LIV24 ปฏิวัติระบบรักษาความปลอดภัยในวงการอสังหาฯ ให้เหนือกว่าด้วยการจับตาแบบ 24 ชม.

จากที่วันก่อนเกริ่นไว้ วันนี้ผมขอกลับมาเล่าเรื่อง “LIV24” ที่ได้เข้าไปชมและดูด้วยตาตัวเองที่สำนักงานใหญ่แสนสิริให้ทุกคนได้อ่านกันนะครับ โพสต์นี้ยาวหน่อยแต่รับประกันว่าเมื่ออ่านจบจะเข้าใจว่าเค้าพัฒนาระบบนี้ไปทำไม

LIV24 ปฏิวัติระบบรักษาความปลอดภัยนวงการอสังหาฯ

ทุกวันนี้ถ้าเราอยู่ในโครงการไม่ว่าจะคอนโด หรือบ้าน ก็คงคุ้นชินกับระบบรักษาความปลอดภัยกันมาบ้างนะครับ ไม่ว่าจะพวก Hardware อย่างกล้อง CCTV, รั้วรอบโครงการ พร้อม Front Gate ไม่ว่าจะแบบชั้นเดียวหรือ Double Gate, ระบบ Security Access ที่ใช้ก่อนเข้าส่วนต่างๆ ทั้งการแตะบัตร แสกนหน้า ลายนิ้วมือหรือ Bluetooth ร่วมกับการใช้กำลังคน อย่าง รปภ. ดูแลตลอด 24 ชม. หากอยากได้รับความปลอดภัยมากขึ้นก็อาจจะเพิ่มจุด เพิ่มคน หรือเพิ่มอุปกรณ์อะไรต่างๆ เข้ามา ฟังดูแล้วยิ่งเยอะก็ดูจะอุ่นใจมากขึ้นใช่มั้ยครับ

คำถามก็คือ แล้วเราสามารถวางใจกับระบบรักษาความปลอดภัยที่เค้าวางไว้กี่ชั้นต่อกี่ชั้นได้มากน้อยแค่ไหนกัน?

เพราะยังไงก็แล้วแต่ไม่ว่าจะเป็น Hardware หรืออะไรเพิ่มเข้ามาในโครงการ ทุกอย่างก็ต้องยังพึ่งพาคนร่วมด้วยอยู่ดีครับ ไม่ว่าจะเป็นการเดินตรวจตราของ รปภ. จังหวะการบุกรุกเข้าพื้นที่แบบเสี้ยวนาที ถ้าแค่เดินช้าไปหน่อย หรือกำลังมองจุดใดจุดหนึ่งอยู่ หรือแย่ที่สุดก็คือการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ก็คงพลาดไปแล้ว ​ แม้กระทั่งกล้อง CCTV ที่เพิ่มระบบ Ai เข้าแจ้งเตือนเมื่อเห็นความผิดปกติ แต่ถ้าตรงกับจังหวะคนที่อยู่ควบคุมที่โครงการต้องออกมาให้บริการลูกบ้านล่ะ ไม่ว่าจะเปลี่ยนหลอดไฟ หรือออกไปเข้าห้องน้ำ มันก็คงช้าไปอยู่ดี หรือถ้าหาคนมาดูตลอดเวลาให้เพียงพอ ค่าบริการที่เพิ่มขึ้นจะต้องใช้อีกเท่าไหร่

แต่เชื่อมั้ยครับว่าระบบ LIV24 ที่แสนสิริพัฒนาขึ้นมาเองและดูแลโดย Plus Property ได้ปิดจุดบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นเหล่านี้ได้ทั้งหมด ทำให้เราอุ่นใจได้ตลอด 24 ชม. จริงๆ เพราะ LIV24 คือระบบที่สอดประสานกันของทุกอุปกรณ์ กำลังคนแบบไร้รอยต่อ แถมยังทำได้พร้อมๆ กันเป็นร้อยโครงการ ด้วยอาวุธลับคือศูนย์ Command Center ที่มีคนดูแลแบบ 24/7 นั่นเอง

ให้ลองนึกภาพตามแบบนี้นะครับ

เริ่มจากทุกโครงการติดตั้งอุปกรณ์เฉพาะอย่างกล้อง CCTV พร้อมระบบ Ai ที่เค้าพัฒนาและปรับปรุงตลอดเวลาครับ ระบบนี้จะจับภาพและประเมินทั้งหมดว่ามีสิ่งใดรุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตบ้าง ไม่ว่าจะคน หรือสัตว์อันตราย รวมไปถึงเหตุการณ์ผิดปกติอย่างรถชน ไฟกำลังลุกไหม้ และทุกเหตุการณ์ที่ผิดปกติจะยิงตรงขึ้นจอในศูนย์ Command Center ที่เราเห็นเหมือนในหนังเลยโดยมีคนดูแลตลอดเวลา (ทุกกะจะมีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 2 คน แต่ตามปกติแล้วเค้าจะจัดไว้ถึง 3 คนเลย)

เจ้าหน้าที่ตรงนี้จะติดต่อไปยังหน้างานที่โครงการเพื่อเข้าระงับเหตุและตรวจสอบพื้นที่ทันที ดังนั้นหากกลางดึกมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอเลื้อยเข้าโครงการเค้าก็รู้เลย ไม่ต้องรอลูกบ้านจ้ะเอ๋ในเวลาอื่น หรือถ้าเกิดไฟกำลังเริ่มปะทุ เจ้าหน้าที่ก็เข้าดับได้เลยในไม่กี่นาที นี่จึงเป็น Best Scenario ที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ไม่มีเหตุการณ์สูญเสียต่อชีวิตเกิดขึ้นในทุกโครงการที่ Plus Property ดูแลโดยระบบ LIV24 เลยครับ

ความปลอดภัยนี้จะเชื่อถือได้ก็ด้วยการพัฒนาระบบ Ai อย่างต่อเนื่อง เชื่อมั้ยครับว่าเค้าปรับจูนระบบตลอดเวลา เช่น พอเปลี่ยนฤดูกาล ทิศทางแสงเปลี่ยน อุณหภูมิเปลี่ยน เค้า Keep Track สิ่งที่เปลี่ยนแปลงและปรับตั้งอุปกรณ์ให้ได้ความเที่ยงตรงมากขึ้นเสมอ มันคือความเข้มแข็งของทีมงาน Back of the House และการสอดประสานกับนิติบุคคลหน้างานของ Plus Property ยิ่ง Software เชื่อถือได้เค้าก็จัดการด้วยคนจำนวนไม่มากได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถ้าหากบางโครงการที่เป็นบ้านหรูเค้าก็จะเติม Hardware พิเศษลงไปอีกอย่างเช่น Digital Fence ที่จะส่งสัญญาณบอกทันทีหากมีสิ่งไหนพยายามข้ามผ่านรั้วกำแพงมา

แต่ระบบนี้ก็มีจุดที่เค้าต้องยอมแลกด้วยครับ ยิ่งอยากให้ปลอดภัยเท่าไหร่ ก็ต้อง detect มากขึ้น แต่ละช่วงเวลาเค้าพบ False Alarm เยอะมากที่จะต้องเสียเวลาตรวจสอบ แต่ก็ยอมให้มันเกิดขึ้นดีกว่าปล่อยให้มัน detect ไม่เจอ มันถึงเป็นตัวที่ชี้ให้เห็นว่าต่อให้ระบบ Hardware & Software ดีแค่ไหน ก็ยังต้องพึ่งพิงบุคลากรที่เชี่ยวชาญในการดูแลอยู่ดีเช่นกันครับ

สิ่งพิเศษมากกว่าเรื่องของความปลอดภัยที่ผมฟังแล้วว้าวมากนั่นก็คือ ระบบนี้สามารถพลิกแพลงเพื่อดูแลรักษาอุปกรณ์สำคัญต่างๆ ในคอนโดอย่างเช่น ระบบลิฟต์ ระบบปั๊มน้ำ ระบบ Fire Alarm เหล่านี้ได้ด้วยนะครับ โดยการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษที่จะ monitor การทำงานตลอด 24 ชม. เช่นเดียวกัน หากเกิดเหตุผิดปกติก็จะได้รับการจัดการอย่างทันท่วงที รวมไปถึงว่าถ้าอุปกรณ์นั้นเริ่มเสื่อมแล้วก็จะมี Log ไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันในการบำรุงรักษากับทางผู้ผลิต ไม่ว่าจะเปลี่ยนอุปกรณ์ล่วงหน้าก่อนจะเสีย ซึ่งปกติเวลาเค้ามาตรวจประจำปีอาจจะไม่เจอความผิดปกติก็ได้ นี่เป็นส่วนหนึ่งของ Preventive Maintenance ที่จะช่วยรักษาความปลอดภัยและ Save Cost ให้กับลูกบ้านในระยะยาวด้วยครับ

และสุดท้ายแล้วเมื่อระบบนี้ดูแลโดย Command Center เท่ากับว่าทุกโครงการจะแชร์ Cost นี้ร่วมกัน ทำให้ต่อเดือนเมื่อเทียบค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียเพิ่มขึ้นก็หลัก 2-3 หมื่นบาท เท่านั้น ถามว่าคุ้มไหม ลองเทียบกับเงินเดือนจ้างเจ้าหน้าที่ รปภ. เพิ่มขึ้นดูก็ได้ครับ และตอนนี้เค้าไม่ได้หยุดแค่ดูแลโครงการอสังหาฯ เท่านั้นนะ ยังรวมไปถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่ต้องมีนิติได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน หรือโชว์รูมรถยนต์ก็เป็นหนึ่งในผู้ใช้งาน LIV24 ในปัจจุบันนี้แล้วครับ

เรียกได้ว่าคอนโดทุกโครงการของแสนสิรินับตั้งแต่มีการพัฒนาระบบนี้ขึ้นมาก็ได้รับการดูแลโดย LIV24 ทั้งหมดแล้ว ส่วนบ้านเดี่ยวก็จะมีเป็นบางโครงการที่เป็นโปรเจคระดับบน เป็นความตั้งใจของแสนสิริที่จะสร้างความอุ่นใจและความปลอดภัยที่ดีที่สุดให้แก่ลูกบ้านทุกคน ส่วนใครที่ไม่ได้อยู่ในคอนโดของแสนสิริก็สามารถใช้งานระบบนี้ได้เหมือนกันนะ ซึ่งอาจจะต้องมีต้นทุนในการติดตั้งระบบ Hardware ครั้งแรกที่โครงการสักหน่อย แต่ด้วยต้นทุนการพัฒนาเทคโนโลยีในปัจจุบันก็ทำให้ส่วนเพิ่มไม่มากเท่าไหร่แล้วครับ

สำหรับผมเองนี่ถือเป็นการปฏิวัติระบบรักษาความปลอดภัยในคอนโดอย่างแท้จริง แล้วคุณล่ะคิดยังไงครับ

#LivingSneakPeek #แสนสิริ #PlusProperty #LIV24