตคุณภาพมาเป็นกำลังสำคัญในสาขาวิชาที่ต้องการของประเทศเราต่อไปครับ

​นอกจากความเป็นย่านการศึกษาจากที่มีทั้ง ม.เกษตรฯ รร.สาธิตฯ และม.ศรีปทุมแล้ว โซนนี้ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ รองรับไว้อย่างพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเส้นทางรถไฟฟ้าสายหลักที่เชื่อมตรงต่อยาวไปจนคูคต บน ถ.พหลโยธิน และ SRT สถานีบางเขน บน ถ.วิภาวดีรังสิต เหลือก็รอแต่สายสีน้ำตาลนี่แหละที่จะทำให้การเชื่อมต่อบนเส้นงามวงศ์วานมันสมบูรณ์ มีแหล่งงานที่เป็นส่วนออฟฟิศขนาดใหญ่อย่าง SCB Park, PEA, Rasa One เป็นทั้งย่าน Shopping District พอนึกดูว่าโซนนี้กำลังจะมีเซ็นทรัลถึง 2 ห้าง มียูเนียนมอลล์ โลตัส เมเจอร์ ดิอะเวนิวที่รัชโยธิน ก็ไม่ต้องไปไหนไกลก็ได้ของครบ แถมยังอุ่นใจเหมือนอยู่ใน Medical Hub ย่อมๆ เพราะเมื่อรวมกับ 2 โรงพยาบาลอย่าง รพ.เปาโล และ รพ.วิภาวดี เท่ากับว่าในรัศมีใกล้เคียงก็จะมีถึง 3 โรงหมอเลยในอนาคตครับ

​คอนเซปต์โครงการ : Reference Kaset District

โครงการนี้เป็นการต่อยอดคอนโดของ SC Asset ที่ออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของการเป็นที่อยู่อาศัย แต่จะต้องละมุนใจถูก Taste และรูปแบบการใช้ชีวิตที่เค้าต้องการด้วย อย่างโครงการ Reference นี้ ก็ผสมผสานทั้งงานออกแบบที่ทำให้ออกมาสวยกลมกล่อมกำลังดี เรียบง่าย ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ มาผนวกกับบริการที่ช่วยให้ชีวิตสบายอีกระดับ ซึ่งก็ทำมาเป็นพิเศษแบบที่ในย่านนี้ยังไม่ได้ทำกันมาก่อนครับ

​ผมขอเริ่มจากเรื่องของพาร์ทตัว Product กันก่อนนะ Reference Kaset District เป็นคอนโด High Rise สูง 21 ชั้น รวมห้องพักอาศัย 381 ยูนิต (ที่จอดรถ 142 ช่องจอด) ซึ่งตัวอาคารนี่จะมีระยะร่นจากหน้าถนนหน่อย ซึ่งจะทำให้ได้ความ Privacy เพิ่มขึ้น ส่วนที่อยู่ด้านหน้าจะมีอาคารน้อยสูง 2 ชั้นซึ่งจะเป็นส่วน Retail Shop ทั้งหมด 6 ยูนิต โดยหนึ่งในนั้นจะมีร้านสะดวกซื้อแบบหิวเมื่อไหร่ก็แวะมา 7-11 ให้ลูกบ้านได้ซื้อง่ายใกล้มือครับ ตัวอาคารดีไซน์เรียบง่าย สูงโปร่งที่สุดในคอนโดใหม่แถวนี้ ซึ่งส่วนนึงก็เพราะความเป็นห้องเพดานสูงถึงแบบ 2 ชั้นที่เค้าเรียกว่า VertiSpace ทั้งหมดเลยครับ โดยยูนิตที่มีก็ทำให้การอยู่ในคอนโดไม่วุ่นวายจนเกินไป

​สิ่งอำนวยความสะดวก

พื้นที่ส่วนกลางนี่ดูจะเป็นจุดที่เค้าให้ความสำคัญมากครับ โดยเน้นให้ Facilities Floor เป็นชั้นบน 21 เต็มชั้นซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโครงการ ​ ผสมผสานทั้งพื้นที่ใช้งานในส่วน Indoor ซึ่งประกอบด้วยฟิตเนส, Yoga Studio, Pool Lounge, Learning Lounge, Karaoke Room, Gather & Co. และส่วน Outdoor ซึ่งมีสระว่ายน้ำขนาด Half Olympic จากุซซี่ สระเด็ก และสวน Pocket Garden พร้อมที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อให้ทุกส่วนได้รับวิวที่ดีที่สุดจากโครงการ ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางเกือบทั้งหมดเปิดตลอด 24 ชม.* เลย เว้นห้องคาราโอเกะไว้ห้องนึงเพื่อความสงบสุขของเสียงในเวลาค่ำคืน

นอกจาก Main Facilities ด้านบน ก็ยังมีพื้นที่สวนชั้น 5 ให้ได้เปลี่ยนบรรยากาศ มี Co-Kitchen และ The Canopy Garden ชมวิวสวนจากด้านใน และที่ชั้น 1 ก็มีจะ Lobby, Laundry & Ironing Room อันนี้ดูแปลกใหม่ดีมีห้องสำหรับรีดผ้าด้วย แล้วก็ยังมี EV Charger ให้ถึง 6 ช่องนะ เรียกว่ารองรับการใช้งานรถไฟฟ้าได้พอสมควรเลยครับ ผมชอบสีสันและโทนการตกแต่งของพื้นที่ส่วนกลางนะมันให้ความสบายตาเพราะอิงจาก Layer of Nature ไล่โทนจากสีของพื้นดินไปจนถึงสีสันของท้องฟ้า ซึ่งดีไซน์เหล่านี้มันได้รับการนำไปใช้ถึงภายในห้องพักด้วยครับ สิ่งที่โครงการนี้เติมเข้ามาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกก็คือเรื่องของ “บริการ” ซึ่งผมเองก็ยังไม่เคยเห็นคอนโดที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมีให้ขนาดนี้นะ แบบที่ว่ามี Concierge Service ดูแลเลย ลองนึกภาพง่ายๆ ก็คือ มีคนคอยต้อนรับ ช่วยถือกระเป๋า จะสอบถามทำเลอะไรแถวไหนก็ถามเขาได้ มีบริการรีดผ้าให้ด้วย 20 ชิ้นต่อเดือน ทำความสะอาดห้องให้ 1 ครั้งต่อเดือน จัดให้ตลอดทั้งปี มี Shutter Service ให้บริการถึงมหาวิทยาลัย ยังไม่พอ มีประกันสุขภาพและอุบัติเหตุให้ด้วยอีก 1 ปี! จะอุ่นใจกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ฮ่าๆ อันนี้คือเป็นมาตรฐานอยู่ในค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.ม. ไม่ต้องจ่ายเพิ่มครับ ส่วนใครอยากพิเศษกว่านั้นแบบว่าให้ช่วยจองร้านอาหาร จัดเซอร์ไพรส์ปาร์ตี้ หาแม่บ้านทำความสะอาด จองตั๋วคอนเสิร์ตแบบให้เหมือนระดับโรงแรมเค้าก็มีบริการแบบ On Demand ให้ด้วย เรียกว่ามาครบเลย

​รูปแบบห้องพักอาศัย

อย่างที่บอกครับว่าจุดเด่นของห้องที่นี่คือการปลดล็อคลิมิตในการอยู่อาศัยด้วยพื้นที่แนวตั้ง ทุกห้องจะเป็นห้องเพดานสูงถึง 4.8 ม. ทำให้อยู่สบายเหมือนบ้าน และสามารถใช้งานได้ทั้ง 2 ชั้น ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 Type ได้แก่

  • ​1 Bed VertiSpace พื้นที่ใช้สอย 35.97-38.38 ตารางเมตร
  • 2 Beds VertiSpace พื้นที่ใช้สอย 38.19 – 40.38 ตารางเมตร
  • 3 Beds VertiSpace พื้นที่ใช้สอย 46.57-59.30 ตารางเมตร

​ห้องที่เค้าทำ Show Unit ที่สำนักงานขายและเราเก็บภาพมาฝากก็จะเป็น 2 Type ด้านล่างครับ ซึ่งการมีเพดานสูงขนาดนี้ทำให้ห้องดูโปร่งสบายมากจริงๆ และพื้นที่ชั้น 2 ก็ได้ระยะเพดานถึง 2.15 ม. ครับ โดยไฮไลต์จะอยู่ที่ห้อง 3 Beds VertiSpace ซึ่งมีความยืดหยุ่นของ Space ที่ทำให้จัดวางได้ถึง 3 เตียงที่มีความเป็นส่วนตัวได้ทั้งหมด เป็นข้างล่าง 1 เตียง ส่วนชั้นบนนี่พิเศษมาก เป็นห้องที่มีประตูปิดส่วนตัวแยกออกจากกันโดยมีทางเดินเชื่อมตรงกลาง น่าสนใจยังไงเดี๋ยวตามไปดูด้านในได้เลยครับ

​และที่ผมเกริ่นไว้ว่าทำไมเค้าถึงทำให้ดีไซน์และบรรยากาศของโครงการเข้ามาสู่ภายในห้องได้ ก็เพราะที่นี่ขายแบบ Fully Furnished ครับ และเฟอร์นิเจอร์นี่แหละที่ไม่ธรรมดาเพราะเค้าออกแบบมาให้เข้ากับดีไซน์โครงการเลย ซึ่งผมว่าได้ความ Minimal ในรูปแบบ Scandinavian นะทั้งสวย น่ารัก และน่าใช้งาน แถมยังมีชิ้นพิเศษที่ได้รับการออกแบบโดย Thinkk Studio ซึ่งนอกจากจะดีไซน์ถูกใจเค้ายังให้ความสำคัญกับฟังก์ชันที่หลากหลายด้วย อย่างโต๊ะกาแฟแปลงเป็นโต๊ะทานข้าวได้ โซฟามีช่องเก็บของ มีโซฟาเบดที่แปลงร่างเป็นเตียงนอนได้ คือโอเคล่ะ อาจจะมีหลายที่ให้เฟอร์นิเจอร์บ้าง แต่สำหรับที่นี่ไม่ใช่ให้เพื่อให้มีใช้อย่างเดียว แต่เป็นของที่ออกแบบมาให้อย่างดีเพื่อความสุนทรีย์ในการใช้งาน และมันเข้ากันกับภาพรวมทั้งหมดมากครับ

​ทิ้งท้ายกันด้วยเรื่องของราคา โครงการนี้เริ่มอยู่ที่ 4.69 ล้านบาท* ครับ เค้าจะเปิดจองพร้อมให้ชมห้องตัวอย่างเป็นที่เรียบร้อย และจะมีงาน Presales วันที่ 26-27 เมษายน นี้นะครับ ใครสนใจก็ลง Calendar ไว้ได้เลยแล้วมาลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับส่วนลดสูงสุด 100,000 บาท* ได้ที่นี่ครับ https://bit.ly/4gjWlYc

อ้อ แถมท้ายให้อีกนิด สามารถเอาโพสต์นี้ไปแลกส่วนลดเพิ่มเติมอีก 10,000 บาทได้ด้วยครับ

วันนี้ผมพาน้องอาย ศิษย์เก่า ม.เกษตรศาสตร์ มาชมโครงการใหม่ที่สุด, สูงสุดในย่าน และเป็นโครงการพร้อมห้องเพดานสูงที่แรกบนถนนงามวงศ์วาน แถมมีเฟอร์นิเจอร์สุด Flexible น่ารักๆ แต่งให้ครบ ที่นี่ “Reference Kaset District” แต่งครบ เริ่ม 4.69 ล้าน* ครับ

ตัวโครงการมีความสูง 21 ชั้น แต่ด้วยความที่เป็นห้อง VertiSpace เพดานสูง 4.8 ม. ทุกยูนิต เลยทำให้อาคารมีความสูงเทียบๆ เท่าตึก 40 ชั้นได้เลยฮะ ที่พักอาศัยเค้ามี 381 ยูนิต ซึ่งผมว่าเป็นตัวเลขที่ไม่มากนักสำหรับคอนโดตึกสูง

เค้ามีคอนเซ็ปต์การออกแบบหลัก อย่าง Limitless In Design เป็นการเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในพื้นที่จำกัด เลยเกิดเป็นห้อง VertiSpace มาเพิ่มสเปซการใช้งานในแนวสูง นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่จะมาเพิ่มฟังก์ชันภายในห้องให้ได้ประโยชน์ที่สุด ก็คือเฟอร์นิเจอร์ ที่เค้าร่วมมือกับ Thinkk Studio ทำเฟอร์นิเจอร์รูปร่างกะทัดรัด มีโค้งมีเคิร์ฟตามการออกแบบโครงการให้ความละมุนแบบธรรมชาติ ที่สำคัญสามารถปรับเปลี่ยนได้ อย่างโซฟามีช่องเก็บของ หรือโซฟาเบดปรับเป็นเตียงได้ครับ

น้องบอกว่าดีงามมากก ทำไมสมัยหนูอยู่ไม่มีคอนโดแบบนี้บ้าง 555 แน่นอนว่าเมื่อเราออกไป อะไรๆ ก็จะเจริญ

ภายใน Sales Gallery ซึ่งอยู่จุดเดียวกับไซต์จริงของโครงการนี่เค้าก็ตกแต่งบรรยากาศและสีสันมาคล้ายคลึงกับส่วนกลางที่เราจะได้เห็นบนตึกจริง โดยมี Jo’s Banoffee ร้านขนมและเครื่องดื่มอร่อยๆ มาคอยให้บริการประจำที่สำนักงานขายด้วย บานอฟฟี่เค้าเด็ดจริงนะ ต้องได้ลอง

ไปดูห้องตัวอย่างกันก่อนเลยครับ ที่นี่เค้ามีห้องตั้งแต่ 1-3 Beds แบบ VertiSpace ขนาดพื้นที่ชั้นล่าง 24.46-34.95 ตร.ม. พร้อมแต่ง Fully Furnished มาให้ ในส่วนของห้องที่จะพาชมวันนี้มี 2 รูปแบบคือ 2 และ 3 Beds VertiSpace ครับ พร้อมแล้วไปชมกัน

มาเริ่มที่ห้องใหญ่กันก่อน รูปแบบ 3 Beds Vertispace ขนาด 27.98 ตร.ม. ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยบนล่างรวมกันทั้งหมด 46.57 ตร.ม. ครับ ผมอยากให้ดูเรื่องของ Space ห้องนี้ที่รองรับการวางถึง 3 เตียงนอนได้สบาย Layout แบบนี้ไม่ค่อยเห็นที่ไหน เป็นห้องเพดานสูงที่ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วได้คุ้มค่า

กลับมาเหนื่อยๆ เราก็มาเปิดตู้เย็นหาน้ำเย็นๆ ดื่มคลายร้อนที่ห้องครัวเป็นโซนแรกครับ เค้าให้เคาน์เตอร์ครัวหน้าบานสีไม้อ่อน มีเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง เตาและฮูดดูดควันจาก Hafele ติดไว้ให้ ถ้าใครชอบครัวปิด สามารถกั้นเพิ่มเติมได้นะ เพดานตรงส่วนครัวตรงนี้สูง 2.4 ม. ครับ

ตู้เก็บรองเท้าก็บิ้วท์มาให้เรียบร้อย จะแบ่งชั้นบนไว้เก็บกระเป๋า หรือวางข้าวของส่วนตัวก็ได้ครับ และเค้ามีปุ่มเปิดปิดไฟแบบแค่แตะเบาๆ พร้อม Home Automation ควบคุมไฟและแอร์ครับ

ห้องน้ำตกแต่งกระเบื้องสีเขียวอ่อน และครีม ดูให้ความธรรมชาติ มีสุขภัณฑ์จาก Mogen ติดฉากกั้นอาบน้ำ และ Rain Shower ให้น้ำนวดคอบ่าไหล่สบายๆ รวมถึงช่องวางบรรดาเครื่องหอม แชมพู ครีมอาบน้ำ ก็ทำมาให้แล้วครับ

ดื่มน้ำ ล้างตัวเสร็จแล้วก็มาพักผ่อนที่โซน Living แบบ Double Volume ที่เพดานสูง 4.8 ม. โปร่งสบาย ซึ่งปกติใน Layout อื่นโซนเพดานสูงนี้จะอยู่ชิดกับระเบียง แต่ที่ห้องนี้เค้าจัดไว้ตรงกลางก็เพราะด้านบนทำไว้เป็นห้องนอนครับ ได้พื้น SPC สีอ่อนสวยงาม และนี่ครับ โซฟากับ Coffee Table ทั้ง 2 นี้แหละที่ออกแบบร่วมกับ Thinkk Studio ทำออกมาได้รูปทรงน่ารักเชียว

เงยขึ้นไปดูก็จะเห็นจุดเด่นของห้องนี้ครับ เนี่ยแหละคือการออกแบบ Space โดยใช้ประโยชน์จากพื้นที่แนวตั้ง มีสองห้องนอนด้านบนที่แยกออกจากกันและเดินเชื่อมหากันได้ ผมเห็นครั้งแรกก็เอ้อ เขาเข้าใจทำแฮะ

มาดูเฟอร์นิเจอร์ชิ้นพิเศษกันต่อหน่อย ฟังก์ชันที่ซ่อนอยู่ก็คือช่องเก็บของด้านข้างโซฟานี่เองครับ เก็บบรรดาสายชาร์จ หนังสือต่างๆ เปิดเอาของเข้าออกได้ง่าย

ส่วน Coffee Table นี่ก็เปิดขึ้นมาเป็นโต๊ะทานอาหาร หรือทำงานก็ยังได้ แถมข้างล่างมีช่องเก็บของเพิ่มได้อีก อย่างรีโมททีวีนี่เป็นสิ่งเล็กน้อยที่รกสายตา เก็บได้ในช่องนี้ไม่ต้องหาตอนจะใช้แน่นอน ฮ่าๆ ที่ผมชอบอีกอย่างคือทุกอย่างเป็น Soft Close ไม่ต้องกลัวปิดเสียงดัง หรือหนีบมือ

ฝั่งตรงข้ามที่เป็นทีวี เค้าก็บิ้วท์ TV Console ไว้ให้ โทนสีไปในทางเดียวกันหมดครับ เอ๊ะ แล้วประตูข้างๆ นี่คืออะไรนะ

เป็นห้องเก็บของใต้บันได ขนาดนี่เดินเข้าได้เลย จุของได้เยอะ อย่างกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ที่ไม่รู้จะเก็บที่ไหน ก็ไว้ในนี้เลยเหมาะมาก

มาสู่พื้นที่ข้างๆ ที่นั่งเมื่อซักครู่ ก็เป็นโซฟาเบดที่เค้าให้มาเหมือนกันนะ เปิดเลื่อนออกมาได้ง่าย ผู้หญิงตัวเล็กอย่างคุณน้องก็ทำได้ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้แหละครับคือส่วนแรกที่เราสามารถจัดวางเตียงนอนได้

เปิดโซฟาเบดให้ดูฮะ ตรงนี้วิวดีรับแสงธรรมชาติ ถ้าวันไหนไปปาร์ตี้สังสรรค์ เดินขึ้นด้านบนไม่ไหว นอนตรงนี้ได้เลย นอนไปนอนมา อาจมีคนขี้เกียจเดินขึ้นไปนอนข้างบนก็เป็นได้ 555

ข้างกันก็เป็นพื้นที่ที่สามารถวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้ เหมาะมากเพราะมีแสงธรรมชาติช่วยให้มองเห็นได้ชัดแจ๋วตลอดวัน เป็นที่ทำคอนเทนต์ ถ่าย Reels ก็ดี๊ดี แสงสวยแบบนี้

ตู้ฝั่งตรงข้ามเค้าก็ทำมาให้อีกจุด เรื่องเก็บของก็เป็นฟังก์ชันพื้นฐาน แต่ผมชอบในแง่งานดีไซน์ มีจุดเล็กๆ ที่สร้างความแตกต่างให้มันดูสวยน่าใช้งาน ทั้งหมดนี้ก็จะได้ฟังก์ชันของห้องนอนด้านล่างครับ

ระเบียงวางเครื่องซักผ้าได้ 1 เครื่องครับ ผมชอบที่ผนังตรงนี้ก็ยังเป็นกระจกให้แสงเข้าห้องได้อยู่นะมันทำให้โซนนี้โปร่งมาก

เสร็จแล้วขึ้นไปดูที่ด้านบนกันบ้าง

ที่ผมว่าน่าสนใจก็คือบนนี้จะมี 2 Beds ที่กั้นเป็นส่วนตัวทั้งคู่ครับ เดินไปหากันได้ผ่านสะพานเชื่อมนี้ ซึ่งทำราวกันตกเป็นกระจกด้วยนะ ดูสวยเลย ทั้ง 2 ห้องก็จะมีกระจกบานกระทุ้งที่เปิดระบายอากาศได้ และประตูบานเลื่อนติดตั้งมาให้ด้วย ไปดูห้องข้างหน้ากันก่อนครับ

ห้องนอนก็จะได้ฐานเตียง 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนแบบนี้ ไม่เกะกะเวลาเปิดใช้งานครับ ห้องนี้แม้จะไม่ได้อยู่ติดระเบียง แต่ก็รับแสงได้ผ่านกระจกบานใหญ่นี้ครับ

นอนก็ปิดม่านปิดประตูเป็นมุม Private ของตัวเอง

ห้องนอนสุดท้ายก็อยู่ติดกับหน้าต่างครับ ความเก๋ของห้องนี้คือฐานเตียงก็จะเป็น Platform สำหรับวางเตียง มีลิ้นชักเก็บของด้วยนะ มาพร้อมตู้เสื้อผ้าเหมือนเดิม ดีไซน์เหมือนห้องด้านล่าง

ห้องสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด รูปแบบ 2 Beds VertiSpace ขนาด 28.07 ตร.ม. รวมพื้นที่ชั้นบนและล่างทั้งหมด 38.19 ตร.ม. ห้องนี้นี่ก็จะได้ส่วน Double Volume Living Area ที่เต็มอิ่ม เป็น Layout ที่คุ้นตาสำหรับห้องสไตล์นี้ครับ

โซนแรกเป็นห้องครัวเช่นกัน

ผมว่าตรงส่วนครัวและห้องน้ำ สามารถกั้นได้เหมือนกันนะ เผื่อใครเป็นสายทำอาหาร จะได้ใช้ครัวได้เต็มที่

ห้องนี้โซน Living นี่ได้ความโปร่งเต็มๆ กับแสงธรรมชาติจากกระจกบานใหญ่ เกือบเต็มความสูงครับ

เฟอร์นิเจอร์ก็ได้เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยครับ

มุมนั่งทำงานด้านล่างนี่พิเศษมากจริงๆ พอได้กระจกเต็มฝั่งขนาดนี้

ห้องนอนชั้นบนก็ได้ฐานเตียงและตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนครับ มีมุมโต๊ะทำงานหันเข้าหาจุดโปร่งรับวิวของห้องเหมือนกัน ได้เป็นกระจกเข้ามุมสวยๆ ด้วย

ครบแล้วครับ กับห้องตัวอย่างทั้ง 2 ห้อง สิ่งที่ผมชอบก็คืองานดีไซน์ที่สะท้อนคอนเซปต์โครงการได้สวยงามลงตัว เรียกว่าถ้าเราชอบแนวคิดและการออกแบบของที่นี่ ห้องที่ได้ก็จะสะท้อนสิ่งนี้ด้วยเหมือนกันครับ

ต่อไปมาชมส่วนกลางสวยๆ ของเค้ากันต่อครับ เค้าเปิด 24 ชม. เกือบทั้งหมด จะยกเว้นแค่ห้องคาราโอเกะ เพราะกลัวเสียงจะรบกวนลูกบ้านท่านอื่นยามเข้านอนนะ ผมเคยไปดูโครงการสร้างเสร็จในแบรนด์ Reference มาแล้วที่ทำเลสาทร วงเวียนใหญ่ การออกแบบทั้งสีสัน Mood & Tone และสถาปัตยกรรมที่มีโค้งมีเคิร์ฟของเค้า นี่ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นมาก อย่างจุดแรกคือ Lobby ให้นั่งพัก รอรับแขก แต่งสีเอิร์ธโทนขาวครีม แซมส้มอิฐ พร้อมต้นไม้แบบนี้ครับ

ส่วน Private Lobby ตรงนี้ก็มีกระจกให้ชมวิวสวนด้านนอกเต็มที่ พร้อมโซฟาน่ารักๆ เลือกนั่งพักผ่อนกันได้ แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ก็ยังมีรูปทรงโค้งมนเข้ากับโดยรอบ

ขึ้นมาต่อที่ Learning Lounge เรามาทำงาน นั่งอ่านหนังสือพร้อมชมวิวเมืองตรงนี้ได้ เผื่ออยู่ในห้องนานๆ แล้วสมองไม่แล่นเท่าไหร่ ก็เปลี่ยนบรรยากาศครับ

จะมาเล่นสนุกกับชาวแก๊ง ก็มาต่อได้ที่ห้อง Gather & Co ตั้งชื่อได้เก๋ดีนะครับ นึกถึงสมัยเรียนที่เลิกเรียนแล้วต้องหาพื้นที่หน้าตึกนั่งเล่นบอร์ดเกมกัน ถ้ามีห้องแบบนี้คงสนุกได้เต็มที่

ร้อนๆ แบบนี้ ลืมไปเลยว่าไทยมีฤดูหนาว อยากจะโดดน้ำให้ชุ่มฉ่ำ หรือนั่งแช่น้ำชมวิวชิลล์ๆ ก็มี The Seamless-edged Swimming Pool & Jacuzzi ที่ชั้น 21 พร้อมที่นั่งเล่นโดยรอบ

ชั้นเดียวกันก็มี The Limitless Fitness Club วิวสระว่ายน้ำ ออกกำลังกายชมวิวย่านเกษตรได้เต็มตา มาวิ่งลู่ ใส่หูฟังเปิดเพลงโปรดตอนพระอาทิตย์ตกคงฟินไปอีกแบบ

คาร์ดิโอเสร็จก็ต้องยืดเหยียดกล้ามเนื้อกันสักหน่อย ที่ Yoga Room จะมาบอดี้เวท หรือโยคะ ก็มีจอให้เปิดเล่นตามคลิปที่ชอบได้สบายเหมือนอยู่บ้าน

โครงการตั้งอยู่ติดถนนงามวงศ์วาน ระว่างซอยงามวงศ์วาน 42 และ 46 ซึ่งจะอยู่เยื้องกับทางเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ประตู 3 ที่ใกล้กับคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะบริหารครับ สำหรับอาหารการกินทางด้านขวามี Tops สาขาเกษตร และด้านซ้ายมีโรงพยาบาลวิภาวดี พร้อม Vi Plaza ส่วนในมหาลัยที่ติดกับประตูมี Max Beef ร้านเนื้ออร่อยๆ รวมถึง Ku Avenue นอกจากนี้แหล่งไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงก็ทั้ง Major Ratchayothin ไปอีกหน่อยก็มีเซ็นทรัลแห่งใหม่บน ถ.พหลโยธิน และเซ็นทรัลลาดพร้าว เรียกว่าบ้านเรามี 2 เซ็นทรัล ที่สามารถนั่ง BTS จากสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไปไม่กี่สถานี และใกล้โครงการยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดง สถานีบางเขนเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกการเดินทางด้วยฮะ

ถือว่าเป็นโครงการที่เข้ามาทำให้ชาวเกษตรได้ตื่นตาตื่นใจกันไปอีกขั้น ด้วยห้อง VertiSpace สูงโปร่ง มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ มีพื้นที่ส่วนกลางให้ทำกิจกรรมมากมาย ในทำเลที่ครบครัน แถมยังเติบโตไปข้างหน้า ใครอยากเห็นโครงการใหม่ๆ ที่สร้างความพึงพอใจได้อีกแบบขอเรียนเชิญไปชมกันครับ กับราคาเริ่ม 4.69 ล้านบาท* และนี่คือ Reference Kaset District คอนโดสวยแต่งให้ครบแบบฟูลฟังก์ชันสำหรับชาวเกษตรครับ