โครงการ Mixed-use ที่เราเห็นในปัจจุบันบางแห่งก็มีความท้าทายด้วย “ทำเล” แล้วการที่เค้าต้องสร้างสิ่งใหม่บนพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์ที่เต็มไปเรื่องราวแห่งความทรงจำทั่วโลกเค้าทำกันยังไง เราไปดูกันครับ
โครงการ Battersea Power Station – ลอนดอน, ประเทศอังกฤษ
ใครจะคิดว่าที่ตั้งของโรงไฟฟ้าถ่านหินในย่าน Nine Elms ทางทิศใต้ของแม่น้ำเทมส์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของอุตสาหกรรมและเป็นขุมพลังที่ทำให้ลอนดอนสว่างสไวมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1935 จะกลายเป็นโครงการ Mixed-Use ที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน แม้โรงไฟฟ้าปิดตัวไปแล้วตั้งแต่เมื่อ 42 ปีก่อน แต่ก็ยังได้รับการอนุรักษ์เรื่อยมา จนสุดท้ายก็ได้พัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสด้วยเงินลงทุนกว่า 570,000 ล้านบาท และจะก่อสร้างเสร็จทุกเฟสในปีนี้ครับ จากปล่องไฟขนาดใหญ่ทั้ง 4 ปล่องที่โดดเด่นเป็นแลนด์มาร์กขนาดใหญ่ก็ได้กลายเป็นปล่องลิฟต์ที่นำผู้คนขึ้นไปสู่ลานโล่งด้านบินเพื่อชมวิวรอบกรุงลอนดอน พื้นที่ภายในมีทั้งศูนย์การค้า โรงหนัง Event Hall และสำนักงานของ Apple พื้นที่บนส่วนดาดฟ้าก็พัฒนาเป็นสวนลอยฟ้ากว้างถึง 29,000 ตร.ม. เป็นพื้นที่สีเขียวเพื่อให้ประชาชนได้เข้ามาใช้งาน ที่แห่งนี้จึงเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมโยงระหว่างอาคาร ผู้คน และเมืองลอนดอนได้เป็นอย่างดี
โครงการ The Refinery at Domino – นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
จากโรงงานกลั่นน้ำตาลที่เก่าแก่ที่สุดในนิวยอร์ก สู่โครงการมิกซ์ยูสสุดทันสมัยริมแม่น้ำอีสต์ ใครที่เคยไปสัมผัสย่านบรูคลินก็น่าจะได้เห็นความหลากหลายของผู้คน วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงามอยู่เต็มไปหมด Domino Sugar Refinery ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ โรงกลั่นน้ำตาลแห่งนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1856 โดยบริษัท Domino Foods และก็เพิ่งปิดตัวลงไปเมื่อราว 21 ปีก่อนนี้เอง แต่ความสวยงามของฟาซาดในยุคโรมาเนสก์ทำให้ที่นี่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ และฟื้นคืนชีวิตใหม่ด้วยโปรเจ็กมิกซ์ยูสที่มีชื่อว่า “The Refinery at Domino” ด้วยงบการลงทุนสุดอลังการถึง 1 ล้านล้านบาท ภายในมีทั้งอพาร์ตเมนต์จำนวน 3,415 ยูนิต อาคารสำนักงาน และพื้นที่สีเขียวกว่า 20,000 ตร.ม. โดยเค้าออกแบบผสมผสานงานศิลปะให้เข้าไปกลมกลืมกับ Facade อิฐของโรงกลั่นเดิม และมีส่วนโดมเรือนกระจกที่เรียกว่า “The Vault” เป็นพื้นที่ Multi-Use อยู่ชั้นบนสุดสูงถึง 9 ม. ทำให้ผู้คนที่ขึ้นมาสามารถชมวิวทิวทิศน์ได้แบบ 360 องศา โครงการจะเสร็จสมบูรณ์กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของชาวนิวยอร์กในปี ค.ศ. 2030 ครับ
โครงการ Azabudai Hills – โตเกียว, ญี่ปุ่น
เมืองโตเกียวนี่การพัฒนาอะไรใหม่ๆ หาพื้นที่ว่างเปล่าได้ยากมากครับ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพลิกฟื้นพื้นที่เดิมหรือโซนที่ยังสามารถพัฒนาได้ อย่างย่าน Toranomon-Azabudai ซึ่งเป็นพื้นที่รอบนอกของเมืองที่เต็มไปด้วยบ้านไม้และอาคารเก่า เค้าใช้เวลากว่า 30 ปี ตั้งแต่การวางแผนจนกระทั่งสร้างเสร็จด้วยคอนเซปต์ “Modern Urban Village” หรือการสร้างหมู่บ้านในพื้นที่เมืองสมัยใหม่ที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวที่จะเปรียบเสมือนโอเอซิสกลางเมือง โครงการ Azabudai Hills นี้ใช้งบลงทุนกว่า 1.5 ล้านล้านบาท มีทั้งอาคารที่อยู่อาศัย 4 อาคาร รวม 1,400 ยูนิต กระจายอยู่ในพื้นที่ แต่ละอาคารจะมี Center Court เป็นพื้นที่มิกซ์ยูสที่แตกต่างกัน ทั้งส่วนของ Retail อาคารสำนักงาน โรงแรม พื้นที่สำหรับกีฬา สันทนาการ และศิลปะวัฒนธรรม เดินถึงกันได้อย่างสะดวกสบายด้วย “Walkable Design” อ้อ ใครที่อยากจะไป Teamlab ก็มีอยู่ที่นี่ด้วยนะครับ เดินทางได้ง่ายด้วยรถไฟทั้งสาย Hibiya, Numboku และ O
โครงการ Tian An 1000 Trees “อาคาร 1,000 ต้นไม้” – เซี่ยงไฮ้, ประเทศจีน
เรื่องการพัฒนาพื้นที่ในจีนนี่คงไม่มีใครปฏิเสธ เรียกว่าไปไม่กี่ปี กลับไปอีกทีอาจจะจำที่เดิมไม่ได้แล้ว อย่างที่เซี่ยงไฮ้เอง แรกเริ่มเดิมทีก็เป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านการขนส่ง เนื่องจากมีแม่น้ำ Suzhou ไหลผ่าน ซึ่งช่วยให้การขนส่งทางน้ำเข้าไปสู่ตัวเมืองชั้นในทำได้สะดวก แต่การเติบโตของเมืองและอุตสาหกรรมก็มาพร้อมกับปัญหามลพิษและน้ำเสีย รัฐบาลจึงริเริ่มการพัฒนาโปรเจค Suzhou Creek Rehabilitation จนกลายมาเป็นโครงการ Tian An 1000 Trees ในปัจจุบัน ด้วยจุดเด่นด้านสถาปัตยกรรมคล้ายภูเขาลื่นไหลทอดยาวไปตามพื้นที่ริมน้ำ จากโครงสร้างคล้ายเสากว่า 1 พันต้นที่มีพืชพรรณปลูกอยู่บนยอด ทำให้ตัวอาคารสวยงามมีเอกลักษณ์มาก โครงการนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ Super Market พื้นที่เพื่อความบันเทิง อาคารสำนักงาน และโรงแรมวิวแม่น้ำที่สวยงาม ซึ่งก็อยู่ใกล้กับย่านศิลปะอย่าง M50 Arts District ด้วยครับ เป็นการพัฒนาโครงการที่พยายามนำธรรมชาติกลับคืนมาสู่มนุษย์ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นสายสัมพันธ์กลมเกลียวมาตั้งแต่อดีและนี่ก็คือ 4 โครงการมิกซ์ยูสทั่วโลกที่สร้างอยู่บนพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์และได้รับการพัฒนาโดยคำนึงถึงเอกลักษณ์ของพื้นที่เดิมเอาไว้ อย่างของไทยเราก็มีที่ Dusit Central Park นี่ที่ได้สร้างอยู่บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจดั้งเดิมของกรุงเทพฯ และยังคงเอกลักษณ์ของโรงแรมดุสิตธานีเดิมที่เป็นอาคารสูงที่สุดของไทยในขณะนั้นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
ผมมีภาพ Before / After ของแต่ละพื้นที่มาให้ชมกันด้วยครับ
โครงการ Battersea Power Station – ลอนดอน, ประเทศอังกฤษ (ภาพ Before ใน Comment)
ที่ตั้ง Battlesea Power Station ในอดีตครับ
โครงการ The Refinery at Domino – นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา (ภาพ Before ใน Comment)
โรงกลั่นน้ำตาลดั้งเดิม
โครงการ Azabudai Hills – โตเกียว, ญี่ปุ่น
(ภาพ Before ใน Comment)
พื้นที่ก่อนการพัฒนาเป็น Azabudai Hills
โครงการ Tian An 1000 Trees “อาคาร 1,000 ต้นไม้” – เซี่ยงไฮ้, ประเทศจีน
(ภาพ Before ใน Comment)
พื้นที่ก่อนพัฒนาเป็น Tian An 1000 Trees
Dusit Central Park (ภาพ Before ใน Comment)
โรงแรมดุสุตธานีในอดีต