MJD ปิดการขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ฉลุย นักลงทุนจองเกลี้ยง เดินเครื่องนำเงินลงทุนขยายธุรกิจ

“เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ปิดดีลเสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 500 ล้านเกลี้ยงตามเป้า คาดนักลงทุน มั่นใจในผลการดำเนินงาน 

เล็งนำเงินลงทุนในโครงการใหม่ แย้มแบ็คล็อกคอนโด 9,023 ล้าน ทยอยการรับรู้อย่างต่อเนื่อง  

นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดเผยว่า จากการเปิดเสนอขายหุ้นกู้มูลค่าการเสนอขายรวม 500 ล้านบาท ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและ ผู้ลงทุนรายใหญ่

เมื่อวันที่ 28-30 ก.ย. 63 บริษัทยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับครั้งที่ผ่านๆ มา ส่งผลให้หุ้นกู้มูลค่า 500 ล้านบาท สามารถขายหมดได้อย่างรวดเร็ว 

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าว เป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.80% โดยมีการชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุของหุ้นกู้ มีผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายหุ้นกู้2 ราย คือ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และบริษัท หลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด 

“ขณะนี้ทั้งผู้ลงทุนรายใหญ่และสถาบันต่างๆ เลือกพิจารณาลงทุนอย่างรอบคอบมากขึ้น 

1.เลือกลงทุนในบริษัทที่ยังมีความมั่นคงและมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจภายใต้ข้อจำกัดและสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน 

2.เลือกลงทุนในช่องทางที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนน่าสนใจ

การที่หุ้นกู้ของเราได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมและรวดเร็วในครั้งนี้ น่าจะเป็นเครื่องยืนยันถึงผลตอบแทนที่จูงใจ ประกอบกับความมั่นใจของนักลงทุนต่อเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทั้งผลประกอบการที่รักษาระดับไว้ได้อย่างดีในช่วงครึ่งปีแรก ตลอดจนแนวโน้มการรักษาระดับการเติบโตในอนาคต” นางสาวเพชรลดา กล่าว 

นางสาวเพชรลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบริหารกระแสเงินสดอย่างรอบคอบเพื่อรองรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น

สำหรับแผนการระดมทุนผ่านหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปแบ่งใช้ใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.การขยายธุรกิจและลงทุนในโครงการใหม่ 2.การนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท และ 3.การสำรองไว้ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด ในเดือน เม.ย.2564 

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 บริษัทยังสามารถรักษาระดับ ผลการดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ในสภาวะที่ตลาดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 

โดยบริษัท ยังสามารถโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่หลายโครงการได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ครึ่งปีแรกของ ปี 2563 บริษัทมีรายได้ถึง 3,836 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิถึง 118 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแบ็คล็อก  ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ราว 9,023 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้จากแบ็คล็อกในครึ่งปีหลังของ ปีนี้ราว 2,500 – 3,000 ล้านบาท

และทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2565 ทั้งนี้ไม่รวมกับยอดขายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังสำหรับโครงการพร้อมอยู่ที่มีการขายอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้จากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 63 บริษัท เมเจอร์  ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ระดับ “BB+, Stable”  

บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ มีธุรกิจหลักในเครืออยู่ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 

1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย 
2.กลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์
3.กลุ่มธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ มีวิสัยทัศน์ในการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างโครงการระดับลักชัวรี่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค 

ติดตามอัพเดตข่าวสารที่น่าสนใจเกี่ยวกับเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เพิ่มเติม ได้ที่ 

Major Development PCL  
major.development_pcl